สุนัขและแมวชักต้องทำอย่างไร

อาการชักที่เกิดขึ้นกับหมาและแมว มักทำให้เจ้าของตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะช่วยน้องอย่างไร จนบางครั้งทำให้น้องหมาน้องแมวจากไป ทีม PETSAYHI ขอนำบทความคำถามเกี่ยวอาการชักจาก คุณหมอ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน มาแชร์ให้ทุกคนได้รู้และได้อ่านกัน

เครดิตข้อมูล สัตวแพทย์ประจำศูนย์ระบบประสาท โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน หมอหมวย หรือ สพ.ญ.ปิโยรส โพธิพงศธร

.
1. อาการชัก เป็นอย่างไร
เมื่อน้องหมาหรือแมวชัก จะมีอาการ เกร็ง ตาลอย เคี้ยวปาก น้ำลายไหล ชักปั่นจักรยาน ปัสสาวะและอุจจาระราด แต่ถ้าหาก น้องหมาแค่มีอาการที่คล้ายกัน เช่น เป็นลดหมดสติ อ่อนแรงเดินแล้วล้ม หรือปวดเกร็งจนเดินไม่ได้ แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นอาการชัก ดังนั้น หากเจ้าของเข้าใจอาการของน้องหมาหรือแมวอย่างถูกต้องก็จะให้ข้อมูลหมอได้ถูกต้องอันมีผลต่อการรักษาพยาบาล
.
2. การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อน้องหมาและแมว เกิดอาการชัก
กรณีที่ชักครั้งแรก ขอให้คุณตั้งสติ หาผ้าสะอาดมาเช็ดคราบน้ำลายเพื่อป้องกันการสำลัก และควรรีบพาส่งโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุดทันที
.
3. การให้ข้อมูลอาการของน้องหมาและแมว
เรื่องนี้สำคัญมาก เจ้าของควรลำดับเหตุการณ์ก่อนชักว่ามีอาการอย่างไร มีอาการแบบนี้บ้างไหม เช่น ไม่ทานข้าว หลบซ่อนตัว กระวนกระวาย หายใจหอบ ฯลฯ และควรเล่าประวัติเพิ่มเติมให้สัตวแพทย์ทราบ เช่น มีโรคประจำตัวอะไร ต้องกินยาอะไรอย่างต่อเนื่อง ช่วงที่มีอาการชัก มีอาการอย่างไร และกินเวลานานแค่ไหน
หากเป็นไปได้ถ้าเจ้าของถ่ายคลิปวีดีโอขณะที่น้องมีอาการมาประกอบให้คุณหมอได้ดูวินิจฉัยโรคด้วยจะเป็นเรื่องที่ดีมาก
.

4. วิธีการรักษา
เบื้องต้นสัตวแพทย์จะให้ยาลดอาการชัก หรือตรวจเลือดเพื่อหาความผิดปกติ ดูค่าตับ ค่าไต ดูระดับน้ำตาลในเลือดตรวจหาเชื้อ เพื่อหาความผิดปกติ ต่างๆ หากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะเช่นนี้ก็ทำให้น้องหมาและแมวชักได้ หรือหากติดเชื้อไข้หัด ก็ทำให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน
หากน้องหมาแมวไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้อันเนื่องมาจากตับวาย หรือไตวาย ก็ทำให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน ดังนั้นการตรวจเลือดดูค่าตับหรือไต จึงเป็นวิธีที่ดีสำหรับวินิจฉัยหาสาเหตุของโรคอีกวิธีหนึ่ง
.
5. อาการชักอันเนื่องจากโรคทางพันธุกรรม
ถ้าน้องหมาหรือแมวมีอาการชักในช่วงอายุ 6 เดือน – 6 ปี ก็สันนิษฐานว่าเป็นโรคลมชัก ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม ไม่ควรให้น้องหมามีลูกต่อไปเราควรทำหมันน้องหมาหรือน้องแมวเพื่อยุติโรคนี้ แต่หากน้องหมาหรือแมวเกิดอาการชักในอายุที่มากกว่า 6 ปีไปแล้ว สันนิษฐานว่าอาจะเกิดจากเนื้องอกที่สมอง หรือเป็นมะเร็งที่สมอง ซึ่งอาจจะต้องเอ๊กซ์เรย์ หรืออัลตร้าซาวนด์ เพื่อตรวจดู
.
6. อาการอื่นๆที่คล้ายกับอาการชัก
ยังมีโรคที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ หรือการเจ็บปวดที่ร่างกาย ก็จะมีอาการคล้ายกับการชัก แต่ไม่ใช่เพราะมาจากระบบอื่นๆของร่างกายไม่ใช่เกิดมาจากระบบประสาท ดังนั้น เจ้าของสุนัขควรทำความเข้าใจกับอาการชักให้ถูกต้อง
.
7. อย่าเฉยเมยหรือนิ่งนอนใจกับอาการชัก
บางครั้งเมื่อหมาหรือแมวมีอาการชักและสามารถกลับมาเป็นปกติได้ อาจทำให้เจ้าของเคยชินและคิดเอาเองว่าเป็นแล้วเดี๋ยวก็หายเอง ซึ่งหมอไม่อยากให้เจ้าของคิดเช่นนี้
ในกรณีที่น้องหมามีอาการชักมากกว่า 1 ครั้ง สิ่งที่เจ้าของต้องหมั่นสังเกตคือ อาการชักเกิดถี่แค่ไหน เกิดแต่ละครั้ง นานแค่ไหน และเริ่มรบกวนการดำเนินชีวิตปกติหรือไม่ เจ้าของควรพาน้องหมามาตรวจหาสาเหตุเพื่อทำการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ความปล่อยให้น้องหมาหรือแมวชักอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะการชักแต่ละครั้งสมองจะขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง หากสมองขาดออกซิเจนนานเกิน 5 นาทีก็มีโอกาสที่น้องหมาหรือแมวจะเสียชีวิตหรือเป็นอัมพาตได้

ดังนั้นหากน้องหมาและแมวเกิดอาการชัก ก็ไม่ควรปล่อยไว้ ควรพาตรวจและรับคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ เพื่อเราจะได้ช่วยกันหาแนวทางการรักษา และให้น้องหมาและแมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถอยู่กับเราได้ไปนานๆ

เครดิต ข้อมูล
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน