การเห่าของสุนัขบอกอะไรเรา มาลองสังเกตกันเลย

บางทีเรามักจะเห็นสุนัขแสดงออกด้วยการ “เห่า” อยู่บ่อย ๆ แต่การเห่านั้นเราเองก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น สุนัขต้องการจะบอกอะไรเราหรือเปล่า หรือเพียงแค่ต้องการจะเห่าลมเห่าแล้งไปเท่านั้น แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป อย่าลืมว่าภาษาของสุนัขไม่เหมือนคนเราการจะบอก พูด เล่า เรียก ตะโกน การเห่าก็ถือเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งของเขาซึ่งเจ้าของอย่างเรา ๆ ควรจะต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้น วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจการเห่าของสุนัขว่าหมายความว่าอย่างไรบ้าง

การเห่าของสุนัขมีแบบไหนบ้างแต่ละแบบกำลังบอกถึงอะไร

มาเริ่มต้นเรียนรู้การเห่าของสุนัขเพื่อจะได้เข้าใจความต้องการและสิ่งที่สุนัขกำลังจะบอกเราได้มากขึ้น การเห่าบอกอะไรบ้างมีดังต่อไปนี้เลย

  1. การเห่าติดกันเป็นช่วงระยะประมาณ 3 – 4 ครั้งแล้วก็หยุด : แปลได้เลยว่าสุนัขกำลังเจออะไรบางอย่างที่น่าสนใจและอยากจะให้เจ้าของมาดูด้วย เป็นการเห่าเรียกเจ้าของนั่นเอง
  2.  การเห่าติดกันมาก ๆ โทนเสียงระดับกลาง : เป็นการเรียกให้เจ้าของรู้ตัวหรือบอกเพื่อนหมา ๆ ด้วยกันเองถึงบางอย่างที่อันตรายหรือไม่น่าไว้ใจ
  3. การเห่าเสียงต่ำ ๆ ช้า ๆ : สุนัขกำลังได้รับภัยอันตรายอะไรบางอย่าง อยากให้เราช่วย เพราะว่าอันตรายนั้นเข้ามาถึงตัวแล้วนั่นเอง
  4. การเห่า หยุด เห่า หยุด อยู่แบบนั้น : สุนัขกำลังเรียกร้องความสนใจจากใครสักคน จากเจ้าของมันต้องการความรัก อยากให้มีคนลูบหัว อยากมีคนเล่นด้วย
  5.  การเห่าสั้น ๆ ครั้งหนึ่ง ถึงสองครั้ง : เป็นการทักทาย “สวัสดีฮะ!” ประมาณนั้นครับ
  6.  การเห่าครั้งเดียว เมื่อถูกก่อกวน: หมายถึงว่าตอนนี้ต้องการเวลาส่วนตัวอย่ากวนได้ไหม
  7.  การเห่าติดต่อกัน : แปลว่ากำลังอยากจะให้เราเล่นด้วย ลูกสุนัขจะเห่าแบบนี้บ่อย
  8.  เห่าครั้งเดียวสั้น ๆ : เป็นการเรียกเจ้าของกำลังบอกอะไรบางอย่างเช่น “หิวแล้วนะ” หรือ “อยากออกไปเล่น”
  9.  เห่าด้วยโทนเสียงต่ำ ๆ ตามมาด้วยหูตั้ง ขนหลังชี้ หางชู เตรียมตัวสู้ : การเห่าแบบนี้คือ “อย่าเข้ามายุ่งกับฉันนะ”

เมื่อเข้าใจกันแล้วว่าการเห่าของน้องหมาในแต่ละแบบนั้น บ่งบอกถึงอะไรบ้าง สุนัขก็มีวิธีการสื่อสารในแบบของมันเหมือนกันลองไปสังเกตสุนัขที่บ้านของคุณดูว่าเห่าแบบไหนบ้างจะได้ตอบสนองความต้องการของเขาได้ตรงจุด และเข้าใจอารมณ์ของสุนัขมากขึ้น

ทำหมันแมว. . .เพื่อให้มันออกไปท่องโลกกว้างได้อย่างสบายใจกันเถอะ

แมวชอบการผจญภัย จนบางทีเพราะความเป็นแมวแบบแมว ๆ ในการออกตาเฝ้าสาว ๆ ในต่างถิ่นจนบางทีมันก็ได้รับบาดเจ็บกลับมาบ้าน ซึ่งก็เป็นปัญหาหนักใจเหมือนกันสำหรับเจ้าของอย่างเรา ๆ ที่อยากจะให้แมวอยู่บ้านเฉย ๆ บางทีมันก็เป็นเรื่องยากยกเว้นจะเลี้ยงแบบปิดจริง ๆ การทำหมันแมวจึงมีประโยชน์มาก ๆ เลยกับตัวมันเอง

การทำหมันแมวทำอย่างไร

ในการจะที่ทำหมันแมวนั้นไม่ใช่ว่าเจ้าของจะต้องทำเอง เราจะต้องพาไปให้สัตวแพทย์ที่มีความชำนาญในด้านนี้เป็นคนจัดการให้ โดยแมวที่พร้อมสำหรับการทำหมันจะอยู่ในช่วงอายุ 4 – 6 เดือน มันปลอดภัยและดีต่อแมว ๆ ทั้งหลายอย่างแน่นอน โดยจะไม่เจ็บเพราะว่าจะหลับจากยาสลบอยู่แล้ว ในการทำหมันแมวนั้นอวัยวะสืมพันธุ์จะถูกตัดออกไปนั่นเอง ซึ่งมันจะดีข้อดีก็คือ

  1. ทำให้แมว ไม่ต้องทานแคลลอรี่เยอะ หลังทำหมันเจ้าของควรลดปริมาณอาหารลง เพื่อป้องกันไม่ให้แมวนั้นอ้วน น้ำหนักเกิน
  2. ลดการเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว การปะทะกันระหว่างแมวตัวอื่น แล้วก็มีแผลกลับมาเต็มไปหมด บางทีก็แพ้กลับมาแมวก็เจ็บใจแค้นอีก
  3. อีกทั้งยังป้องกันการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ของเหล่าแมว ๆ ทั้งหลายได้ดีเลย
  4. อยากจะออกไปท่องโลกกว่้างแค่ไหนก็สบายใจได้เลย ไม่มีอะไรมากวนใจ
  5. ลดการฉี่ไม่เป็นที่ และฉี่ไม่เรี่ยราด ฉี่น้อยลงด้วย

หลังจากการทำหมันเสร็จใหม่ ๆ นั้นแมวจะต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างเป็นพิเศษ ต้องการความรักจากเจ้าของมาก ๆ เลยด้วย โดยในช่วง 48 ชั่วโมงแรกนี้จะต้องพิเศษกว่าปกติ และไม่นานการเจ็บจากการทำหมันแมวก็จะบรรเทาและหายดีไปตามระยะเวลาของมันเอง

หากแมวทำหมันแล้ว เจ้าของเองจะต้องเรียนรู้วิธีการดูแลแมวอย่างดีจากการแนะนำของสัตวแพทย์ และเราก็สามารถวางใจได้เลยว่าเจ้าเหมียวจะไม่ได้ไปปะทะคารมกับกงเล็บกับแมวเด็กแนวแถวไหนมาอีก และไม่ทำให้ตั้งครรภ์ในเวลาที่ไม่ต้องการได้อีกด้วย ใครที่ยังไม่ได้ทำหมันแมวก็พาไปทำจะดีกว่าครับเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของตัวแมวเอง

ขอบคุณเนื้อหาจาก ช่อง Whiskas Thailand

บอกซิ ว่านี่หมาใช่มั้ย ? ทำไมยักษ์ใหญ่ อย่างงี้ ใหญ่อะไรเบอร์นี้

ปกติแล้วสุนัขจะไม่ใหญ่อะไรมากมาย ตามแบบฉบับหมาบ้าน ๆ หมาสายพันธุ์ยอดนิยมเลี้ยงทั่วโลก แต่ว่าในเมื่อหมาเล็กที่สุดในโลกยังมีเลย แล้วทำไมจะไม่มีหมาที่ใหญ่ที่สุดบ้างจริงไหม แต่ว่าในความยักษ์ใหญ่ของบรรดาหมา ๆ นั้นไม่ได้มีแค่สายพันธุ์เดียวน่ะสิ วันนี้เราไม่ได้มาลงดีเทลประวัติ แต่เราเอาภาพความเป็น “หมายักษ์” มาฝากทุกท่านครับ

หนุนตัก ได้แต่หัว หัวไม่พอ

โฮ่ง ๆ ผมหล่อมั้ย ฮะ

ดูซี ผมสูงจะเกินเจ้านานแล้วครับ

ผมว่า ผมจะลาออกจากการเป็นหมาแล้ว
ไปสมัครเป็นสิงห์โต แทน ดีมั้ย

เล็ก ปะทะ ใหญ่

ไปไหนก็ไปกัน ขอแค่ฉันได้ไปกับเธอ

มองหน้าผมงี้ . . เห็นผมน่ากอดใช่มั้ยล้าาา

นั่งไม่ฉบายตัวเยย

ผมขอเสนอ . . . ผมว่าโซฟา มันเล็กไปนะครับ

เห้อ.!! ว่าไรเหลอ . .

กอดกัน ๆ กอดมิด

ถ้ามีผมไม้ถูพื้นไม่ต้องมี ผมถูให้ได้

สงสัยกรงจะหดแน่ ๆ

เจคอบ มนุษย์หมาป่าหรือเปล่า
คือ นายหล่อมาก

ความอยุติธรรมของที่นอน หมา

เห็นสุนัขยักษ์ใหญ่แต่ละตัวแล้วมันก็น่ารักดีนะครับ คิดภาพแล้วเลามันกระโดดกอดเจ้าของแต่ละทีนี่คง ต้องฝึกการทรงตัวให้ดี ๆ เลยล่ะ เรื่องกินไม่ต้องห่วงยังไงก็กินจุกว่าหมาปกติแน่นอน ใครอยากจะเลี้ยงหมายักษ์ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจนะครับผม

 

ขอบคุณภาพจาก

เพรชมายา ดอทคอม

แมวสายพันธุ์สิงหะปุระ [Singapura] แมวพันธุ์เล็กที่สุดในโลก

หลายคนคงไม่คิดว่าแมวจะมีสายพันธุ์ที่ตัวเล็กมาก ๆ ด้วย ถ้าพูดถึงว่าแมวอะไรที่ตัวเล็กที่สุดในโลกหลายคนก็คงจะมีเครื่องหมายคำถามต่อกับตัวเองว่า พันธุ์อะไรหว่า ? วันนี้เราก็เลยนำเอาความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกันครับ สำหรับแมวพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลกชื่อว่า พันธุ์สิงหะปุระ (Singapura) ในประเทศไทยเราจะไม่ค่อยนิยมเลี้ยงกันเท่าไหร่ สิงหะปุระที่เป็นพันธุ์แท้จะตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับแมวชนิดอื่น ๆ

แมวพันธุ์สิงหะปุระที่เล็กที่สุดในโลกนั้น ถิ่นกำเนิดมาจากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงเราเลย นั่งคือ “ประเทศสิงคโปร์” แต่ว่าตามจริงแมวเป็นแมวที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาอีกทีจากอเมริกานั่นเอง ความโดดเด่น น่ารัก น่าเลี้ยงของแมวพันธุ์เล็กที่สุดในโลกนี้คือ ตาโต ใบหูใหญ่ น่ารักมาก ๆ  ตัวเล็ก ๆ แต่ดูผ่าน ๆ ก็เหมือนจะคล้ายแมวพันธุ์อะบีชิเพราะหูใหญ่เหมือนกันเลย

สีขนของแมวสิงหะปุระ จะเป็นแบบเนียนสวย เป็นแมวที่มีสีขนเรียบหรูมาก โดยจะมีสีน้ำตาลกระจายออกมา  มีดวงตาเป็นสีน้ำแดง บ้างก็เขียวหรือเหลืองด้วย ในส่วนของตีนเเมวจะเล็กมาก ๆ ถึงมากทีสุดเลยปกติแล้วแมวธรรมดาก็เล็กอยู่แล้วแต่มาเป็นพันธุ์สิงหะปุระจะยิ่งเล็กลงไปอีก

นิสัยของแมวพันธุ์สิงหะปุระ 

จะเป็นแมวที่มีความซนอยู่ในตัวสูงมากแมวปกติชอบก่อกวนมวลมนุษย์มากแค่ไหน Singapura นี่มีมากกว่านั้น ชอบเรียกร้องความสนใจจากคนแบบสุด ๆ ไปเลย ทำอะไรก็ต้องให้ความสนใจแมวด้วย ใครที่ขี้เหงารีบรองว่าหายแน่นอนถ้าเลือกจะเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ไว้เป็นเพื่อน แถมยังเป็นแมวฉลาดชอบดูโน่นทำนี่ ขี้สงสัยไปเสียหมด ชอบให้เล่นด้วยมาก ๆ เลยล่ะครับ

Singapura เป็นแมวพันธุ์ขนสั้นดูแลง่ายแต่การจะหามาเลี้ยงนั้นไม่ง่ายเท่าไหร่นักในประเทศไทย เป็นของหายากไปเสียแล้ว ราคาก็ถ้าใครจ่ายไหวหามาเลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงากันได้นะ ประมาณ 60,000 บาท เริ่มต้นเท่านั้น เอ๊ง (เสียงสูง) ไม่ธรรมดาจริง ๆ กับความแสนซนของแมวพันธุ์สิงหะปุระ ถ้าใครหามาเลี้ยงก็ถ่ายรูปมาแบ่งแชร์กันบ้างนะครับผม

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

http://www.vetstreet.com/cats/singapura
http://www.tica.org/find-a-breeder/item/272-singapura-introduction
http://carecat.weebly.com/

 

 

 

สุนัขสายพันธุ์เล็ก พุดเดิ้ล (Pudel) น่ารักและฉลาด น่าเลี้ยง

สุนัขพุดเดิ้นในประเทศไทยของเราก็นิยมเลี้ยงอยู่ไม่น้อยเลย แต่อันดับทั่วโลกแล้วเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นอันดับ 1 เลย สุนัขสายพันธุ์พุดเดิ้ลถูกจัดให้อยู่ในประเภท Non sporting Group คือ ไม่ใช่เพื่อการกีฬา นั่นเองครับ แต่เป็นประเภทสวยงาม น่ารัก ขนฟู ๆ หยิก ๆ ในประเทศไทยนิยมเลี้ยงพุดเดิ้ลสาย  Toy Poodle เพราะความน่ารักตะมุตะมิของมันนั่นเอง และพุดเดิ้ลจะเปลี่ยนสีจมูกเป็นแดง ๆ เมื่อมีอาการตกใจอีกด้วย

พุดเดิ้ล (poodle) เป็นสุนัขที่ฉลาด ฝึกง่าย เชื่อฟัง น่ารักมาก ๆ โดยสายพันธุ์นี้ก็จะมีแบ่งแยกย่อยประเภทออกมาทั้งหมดมี 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้เลย

  1. สุนัขพุดเดิ้ลทอย ( Toy Poodle) เป็นประเภทที่เล็กที่สุดในบรรดาพุดเดิ้ลด้วยกันเอง สูงไม่เกิน 6 นิ้วเท่านั้น ส่วนน้ำหนักก็ประมาณ 6 กิโลกรัม และเพราะความเล็กนี้ทำให้คนไทยนิยมเลี้ยงมาก ๆ เพราะทั้งเล็กและน่ารักด้วย
  2.  สุนัขพุดเดิ้ล มินิเจอร์( Miniture Poodle ) เป็นสายพันธุ์ขนาดกลาง ไม่เล็กไปแต่ก็ไม่ใหญ่เกินโดยขนาดตัวจะอยู่ประมาณ 11 – 15 นิ้วเอง และน้ำหนักตัวประมาณ  11 กิโลกรัมครับ
  3.  สุนัขพุดเดิ้ล สเเตนดาด (Standard Poodle)  ถือว่าเป็นสายพันธุ์ใหญ่สุดในตระกูลสายพันธุ์พุดเดิ้ลแล้ว ขนาดตัวจะอยู่ที่ประมาณ  18 – 22 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัมครับ

แต่ว่าปัจจุบันนี้สุนัขพุดเดิ้ลได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้เล็กลงเป็รทีคัพแล้ว คือเล็กมาก สูงคงไม่เกิน 8 นิ้วเท่านั้น แต่ว่าสายพันธุ์นี้ยังไม่มีการรับรองจากที่ใดแต่ว่าความนิยมและราคานั้นสูงมาก ๆ ๆ ๆ เลยครับ

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์พุดเดิ้ลนั้น อย่าลืมศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการเลี้ยงดู การอยู่อาศัย และเช็คความพร้อมของตัวเองให้ดีด้วย เพราะว่าเจ้าพุดเดิ้ลก็เหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากเจ้าของเหมือนกันนะครับผม

การเลี้ยงสุนัขพุดเดิ้ลควรดูแลสุขภาพเขามาก ๆ โดยเฉพาะระวังโรคเกี่ยวกับดวงตาและสุขภาพผิว สุขภาพเกี่ยวกับระบบภายใน การกินอาหารควรเป็นอาหารที่สำเร็จจะง่ายและปอลดภัยกว่า เพราะว่าลำไส้ค่อนข้างจะบอบบางมาก ๆ และควรเลือกอาหารทีมีประโยชน์ต่อร่างกายของสุขัขด้วยครับ ทั้งนี้การเลี้ยงพุดเดิ้ลก็เหมือนกันเราควรจะมีเวลาอยู่กับเขา พาเล่น พาออกกำลังกาย ทำเหมือนเขาเป็นสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวเเล้วจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://pet.kapook.com/view150.html

 

มารับข้าไปเลี้ยงเดี๋ยวนี้นะเจ้ามนุษย์ ไม่สนใจใช่มั้ย นี่ เลียกระจกโชว์เลย

วันนี้มีภาพความน่ารักของแมวชื่อ Sigmund  ที่อยู่ในสถานรับเลี้ยง ซึ่งก่อนนั้นมันมีคนรับไปเลี้ยงแล้วแต่ว่าเจ้า Sigmund  สงสัยจะซนเกินไป จนเจ้าของเขาต้องเอามาคืนและรอผู้รับเลี้ยงคนใหม่ต่อ แต่เมื่อนาน ๆ ไปไม่มีใครสนใจรับมันไปเลี้ยงสักทีมันก็คิดหาวิธีการดึงความสนใจจากมนุษย์ด้วยการ เลียกระจก เสียเลย

แมวตัวนี้อยุ่ที่  Cat Haven ศูนย์พักพิงสัตว์ในออสเตรเลีย การที่มันเลียกระจกเพื่อเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์นั้นได้ผลนะ เพราะเวลามันเลียกระจกทีไรคนก็จะหันมามองว่ามันกำลังทำอะไร และไม่นาน เจ้า Sigmund  ก็กลายเป็นที่สนใจขึ้นมาทันทีและก็มีคนรับมันไปเลี้ยงในที่สุด ด้วยความโด่งดังจากการเลียกระจกของมันเอง คนถ่ายภาพ อัดคลิปแชร์ความน่ารัก ความแปลกของมันลงโซเชียลนั่นเอง

ในที่สุดแผนการยึดครองบ้านมนุษย์และนำมนุษย์คนใหม่มาเป็นทาสของเจ้า Sigmund  ก็ได้ผลแล้ว

Sigmund เป็นแมวชอบกระโดด ชอบเล่น เป็นที่สุด

การอยู่เฉย ๆ คืออะไร ? Sigmund  ไม่รู้จัก

อยู่อย่างสุขสบาย ณ บ้านหลังใหม่

ยึดครองทั้งบ้านเรียบร้อยแล้ว

จะทำงานหรอ หรือทำอะไร ก็ต้องมี  Sigmund  อยู่ด้วยเสมอ
(ผู้คุมงาน)

ความน่ารัก ฉลาดของ  Sigmund  จากไอเดียการเลียกระจกได้ผล จนได้บ้านใหม่สมใจในตอนอายุ 4 ปี ความพยายามของแมวสูงจริง ๆ เห็นแล้วทาสแมวขอคารวะครับผม เก่ง ๆ เลยนะ  Sigmund  ขอให้มีความสุขที่บ้านใหม่นะ

 

ที่มา http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=368

ข่าวลือหรือเรื่องจริง ? สุนัขพันธุ์ผสมมีร่างกายแข็งแรงกว่าพันธุ์แท้ วันนี้เรามีคำตอบ

บนโลกใบนี้มีสุนัขหลากหลายสายพันธุ์มากให้เราได้เลือกมาเลี้ยงเป็นเพื่อนกันครับ สำหรับบางคนก็มีสายพันธุ์สุนัขที่ชอบอยู่แล้ว แต่สำหรับบางคนก็อาจยังต้องพิจารณาหลายอย่างก่อนติดสินใจนำสุนัขมาเลี้ยง โดยสุนัขเองก็มีทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ผสม ซึ่งหลาย ๆ คน อาจจะเคยได้ยินว่าสุนัขพันธุ์ผสมนั้นจะไม่ค่อยป่วยเป็นโรค จะมีความแข็งแรงมากกว่าสุนัขพันธุ์แท้มันจริงหรือไม่มาติดตามกันครับ

ทำความเข้าใจพันธุ์ – พันธุ์ผสม

ก่อนอื่นมาตอกย้ำความเข้าใจเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัขในเบื้องต้นก่อนนะครับ สุนัขสายพันธุ์แท้คืออะไร ? คือ สุนัขที่เกิดมาจากพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่เป็นสายพันธุ์เดียวกัน ลูกก็ออกมาเป็นพันธุ์แท้ ส่วนพันธุ์ผสมก็คือ สุนัขที่เกิดมาจากพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์คนละประเภทนั่นเองครับจะเป็นพันธุ์อะไรก็ได้ที่ผสมข้ามสายเรียกว่า “พันธุ์ผสม” หมดเลยครับ

เราจะทราบได้อย่างไรว่าสุนัขพันธุ์ผสมแข็งแรงกว่าพันธุ์แท้จริงไหม? 

สุนัขทุกตัวไม่ว่าจะเป็นพันธุ์แท้หรือผสมจะมีการรับเอาลักษณะทางพันธุกรรมมาจากพ่อแม่อยู่แล้ว และในลักษณะนี้เองมันจะมีโรคตามมาด้วย ซึ่งเป็นเพราะยีนมีความผิดปกติ แล้วคำถามคือ สุนัขพันธุ์ผสมแข็งแรงจริงไหมมีทีมนักวิจัยได้ทำการทดลองสำรวจออกมาแล้วนะ โดยรวมแล้วก็ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าสุนัขพันธุ์ผสมจะแข็งแรงกว่าเพียงแต่มีทักษะในการปรับตัวตามสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยได้ดีกว่าเท่านั้นเอง ในส่วนของโรคนั้นก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นได้เหมือนกัน

แต่ว่าเมื่อมีการทดลองเรื่องการเกิดโรคทางพันธุกรรมของสุนัขเทียบกันระหว่างพันธุ์แท้กับพันธุ์ผสม ทั้ง 10 โรค จากงานวิจัยของ Bellumori และคณะ (2013) โดยเก็บข้อมูลจากเวชระเบียนในคลินิกสัตวแพทย์ของ University of California-Davis Veterinary Medical Teaching Hospital. (UC Davis) จากสุนัขจำนวนมากกว่า 27,254 ตัว นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 ถึง ค.ศ. 2010 ก็ปรากฎว่าสุนัขพันธุ์ผสมนั้นพบโรคทางพันธุกรรมได้น้อยกว่าพันธุ์แท้ แต่ก็ดันพบว่าพันธุ์ผสมจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเส้นเอ็นหัวเข่าไขว้หน้าฉีกแทน เราจึงไม่อาจจะสรุปได้ว่าสุนัขพันธุ์ผสมจะแข็งแรงกว่าเสมอไปครับ เพราะสุนัขทุกตัวมีสิทธิ์ที่จะเกิดโรคได้เหมือนกันแต่จะเป็นโรคอะไรมากกว่ากันเท่านั้นเอง

แต่ไม่ว่าจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์แบบไหนก็ขอให้รักและดูแลเอาใจใส่พวกเขาให้ดีนะครับ แม้เราจะไม่รู้ว่าสุนัขแต่ละตัว แต่ละพันธุ์นั้นแข็งแรงแค่ไหน แต่เรารู้ได้เสมอถึงความซื่อสัตย์ของพวกเขาแน่นอน ดูแลกันให้ดีนะครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.dogilike.com/content/vettalk/5821/

แมวหน้าเปื้อน สมัดจ์ ที่เห็นแล้วน่าร๊ากก อยากอุ้มกลับบ้าน

แมวแบบไหนที่น่ารักน่าเลี้ยงสำหรับคุณบ้าง หลายคนก็คงจะมีความชอบในตัวแมวที่แตกต่างกันออกไป และยิ่งเป็นแมวที่มีเหมือนจะมีจุดด่างพร้อยนั้นบางคนก็คิดว่าเป็นแมวไม่น่าชมเอาเสียเลย แต่ว่าตรงกันข้ามเลยกับเจ้า สมัดจ์ แมวพันธุ์หิมาลายันตัวนี้ ที่มีรอยเปื้อยอยู่บนกลางใบหน้ามองเห็นได้เด่นชัดมาก ไม่ได้กลายเป็นปมด้อยแมวแต่อย่างใดเลย แต่รอบเปื้อยนี่เองที่ทำให้เจ้าสมัดจ์โด่งดังและกลายเป็นเซเล่บแมวในที่สุด เรามาชอบภาพความน่ารักของแมวตัวนี้กันเลยครับ

สมัดจ์ เป็นแมวมาดผู้ดีตัวหนึ่งในบรรดาเซเล่บแมว
ความน่ารักของมันไม่ได้มีเพียงแต่รอยเปื้อนสีดำบนใบหน้าเท่านั้น
แต่ลองมองที่ดวงตาเหมียวน้อยดูสิ จะเห็นถึงความบ๊องแบ๊วมาก ๆ
สายตาเหมือนจะอ้อนวอน พร้อมจะอ้อนเราอยู่ตลอดเวลา
แบบนี้ทาสแมวเห็นรับรองว่าต้องใจละลายแน่นอน

สมัดจ์น้อย ตากลม ๆ ขนฟู ๆ
น่าร๊ากกก ใช่มั้ยล่ะ
เห็นแล้วอยากจะกอดจริง ๆ

รอยเปื้อนบนหน้า สีขนที่แตกต่างไม่เคยทำให้ความน่ารักลดลงเลย
ความอ้วนกลม ขนยาวน่ากอด ตาแป๋ว ทำให้สมัดจ์ได้ใจทาสแมวเลย

สมัดจ์ง่วงจังเลย
เข้านอนกันเถอะนะ ๆ ๆ ๆ

เวลาว่างของสมัดจ์ คือ
การนอนอยู่เฉย ๆ

หน้าตาแบบนี้แปลได้ว่า
สมัดจ์หิว แย้ว

แมวจะนอนถ่ายพอแล้ว
สมัดจ์ กล่าว

ทำไมรู้สึกเหมือนที่นอนมันเล็ก ๆ นะ

วันนี้มีอะไรกินบ้างน้าา
สมัดจ์ หิว

ทั้งหมดนี้เป็นภาพความน่ารักของเซเล่ปแมวหน้าเปื้อน สมัดจ์นะครับ ถ้าใครอยากจะติดตามอินสตาแกรมของเจ้าสมัดจ์ก็ไปที่อินสตราแกรมชื่อ purrfectsmudge ได้เลย  เป็นไงบ้างกับความน่ารัก ตาแป๋ว บอกเลยว่าน่ารักมาก ๆ อยากจะอุ้มกลับบ้านจริง ๆ ครับผม

 

 

ขอบคุณภาพจาก

https://www.instagram.com/purrfectsmudge/
http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=342

 

 

เจ้ามนุษย์ไปเที่ยวต้องพาแมวไปด้วยสิ คิดจะเที่ยวคนเดียวแมวไม่ยอม

วันนี้เราได้นำภาพความน่ารักของน้องเหมียวที่ติดตามมนุษย์ผู้ซื่อสัตย์ไปด้วยทุกที่ โดยมีอินสตาแกรมที่ชื่อว่า  campingwithcats ได้โพสภาพการเดินทางท่องเที่ยวกับแมว และทุกคนที่รักแมวสามารถโพสภาพแมวของตัวเองในการพาเที่ยว พร้อมกับติดแฮชแท็กชื่อ #campingwithcats  ได้เลยในอินสตาแกรมดังกล่าวจึงเต็มไปด้วยแมวน่ารัก ๆ กับการท่องโลกกว้างจากทาสแมวจากทั่วโลกเลย วันนี้เราได้นำภาพความน่ารักบางส่วนมาแบ่งปันครับ

แวะเข้ามาชมกันได้เลย ว่าเวลาแมว ๆ ไปเที่ยวจะน่ารักกันขนาดไหน

แคมป์นี้แมวจอง มีใครจะมานอนด้วยมั้ย

การผจัญภัยของ โจรสลัดแมวเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้

อาบแดดสักนิด

แมวไซบีเรียน ตะลุยป่า (เนียนมั้ย)

วันนี้อากาศดีจังเล๊ย

แอบเข้ากระเป๋าไปด้วย มนุษย์คงไม่รู้ตัว ฮะฮ่า

ชอบนอนที่สูง

ตั้งแคมป์ในป่า ตามประสา แมว ๆ

แมวไม่เคยกลัวฝน (จริง ๆ นะ)

จะไปที่ไหนให้บอกมา
แล้วแมวจะพาไป
(แล้วต้องพาแมวไป 555+)

วันนี้ควบหมา ออกมาสำรวจริมลำธาร
ทุกอย่างเรียบร้อย ปกติดีฮะ

ร่างกายต้องการธรรมชาติ
สูดธรรมชาติเข้าเต็มปอดแมว

ตั้งกล้อง เตรียมถ่ายภาพกัน

เอ่อ. . มนุษย์เอ๋ย
แมวหนาว อยากกลับบ้าน

โลกใบนี้เป็นของเราสองคน
ทะเลแสนกว้างก็เช่นกัน

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับภาพความน่ารักของเหล่าแมว ๆ ทั้งหลายกับเจ้าของที่ต้องพกพาแมวไปด้วย หากคุณเลี้ยงแมวและมีโอกาสได้ไปเที่ยวอย่าลืมพาแมวน้อยออกไปยนโลกกว้างด้วยนะครับ

 

ขอบคุณภาพจาก http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=356

โรคแมวข่วน (Cat-scratch) ทาสเเมวควรระวัง

แมวเหมือนจะเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมาก ๆ และคนก็ชอบเล่นกับแมวแต่สิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวแมวกว่า 40 % จะเป็นเชื้อแบคทีเรียจากเห็บหมัดต่าง ๆ จะมาโดนเราและทำให้คนป่วย โดยเฉพาะกับผู้ที่เล่นกับแมวบ่อย ๆ ปล่อยให้แมวเลีย หรือโดนกัด โดนข่วน โอกาสที่จะติดเชื้อเเบคทีเรียนั้นมีสูงโดยจะทำให้เกิดเป็นโรคที่ชื่อว่า โรคแมวข่วน (Cat-scratch)ครับ

โรคแมวข่วนนี้อาจจะไม่ได้มีสาเหตุมาจากตัวแมวโดยตรงแต่มาจากเห็บหมัดที่มีฉี่มีมูลที่เต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียนี้อยู่ เวลาคนโดนแมวข่วนเชื้อดังกล่าวที่อยู่บนตัวแมวจะซึมเข้าสู่บาดเเผลได้  บางทีแม้ว่าบาดเเผลไม่ได้เกิดจากแมวแต่บนตัวเรามีแผลอยู่แล้วก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้

โดยในปี 2005 – 2013 ทางCenters for Disease Control and Prevention (CDC)  ออกมาเผยผลการสำรวจสุขภาพของผู้คนในโรงพยาบาลพบว่ามีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจากโรคแมวข่วนสูงถึง 538 คนกันเลยทีเดียว โรคนี้เหมือนจะไม่ร้ายแรงแต่ก็มีผลข้างเคียงไม่ค่อนข้างอันตรายเหมือนกัน

อาการข้างเคียงจากโรคแมวข่วน Cat-scratch)

จะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นแบบทันที ส่วนใหญ่จะพบว่าหลังจากที่ผู้ป่วยได้ติดเชื้อโรคแมวข่วนไปแล้วประมาณ 3 – 14 วันจะเริ่มแสดงอาการออกมา ซึ่งลักษณะอาการของโรคมีดังนี้

  1. รู้สึกอ่อนเพลีย อ่อนล้าร่างกาย
  2. มีอาการปวดหัว
  3. บริเวณแผลจะเริ่มแดงอย่างเห็นได้ชัด
  4. แผลมีอาการบวม และ นูน ขึ้นมาผิดจากปกติ
  5. มีอาการเบื่ออาหาร

หากคุณเล่นกับแมวแล้วโดนแมวข่วน โดนกัด โดนเลีย ต้องรีบทำความสะอาดแผลโดยเร็วที่สุด เพื่อความมั่นใจควรไปให้แพทย์ตรวจรักษาแผลให้ด้วยจะดีกว่าครับ และอย่าลืมพาน้องเหมียวเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย เป็นการป้องกันได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ก็ต้องดูแลความสะอาดแมวอย่าให้มีเห็บหมัดครับผม

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=329

 

น้องแมวฝึกอย่างไรให้เชื่อง ทาสเเมวต้องอ่าน

ทาสแมวทั้งหลายฟังทางนี้วันนี้เรามีวิธีการจัดการกับเจ้านายตัวแสบของเราให้เชื่องแล้ว การฝึกแมวอาจจะยากแต่ก็ไม่เสมอไป เพราะมีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น เมื่อเทียบกับการฝึกสุนัขการฝึกแมวง่ายกว่ากันเยอะ เรามาดูกันว่าจะฝึกแมวอย่างไรให้เชื่องและเชื่อฟังทาสอย่างเรา ๆ มาติดตามกันได้เลย

การฝึกแมวให้เชื่องมีวิธีดังต่อไปนี้

  1. การฝึกเรียกชื่อเรียกให้มาหา   เราจะฝึกโดยการเรียกบ่อย ๆ โดยใช้คำเดิม ๆ เพื่อให้แมวเกิดการจดจำ เช่นเรียกให้มาหาเราอาจจะใช้คำว่า มานี(ชื่อแมว) เเละเวลาเรียกแต่ละครั้งก็เรียกแบบเดิม แต่ว่าอย่าลืมให้รางวัลทุกครั้งที่ฝึกเรียกแล้วน้องแมวมาหา  แต่ถ้าฝึกมากไประวังน้องแมวรำคาญหากรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของแมวว่าไม่ดีแล้วให้หยุดก่อน ค่อยฝึกใหม่วันหลัง
  2. สอนให้แมวเข้าลัง  ทุกครั้งที่เราเรียกแล้วน้องแมวมาเข้าลังก็ชมและให้รางวัลเป็นของโปรดเขา จะทำให้เข้าใจว่าการเข้าไปในลังเป็นสิ่งที่จะต้องทำ เพราะทำแล้วจะได้ขนม แต่ถ้าหากแมวออกมานอกลังห้ามชม ห้ามให้ขนมเด็ดขาด พอแมวเริ่มเข้ารังแล้วก็พยายามฝึกให้อยู่นาน ค่อยให้ขนม เมื่อแมวชินจะเข้าใจว่าตรงนั้นเป็นบ้าน

   

3.  ฝึกให้แมวหมอบ  วิธีนี้จะต้องใช้ขนมล่อ สูงไว้จากนั้นค่อย ๆ เลื่อนขนมลงต่ำให้แมวเริ่มหมอบตามขนม จากนั้นก็ให้ค่อย ๆ ถอยห่างออกมาก่อน โดยยังไม่ให้ขนมเมื่อแมวหมอบแล้วเราก็ค่อยให้ แต่ในระหว่างการฝึกเราจะต้องพูดคำว่า “หมอบ” ไปพร้อมกันด้วยนะ

4.   ฝึกการคาบของ  ลองดูว่าแมวของเราชอบอะไรแบบไหนลองหาของเล่นหรือตุ๊กตามาให้ดู โยนให้แมวจากนั้นลองรอให้แมวคาบละเรียกมาหาเรา จากนั้นก็เอาขนมให้เพื่อเป็นของรางวัล หรือเอาขนมให้เพื่อแลกกับของก็ได้

5.  ฝึกขับถ่ายในกระบะทราย  แมวจะต้องรู้จักการเข้ากระบะทรายโดยในช่วงเเรกเราจะเรียกน้องแมวให้รู้จักกระบะทราย เราเรียกและเอามือขุดทรายเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจก็ได้ จากนั้นเมื่อน้องแมวมาหาก็ให้รางวัล โดยจะต้องฝึกในช่วงหลังอาหาร หลังออกกำลังกาย หรือหลังตื่น ประมาณนี้แมวจะได้เข้าห้องน้ำเป็นเวลา แต่สิ่งที่ต้องทำควบกันด้วยคือ การให้อาหารเองก็ต้องเป็นเวลาด้วย

เราสามารถฝึกแมวให้เชื่องได้หากรู้วิธีการที่ถูกต้อง ใน 5 ขั้นตอนนี้สามารถนำไปใช้ได้ทุกคน  การฝึกแมวหาเริ่มเร็วก็จะดีกว่ารอให้แมวโตหรือมีอายุแล้วจะฝึกยากกว่าแมวที่กำลังโต แต่ก็ฝึกได้ทุกวัยเพียงแต่จะต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกที่แตกต่างกัน

ขอบคุณที่มาจาก http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=351

สุนัขสายหล่อ มาดเท่ แต่ขี้เล่นชอบทำหน้าทะเล้นกวนโอ๊ย ยกให้เขาเลย “Siberian Husky “

Siberian Husky ไซบีเรียน ฮัสกี้ ทุกคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นหมาเมืองหนาวแต่ว่าเมืองร้อนอย่างไรเราก็นิยมเลี้ยงกันจำนวนมากเลย ด้วยความหล่อ ความเท่ ความฉลาด ขี้เล่นของเจ้าไซบี้ทำเอาหลาย ๆ คน ติดอกติดใจกันมาก ความสามารถของเจ้าไซบีเรียนนั้นมีเยอะ ฝึกได้ ทำงานได้หลายอย่าง แต่ก็อาบเป็นจอมซน ชอบทำหน้านิ่ง ตาโต ทะเล้น ๆ เห็นทุกทีอดขำไม่ได้เลย #หมดกันความหล่อ  เรามาดูภาพของเหล่าไซบีเรียนที่เเสนน่ารักกันเลยดีกว่า

เปิดตัวภาพแรกด้วย ความหล่อแบบหมาผู้ดี
แอ่ก!! ตาเหลือก ลิ้นห้อย  ตายดีกว่า . . อ๋ง อ๋ง

ไม่ไหวแล้ว ง่วงนอน จะขึ้นแล้ว
ไม่ขึ้นจะจมแล้วนะ

วิญญานนางแบบเข้าสิง
นิ่ง สงบ ดูดี มีความไฮโซแบบหมา ๆ

ห๊าาาา !! อะไรนะ หน้าปากซอยมีศัตรูมาหรอ
ป๋าโหดจะไปช่วยเดี๋ยวนี้แหละ

โทษทีหน้านิ่ง ไม่ได้หยิ่ง
ทำไงได้ .. ก็หน้าหล่อ แต่เกิด

เหอ!! . .  ทำไมนะ  ซื้อกี่ตัว ๆ ไม่เคยถูก
ไม่เป็นไรงวดหน้าเอาใหม่

ว่ากันว่า. . อาบน้ำ สะบัดขน จะมีเซ็กซี่
ไหน ๆ ลองสะบัดมั้ง !!

กำลังเรียนวิชา หมาพลางตัว
ฮะ ฮ่า หาไม่เจอละซี่ ?

เดินบนหิมะทีไร
ความสูงหายทุกทีเล๊ยยย

ถ้าอยากถ่ายภาพออกมาแบ๊ว น่ารัก
ต้องทำตาโต หามุมเอียง ๆ เเบ๊วสุดละฮะ

แฝด 7 นอนหลับน่าร๊ากกก
อย่าให้ตื่นเชียวนะ
แฝดนรกทันที

เป็นยังไงกันบ้างครับกับภาพเหล่าไซบีเรียน ฮัสกี้ น่ารักกันทุกตัวเลย ใครที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้แนะนำว่าใครมีที่เย็น ๆ ให้น้องอยู่จะดีมาก เพราะว่าจะเป็นหมาไม่ชอบอากาศร้อน ห้องแอร์ยิ่งดีครับ และดูแลเรื่องขนให้ดีอาจจะมีการร่วงเยอะในบางช่วง  ยังไงก็ตามหากอยากจะเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์ไหน ควรมีสถานที่ให้พร้อมและศึกษาข้อมูลการเลี้ยงให้ดีนะครับผม ขอให้ทุกคนมีความสุขร่วมกันกับเจ้า 4 ขา นะครับ

แมวอ้วนที่ชวนอึ้ง! รวมเหล่าแมวอ้วนทั้งหลาย แสนน่ารักน่ากอด

วันนี้นะครับเราจะพามาชมภาพหมู เอ้ย! ไม่ใช่ครับ แมวครับแมว แต่เป็นแมวที่กลายเป็นหมูไปแล้ว เพราะว่าทาสอย่างเรา ๆ สงสัยจะเลี้ยงดีเกินไปสักหน่อยทำให้เหล่าบรรดาแมว ๆ ทั้งหลายกลายเป็นหมู ไปแล้ว เรามาชมภาพน่ารัก ๆ ของเหล่าบรรดาหมูแมวจ้ำม่ำกันดีกว่าครับ

จะนั่งก็ยาก จะก้มก็ลำบาก
ติดพุง

อ้วนแต่เรียบร้อย
แมวผู้ดี มีไรป่ะ ?

อย่าพึ่งถ่ายรูปสิ
กำลังบิดตัวหามุมผอมอยู่

ฝนตก น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
ข้าก็ไม่หนี
หนักตัวเอง ขอนอนอยู่ตรงนี้แหละ

อ๋อยยยย อิ่ม
ขอนอนตากพุงหน่อยละกัน

มาเป็นของเค้าเถอะนะค้าา
ตะเองหนีเค้าไม่รอดหรอก

ขอนัั่งเอนหลังแปป
ไปวิ่งจับหนูมา เหนื่อย

พี่อ้วน เพราะมีกิน ไอ้น้อง

มองไร เจ้ามานุด

รู้สึกไหมว่าเตียงมันเล็กลง

ขอลาออกจากการเป็นแมว
เป็นกระต่ายแทนได้มั้ย

นั่งหมา . . หรือ หนู  . .. จับกินจะเป็นไรมั้ยนะ

ข้าคือ สิงโต

ทุกวันนี้ไปไหนมาไหน ไม่เดินกันแล้ว
กลิ้งเอา !!!

แมวอ้วนแต่ละตัวบอกเลยครับว่าแทบจะอยากจะเรียกว่าแมว อ้วนกันจริง ๆ ถ้าจะให้ดูเวลาเลี้ยงไม่ต้องให้อ้วนขนาดนี้ก็ได้ อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องแมวในอนาคต ควรจะหาเเมวออกกำลังกายบ้าง อาหารควรควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่พอดีต่อมื้อ อ้วนถึงจะน่ารักแต่มันอาจจะอ้วนเกินไปหรือเปล่า อย่าลืมพาเหมียว ๆ ไปตรวจสุขภาพกันด้วยนะครับผม

ขอบคุณภาพจาก http://petmaya.com/cat-or-pig

รวมภาพเหล่ามะหมาที่ดูแล้วชวนฮากลิ้ง

สวัสดีครับ บทความนี้จะเน้นที่ภาพน่ารัก ๆ ภาพฮา ๆ ของหมาทั้งหลาย ไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือจะอะไรดี แต่ที่แน่คือ ชวนฮาน้ำตาร่วงแน่นอน พฤติกรรมสุนัขแต่ละตัวไม่ธรรมดาจริง ๆ เจ้าตัวแสบที่บ้านใครมีพฤติกรรมชวนหัวเราะแบบนี้บ้างไหม เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูกันเลยดีกว่าครับ

แบบนี้จะเรียกอะไรดี จะเป็นสัตว์โลก กวน . . .
หรือ กำลังคัน หรือท่าอะไร หรือเปล่านะครับเจ้าตูบ ฮ่า ฮ่า

แช่น้ำคนเดียวสบายไปมั้ยครับ
ป๋มลงแช่ด้วยสิ . .  ฉบายย

ได้เวลานอนแล้วฮะ
หมอนพร้อม ผ้าห่มมา
ฝันดีฮะ

นั่งพื้นแบบปกติ เบื่อแล้วสินะ
อยากจะเปลี่ยน มุมมองบ้าง

คาบแล้ว วางไม่ได้ฮะ
ทำไงดี มันติดในปาก

ตัวเป็นยางรุยังไง ?
แหงนมองซะ กลัวแทนเลย

อะไรเอ่ย ไม่เข้าพวก ?

วิธีเตาผิงอย่างถูกต้อง
มันต้องแบบนี้เนั้ยย !!!

ผมเก็บตุ๊กตาได้หน้าปากซอยครับ
เลยหิ้วมาฝากหมะมี้

จัดการมันเลยฮะลูกเพ่

ภารกิจวันนี้คือ ถอนหญ้าหน้าบ้าน ฮะ

ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ ณ พงไพรแห่งนี้ โฮ่ โฮ่
(แล้วจาลงยังไง ??…? !)

ไม่เป็นไรนะ โอ๋ ๆ
เค้าอยู่ตรงนี้นะ ไม่ตรงกลัว

ละครมาแล้ว
กรุณาอย่ารบกวน
(หมาติดละคร)

ธรรมดา หมาผู้ดี
มีอ่างจากุชชี่ส่วนตัว
เย็น ฉบายยยย

ไปเร็วสิเจ้าม้า  ข้ากำลังรีบ

ขอนั่งพักแปป
รมไม่ค่อยดีอย่าชวนคุย

เป็ยยังไงบ้างครับ แต่ละตัวไม่ธรรมดาจริง ๆ วีรกรรมสุดแสบของสุนัขยังมีอีกมากมาย วันนี้จบเท่านี้ก่อน บทความต่อไปจะนำมาฝากอีกครั้ง ยอมรับเลยว่างานนี้น้องหมาเรียกเสียงฮาได้ท้องแข็งกันเลยจริง ๆ บ้านไหนมีน้องหมาน่ารัก ซน ๆ แบบนี้อย่าลืมถ่ายภาพเก็บไว้ดูนะครับ ทำให้อารมณ์ดีไม่น้อยเลย

 

ขอบคุณภาพจาก http://www.kidjarak.com/20-dogs-acting-weird/

 

10 อันดับสุนัขยอดนิยมเลี้ยงมากที่สุดในประเทศไทย

ในประเทศไทยคนนิยมเลี้ยงสุนัขเป็นจำนวนมาก หลากหลายสายพันธุ์ต่างกันออกไป วันนี้เรานำอันดับ 10 สุนัขยอมนิยมเสี่ยงในเมืองไทยมาฝากครับ รับรองว่าทุกสายพันธุ์นั้นเราต่างคุ้นเคยกันดี เผื่อว่าท่านใดอยากจะหาเพื่อนแก้เหงาสุนัขก็เข้าท่านะ แต่จะต้องเลี้ยงให้ดีดูแลเอาใจใส่ด้วยเอาล่ะไปเริ่มกันเลยดีกว่า

เราจะเริ่มต้นกันที่ อันดับที่ 10 ไปจนถึงสุนัขยอดนิยมอันดับหนึ่งกันนะครับ พร้อมมีภาพน่ารัก ๆ มาให้ชมกันมาติดตามพร้อมกันเล๊ย 

อันดับที่ 10 สุนัขลาบาดอร์ รีทรีฟเวอร์  สำหรับสายพันธุ์นี้สามารถฝึกเป็นหมาค้นหายาเสพติด และการช่วยเก็บกู้ระเบิดได้เป็นอย่างดร ต้นกำหนดมาจากประเทศคานาดา มีนิสัยน่ารัก ขี้เล่น ซื่อสัตว์ ขนาดตัวค่อนข้างใหญ่กลาง ๆ  มีความช่างประจบเจ้าของ ขนเยอะเวลาเลี้ยงต้องเเปลงขนให้บ่อย ๆ ครับ

อันดับที่ 9  สุนัขโกเด้น รีทรีฟเวอร์  หลายคนหลงรักโกเด้นได้อย่างง่ายดายเพราะค่อนข้างเฟรนลี่มาก เป็นสายพันธุ์นักล่าน่ารักอีกตัว ฝึกให้เป็นสุนัขตำรวจช่วยค้นหายาเสพติดก็ทำได้ดีไม่น้อย แถมเวลาใครเลี้ยงโกเด้นไว้ที่บ้านไม่มีความเหงาแน่นอน ขี้เล่นมาก รักเจ้าของสุด ๆ เป็นสุนัขประเภทกีฬา

อันดับที่ 8 ไซบีเรียน ฮัสกี้  คงไม่มีใครไม่รู้จักสุนัขหน้าหล่อแสนทะเล้น คงต้องยกให้ไซบีเรี่ยนเลย ความพิเศษของเจ้าไซนั้นเป็นสุนัขเฝ้ายามได้ยอดเยี่ยม ลากเลื่อนบนหิมะหนาว ๆ ได้สบาย แถมเป็นหมาล่าที่เก่งกาจ เวลาน้องไซบี้หน้านิ่ง ๆ นะครับจะหล่อมาก แต่อย่าให้ทำหน้าทะเล้นเชียวมีฮาแน่นอน

อันดับ 7  สุนัขบลูด๊อก  เป็นสุนัขหน้าตาบึ้งตึงแต่ก็น่ารักในแบบของตัวเอง แถมเป็นสุนัขสายพันธุ์นักสู้ในตำนานกว่า 700 ปีมาแล้วด้วย เป็นสุนัขที่มีความอดทนสูง มั่นคง รักเจ้าของ ในความบึ้งตึงของใบหน้านี่เองทำให้คนหลงใหลและนิยมเลี้ยงกัน พันธุ์นี้ตัวจะหนา ๆ ดูตัน ๆ อ้วน ๆ ขาสั้น ๆ ก็น่ารักครับ

อันดับ 6 สุนัขพันธุ์ปั๊ก  อาจจะคล้ายบลูด็อกแต่ว่าตัวเล็กหน่อย แต่โตกว่าชิวาวา เป็นลักษณะกลาง ๆ ตาโต หน้าย่น ขาสั้น ตัวกลม หูตก เป็นสุนัขที่เหมาะกับประเทศไทยมาก เพราะค่อนข้างที่จะทนต่ออากศร้อนได้ดี  เวลานอนชอบกรน แต่ในความแปลก ๆ นี้ปั๊กก็ยังน่ารัก รักเจ้าของมาก ขี้เล่น ไมเ่บาเลย

อันดับ 5 สุนัข บีเกิ้ล เป็นสายพันธุ์ล่าเนื้อมีมานานกว่า 2,000 ปีบนโลกใบนี้แล้ว ลำตัวจะยาว ๆ ความสูงปานกลาง ขนสั้น ขาสั้น มีเสน่ห์มาก สายตาเวลาอ้อนจะใจละลายเลย  มีความสุภาพเรียบร้อยเป็นผู้ดีในเหล่ามวลหมาทั้งหลาย  แต่ก็มีความกระฉับกระเฉงว่องไวเวลาต้องทำกิจกรรมอะไรสักอย่างที่น้องบีเกิ้ลสนใจ

อันดับ  4 ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ พันธ์ุนี้คนนิยมเลี้ยงมากเพราะแพ้ต่อความน่ารัก ตะมุตะมิของยอร์คกี้ ขนยาว ๆ ตาแป๋ว ๆ มองแล้วยิ้มตามเลย ขนาดตัวเล็ก แต่ขนยาวมากหากจะเลี้ยงต้องดูแลเป็นอย่างดี ซุกซนเล็กน้อย ชอบเล่นกับเจ้าของ เลียงแก้เหงาได้ดีเลย มีความติดเจ้าของและรักสบายนิด ๆ จะเรียกว่าหมาคุณหนูก็น่าจะถูก

อันดับ 3 สุนัข ชิสุ เป็นอีกสายพันธุ์ที่ตัวเล็กน่ารัก ขี้ประจบ ขี้อ้อน ดูแล้วคล้ายกับยอร์คเชียร์เหมือนกันแต่ขนไม่ยาวตรงขนาดนั้น เพราะชิสุจะมีขนหยิก ๆ บ้าง  นิสัยจะค่อนข้างตื่นตัวตลอด กล้าหาญ ใจใหญ่ รักสะอาดสุด ๆ และอยู่ได้ในทุกสภาพอากาศเลย แต่ร้อนมากก็ไม่ไหวนะควรจะพอดี ๆ ครับ

อันดับ 2  ปอมเมอเรเนียน  น่ารักตัวกลม ขนยาวฟู ๆ ดูแล้วคล้ายกับเม่นเหมือนกันหรือว่าจะคล้ายสิงโตเล็กดี ปอมจะซน ขี้เล่น มีความแข็งแรง รักเจ้าของ  ปอมน่ารักมากเวลาอยู่นิ่ง ๆ แต่ว่าจะน่าโมโหสักหน่อยเวลาเห่าไปทั่ว เพราะปอมค่อนข้างจะตื่นเต้นกับอะไรได้ง่าย ๆ เป็นสุนัขนิสัยอวดเก่ง อวดดี ใจกล้ามาก ๆ

อันดับ 1  ชิวาวา เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลกเลย มีความน่ารัก ติดเจ้าของที่สุด ชอบให้เอาใจ ประจบเก่ง แต่ก็มีความหยิ่งอยู่ในตัวเล็กน้อย เป็นหมาผู้ดีไม่เบา ไม่ชอบอากาศร้อน ตัวเล็ก ๆ แบบนี้ทำให้หลายคนนิยมเลี้ยงเพราะดูแลไม่ยากแถมยังพกพาสะดวกอีกด้วย

ไม่ว่าจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไหนก็ตามครับ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ เราต้องรักเขา ดูแลเอาใจใส่ในทุก ๆ ด้านเหมือนกับเป็นคนในครอบครัว เพราะสุนัขทุกตัวรักเจ้าของมาก ๆ  การได้อยู่ใกล้เจ้าของนาน ๆ เหมือนรางวัลชิ้นโตเลย ความรู้สึกของสุนัขจะมีต่อเจ้าของว่ารักตลอดและมอบใจให้ 100 % ฉะนั้นเราเองก็ต้องดูแลเขาให้เต็มที่มากที่สุด

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://pet.kapook.com/view72079.html

ขอบคุณแทนหมาจรที่บราซิลมีคนทำที่นอนให้จากยางรถยนต์ อบอุ่น ซึ้งใจมาก

เรื่องราวน่าประทับใจมีทั่วโลก และน้องหมาเองก็อาศัยอยู่ทั่วโลกเหมือนกัน ทุกที่มีหมาจร ทุกที่มีความเหงา ความเหน็บหนาว สำหรับน้องหมาแล้ว บ้านดีสักที่ อาหารพออิ่มท้องก็คงดีไม่น้อยแม้จะไม่มีเจ้าของก็ตาม เรื่องราวครั้งนี้เกิดที่ประเทศบราซิล โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์เลย มาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

จากข่าวโซเชียลของทางบราซิลให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อพนักงานจากสถานีรถไฟเห็นว่าอากาศที่บราซิลนั้นหนาว สุนัขจรจัดหลายตัวไม่มีที่นอนอุ่น ๆ เขามีน้ำใจต่อสุนัขจรพวกนี้เลยหาบ้านให้ จากการนำเอายางรถยนต์เก่า ๆ มาวางแล้วปูด้วยผ้าห่มผืนเก่าอีกที  สร้างเป็นเตียงนอนเล็ก ๆ สำหรับสุนัขจรจัดทั้ง 3 ตัว

สุนัขทั้ง 3 ตัวนี้อาศัยอยู่บริเวณสถานนีรถไฟที่เขาทำงานอยู่ นอกจากสร้างที่นอนอุ่น ๆ ให้แล้วยังตั้งชื่อให้อีกด้วย มีชื่อว่า  Max, Pitoco และ Zainho นั่นเอง คนรักสุนัขในประเทศบราซิลต่างก็รู้สึกขอบคุณแทนน้องหมาอย่างมาก เหมือนกับมีเจ้าของ มีคนดูแล ถ้าเปรียบกับคนเราก็เหมือนกับอยู่ ๆ ก็ได้นอนโรงแรม 5 ดาว ที่มีบริการดีเยี่ยมเลย

เหตุการณ์ดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายหันมาใส่ใจความเป็นอยู่ของหมาจรจัดในบราซิลมากขึ้น และกลุ่มคนรักสุนัขต่าง ๆ รวมถึงนักการเมืองเองยังมีการรณรงค์ให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาดูแลน้องหมาเหล่านี้ และให้มีคนรับเลี้ยงหมาจรดีกว่าปล่อยให้อยู่กันเองแบบเร่ร่อน

ในประเทศไทยเราเองก็มีสุนัขจรจัดจำนวนไม่น้อย ที่ต้องอยู่แบบอดมื้อกินมื้อ เหน็บหนาวทุกคราวที่หลับฝัน ไม่มีเจ้าของ ไม่มีคนดูแล ไม่มีใครให้อ้อน คงเป็นฝันร้ายแม้ในยามตื่นของเหล่าสุนัขจรทุกตัว หากเมืองไทยเราหันมาใส่ใจดูแลสุนัขมากขึ้นก็คงจะดี

 

ขอบคุณที่มาจาก

http://www.ettoday.net/news/20170513/923660.htm?feature=todaysforum&tab_id=268

 

 

สุนัขใส่เสื้อได้ทุกสายพันธุ์จริงหรือ ?

มีหลาย ๆ คนชอบใส่เสื้อให้สุนัขเพราะเกรงว่าน้องจะหนาวเอา แต่บางทีความห่วงใยมันก็มีผิดไปบ้างแม้ว่าจะไม่ผิดทั้งหมดเสียทีเดียว น้องหมาใส่เสื้อได้ทุกตัว ทุกสายพันธุ์ แต่ . . . .   แต่ว่าจะสบายตัวจริงหรือ ? น้องหมาบางสายพันธุ์ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใส่เสื้อในหน้าหนาวก็ได้นะครับ

สุนัขหน้าหนาว

พิจารณาการใส่เสื้อให้น้องหมาอย่างไร

การจะใส่เสื้อให้สุนัขเราต้องพิจารณาด้วยว่า สุนัขที่เลี้ยงเป็นสายพันธุ์ไหน ถ้าเป็นสุนัขเมืองหนาว หน้าหนาวประเทศไทยทำอะไรน้องหมาไม่ได้อยู่แล้ว และน้องหมาเหล่านี้เองก็มีขนหนาถึง 2 ชั้น เพื่อผลิตออกมาทำให้ตอบรับกับฤดูหนาวได้ร่างกายก็อุ่นด้วย  และในหน้าหนาวพยายามเลี้ยงการพาน้องหมาเหล่านี้ไปตัดขนนะ

0-6

แต่ถ้าหากว่าใครอยากจะใส่เสื้อให้น้องหมาแบบเท่ ๆ ก็ทำได้ แต่ว่าไม่ควรจะใส่นาน ๆ เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด หรืออาจจะร้อนเกินไปเลย

ใส่เสื้อหมา

สำหรับบางสายพันธุ์ การใส่เสื้อในหน้าหนาวก็จำเป็น โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์เล็ก อย่างชิวาวา เมื่อเจออากาศหนาวจะไม่สบายได้ง่าย ๆ เลย ควรหาเสื้อมาสวมให้ในหน้าหนาวด้วย แต่ถ้าเป็นฤดูกาลอื่น ๆ ก็ปล่อยให้เป็นแบบธรรมชาติเหมือนเดิม

หมาหนาว

เจ้าของจะต้องดูว่าเวลานั้นควรจะใส่เสื้อให้สุนัขหรือไม่ ดูสภาพอากาศ ดูร่างกายของสุนัข ดูความสะอาดของสถานที่ ความสะอาดของเสื้อที่ใส่แล้ว หากมีอากาศหนาวไปก็ใส่ให้ได้ แต่ถ้าอากาศปรับเป็นเย็นหรืออุ่นปกติแล้ว ให้ถอดเสื้อออกทันที

สุนัขหนาว

อย่างไรก็ตามการจะถอด จะใส่เสื้อให้กับน้องหมาแสนรักของเรานั้น ควรจะพิจารณาอย่างดีก่อน เพราะว่าหากอากาศไม่ได้หนาวอะไรมากมายหากใส่เสื้อเข้าไปจะทำใ้ห้น้องหมาเกิดร้อนขึ้นมาได้  ยังไงก็ลองพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยดูนะครับผม

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.dogilike.com/content/caring/2106/

สฟิงซ์ [ Sphynx ] แมวไร้ขนที่มีความน่ารักในแบบฉบับตัวเอง

เราจะคุ้นเคยกับแมวเป็นอย่างดีในหลาย ๆ สายพันธุ์ ทุกตัวจะมีความน่ารัก น่าอุ้ม มาก ๆ สำหรับทาสเเมวแล้วไม่ว่าแมวจะทำอะไรก็ตามใจแมวได้หมดเลย และยังมีแมวอีกพันธุ์ที่หากไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องแมวจะไม่รู้เด็ดขาดว่าเป็นแมว นั่นคือ แมวพันธุ์ Sphynx สฟิงซ์ หน้าตาดุ ๆ ขนไม่มี สีแตกต่างกันออกไป แต่ก็ยังคงความน่ารักในแบบแมว ๆ ไว้เหมือนเดิม วันนี้เรามีรูปเจ้า Sphynx ที่น่ารักมาฝากกันครับ

Sphynx

ลักษณะทั่วไปของแมวพันธุ์สฟิงซ์ Sphynx

รู้ไหมใคร ๆ ต่างก็บอกว่าแมวสายพันธุ์สฟิงซ์นี้เป็นแมวที่น่าเกลียดที่สุดในโลกเลยนะเพราะว่า Sphynx เป็นแมวที่ไม่มีขน ส่วนต้นตอวงตระกูลมาจากแมวอะไรผสมอะไรยังไม่มีข้อมูลเปิดเผยที่แน่ชัดจึงยังไม่รู้ว่าที่มาจริง ๆ ของเจ้าสฟีงซ์นั้นมาจากไหน  บ้างก็ว่าอียิปบ้างก็ว่าฮาวาย ถึงอย่างไรก็ยังไม่มีอะไรมายืนยัน

Sphynx

ที่จริงแล้ว Sphynx มีขนนะแต่น้อยและบางมาก ๆ ถ้าหากไม่ลองสังเกตดี ๆ จะไม่เห็นเลยคิดว่าเป็นแมวไม่มีขน รูปลักษณ์ของสฟิงซ์จะมีหัวเป็นลิ่ม หูทรงสามเหลี่ยม แต่ปลายหูจะมีความมนและกลม ส่วนดวงตาจะเป็นสีอำพัน พื้นหนังท้องจะเป็นแถบสีขาว ลำตัวยาวกลาง ๆ ไม่ยาวมาก สีผิวขิง Sphynx ก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ว่ามีอะไรบ้างซึ่งก็อาจจะมีทั้ง น้ำตาล ดำ ขาว เหลือง เป็นต้น

4-3

นิสัยแมว Sphynx

ไม่ว่าสฟิงซ์จะหน้าตาเป็นอย่างไรแต่สฟิงซ์ก็ยังเป็นแมวปกติ ที่นิสัยก็ยังเป็นแมวเช่นเดิม Sphynx จะค่อนข้างขี้ประจบจอมอ้อน เวลาที่สฟิงซ์เรียกร้องความสนใจจากเจ้าของนั้นมักจะร้องเบา ๆ แบบขาด ๆ เป็นท่อน เสียงของสฟิงซ์จะต่างจากแมวทั่วไปนับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสายพันธุ์ก็ได้

Sphynx

Sphynx เป็นแมวที่ไม่ชอบอากาศเย็นมาก ๆ เพราะตัวไม่มีขนจะอุ่นยากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ ทั้งนี้ในด้านของอาหารการกินของเจ้าเหมียวสฟิงซ์นั้นจะเน้นที่โปรตีนมากเป็นพิเศษ

Sphynx

สำหรับคนที่รักสัตว์อยากเลี้ยงแมว แต่ว่าตัวเองเป็นคนแพ้ขนแมว ขนสัตว์อื่น ๆ ด้วย Sphynx จึงเป็นเพื่อนคลายเหงาให่กับเราได้ แม้ว่าจะไม่มีขนสายเหมือนแมวสายพันธุ์อื่นแต่ก็กอดอุ่นเหมือนกันนะ

Sphynx

ไม่ว่าจะถูกเรียกว่าแมวขี้เหร่ แมวไม่มีขน Sphynx ก็ยังน่ารัก และรักเจ้าของ

Sphynx

4-3

ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบแมว Sphynx ก็ตามแต่หากเลี้ยงแล้วจะต้องใส่ใจดูแล เพราะว่าสฟิงซ์ก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่รู้คุณเจ้าของ ต้องการคนเอาใจและขี้อ้อนเหมือนกันกับแมวชนิดอื่น ๆ นะครับ

ดีไหม หากสามารถพาเจ้าเหมียวไปที่ทำงานได้?

 

ดีไหม หากสามารถพาเจ้าเหมียวไปที่ทำงานได้?
บริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเชื่อว่าแมวช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ จึงอนุญาตให้พนักงานสามารถเอาแมวไปเลี้ยงที่ออฟฟิศในเวลางาน นอกจากนี้ผู้บริหารบริษัทยังตั้งงบประมาณราว 2,000 บาทไว้ให้พนักงานที่ต้องการรับแมวจากสถานสงเคราะห์สัตว์มาเลี้ยงด้วย
พนักงานบอกว่า แมวที่เชื่องและเป็นมิตรช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน แต่ขณะเดียวกันการปล่อยให้เจ้าเหมียวสามารถเดินไปมาภายในสำนักงานได้อย่างอิสระนั้นก็สร้างความปวดหัวอยู่ไม่น้อย เพราะแมวมักชอบเดินเหยียบย่ำไปบนโต๊ะทำงาน แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ และบางครั้งยังปิดคอมพิวเตอร์ด้วย

 

เครดิตข้อมูล
http://www.bbc.com

จะนั่งรอจนกว่าจะได้กิน

ขอบคุณจริงๆ จากกรณีที่ในโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพน้องสุนัขตากฝน ซึ่งในเฟซบุ๊ก “ฟงหวิ๋น โมโตเอ็กซ์” ได้โพสต์ภาพและข้อความถึงเหตุการณ์ที่ตนช่วยเหลือสุนัขจรจัด

 ‘..จะนั่งรอจนกว่าจะได้กิน
กว่าจะได้กินสายฝนก็หยุดพอดี
เพราะ..ต้องกลับไปเอาอาหารในเมืองpetsayhi

 

petsayhi_dograin2

เขาไม่ได้ช่วยแค่ตัว 2 ตัวนะ

petsayhi_dograin3

เขาช่วยสุนัขเป็นฝูงใหญ่เลย

petsayhi_dograin4

น่ารักจริงๆเลย….ขอบคุณจริงๆ  “ฟงหวิ๋น โมโตเอ็กซ์”

เครดิตรูปภาพ
“ฟงหวิ๋น โมโตเอ็กซ์”