3 สายพันธุ์แมวที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงในบ้านมากที่สุด

แมวเป็นสัตว์ที่มีความเป็นตัวเองสูงลิ่วอย่างที่เราก็ทราบกันดี เป็นสัตว์ที่รักความสันโดดครับ แต่กระนั้นแมวทุกสายพันธุ์ จะพันธุ์แท้ หรือพันธุ์ผสมก็สามารถเลี้ยงในบ้านได้เหมือนกันหมดถ้าหากเราสามารถดูแลเอาใจใส่พวกเขาอย่างดี แต่ก็มีครับสายพันธุ์ที่เป็นที่สุดของความเหมาะสมที่จะเลี้ยงในบ้าน คือ บริติช ช็อตแฮร์ แร็กดอล์ และ รัสเชี่ยน บลู ครับ

 

3 สายพันธุ์แมวที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงในบ้านมากที่สุด

  1. สายพันธุ์ 3 บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair)  เป็นแมวที่มีลักษณะเงียบ ๆ ขรึมหน่อย ๆ แต่ว่ามีความน่ารัก เป็นมิตรกับทุกคน แถมยังชอบการนั่งบนตักอีกด้วย  ในการนำมาเลี้ยงตอนแรก ๆ อาจจะเป็นแมวที่นิสัยไม่ค่อยสุงสิงกับใครแต่พอนานไปก็เริ่มที่จะเล่นบ้าง มีเป็นแมวที่รักเจ้าของมากเลยนะ ใครที่ลองเลี้ยงครั้งแรกสายพัน British Shorthair ก็ดีจะเหมาะสุดแล้วสำหรับการเลี้ยงในบ้านครับ

2.  สายพันธุ์แร็กดอล์ (regdall) เป็นแมวที่ขี้เล่น แต่ก็ไม่เยอะไม่วุ่นวาย มีขนสวย นุ่มแววตาเป็นประกาย เป็นแมวไฮโซทีเดียว แถมยังมีเสียงร้องที่เบามากเมื่อเทียบกับแมวสายพันธุ์อื่น มันจึงจัดว่าเป็นแมวที่เหมาะกับการเลี้ยงในบ้านครับ

3.  สายพันธุ์รัสเชี่ยน บลู (Russian Blue ) เป็นแมวที่มีความเป็นตัวเองสูงมากเป็นพิเศษ อาจจะไม่ค่อยชอบสุงสิงเท่าไหร่ ใครที่รักแมวอยากเลี้ยงแมวในบ้านแต่งานก็ยุ่ง มีเวลาให้แมวไม่เยอะ เลี้ยง Russian Blue  ก็ดูจะเหมาะสุดนะครับ แต่แม้ว่าเจ้านี่มันจะอินดี้แต่ก็รักเจ้าของและต้องการความเอาใจใส่เหมือนกันนะครับ และเรื่องขนของแมวพันธุ์นี้เราอาจจะต้องคอยดูแลพิเศษหน่อยนะ ต้องสะอาด ต้องเรียบร้อย นะครับ

แม้ว่า 3 สายพันธุ์นี้จะเหมาะสุดในการเลี้ยงในบ้านแล้วเราจะเลี้ยงแมวแบบอื่นไม่ได้นะครับ แมวสายพันธุ์อื่นก็เลี้ยงได้เหมือนเดิม แต่ว่าความที่สุดอาจจะต้องยกให้ 3 ชนิดนี้ ใครอยากจะเลี้ยงแมวตัวไหนสายพันธุ์อะไรก็เอาที่ชอบ ที่สบายใจครับ แมวแต่ละตัวมีความน่ารักเหมือนกัน รักเจ้าของเหมือนกันครับ แต่ความดื้อ ความซน อาจจะต่างกันบ้าง ซึ่งเราอาจจะต้องฝึกนั่นเองครับ

ขอบคุณภาพแรกและข้อมูลจาก Whiskas Thailand

รู้จักไหม แมวสายพันธุ์ ขาวมณี ?

รู้จักแมวขาวมณีกันบ้างหรือยังครับเป็นแมวที่มีความงดงามมาก ๆ สายพันธุ์หนึ่งเลย ถิ่นกำเนิดที่แท้จริงนั้นยังไม่แน่ชัดว่าเป็นที่ไหน หรืออาจจะเป็นแมวที่มาในสมัยอดีตท่ติดมาบนเรือสำเภาของจีนที่เขาจะเลี้ยงเอาไว้จับหนูบนเรือ แมวสายพันธุ์ขาวมณีนั้นเป็นแมวที่มีจุดด้อยคือไม่สามารถสร้างเม็ดสีให้มีสีสันสวยงามแบบอื่น ๆ ได้นอกจากสีขาว ขนของมันจึงขาวไปหมดทั้งตัวเลยครับ แต่ว่าจุดด้อยนี้ก็กลายเป็นจุดเด่นขึ้นมาได้ในสายตาทาสเเมว

ลักษณะของแมวขาวมณี

เป็นแมวที่มีขนสีขาว อ่อน นุ่ม น่าสัมผัส ส่วนผิวหนังก็เป็นสีขาวปลอดเลย สรุปคือขาวแทบทั้งตัว  จมูกสั้น หูใหญ่ หน้าผากแบน คล้ายรูปหัวใจที่ส่วนหน้า  ดวงตาเป็นสีเหลืองอำพัน สีฟ้า บ้างก็ข้างละสี   ในส่วนหางจะยาวและเเหลมชีตรง เรียวได้สัดส่วนสวยงาม

แมวขาวมณีของไทยเราในปัจจุบันนี้เป็นสายพันธุ์แมวที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลแล้วด้วย ทาง TICA  ได้มีการขั้นทะเบียนให้แมวพันธุ์ไทยขาวมณีขึ้นทะเบียนเป็นแมวสายพันธุ์แท้แล้วครับ  อีกทั้งยังมีการจัดประกวดอีกด้วยครับ นับว่าเป็นความน่าภาคภูมิใจของแมวพันธุ์ไทยเลยทีเดียว

ตอนนี้แมวขาวมณีเป็นแมวที่ราคาสูง และเริ่มมีกลุ่มผู้รักแมวชาวต่างชาติให้ความสนใจอยากจะเลี้ยงกันจำนวนมาก และคนไทยเองก็หันมาชอบแมวพันธุ์ไทยขาวมณีนี้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ ผมคิดว่าถ้าใครรักแมวและอยากจะทำอะไรจริง ๆ จัง ๆ กับการเลี้ยงแมวเพาะแมวสายพันธุ์นี้ก็เหมาะนะครับผม

ขอบคุณข้อมูลจาก กระปุกดอทคอม

[มีคำถาม] ทำไมแมวชอบเอาตัวมาคลอเครียขามนุษย์ ?

แมวเป็นสัตว์ที่มีต่อมกลิ่นเฉพาะตัวของมันแทบจะทั่วร่างกายเลย และเวลามันต้องการจะแสดงความเป็นเจ้าของกับอะไรสักอย่าง แมวจะเริ่มเลีย คลอเครีย เข้าใกล้อย่างมากเลย เราจึงเห็นบ่อย ๆ ที่เเมวมักจะเอาตัวของมันหรือสีข้างมาถู ๆ ไถ ๆ ขาของเรานั่นเองครับ

ต่อมกลิ่นของแมวมีส่วนไหนบ้าง ?

อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่ามีแทบจะทั่วตัวเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น สีข้าง หาง ริมฝีปาก หน้าผาก ของแมว ไม่ว่ามันจะเอาส่วนไหนมาสัมผัสก็มีกลิ่นของมันติดมาด้วยแน่นอน แมวมันก็มีความเป็นส่วนตัวและต้องการแสดงความเป็นเจ้าของกับหลาย ๆ อย่างเหมือนกันนะครับเพียงแต่การแสดงออกของมันนั้นอาจจะเป็นเหมือนลูกอ้อนมาก ๆ ก็ตาม

ถ้าหากว่าแมวที่เป็นคุณหรือมีแมวที่ไหนกำลังเอาตัวมาถู ๆ คลอเครียขาคุณอยู่ แสดงว่ามันสนใจคุณมาก ๆ หากเป็นแมวที่เลี้ยงเองก็แปลได้ว่ามันรักคุณมากมายเลย และมันกำลังแสดงความเป็นเจ้าของกับคุณอยู่ จงดีใจไว้เลยว่าแมวก็ไม่ได้เมินมนุษย์เสมอไปนะ มีมุกที่แมวเองก็เรียกร้องความสนใจเหมือนกัน (จะไม่บางอารมณ์ของแมวแต่ละตัวก็ตามที) เราควรจะดีใจนะครับที่แมวมาคลอเครียร์ใกล้ ๆ แสดงว่าชนะใจแมวได้แล้วล่ะครับ

อย่างไรก็ตามไม่ว่าแมวจะทำอะไรอยู่แบบไหน ในฐานะเจ้าของและทาสเเมวโดยสมบูรณ์อย่าลืมให้ความสำคัญกับมันด้วยนะครับ หากเรารักมันมาก ๆ มันเองก็คงจะรักเราไม่ต่างกันครับผม

เรื่องของแมวเศร้าเดินเหงา ๆ อยู่ตัวเดียว

มีข่าวรายงานความคืบหน้าเรื่องของแมวตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นแมวอ้วนที่คาดว่าน่าจะเคยมีเจ้าของมาก่อน แต่อาจจะหลงทางหาทางกลับบ้านไม่เจอหรือไม่มันก็ “ถูกทิ้ง” อย่าใจร้าย มีคนพบแมวอ้วนตัวนี้ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สายตามันเศร้า และ เหงา มาก ๆ เหมือนมันไม่ได้ขาดแค่ที่อยู่อาศัยและอาหารแต่ยังขาดซึ่งความรัก อีกด้วย

มีเจ้าหน้าที่ของห้างมาพบเข้าและส่งตัวเจ้าแมวให้กับศูนย์พักพิง Here Kitty Kitty Rescue ในเมือง Elkhart รัฐ Indiana มองสายตามันสิครับ เห็นแล้วเศร้าตามเลย ไม่มีใครรู้ว่ามันถูกทิ้งหรือหลงทาง เพราะไม่มีอะไรบ่งบอกถึงเจ้าของและที่มาของตัวมันเลย แล้วมันก็ถูกตั้งชื่อว่า Ryanne  มันเป็นแมวน่ารัก ชอบให้คนสนใจและชอบให้ลูบตัวมาก ๆ เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงกล่าว

เจ้าแมวหน้าเศร้า Ryanne  อยู่ในศูนย์พักพิงได้ประมาน 1 สัปดาห์ ก็มีคนมารับตัวมันไปเลี้ยง โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งมากับครอบครัวของเธอเจ้าแมว Ryanne  ก็เดินเข้าไปหา ไปเล่นด้วยทันที เหมือนกันกำลังพยายามบอกว่าให้มันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วยเถอะนะ

แล้วมันก็สมหวังครอบครัวนี้ต้อนรับมันอย่างอบอุ่น

เจ้าแมว Ryanne  ใช้เวลาสักพักในการปรับตัวสำหรับบ้านใหม่ เจ้าของคนใหม่ แรก ๆ อาจจะไม่ชินแต่พอนานไป มันก็เริ่มที่จะหายเศร้า หายซึม กลับมาเป็นแมวร่าเริง เล่นกับเจ้าของต้องการให้เอาใจและทำตัวน่ารัก ๆ อย่างที่แมวทั่วไปเป็นกัน พร้อมกับอยู่กับครอบครัวใหม่นี้อย่างมีความสุข ครับ [จบแล้วเรื่องแมวหน้าเศร้า]

ขอบคุณข้อมูลLovemeow

การสำรวจโลกภายนอกครั้งแรกของน้องเหมียว เริ่มต้นอย่างไร

ต้อนรับมิตรรักแฟนแมวทั้งหลายครับ การเลี้ยงแมวไม่ใช่จะต้องคอยให้อยู่แต่ในบ้านอย่างเดียว เพราะว่าแมวต้องการที่จะอยากออกไปผจญภัยข้างนอกเหมือนกัน แต่ทำสำคัญ “อย่าลืมทำหมัน” นะครับ เรามาดูกันหน่อยว่าเมื่อไหร่คือช่วงเวลาอันสมควรที่จะปล่อยให้แมวนั้นรู้จักภายนอกได้

สถานที่เรียนรู้ครั้งแรกสำหรับน้องเหมียว

ครั้งแรกย่อมตื่นเต้นเสมอสำหรับน้องเหมียวแล้วอิสระคือความสุขมากที่สุด แต่การจะออกไปเผชิญโลกกว้างนั้นมันจะต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป วันเวลาที่เหมาะสุดในการออกมานอกบ้านเปิดโลกของการสำรวจขึ้นต้องเป็นวันที่อากาศดี ๆ บรรยากาศแห้ง ๆ และต้องมั่นใจว่าปลอดภัยสำหรับน้องแมวด้วย ครั้งแรกนี้ให้เป็นสนามหน้าในบริเวณบ้านตัวเองดีที่สุด เพราะว่าปลอดภัยมากกว่าที่อื่นอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่จะปล่อยให้แมวออกมาได้เองเลยมันต้องมีขั้นตอน

ครั้งแรกของการผจญภัยสำหรับแมว

น้องแมวที่จะได้รับอนุญาติให้ออกมาเล่นข้างนอกได้นั้นต้องมีอายุประมาณ 13 สัปดาห์และหลังจากได้รับวัคซีนในครั้งที่ 2 แล้วเท่านั้น เล็กกว่านี้ไม่แนะนำเพราะอาจจะมีอันตรายได้ โดยในครั้งแรกนี้เจ้าของจะต้องเป็นคนอุ้มพาออกไปเดินเล่นก่อนให้น้องแมวได้มองเห็น สิ่งต่าง ๆ รอบข้าง คิด คำนวนเรียนรู้ และค่อย ๆ สัมผัสไปทีละน้อย มีเริ่มมีแผนที่ของตัวเองสำหรับเส้นทางการเดินสำรวจโลกของแมว

ในช่วงแรกนี้น้องแมวจะค่อนข้างตื่นเต้นมากเวลาที่จะได้ออกสำรวจโลก เจ้าของควรจะต้องใช้สายจูงและพาไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของน้องเหมียว เพราะครั้งแรก ๆ อาจจะทำให้เกิดความประมาทและตื่นเต้นกับโลกจนไม่ทันได้ระวังตัวเอง แมวมีความอยากรู้อยากเห็น อยากลอง ไปเสียหมด และในบ้านจะต้องมีประตูแมวไว้ด้วย และจะฝึกให้เจ้าเหมียวเข้าออกโดยใช้ประตูแมวให้เป็น ในอนาคตเจ้าเหมียวก็ออกไปสำรวจโลกได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีเจ้าของพาไปได้แล้ว

สายจูงจะไม่ต้องใช้ก็ต่อเมื่อแมวน้อยได้รับการทำหมันแล้ว หรือไม่ก็อายุได้ประมาณ  5 – 6 เดือน โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วนั่นเอง และเมื่อถึงเวลานั้นน้องแมวก็คงจะผ่านการฝึกเข้าออกบ้านโดยการใช้ประตูแมวได้อย่างดีแล้ว และรู้เส้นทางในการกลับบ้านด้วยตัวเอง

บ้านไหนกำลังเลี้ยงน้องเหมียวน้อยอยู่ หากโตพอที่จะพาออกสำรวจโลกแล้วอย่าลืมเตรียมสถานที่ให้พร้อม และนำไปฉีดวัคซีนให้ครบ ทำหมัน และฝึกการเดินเข้าออกผ่านประตูแมวให้เป็น น้องแมวจะค่อย ๆ เรียนรู้และสำรวจโลกกว้างอย่างมีความสุขและตื่นเต้นพร้อมทั้งกลับมาบ้านอย่างปลอดภัยครับ

แมวสายพันธุ์สิงหะปุระ [Singapura] แมวพันธุ์เล็กที่สุดในโลก

หลายคนคงไม่คิดว่าแมวจะมีสายพันธุ์ที่ตัวเล็กมาก ๆ ด้วย ถ้าพูดถึงว่าแมวอะไรที่ตัวเล็กที่สุดในโลกหลายคนก็คงจะมีเครื่องหมายคำถามต่อกับตัวเองว่า พันธุ์อะไรหว่า ? วันนี้เราก็เลยนำเอาความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกันครับ สำหรับแมวพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลกชื่อว่า พันธุ์สิงหะปุระ (Singapura) ในประเทศไทยเราจะไม่ค่อยนิยมเลี้ยงกันเท่าไหร่ สิงหะปุระที่เป็นพันธุ์แท้จะตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับแมวชนิดอื่น ๆ

แมวพันธุ์สิงหะปุระที่เล็กที่สุดในโลกนั้น ถิ่นกำเนิดมาจากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงเราเลย นั่งคือ “ประเทศสิงคโปร์” แต่ว่าตามจริงแมวเป็นแมวที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาอีกทีจากอเมริกานั่นเอง ความโดดเด่น น่ารัก น่าเลี้ยงของแมวพันธุ์เล็กที่สุดในโลกนี้คือ ตาโต ใบหูใหญ่ น่ารักมาก ๆ  ตัวเล็ก ๆ แต่ดูผ่าน ๆ ก็เหมือนจะคล้ายแมวพันธุ์อะบีชิเพราะหูใหญ่เหมือนกันเลย

สีขนของแมวสิงหะปุระ จะเป็นแบบเนียนสวย เป็นแมวที่มีสีขนเรียบหรูมาก โดยจะมีสีน้ำตาลกระจายออกมา  มีดวงตาเป็นสีน้ำแดง บ้างก็เขียวหรือเหลืองด้วย ในส่วนของตีนเเมวจะเล็กมาก ๆ ถึงมากทีสุดเลยปกติแล้วแมวธรรมดาก็เล็กอยู่แล้วแต่มาเป็นพันธุ์สิงหะปุระจะยิ่งเล็กลงไปอีก

นิสัยของแมวพันธุ์สิงหะปุระ 

จะเป็นแมวที่มีความซนอยู่ในตัวสูงมากแมวปกติชอบก่อกวนมวลมนุษย์มากแค่ไหน Singapura นี่มีมากกว่านั้น ชอบเรียกร้องความสนใจจากคนแบบสุด ๆ ไปเลย ทำอะไรก็ต้องให้ความสนใจแมวด้วย ใครที่ขี้เหงารีบรองว่าหายแน่นอนถ้าเลือกจะเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ไว้เป็นเพื่อน แถมยังเป็นแมวฉลาดชอบดูโน่นทำนี่ ขี้สงสัยไปเสียหมด ชอบให้เล่นด้วยมาก ๆ เลยล่ะครับ

Singapura เป็นแมวพันธุ์ขนสั้นดูแลง่ายแต่การจะหามาเลี้ยงนั้นไม่ง่ายเท่าไหร่นักในประเทศไทย เป็นของหายากไปเสียแล้ว ราคาก็ถ้าใครจ่ายไหวหามาเลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงากันได้นะ ประมาณ 60,000 บาท เริ่มต้นเท่านั้น เอ๊ง (เสียงสูง) ไม่ธรรมดาจริง ๆ กับความแสนซนของแมวพันธุ์สิงหะปุระ ถ้าใครหามาเลี้ยงก็ถ่ายรูปมาแบ่งแชร์กันบ้างนะครับผม

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

http://www.vetstreet.com/cats/singapura
http://www.tica.org/find-a-breeder/item/272-singapura-introduction
http://carecat.weebly.com/

 

 

 

มารับข้าไปเลี้ยงเดี๋ยวนี้นะเจ้ามนุษย์ ไม่สนใจใช่มั้ย นี่ เลียกระจกโชว์เลย

วันนี้มีภาพความน่ารักของแมวชื่อ Sigmund  ที่อยู่ในสถานรับเลี้ยง ซึ่งก่อนนั้นมันมีคนรับไปเลี้ยงแล้วแต่ว่าเจ้า Sigmund  สงสัยจะซนเกินไป จนเจ้าของเขาต้องเอามาคืนและรอผู้รับเลี้ยงคนใหม่ต่อ แต่เมื่อนาน ๆ ไปไม่มีใครสนใจรับมันไปเลี้ยงสักทีมันก็คิดหาวิธีการดึงความสนใจจากมนุษย์ด้วยการ เลียกระจก เสียเลย

แมวตัวนี้อยุ่ที่  Cat Haven ศูนย์พักพิงสัตว์ในออสเตรเลีย การที่มันเลียกระจกเพื่อเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์นั้นได้ผลนะ เพราะเวลามันเลียกระจกทีไรคนก็จะหันมามองว่ามันกำลังทำอะไร และไม่นาน เจ้า Sigmund  ก็กลายเป็นที่สนใจขึ้นมาทันทีและก็มีคนรับมันไปเลี้ยงในที่สุด ด้วยความโด่งดังจากการเลียกระจกของมันเอง คนถ่ายภาพ อัดคลิปแชร์ความน่ารัก ความแปลกของมันลงโซเชียลนั่นเอง

ในที่สุดแผนการยึดครองบ้านมนุษย์และนำมนุษย์คนใหม่มาเป็นทาสของเจ้า Sigmund  ก็ได้ผลแล้ว

Sigmund เป็นแมวชอบกระโดด ชอบเล่น เป็นที่สุด

การอยู่เฉย ๆ คืออะไร ? Sigmund  ไม่รู้จัก

อยู่อย่างสุขสบาย ณ บ้านหลังใหม่

ยึดครองทั้งบ้านเรียบร้อยแล้ว

จะทำงานหรอ หรือทำอะไร ก็ต้องมี  Sigmund  อยู่ด้วยเสมอ
(ผู้คุมงาน)

ความน่ารัก ฉลาดของ  Sigmund  จากไอเดียการเลียกระจกได้ผล จนได้บ้านใหม่สมใจในตอนอายุ 4 ปี ความพยายามของแมวสูงจริง ๆ เห็นแล้วทาสแมวขอคารวะครับผม เก่ง ๆ เลยนะ  Sigmund  ขอให้มีความสุขที่บ้านใหม่นะ

 

ที่มา http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=368

แมวหน้าเปื้อน สมัดจ์ ที่เห็นแล้วน่าร๊ากก อยากอุ้มกลับบ้าน

แมวแบบไหนที่น่ารักน่าเลี้ยงสำหรับคุณบ้าง หลายคนก็คงจะมีความชอบในตัวแมวที่แตกต่างกันออกไป และยิ่งเป็นแมวที่มีเหมือนจะมีจุดด่างพร้อยนั้นบางคนก็คิดว่าเป็นแมวไม่น่าชมเอาเสียเลย แต่ว่าตรงกันข้ามเลยกับเจ้า สมัดจ์ แมวพันธุ์หิมาลายันตัวนี้ ที่มีรอยเปื้อยอยู่บนกลางใบหน้ามองเห็นได้เด่นชัดมาก ไม่ได้กลายเป็นปมด้อยแมวแต่อย่างใดเลย แต่รอบเปื้อยนี่เองที่ทำให้เจ้าสมัดจ์โด่งดังและกลายเป็นเซเล่บแมวในที่สุด เรามาชอบภาพความน่ารักของแมวตัวนี้กันเลยครับ

สมัดจ์ เป็นแมวมาดผู้ดีตัวหนึ่งในบรรดาเซเล่บแมว
ความน่ารักของมันไม่ได้มีเพียงแต่รอยเปื้อนสีดำบนใบหน้าเท่านั้น
แต่ลองมองที่ดวงตาเหมียวน้อยดูสิ จะเห็นถึงความบ๊องแบ๊วมาก ๆ
สายตาเหมือนจะอ้อนวอน พร้อมจะอ้อนเราอยู่ตลอดเวลา
แบบนี้ทาสแมวเห็นรับรองว่าต้องใจละลายแน่นอน

สมัดจ์น้อย ตากลม ๆ ขนฟู ๆ
น่าร๊ากกก ใช่มั้ยล่ะ
เห็นแล้วอยากจะกอดจริง ๆ

รอยเปื้อนบนหน้า สีขนที่แตกต่างไม่เคยทำให้ความน่ารักลดลงเลย
ความอ้วนกลม ขนยาวน่ากอด ตาแป๋ว ทำให้สมัดจ์ได้ใจทาสแมวเลย

สมัดจ์ง่วงจังเลย
เข้านอนกันเถอะนะ ๆ ๆ ๆ

เวลาว่างของสมัดจ์ คือ
การนอนอยู่เฉย ๆ

หน้าตาแบบนี้แปลได้ว่า
สมัดจ์หิว แย้ว

แมวจะนอนถ่ายพอแล้ว
สมัดจ์ กล่าว

ทำไมรู้สึกเหมือนที่นอนมันเล็ก ๆ นะ

วันนี้มีอะไรกินบ้างน้าา
สมัดจ์ หิว

ทั้งหมดนี้เป็นภาพความน่ารักของเซเล่ปแมวหน้าเปื้อน สมัดจ์นะครับ ถ้าใครอยากจะติดตามอินสตาแกรมของเจ้าสมัดจ์ก็ไปที่อินสตราแกรมชื่อ purrfectsmudge ได้เลย  เป็นไงบ้างกับความน่ารัก ตาแป๋ว บอกเลยว่าน่ารักมาก ๆ อยากจะอุ้มกลับบ้านจริง ๆ ครับผม

 

 

ขอบคุณภาพจาก

https://www.instagram.com/purrfectsmudge/
http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=342

 

 

ทำไมแมวชอบเลียขนตัวเองบ่อยครั้ง

เคยสังเกตไหมว่าแมวจะเลียขนตัวเองค่อนข้างบ่อยซึ่งบ่อยมาก มันมีข้อดีสำหรับตัวน้องแมวการถ้าเป็นแมวที่อยู่ในแถบเมืองหนาวการเลียขนเป็นการเก็บความร้อนอย่างหนึ่ง แต่น้องแมวเมืองร้อนนั้นเลียขนไม่ใช่ว่าจะระบายนะครับ แต่ว่าการเลียขนแมวที่โดนแสงแดดมานั้นเป็นการรับเอาวิตามิน D ที่เป็นประโยชน์เข้าร่างกายนะเออ การเลียขนจึงเป็นการกินวิตามินนั่นเอง

แมวเลียขน

แล้วแมวระบายความร้อยยังไงล่ะ ?

ก็เช่นกันเลียขนนั่นแหละเพียงแต่ว่าไม่ได้ระบายออกมาทางตัว แต่ออกมาทางปาก ทางลิ้น ทางน้ำลายที่เลียนั่นเอง พอร้อนมาก ๆ น้องแมวก็จะเริ่มเลีย เลีย และก็เลียจนเปียกไปหมดเลยน้ำลายจะเริ่มมีการระเหยออกมานั่นเป็นการระบายความร้อนของแมว
แมวเลียขน

แมวเครียดก็เลียขนเหมือนกัน

หากน้องแมวมีอาการเครียด กังวล ก็จะเริ่มเลียขนหากจะเทียบกับคนเราก็จะเป็นลักษณะเกาหัว ทำนองคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง อีกอย่างคือ เดี๋ยวขนน้องแมวจะไม่สวย หลังจากที่โดนจับ โดนอุ้ม โดนอะไรมาต่าง ๆ นานา ก็จะเลียขน แต่เหตุผลจริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่แมวห่วงสวยแต่เป็นการปรับกลิ่นตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง เช่น เวลาโดนอุ้มก็จะมีกลิ่นคนอุ้มติดมาด้วยแมวไม่อยากได้เลยต้องเลียขนให้มีกลิ่นของตัวเองเหมือนเดิม

แมวเลียชนทำไม

เลียขนบอกรัก

หากแมวมีการเลียขนให้กันและกันแปลว่ามันรักกัน เช่น แม่แมวเลียขนให้ลูกแมว พี่น้องแมวเลียขนให้กับ แม่แมวจะสอนลูกแมวให้เลียขนเป็น แมวที่โตมาด้วยกันรักกันก็มักจะเลียขนให้กันด้วยโดยจะเลียในส่วนที่ลิ้นตัวเองไปไม่ถึงนั่นเอง
แมวรักกัน

การเลียขนของแมวเรียกว่า อะไร ?

แมวเลียขนเรียกว่าการล้างสางขนซึ่งจะมีอยู่ดังนี้

  • เลียขนหางตั้งแต่โคนหางไปจนถึงปลายเลย
  • เลียหลังเท้า
  • เลียอวัยวะเพศ
  • เลียขาหน้า เลียไหล่
  • เสียปาก
  • เสียข้างอุ้งเท้า
  • เอาอุ้งเท้าที่ถูกเลียเปียกแล้วไปถูกับหู แก้ม คาง (ส่วนที่เลียไม่ถึง)

เป็นการเลียขนที่บอกอะไรได้หลายอย่างเหมือนกันสำหรับน้องแมว หายสงสัยกันหรือยังครับว่าทำไมน้องแมวจึงชอบเลียขนบ่อย ๆ แมวเป็นสัตว์ที่โลกส่วนตัวสูงนะแต่ดูเหมือนว่าจะอะไร ๆ ก็ชอบเลียขนคิดแล้วก็น่ารักดี

 

เครดิตข้อมูลจาก : กระปุกดอทคอม