หมาที่ไม่เคยเห่า สายพันธุ์”บาเซนจิ” ใครเคยเลี้ยงบ้าง

เคยได้ยินไหมสายพันธุ์สุนัขที่ไม่เคยเห่าอย่างบาเซนจิ ในไทยเราอาจจะไม่ค่อยนิยมนัก ปกติแล้วเราก็จะชินกับสุนัขที่แทบจะทุกสายพันธุ์ที่เรารู้จักเลยคือ มันเห่าเป็นและชอบเห่าเพื่อแสดงอาการอะไรบางอย่างให้เจ้าของรู้ แต่อย่างเบาเซนจิมันไม่ใช่แบบนั้น วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักและเข้าใจหมาที่ไม่เคยเห่าสายพันธุ์นี้กันครับ

ทำไมสุนัขสายพันธุ์บาเซนจิถึงได้ชื่อว่าหมาที่ไม่เคยเห่า 

บาเซนจิก็เหมือนสุนัขทั่วไปปกติดี ไม่ใช่ว่ามันเห่าไม่เป็นมันก็เห่าได้ปกติเพียงแต่ว่ามันไม่ค่อยจะเห่าหรือเลือกที่จะไม่เห่าเลยนั่นเอง  บางตัวก็อาจจะมีเห่าบ้างเล็กน้อยแต่พองาม (เรียกว่าเห่าแบบหมาผู้ดีมั้ย)  บาเซนจิจะเห่าเป็นเสียงที่ไพเราะเหมือนเพลงเลย ไม่เหมือนกับหมาทั่วไป เวลามีความสุขมาก ๆ เท่านั้นที่มันจะแสดงอาการออกมาให้ได้เห็น แต่ถ้าหากเป็นเวลาที่มันมีความโกรธ รำคาญ ก็คำรามเบา ๆ สั้น ๆ อยู่ในลำคอ (แล้วใครจะรู้กับมันไหมนะ) แต่นั่นคือ บาเซนจิ มันก็เห่าแบบนี้ซึ่งนับว่าแปลกมากในบรรดาสายพันธุ์หมาทั่วโลก

ถิ่นกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์บาเซนจิ

เป็นสุนัขสายพันธุ์ทางฝั่งแอฟริกา เชื่อว่ามีมานานแล้วก่อนที่จะมีพีระมิดเลยเป็นหมาในยุคฟาโรอะไรประมาณนั้นครับ แต่ว่ามันถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1985 นี่เอง แถวบองโกทางตะวันตกอาจจะดูเหมือนค้นพบสายพันธุ์ช้าแต่ก็ยังดีที่เจอ บาเซนจิเป็นสุนัขนักล่า ใช้สำหรับการล่าเนื้ออย่างดีเลยแถมยังเป็นเหมือนตัวช่วยชูเกียรติให้กับนักล่าด้วย คำว่า “บาเซนจิ ” นั้นเป็นภาษาสวาฮิลี มีความหมายว่า สิ่งที่อยู่ในพุ่มไหม ชื่อก็เหมาะกับเป็นหมานักล่าจริง ๆ แถมมันยังไม่ชอบเห่าอีกด้วย

ลักษณะทั่วไปและนิสัยบาเซนจิ

สุนัขบาเซนจิตัวไม่ใหญ่เหมือนกับสายพันธุ์ล่าเนื้อพันธุ์อื่น ๆ ลำตัวขนาดกลาง รูปร่างสง่ามากดูปราดเปรียว ว่องไว หน้าแหลม ๆ หูตั้ง ๆ หางยังม้วนเป็นวงกลมอีก ส่วนสูงประมาณ 40 ซม. น้ำหนักประมาณ 9.5 -11 กก.  ลักษณะสีจะเป็น น้ำตาล – ขาว หรือ น้ำตาล – แดง ครับ ส่วนความโดดเด่นของมันคือ “ไม่เห่า” และ “ไม่มีกลิ่นตัว” เป็นหมาที่แปลกจริง ๆ เลย ในส่วนของนิสัยของบาเซนจินั้น รักสะอาดมาก ๆ ฉลาด ร่าเริง ดูเป็นหมามีความรู้รอบตัวเยอะ รักอิสระมาก ๆ ๆ เป็นมิตร รักเด็ก  ฝึกง่ายด้วย

น่าสนใจว่าไหมครับสำหรับบาเซนจิ ในประเทศไทยไม่แน่ใจว่านิยมเลี้ยงกันบ้างไหม ใครที่คิดว่าอยากจะหามาเลี้ยงบ้างอย่าลืมหาข้อมูลก่อนนะครับ ทั้งเรื่องอาหารและความเป็นอยู่ รวมถึงเรื่องสุขภาพร่างกายของบาเซนจิด้วย แต่จะดีหรือครับหากเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน มันไม่เห่านะครับ พิจารณาดี ๆ

การเห่าของสุนัขบอกอะไรเรา มาลองสังเกตกันเลย

บางทีเรามักจะเห็นสุนัขแสดงออกด้วยการ “เห่า” อยู่บ่อย ๆ แต่การเห่านั้นเราเองก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น สุนัขต้องการจะบอกอะไรเราหรือเปล่า หรือเพียงแค่ต้องการจะเห่าลมเห่าแล้งไปเท่านั้น แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป อย่าลืมว่าภาษาของสุนัขไม่เหมือนคนเราการจะบอก พูด เล่า เรียก ตะโกน การเห่าก็ถือเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งของเขาซึ่งเจ้าของอย่างเรา ๆ ควรจะต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้น วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจการเห่าของสุนัขว่าหมายความว่าอย่างไรบ้าง

การเห่าของสุนัขมีแบบไหนบ้างแต่ละแบบกำลังบอกถึงอะไร

มาเริ่มต้นเรียนรู้การเห่าของสุนัขเพื่อจะได้เข้าใจความต้องการและสิ่งที่สุนัขกำลังจะบอกเราได้มากขึ้น การเห่าบอกอะไรบ้างมีดังต่อไปนี้เลย

  1. การเห่าติดกันเป็นช่วงระยะประมาณ 3 – 4 ครั้งแล้วก็หยุด : แปลได้เลยว่าสุนัขกำลังเจออะไรบางอย่างที่น่าสนใจและอยากจะให้เจ้าของมาดูด้วย เป็นการเห่าเรียกเจ้าของนั่นเอง
  2.  การเห่าติดกันมาก ๆ โทนเสียงระดับกลาง : เป็นการเรียกให้เจ้าของรู้ตัวหรือบอกเพื่อนหมา ๆ ด้วยกันเองถึงบางอย่างที่อันตรายหรือไม่น่าไว้ใจ
  3. การเห่าเสียงต่ำ ๆ ช้า ๆ : สุนัขกำลังได้รับภัยอันตรายอะไรบางอย่าง อยากให้เราช่วย เพราะว่าอันตรายนั้นเข้ามาถึงตัวแล้วนั่นเอง
  4. การเห่า หยุด เห่า หยุด อยู่แบบนั้น : สุนัขกำลังเรียกร้องความสนใจจากใครสักคน จากเจ้าของมันต้องการความรัก อยากให้มีคนลูบหัว อยากมีคนเล่นด้วย
  5.  การเห่าสั้น ๆ ครั้งหนึ่ง ถึงสองครั้ง : เป็นการทักทาย “สวัสดีฮะ!” ประมาณนั้นครับ
  6.  การเห่าครั้งเดียว เมื่อถูกก่อกวน: หมายถึงว่าตอนนี้ต้องการเวลาส่วนตัวอย่ากวนได้ไหม
  7.  การเห่าติดต่อกัน : แปลว่ากำลังอยากจะให้เราเล่นด้วย ลูกสุนัขจะเห่าแบบนี้บ่อย
  8.  เห่าครั้งเดียวสั้น ๆ : เป็นการเรียกเจ้าของกำลังบอกอะไรบางอย่างเช่น “หิวแล้วนะ” หรือ “อยากออกไปเล่น”
  9.  เห่าด้วยโทนเสียงต่ำ ๆ ตามมาด้วยหูตั้ง ขนหลังชี้ หางชู เตรียมตัวสู้ : การเห่าแบบนี้คือ “อย่าเข้ามายุ่งกับฉันนะ”

เมื่อเข้าใจกันแล้วว่าการเห่าของน้องหมาในแต่ละแบบนั้น บ่งบอกถึงอะไรบ้าง สุนัขก็มีวิธีการสื่อสารในแบบของมันเหมือนกันลองไปสังเกตสุนัขที่บ้านของคุณดูว่าเห่าแบบไหนบ้างจะได้ตอบสนองความต้องการของเขาได้ตรงจุด และเข้าใจอารมณ์ของสุนัขมากขึ้น

บอกซิ ว่านี่หมาใช่มั้ย ? ทำไมยักษ์ใหญ่ อย่างงี้ ใหญ่อะไรเบอร์นี้

ปกติแล้วสุนัขจะไม่ใหญ่อะไรมากมาย ตามแบบฉบับหมาบ้าน ๆ หมาสายพันธุ์ยอดนิยมเลี้ยงทั่วโลก แต่ว่าในเมื่อหมาเล็กที่สุดในโลกยังมีเลย แล้วทำไมจะไม่มีหมาที่ใหญ่ที่สุดบ้างจริงไหม แต่ว่าในความยักษ์ใหญ่ของบรรดาหมา ๆ นั้นไม่ได้มีแค่สายพันธุ์เดียวน่ะสิ วันนี้เราไม่ได้มาลงดีเทลประวัติ แต่เราเอาภาพความเป็น “หมายักษ์” มาฝากทุกท่านครับ

หนุนตัก ได้แต่หัว หัวไม่พอ

โฮ่ง ๆ ผมหล่อมั้ย ฮะ

ดูซี ผมสูงจะเกินเจ้านานแล้วครับ

ผมว่า ผมจะลาออกจากการเป็นหมาแล้ว
ไปสมัครเป็นสิงห์โต แทน ดีมั้ย

เล็ก ปะทะ ใหญ่

ไปไหนก็ไปกัน ขอแค่ฉันได้ไปกับเธอ

มองหน้าผมงี้ . . เห็นผมน่ากอดใช่มั้ยล้าาา

นั่งไม่ฉบายตัวเยย

ผมขอเสนอ . . . ผมว่าโซฟา มันเล็กไปนะครับ

เห้อ.!! ว่าไรเหลอ . .

กอดกัน ๆ กอดมิด

ถ้ามีผมไม้ถูพื้นไม่ต้องมี ผมถูให้ได้

สงสัยกรงจะหดแน่ ๆ

เจคอบ มนุษย์หมาป่าหรือเปล่า
คือ นายหล่อมาก

ความอยุติธรรมของที่นอน หมา

เห็นสุนัขยักษ์ใหญ่แต่ละตัวแล้วมันก็น่ารักดีนะครับ คิดภาพแล้วเลามันกระโดดกอดเจ้าของแต่ละทีนี่คง ต้องฝึกการทรงตัวให้ดี ๆ เลยล่ะ เรื่องกินไม่ต้องห่วงยังไงก็กินจุกว่าหมาปกติแน่นอน ใครอยากจะเลี้ยงหมายักษ์ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจนะครับผม

 

ขอบคุณภาพจาก

เพรชมายา ดอทคอม

สุนัขสายพันธุ์เล็ก พุดเดิ้ล (Pudel) น่ารักและฉลาด น่าเลี้ยง

สุนัขพุดเดิ้นในประเทศไทยของเราก็นิยมเลี้ยงอยู่ไม่น้อยเลย แต่อันดับทั่วโลกแล้วเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นอันดับ 1 เลย สุนัขสายพันธุ์พุดเดิ้ลถูกจัดให้อยู่ในประเภท Non sporting Group คือ ไม่ใช่เพื่อการกีฬา นั่นเองครับ แต่เป็นประเภทสวยงาม น่ารัก ขนฟู ๆ หยิก ๆ ในประเทศไทยนิยมเลี้ยงพุดเดิ้ลสาย  Toy Poodle เพราะความน่ารักตะมุตะมิของมันนั่นเอง และพุดเดิ้ลจะเปลี่ยนสีจมูกเป็นแดง ๆ เมื่อมีอาการตกใจอีกด้วย

พุดเดิ้ล (poodle) เป็นสุนัขที่ฉลาด ฝึกง่าย เชื่อฟัง น่ารักมาก ๆ โดยสายพันธุ์นี้ก็จะมีแบ่งแยกย่อยประเภทออกมาทั้งหมดมี 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้เลย

  1. สุนัขพุดเดิ้ลทอย ( Toy Poodle) เป็นประเภทที่เล็กที่สุดในบรรดาพุดเดิ้ลด้วยกันเอง สูงไม่เกิน 6 นิ้วเท่านั้น ส่วนน้ำหนักก็ประมาณ 6 กิโลกรัม และเพราะความเล็กนี้ทำให้คนไทยนิยมเลี้ยงมาก ๆ เพราะทั้งเล็กและน่ารักด้วย
  2.  สุนัขพุดเดิ้ล มินิเจอร์( Miniture Poodle ) เป็นสายพันธุ์ขนาดกลาง ไม่เล็กไปแต่ก็ไม่ใหญ่เกินโดยขนาดตัวจะอยู่ประมาณ 11 – 15 นิ้วเอง และน้ำหนักตัวประมาณ  11 กิโลกรัมครับ
  3.  สุนัขพุดเดิ้ล สเเตนดาด (Standard Poodle)  ถือว่าเป็นสายพันธุ์ใหญ่สุดในตระกูลสายพันธุ์พุดเดิ้ลแล้ว ขนาดตัวจะอยู่ที่ประมาณ  18 – 22 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัมครับ

แต่ว่าปัจจุบันนี้สุนัขพุดเดิ้ลได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้เล็กลงเป็รทีคัพแล้ว คือเล็กมาก สูงคงไม่เกิน 8 นิ้วเท่านั้น แต่ว่าสายพันธุ์นี้ยังไม่มีการรับรองจากที่ใดแต่ว่าความนิยมและราคานั้นสูงมาก ๆ ๆ ๆ เลยครับ

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์พุดเดิ้ลนั้น อย่าลืมศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับการเลี้ยงดู การอยู่อาศัย และเช็คความพร้อมของตัวเองให้ดีด้วย เพราะว่าเจ้าพุดเดิ้ลก็เหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ต้องการความรัก ความเอาใจใส่จากเจ้าของเหมือนกันนะครับผม

การเลี้ยงสุนัขพุดเดิ้ลควรดูแลสุขภาพเขามาก ๆ โดยเฉพาะระวังโรคเกี่ยวกับดวงตาและสุขภาพผิว สุขภาพเกี่ยวกับระบบภายใน การกินอาหารควรเป็นอาหารที่สำเร็จจะง่ายและปอลดภัยกว่า เพราะว่าลำไส้ค่อนข้างจะบอบบางมาก ๆ และควรเลือกอาหารทีมีประโยชน์ต่อร่างกายของสุขัขด้วยครับ ทั้งนี้การเลี้ยงพุดเดิ้ลก็เหมือนกันเราควรจะมีเวลาอยู่กับเขา พาเล่น พาออกกำลังกาย ทำเหมือนเขาเป็นสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวเเล้วจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://pet.kapook.com/view150.html

 

ข่าวลือหรือเรื่องจริง ? สุนัขพันธุ์ผสมมีร่างกายแข็งแรงกว่าพันธุ์แท้ วันนี้เรามีคำตอบ

บนโลกใบนี้มีสุนัขหลากหลายสายพันธุ์มากให้เราได้เลือกมาเลี้ยงเป็นเพื่อนกันครับ สำหรับบางคนก็มีสายพันธุ์สุนัขที่ชอบอยู่แล้ว แต่สำหรับบางคนก็อาจยังต้องพิจารณาหลายอย่างก่อนติดสินใจนำสุนัขมาเลี้ยง โดยสุนัขเองก็มีทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ผสม ซึ่งหลาย ๆ คน อาจจะเคยได้ยินว่าสุนัขพันธุ์ผสมนั้นจะไม่ค่อยป่วยเป็นโรค จะมีความแข็งแรงมากกว่าสุนัขพันธุ์แท้มันจริงหรือไม่มาติดตามกันครับ

ทำความเข้าใจพันธุ์ – พันธุ์ผสม

ก่อนอื่นมาตอกย้ำความเข้าใจเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัขในเบื้องต้นก่อนนะครับ สุนัขสายพันธุ์แท้คืออะไร ? คือ สุนัขที่เกิดมาจากพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่เป็นสายพันธุ์เดียวกัน ลูกก็ออกมาเป็นพันธุ์แท้ ส่วนพันธุ์ผสมก็คือ สุนัขที่เกิดมาจากพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์คนละประเภทนั่นเองครับจะเป็นพันธุ์อะไรก็ได้ที่ผสมข้ามสายเรียกว่า “พันธุ์ผสม” หมดเลยครับ

เราจะทราบได้อย่างไรว่าสุนัขพันธุ์ผสมแข็งแรงกว่าพันธุ์แท้จริงไหม? 

สุนัขทุกตัวไม่ว่าจะเป็นพันธุ์แท้หรือผสมจะมีการรับเอาลักษณะทางพันธุกรรมมาจากพ่อแม่อยู่แล้ว และในลักษณะนี้เองมันจะมีโรคตามมาด้วย ซึ่งเป็นเพราะยีนมีความผิดปกติ แล้วคำถามคือ สุนัขพันธุ์ผสมแข็งแรงจริงไหมมีทีมนักวิจัยได้ทำการทดลองสำรวจออกมาแล้วนะ โดยรวมแล้วก็ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าสุนัขพันธุ์ผสมจะแข็งแรงกว่าเพียงแต่มีทักษะในการปรับตัวตามสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยได้ดีกว่าเท่านั้นเอง ในส่วนของโรคนั้นก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นได้เหมือนกัน

แต่ว่าเมื่อมีการทดลองเรื่องการเกิดโรคทางพันธุกรรมของสุนัขเทียบกันระหว่างพันธุ์แท้กับพันธุ์ผสม ทั้ง 10 โรค จากงานวิจัยของ Bellumori และคณะ (2013) โดยเก็บข้อมูลจากเวชระเบียนในคลินิกสัตวแพทย์ของ University of California-Davis Veterinary Medical Teaching Hospital. (UC Davis) จากสุนัขจำนวนมากกว่า 27,254 ตัว นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995 ถึง ค.ศ. 2010 ก็ปรากฎว่าสุนัขพันธุ์ผสมนั้นพบโรคทางพันธุกรรมได้น้อยกว่าพันธุ์แท้ แต่ก็ดันพบว่าพันธุ์ผสมจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเส้นเอ็นหัวเข่าไขว้หน้าฉีกแทน เราจึงไม่อาจจะสรุปได้ว่าสุนัขพันธุ์ผสมจะแข็งแรงกว่าเสมอไปครับ เพราะสุนัขทุกตัวมีสิทธิ์ที่จะเกิดโรคได้เหมือนกันแต่จะเป็นโรคอะไรมากกว่ากันเท่านั้นเอง

แต่ไม่ว่าจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์แบบไหนก็ขอให้รักและดูแลเอาใจใส่พวกเขาให้ดีนะครับ แม้เราจะไม่รู้ว่าสุนัขแต่ละตัว แต่ละพันธุ์นั้นแข็งแรงแค่ไหน แต่เรารู้ได้เสมอถึงความซื่อสัตย์ของพวกเขาแน่นอน ดูแลกันให้ดีนะครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.dogilike.com/content/vettalk/5821/

สุนัขสายหล่อ มาดเท่ แต่ขี้เล่นชอบทำหน้าทะเล้นกวนโอ๊ย ยกให้เขาเลย “Siberian Husky “

Siberian Husky ไซบีเรียน ฮัสกี้ ทุกคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นอย่างดี แม้จะเป็นหมาเมืองหนาวแต่ว่าเมืองร้อนอย่างไรเราก็นิยมเลี้ยงกันจำนวนมากเลย ด้วยความหล่อ ความเท่ ความฉลาด ขี้เล่นของเจ้าไซบี้ทำเอาหลาย ๆ คน ติดอกติดใจกันมาก ความสามารถของเจ้าไซบีเรียนนั้นมีเยอะ ฝึกได้ ทำงานได้หลายอย่าง แต่ก็อาบเป็นจอมซน ชอบทำหน้านิ่ง ตาโต ทะเล้น ๆ เห็นทุกทีอดขำไม่ได้เลย #หมดกันความหล่อ  เรามาดูภาพของเหล่าไซบีเรียนที่เเสนน่ารักกันเลยดีกว่า

เปิดตัวภาพแรกด้วย ความหล่อแบบหมาผู้ดี
แอ่ก!! ตาเหลือก ลิ้นห้อย  ตายดีกว่า . . อ๋ง อ๋ง

ไม่ไหวแล้ว ง่วงนอน จะขึ้นแล้ว
ไม่ขึ้นจะจมแล้วนะ

วิญญานนางแบบเข้าสิง
นิ่ง สงบ ดูดี มีความไฮโซแบบหมา ๆ

ห๊าาาา !! อะไรนะ หน้าปากซอยมีศัตรูมาหรอ
ป๋าโหดจะไปช่วยเดี๋ยวนี้แหละ

โทษทีหน้านิ่ง ไม่ได้หยิ่ง
ทำไงได้ .. ก็หน้าหล่อ แต่เกิด

เหอ!! . .  ทำไมนะ  ซื้อกี่ตัว ๆ ไม่เคยถูก
ไม่เป็นไรงวดหน้าเอาใหม่

ว่ากันว่า. . อาบน้ำ สะบัดขน จะมีเซ็กซี่
ไหน ๆ ลองสะบัดมั้ง !!

กำลังเรียนวิชา หมาพลางตัว
ฮะ ฮ่า หาไม่เจอละซี่ ?

เดินบนหิมะทีไร
ความสูงหายทุกทีเล๊ยยย

ถ้าอยากถ่ายภาพออกมาแบ๊ว น่ารัก
ต้องทำตาโต หามุมเอียง ๆ เเบ๊วสุดละฮะ

แฝด 7 นอนหลับน่าร๊ากกก
อย่าให้ตื่นเชียวนะ
แฝดนรกทันที

เป็นยังไงกันบ้างครับกับภาพเหล่าไซบีเรียน ฮัสกี้ น่ารักกันทุกตัวเลย ใครที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์นี้แนะนำว่าใครมีที่เย็น ๆ ให้น้องอยู่จะดีมาก เพราะว่าจะเป็นหมาไม่ชอบอากาศร้อน ห้องแอร์ยิ่งดีครับ และดูแลเรื่องขนให้ดีอาจจะมีการร่วงเยอะในบางช่วง  ยังไงก็ตามหากอยากจะเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์ไหน ควรมีสถานที่ให้พร้อมและศึกษาข้อมูลการเลี้ยงให้ดีนะครับผม ขอให้ทุกคนมีความสุขร่วมกันกับเจ้า 4 ขา นะครับ

รวมภาพเหล่ามะหมาที่ดูแล้วชวนฮากลิ้ง

สวัสดีครับ บทความนี้จะเน้นที่ภาพน่ารัก ๆ ภาพฮา ๆ ของหมาทั้งหลาย ไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือจะอะไรดี แต่ที่แน่คือ ชวนฮาน้ำตาร่วงแน่นอน พฤติกรรมสุนัขแต่ละตัวไม่ธรรมดาจริง ๆ เจ้าตัวแสบที่บ้านใครมีพฤติกรรมชวนหัวเราะแบบนี้บ้างไหม เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลามาดูกันเลยดีกว่าครับ

แบบนี้จะเรียกอะไรดี จะเป็นสัตว์โลก กวน . . .
หรือ กำลังคัน หรือท่าอะไร หรือเปล่านะครับเจ้าตูบ ฮ่า ฮ่า

แช่น้ำคนเดียวสบายไปมั้ยครับ
ป๋มลงแช่ด้วยสิ . .  ฉบายย

ได้เวลานอนแล้วฮะ
หมอนพร้อม ผ้าห่มมา
ฝันดีฮะ

นั่งพื้นแบบปกติ เบื่อแล้วสินะ
อยากจะเปลี่ยน มุมมองบ้าง

คาบแล้ว วางไม่ได้ฮะ
ทำไงดี มันติดในปาก

ตัวเป็นยางรุยังไง ?
แหงนมองซะ กลัวแทนเลย

อะไรเอ่ย ไม่เข้าพวก ?

วิธีเตาผิงอย่างถูกต้อง
มันต้องแบบนี้เนั้ยย !!!

ผมเก็บตุ๊กตาได้หน้าปากซอยครับ
เลยหิ้วมาฝากหมะมี้

จัดการมันเลยฮะลูกเพ่

ภารกิจวันนี้คือ ถอนหญ้าหน้าบ้าน ฮะ

ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ ณ พงไพรแห่งนี้ โฮ่ โฮ่
(แล้วจาลงยังไง ??…? !)

ไม่เป็นไรนะ โอ๋ ๆ
เค้าอยู่ตรงนี้นะ ไม่ตรงกลัว

ละครมาแล้ว
กรุณาอย่ารบกวน
(หมาติดละคร)

ธรรมดา หมาผู้ดี
มีอ่างจากุชชี่ส่วนตัว
เย็น ฉบายยยย

ไปเร็วสิเจ้าม้า  ข้ากำลังรีบ

ขอนั่งพักแปป
รมไม่ค่อยดีอย่าชวนคุย

เป็ยยังไงบ้างครับ แต่ละตัวไม่ธรรมดาจริง ๆ วีรกรรมสุดแสบของสุนัขยังมีอีกมากมาย วันนี้จบเท่านี้ก่อน บทความต่อไปจะนำมาฝากอีกครั้ง ยอมรับเลยว่างานนี้น้องหมาเรียกเสียงฮาได้ท้องแข็งกันเลยจริง ๆ บ้านไหนมีน้องหมาน่ารัก ซน ๆ แบบนี้อย่าลืมถ่ายภาพเก็บไว้ดูนะครับ ทำให้อารมณ์ดีไม่น้อยเลย

 

ขอบคุณภาพจาก http://www.kidjarak.com/20-dogs-acting-weird/

 

10 อันดับสุนัขยอดนิยมเลี้ยงมากที่สุดในประเทศไทย

ในประเทศไทยคนนิยมเลี้ยงสุนัขเป็นจำนวนมาก หลากหลายสายพันธุ์ต่างกันออกไป วันนี้เรานำอันดับ 10 สุนัขยอมนิยมเสี่ยงในเมืองไทยมาฝากครับ รับรองว่าทุกสายพันธุ์นั้นเราต่างคุ้นเคยกันดี เผื่อว่าท่านใดอยากจะหาเพื่อนแก้เหงาสุนัขก็เข้าท่านะ แต่จะต้องเลี้ยงให้ดีดูแลเอาใจใส่ด้วยเอาล่ะไปเริ่มกันเลยดีกว่า

เราจะเริ่มต้นกันที่ อันดับที่ 10 ไปจนถึงสุนัขยอดนิยมอันดับหนึ่งกันนะครับ พร้อมมีภาพน่ารัก ๆ มาให้ชมกันมาติดตามพร้อมกันเล๊ย 

อันดับที่ 10 สุนัขลาบาดอร์ รีทรีฟเวอร์  สำหรับสายพันธุ์นี้สามารถฝึกเป็นหมาค้นหายาเสพติด และการช่วยเก็บกู้ระเบิดได้เป็นอย่างดร ต้นกำหนดมาจากประเทศคานาดา มีนิสัยน่ารัก ขี้เล่น ซื่อสัตว์ ขนาดตัวค่อนข้างใหญ่กลาง ๆ  มีความช่างประจบเจ้าของ ขนเยอะเวลาเลี้ยงต้องเเปลงขนให้บ่อย ๆ ครับ

อันดับที่ 9  สุนัขโกเด้น รีทรีฟเวอร์  หลายคนหลงรักโกเด้นได้อย่างง่ายดายเพราะค่อนข้างเฟรนลี่มาก เป็นสายพันธุ์นักล่าน่ารักอีกตัว ฝึกให้เป็นสุนัขตำรวจช่วยค้นหายาเสพติดก็ทำได้ดีไม่น้อย แถมเวลาใครเลี้ยงโกเด้นไว้ที่บ้านไม่มีความเหงาแน่นอน ขี้เล่นมาก รักเจ้าของสุด ๆ เป็นสุนัขประเภทกีฬา

อันดับที่ 8 ไซบีเรียน ฮัสกี้  คงไม่มีใครไม่รู้จักสุนัขหน้าหล่อแสนทะเล้น คงต้องยกให้ไซบีเรี่ยนเลย ความพิเศษของเจ้าไซนั้นเป็นสุนัขเฝ้ายามได้ยอดเยี่ยม ลากเลื่อนบนหิมะหนาว ๆ ได้สบาย แถมเป็นหมาล่าที่เก่งกาจ เวลาน้องไซบี้หน้านิ่ง ๆ นะครับจะหล่อมาก แต่อย่าให้ทำหน้าทะเล้นเชียวมีฮาแน่นอน

อันดับ 7  สุนัขบลูด๊อก  เป็นสุนัขหน้าตาบึ้งตึงแต่ก็น่ารักในแบบของตัวเอง แถมเป็นสุนัขสายพันธุ์นักสู้ในตำนานกว่า 700 ปีมาแล้วด้วย เป็นสุนัขที่มีความอดทนสูง มั่นคง รักเจ้าของ ในความบึ้งตึงของใบหน้านี่เองทำให้คนหลงใหลและนิยมเลี้ยงกัน พันธุ์นี้ตัวจะหนา ๆ ดูตัน ๆ อ้วน ๆ ขาสั้น ๆ ก็น่ารักครับ

อันดับ 6 สุนัขพันธุ์ปั๊ก  อาจจะคล้ายบลูด็อกแต่ว่าตัวเล็กหน่อย แต่โตกว่าชิวาวา เป็นลักษณะกลาง ๆ ตาโต หน้าย่น ขาสั้น ตัวกลม หูตก เป็นสุนัขที่เหมาะกับประเทศไทยมาก เพราะค่อนข้างที่จะทนต่ออากศร้อนได้ดี  เวลานอนชอบกรน แต่ในความแปลก ๆ นี้ปั๊กก็ยังน่ารัก รักเจ้าของมาก ขี้เล่น ไมเ่บาเลย

อันดับ 5 สุนัข บีเกิ้ล เป็นสายพันธุ์ล่าเนื้อมีมานานกว่า 2,000 ปีบนโลกใบนี้แล้ว ลำตัวจะยาว ๆ ความสูงปานกลาง ขนสั้น ขาสั้น มีเสน่ห์มาก สายตาเวลาอ้อนจะใจละลายเลย  มีความสุภาพเรียบร้อยเป็นผู้ดีในเหล่ามวลหมาทั้งหลาย  แต่ก็มีความกระฉับกระเฉงว่องไวเวลาต้องทำกิจกรรมอะไรสักอย่างที่น้องบีเกิ้ลสนใจ

อันดับ  4 ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ พันธ์ุนี้คนนิยมเลี้ยงมากเพราะแพ้ต่อความน่ารัก ตะมุตะมิของยอร์คกี้ ขนยาว ๆ ตาแป๋ว ๆ มองแล้วยิ้มตามเลย ขนาดตัวเล็ก แต่ขนยาวมากหากจะเลี้ยงต้องดูแลเป็นอย่างดี ซุกซนเล็กน้อย ชอบเล่นกับเจ้าของ เลียงแก้เหงาได้ดีเลย มีความติดเจ้าของและรักสบายนิด ๆ จะเรียกว่าหมาคุณหนูก็น่าจะถูก

อันดับ 3 สุนัข ชิสุ เป็นอีกสายพันธุ์ที่ตัวเล็กน่ารัก ขี้ประจบ ขี้อ้อน ดูแล้วคล้ายกับยอร์คเชียร์เหมือนกันแต่ขนไม่ยาวตรงขนาดนั้น เพราะชิสุจะมีขนหยิก ๆ บ้าง  นิสัยจะค่อนข้างตื่นตัวตลอด กล้าหาญ ใจใหญ่ รักสะอาดสุด ๆ และอยู่ได้ในทุกสภาพอากาศเลย แต่ร้อนมากก็ไม่ไหวนะควรจะพอดี ๆ ครับ

อันดับ 2  ปอมเมอเรเนียน  น่ารักตัวกลม ขนยาวฟู ๆ ดูแล้วคล้ายกับเม่นเหมือนกันหรือว่าจะคล้ายสิงโตเล็กดี ปอมจะซน ขี้เล่น มีความแข็งแรง รักเจ้าของ  ปอมน่ารักมากเวลาอยู่นิ่ง ๆ แต่ว่าจะน่าโมโหสักหน่อยเวลาเห่าไปทั่ว เพราะปอมค่อนข้างจะตื่นเต้นกับอะไรได้ง่าย ๆ เป็นสุนัขนิสัยอวดเก่ง อวดดี ใจกล้ามาก ๆ

อันดับ 1  ชิวาวา เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลกเลย มีความน่ารัก ติดเจ้าของที่สุด ชอบให้เอาใจ ประจบเก่ง แต่ก็มีความหยิ่งอยู่ในตัวเล็กน้อย เป็นหมาผู้ดีไม่เบา ไม่ชอบอากาศร้อน ตัวเล็ก ๆ แบบนี้ทำให้หลายคนนิยมเลี้ยงเพราะดูแลไม่ยากแถมยังพกพาสะดวกอีกด้วย

ไม่ว่าจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไหนก็ตามครับ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ เราต้องรักเขา ดูแลเอาใจใส่ในทุก ๆ ด้านเหมือนกับเป็นคนในครอบครัว เพราะสุนัขทุกตัวรักเจ้าของมาก ๆ  การได้อยู่ใกล้เจ้าของนาน ๆ เหมือนรางวัลชิ้นโตเลย ความรู้สึกของสุนัขจะมีต่อเจ้าของว่ารักตลอดและมอบใจให้ 100 % ฉะนั้นเราเองก็ต้องดูแลเขาให้เต็มที่มากที่สุด

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://pet.kapook.com/view72079.html

ขอบคุณแทนหมาจรที่บราซิลมีคนทำที่นอนให้จากยางรถยนต์ อบอุ่น ซึ้งใจมาก

เรื่องราวน่าประทับใจมีทั่วโลก และน้องหมาเองก็อาศัยอยู่ทั่วโลกเหมือนกัน ทุกที่มีหมาจร ทุกที่มีความเหงา ความเหน็บหนาว สำหรับน้องหมาแล้ว บ้านดีสักที่ อาหารพออิ่มท้องก็คงดีไม่น้อยแม้จะไม่มีเจ้าของก็ตาม เรื่องราวครั้งนี้เกิดที่ประเทศบราซิล โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์เลย มาดูกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง

จากข่าวโซเชียลของทางบราซิลให้ความสนใจอย่างมาก เมื่อพนักงานจากสถานีรถไฟเห็นว่าอากาศที่บราซิลนั้นหนาว สุนัขจรจัดหลายตัวไม่มีที่นอนอุ่น ๆ เขามีน้ำใจต่อสุนัขจรพวกนี้เลยหาบ้านให้ จากการนำเอายางรถยนต์เก่า ๆ มาวางแล้วปูด้วยผ้าห่มผืนเก่าอีกที  สร้างเป็นเตียงนอนเล็ก ๆ สำหรับสุนัขจรจัดทั้ง 3 ตัว

สุนัขทั้ง 3 ตัวนี้อาศัยอยู่บริเวณสถานนีรถไฟที่เขาทำงานอยู่ นอกจากสร้างที่นอนอุ่น ๆ ให้แล้วยังตั้งชื่อให้อีกด้วย มีชื่อว่า  Max, Pitoco และ Zainho นั่นเอง คนรักสุนัขในประเทศบราซิลต่างก็รู้สึกขอบคุณแทนน้องหมาอย่างมาก เหมือนกับมีเจ้าของ มีคนดูแล ถ้าเปรียบกับคนเราก็เหมือนกับอยู่ ๆ ก็ได้นอนโรงแรม 5 ดาว ที่มีบริการดีเยี่ยมเลย

เหตุการณ์ดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายหันมาใส่ใจความเป็นอยู่ของหมาจรจัดในบราซิลมากขึ้น และกลุ่มคนรักสุนัขต่าง ๆ รวมถึงนักการเมืองเองยังมีการรณรงค์ให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาดูแลน้องหมาเหล่านี้ และให้มีคนรับเลี้ยงหมาจรดีกว่าปล่อยให้อยู่กันเองแบบเร่ร่อน

ในประเทศไทยเราเองก็มีสุนัขจรจัดจำนวนไม่น้อย ที่ต้องอยู่แบบอดมื้อกินมื้อ เหน็บหนาวทุกคราวที่หลับฝัน ไม่มีเจ้าของ ไม่มีคนดูแล ไม่มีใครให้อ้อน คงเป็นฝันร้ายแม้ในยามตื่นของเหล่าสุนัขจรทุกตัว หากเมืองไทยเราหันมาใส่ใจดูแลสุนัขมากขึ้นก็คงจะดี

 

ขอบคุณที่มาจาก

http://www.ettoday.net/news/20170513/923660.htm?feature=todaysforum&tab_id=268

 

 

สุนัขใส่เสื้อได้ทุกสายพันธุ์จริงหรือ ?

มีหลาย ๆ คนชอบใส่เสื้อให้สุนัขเพราะเกรงว่าน้องจะหนาวเอา แต่บางทีความห่วงใยมันก็มีผิดไปบ้างแม้ว่าจะไม่ผิดทั้งหมดเสียทีเดียว น้องหมาใส่เสื้อได้ทุกตัว ทุกสายพันธุ์ แต่ . . . .   แต่ว่าจะสบายตัวจริงหรือ ? น้องหมาบางสายพันธุ์ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใส่เสื้อในหน้าหนาวก็ได้นะครับ

สุนัขหน้าหนาว

พิจารณาการใส่เสื้อให้น้องหมาอย่างไร

การจะใส่เสื้อให้สุนัขเราต้องพิจารณาด้วยว่า สุนัขที่เลี้ยงเป็นสายพันธุ์ไหน ถ้าเป็นสุนัขเมืองหนาว หน้าหนาวประเทศไทยทำอะไรน้องหมาไม่ได้อยู่แล้ว และน้องหมาเหล่านี้เองก็มีขนหนาถึง 2 ชั้น เพื่อผลิตออกมาทำให้ตอบรับกับฤดูหนาวได้ร่างกายก็อุ่นด้วย  และในหน้าหนาวพยายามเลี้ยงการพาน้องหมาเหล่านี้ไปตัดขนนะ

0-6

แต่ถ้าหากว่าใครอยากจะใส่เสื้อให้น้องหมาแบบเท่ ๆ ก็ทำได้ แต่ว่าไม่ควรจะใส่นาน ๆ เพราะจะทำให้รู้สึกอึดอัด หรืออาจจะร้อนเกินไปเลย

ใส่เสื้อหมา

สำหรับบางสายพันธุ์ การใส่เสื้อในหน้าหนาวก็จำเป็น โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์เล็ก อย่างชิวาวา เมื่อเจออากาศหนาวจะไม่สบายได้ง่าย ๆ เลย ควรหาเสื้อมาสวมให้ในหน้าหนาวด้วย แต่ถ้าเป็นฤดูกาลอื่น ๆ ก็ปล่อยให้เป็นแบบธรรมชาติเหมือนเดิม

หมาหนาว

เจ้าของจะต้องดูว่าเวลานั้นควรจะใส่เสื้อให้สุนัขหรือไม่ ดูสภาพอากาศ ดูร่างกายของสุนัข ดูความสะอาดของสถานที่ ความสะอาดของเสื้อที่ใส่แล้ว หากมีอากาศหนาวไปก็ใส่ให้ได้ แต่ถ้าอากาศปรับเป็นเย็นหรืออุ่นปกติแล้ว ให้ถอดเสื้อออกทันที

สุนัขหนาว

อย่างไรก็ตามการจะถอด จะใส่เสื้อให้กับน้องหมาแสนรักของเรานั้น ควรจะพิจารณาอย่างดีก่อน เพราะว่าหากอากาศไม่ได้หนาวอะไรมากมายหากใส่เสื้อเข้าไปจะทำใ้ห้น้องหมาเกิดร้อนขึ้นมาได้  ยังไงก็ลองพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัยดูนะครับผม

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.dogilike.com/content/caring/2106/

ชิวาวา เป็นหมาน่ารัก มีขน จอมซน วิ่งเร็ว มีหางส่ายเร็วกว่าใบพัดลมดูรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน

สวัสดีครับทุกคนวันนี้มีชิวาวา มาเสิร์ฟ ร้อน ๆ เฮ้ย! เดี๋ยวนะ หมาไม่ใช่กาแฟ แต่ว่าหมาพันธุ์มีขนาดเท่าถ้วยกาแฟเลย เพราะเจ้าสุนัขสายพันธุ์ชิวาวา นั้นมีอยู่ 3 ไซส์ เล็ก กลาง ใหญ่  แต่แม้จะมีไซส์ใหญ่แต่ก็ตัวเท่าลูกหมาของสายพันธุ์อื่น ๆ อยู่ดี  และยังแบ่งอีกด้วยว่า เป็นชิวาวา ขนยาวหรือขนสั้น  แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็คือ ชิวาวา เหมือนกัน ดูรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน

ชิวาวา

ลักษณะทั่วไปของชิวาวา

น้องชิน้อยเหล่านี้เป็นสายพันธุ์สุนัขที่ตัวเล็กที่สุดในโลกเลย บางทีแมวยังจะตัวใหญ่กว่าอีก ดวงตาจะโต ๆ กลม ๆ หูใบใหญ่ ๆ ส่วนสีก็มีคละกันไปขึ้นอยู่กับสายพันธูุ์พ่อแม่ว่าเป็นสีอะไรบ้าง ชิวาวาจะติดเจ้าของมาก เสียงเห่าไม่ต้องพูดถึง เสียงดังสุด ๆ แม้จะตัวเล็กแต่ถ้าเห่าขึ้นมาแล้วล่ะก็เตรียมปิดหูได้เลย

ชิวาวาเห่า

ถิ่นกำเนิดของน้องชิวาวาทั้งหลาย มาจากแมกซิโกเชียวนะ ชาวเมืองในแถบนั้นจะนิยมกันมากเพราะเชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่จะนำโชคมาให้และที่สำคัญยังเอาน้องชิของเราไปทำพิธีบูชายันต์อีกด้วย แต่สมัยนี้ไม่มีให้เห็นแล้วนะ ในเรื่องความเชื่อก็ถูกลบไปเยอะแล้วทุกคนเลี้ยงเพราะว่ารักน้องชิมาก ๆ นั่นเอง

ชิวาวายิ้ม

ป๋มยิ้มน่ารักมั้ยฮะ ?

ชิวาวา

นิสัยของชิวาวา

เป็นสุนัขอัธยาศัยดีเฟรนลี่ไปแทบกับทุกตัว รักและซื้อสัตว์ต่อเจ้าของมาก ๆ ชิวาวาจะรักความสงบ ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่ค่อยจะเห่า แต่อย่าให้เห่าเชียวนะเสียงดังโวยวายกว่าใครเลย  ชิวาวาเป็นสุนัขที่จิตใจกล้าหาญ ใจสู้มาก ๆ แม้ตัวจะเล็กแต่ใจไม่ได้เล็กตามเลย

ชิวาวา

ชิวาวาจะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่พิเศษในช่วง 2 – 3 เดือนแรก เพราะว่าพึ่งหย่านมแม่ได้ไม่นาน กินอะไรก็ต้องระมัดระวัง ท้องเสียง่ายมาก ๆ อันตรายถึงชีวิตเลย แต่ถ้าหากผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ก็สบายเลย

ชิวาวา

ลองสังเกตุดูด้วยว่าเจ้าชิวาวาน้อยของคุณมีลักษณะอาการอะไรผิดไปจากเดิมบ้างหรือเปล่า เช่น ไม่ค่อยกินข้าว เบื่ออาหาร ซึมเศร้า อย่าปล่อยไว้ พาตัวบึ่งไปหาหมอด่วนเลย

ชิวาวา

ชิวาวาป่วยง่ายเหมือนกันและพึงต้องระวังการเกิดโรคลำไส้อักเสบ โรคไข้หัด อาหารการกินของน้องควรใส่ใจทุกรายละเอียดระวังกระดูกชิ้นเล็ก ๆ อย่าเอาให้กินเด็ดขาด

ชิวาวา

นี่มันหนูชัด ๆ . . ลาออกจากการเป็นหมาดีมั้ยนะ

ชิวาวาแทะ

อะไรที่มันขวางหน้า แทะให้หมด.. .  #กำลังขวาง แทะกำแพงเลย 555+

ชิวาวา

การออกกำลังกายของชิวาวา

เหมือนกับสายพันธุ์อื่น ๆ ที่จะต้องพาวิ่ง พาเล่น พาเดิม ด้วยในแต่ละวัน แต่น้องชิจะชอบมากเวลาที่ได้ออกกำลังกายร่วมกันเจ้าของ จะมีความสุขที่สุดเลย

ชิวาวา

ระวังอย่าเลี้ยงแบบตามใจหมามากไปโดยเฉพาะการกินอาหาร ควรให้อยู่ในความพอดีของปริมาณอาหารต่อวัน ถ้าหากชิวาวาอ้วนจะทำให้สุขภาพไม่แข็งแรง และเจ็บป่วยได้ง่าย

ชิวาวา

เจ้าของควรระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดกับชิวาวาด้วย อะไรที่เสี่ยงควรเอาออกไปให้ไกลจากสุนัข และระวังตรงกระโหลกของชิวาวาจะปิดไม่สนิท มีความเปราะมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ต่อให้โตมากแล้วก็ตาม

ชิวาวา

ชิวาวา. . . แรพโย่ว โย่ว

ชิวาวา

เก่งหรอเจ้านก. . ปั๊ดเดี๋ยว งาบเข้าให้

ชิวาวา

หากคิดจะเลี้ยงชิวาวา ต้องคิดด้วยว่ามีเวลาให้เขามากพอหรือเปล่า เพราะจะขี้เหงาไม่น้อยเลยนะ

ชิวาวา

ชิวาวาเป็นหมาผู้ดี คุณหนูมาก ๆ  อากาศร้อน ๆ น้องชิทนม่ายด๊าย ย

ชิวาวา

ที่นั่งประจำ

ชิวาวา

เมื่อน้องชิรู้ตัวว่าทำผิด. . . ตีหน้าเศร้าเลย

ชิวาวา

สรุปแล้วชิวาวาก็น่ารักตามที่เห็น ตัวเล็กตามที่ทราบ ที่สำคัญเเสนซนมากเลยครับ แต่เราจะดุเขาได้ลำบากใจมากด้วยสายตาอ้อนวรเวลาที่สำนึกผิด ท่านใดที่อยากจะเลี้ยงน้องชิวาวาไว้เป็นเพื่อน ควรมีเวลามาอยู่กับเขาด้วยครับผม

.

ขอบคุณข้อมูลและภาพบางส่วนจาก : https://www.dogilike.com/breeds/9/

สุนัขตาแฉะรักษาและป้องกันอย่างไร

ดวงตาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งกับสิ่งมีชีวิตหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์การมองเห็นนั้นย่อมสำคัญ วันนี้เราขอมาแนะนำวิธีการป้องกันและรักษาอาการตาแฉะและโรคเกี่ยวกับดวงตาของสุนัข เพื่อให้มองเห็นถึงสาเหตุและทราบการรักษาที่ถูกต้อง เจ้าของควรให้ความใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ด้วย หากน้องหมามีอาการผิดปกติ ตาแดง ตาแฉะ มีขี้ตาเยอะต้องรีบหาทางแก้ไขโดยเร็วเพราะปล่อยไว้อาจจะเป็นอันตรายต่อดวงตาน้องหมาได้

สุนัขตาแฉะ

สาเหตุที่สุนัขตาเฉะ

สาเหตุที่ทำให้สุนัขตาแฉะ ปวดตานั้นมีหลายปัจจัย ซึ่งจะต้องให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยอาการอย่างชัดเจน และสาเหตุหลัก ๆ อาจจะเป็นเพราะสิ่งเหล่านี้

  1.  เกิดจากอาการแพ้บางอย่าง อาจจะแพ้ฝุ่น แพ้ลม แพ้พิษอื่น ๆ
  2.  ดวงตามีการระคายเคือง จากการมีผงเข้าตา ฝุ่น หรือขนเข้าตา
  3.  หลังตาม้วนเข้าออกไม่ปกติ
  4.  ร่างกายส่วนอื่นติดเชื้อแต่แสดงอาการทางดวงตา
  5. ดวงตาได้รับบาดเจ็บเป็นแผล
  6. สาเหตุอื่น ๆ

น้องหมาพูดไม่ได้ว่าตนเองกำลังป่วย สิ่งที่แสดงออกอาจจะต้องมองจากลักษณะภายนอก ซึ่งเจ้าของต้องสังเกตเห็นเอง สุนัขบางตัวร่าเริงได้แม้ว่าตัวเองกำลังไม่สบายอยู่ก็ตาม อาการตาแฉะอเป็นโรคที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่ก็ไม่ควรละเลย การอาบน้ำน้องหมาการเช็ดทำความสะอาดเป็นสิ่งที่ต้องทำประจำ

สุนัขตาแฉะ

วิธีการรักษาอาการตาแฉะของสุนัข

หากตาสุนัขเกิดการระคายเคืองควรใช้น้ำสะอาดไหลผ่านดวงตาเป็นการล้างสิ่งสกปรกออกไป จากนั้นใช้สำลีสะอาดเช็ดให้แห้ง หากมีตาแฉะ และมีขี้ตาควรเช็ดด้วยน้ำอุ่น ๆ กับผ้าสะอาดจากนั้นให้ลองสังเกตอาการว่าเป็นอย่างไร ดวงตาของสุนัขมีสีผิดไปจากเดิมหรือไม่ แต่หากว่าล้างทำความสะอาดแล้วหายดีก็ไม่มีอะไรต้องห่วง

สุนัขป่วยโรคตา

หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบพาไปพบหมอโดยเร็วที่สุด เพราะว่าบางครั้งอาการตาแฉะ ปวดตา ตาแดง ของสุนัขอาจจะมาจากสาเหตุที่เราแก้เองไม้ได้ โดยเฉพาะเป็นโรคอื่น ๆ เช่น เบาหวาน ทางการรักษาที่ดีที่สุดคือต้องให้หมอจัดการ ห้ามซื้อยามารักษาเองเพราะว่าเราไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงของอาการอาจจะเป็นอันตรายต่อดวงตาสุนัขได้   ทั้งนี้หากสุนัขหายดีแล้วหรือยังไม่เป็นต้องป้องกันเอาไว้ด้วยจากสิ่งที่จะไปกระทบดวงตา

วิธีป้องกัน

  1. พยายามหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่าง ๆ ในบ้านและนอกบ้านที่จะเกิดกับสุนัขได้ เช่นข้าวของที่อันตราย
  2. หมั่นทำความสะอาดตัว ตัดขนรอบดวงดา เช็ดหน้า เช็ดตา สุนัขด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดี
  3. ควรพาไปตรวจสุขภาพบ่อย ๆ
  4. สังเกตอาการผิดปกติของสุนัข
  5. ให้ยากินตามที่หมอสั่ง

สุนัขตาแดง

เพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตาสุนัข การป่วยเพียงเล็กน้อยก็ต้องรีบรักษานะครับ สุนัขจะได้อยู่กับเราอย่างมีความสุขบนโลกใบกว้างนี้ไปอีกนาน ๆ เลย อาการตาแฉะ ตาแดง และโรคเกี่ยวกับตาสุนัขอื่น ๆ สามารถรักษาได้หากไปพบแพทย์ทันการ ซึ่งวิธีการรักษานั้นสัตวแพทย์จะเป็นผู้รักษาเอง

น้องหมาอาเจียนทำอย่างไรดี

หลายครั้งที่เราอาจจะสังเกตว่าสุนัขนั้นมักจะสำรอกหรืออาเจียนอาหารออกมา บ้างก็ออกมานิดเดียวแต่บางทีก็อาจจะออกมายกกองที่กินเข้าไปเลย มีหลายสาเหตุที่ทำให้สุนัขนั้นรู้สึกไม่สบายท้องแล้วทำให้สำรอกออกมา หลายคนอาจจะกำลังกังวลว่าเกิดอะไรขึ้นกับสุนัขแสนรักของตนหรือเปล่า แน่นอนว่าหากไม่บ่อยนักถือเป็นอาการธรรมดาทั่วไปของสุนัขอยู่แล้ว เราจะมาดูกันว่าเกิดจากอะไรบ้างติดตามไปพร้อมกันเลย

ทำไมสุนัขอาเจียน

สาเหตุที่ทำให้สุนัขอาเจียนหรือสำรอกอาหาร

อย่างแรกเลยเป็นเพราะว่าอาหารไม่ย่อยทำให้รู้สึกไม่สบายท้องจึงเกิดการอาเจียนออกมา หรือบางตัวก็เกิดจากการกินอาหารมากเกินไป อิ่มแต่ยังกินอยู่แบบนี้ก็ทำให้สำรอกออกมาได้ ซึ่งทางแก้คือเจ้าของควรจะให้อาหารทีละน้อย ๆ ก่อน กะปริมาณให้พอดี หรือทางที่ดีนั้นในแต่ละมื้อควรจะมีการตวงให้พอเหมาะกับวัยและสายพันธุ์ของน้องหมาด้วยจะได้ไม่ให้กินเยอะจนเกินไป   ในส่วนกรณีอื่น ๆ จะเป็นเพราะน้องหมาอาจจะเผลอไปกินพิษบางอย่างเข้าไป ข้อนี้ค่อนข้างอันตรายเหมือนกันเพราะหากพิษร้ายทำให้สุนัขตายได้  และเศษก้าง กระดูก ติดคอ ติดอยู่ในท้องทำให้เกิดลำไส้อักเสบ ลำไส้ทะลุ หรือน้องหมาเป็นโรคประจำตัวบางอย่างอยู่แล้วจะค่อนข้างสำรอกได้ง่าย

หมาสำรอก

หากพบว่าน้องหมาของคุณอาเจียนให้ลองสังเกตดูว่ามีเศษอาหาร กระดูก หรือเลือด อะไรต่าง ๆ ติดออกมาด้วยหรือไม่ เพราะนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สุนัขต้องเกิดการสำรอกนั่นเอง อีกอย่างคือหากอาเจียนหนักมากควรรีบนำตัวพาไปหาหมอโดยเร็วจะได้รักษาทัน เพราะว่าบางตัวอาจจะสำไส้ทะลุค่อนข้างเป็นอาการที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก

สุนัขป่วย

อย่างไรก็ตามหากพบความผิดปกติกับสุนัขอย่าปล่อยเอาไว้ เพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยก็ได้  การพาไปหาหมอคือทางออกที่ดีที่สุด และสำหรับสุนัขบ้านไหนที่ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรหรือหายป่วยแล้ว ควรดูแลเรื่องอาหารการกินของน้องหมาให้ดี ระวังเรื่องกระดูกให้มากโดยเฉพาะหมาพันธุ์เล็ก แต่ถ้าหากว่าสุนัขนาน ๆ ทีจะสำรอกสักครั้งก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไรนั่นเอง

 

เลี้ยงสุนัขควรจะมีกรงหรือคอกสำหรับสุนัขไว้หรือ ?

หลายคนคงจะคัดค้านว่ากรงนั้นไม่ดีแน่นอนสำหรับสุนัขเพราะเป็นเหมือนกับการกักขังเขาเอาไว้ ไม่ปล่อยให้เป็นอิสระอย่างที่เขาชอบ แต่อยากจะให้เจ้าของลองมองอีกสักมุมของความจำเป็นในการสร้างคอกหรือมีกรงเอาไว้ เพราะว่ามีประโยชน์อย่างมากทั้งต่อตัวสุนัขและเจ้าของเองด้วย เรามาดูกันว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่เป็นข้อดีในการใช้กรง

กรงขังสุนัข

กรงทำให้สุนัขมีพื้นที่ส่วนตัว รู้สึกปลอดภัย

แม้เราจะเลี้ยงน้องหมาแบบปล่อยอิสระแต่บางครั้งก็ต้องฝึกให้สุนัขรู้จักบ้านตัวเอง พื้นที่ส่วนตัวของตัวเองจะใช้ได้ทุกเมื่อเมื่อรู้สึกอยากพักผ่อนและหาที่ปลอดภัยสักที่อยู่ ตอนแรกสุนัขอาจจะไม่ชอบการอยู่ในกรงแต่พอนานไป จะเริ่มชินและคิดถึงคอกสุนัขทุกครั้ง แน่นอนมันเหมือนกับการได้เข้าบ้านและไม่มีอะไรจะมากวนได้ สุนัขจะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เป็นข้อดีไม่น้อยเลยที่มีกรงเพราะอย่างน้อยเหล่าจอมซนสี่ขาหลังจากที่เล่นกับของเล่น หยอกเย้ากันจนหมดแรงแล้วก็คงจะถึงเวลาต้องพักสักหน่อยในคอกตัวเอง

บ้านสุนัข

คอกสุนัขช่วยป้องกันอันตรายตอนเจ้าของไม่อยู่บ้านได้

อาจจะมีบางวันที่เราไม่ได้อยู่บ้านไม่มีคนดูแลสุนัขว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง การปล่อยให้น้องหมาเล่นซนไปตามอำเพอใจนั้นอาจจะไปพบกับอันตรายโดยไม่ตั้งใจก็ได้ เพราะว่าแต่ละตัวก็คิดว่าตัวเองเก่ง ๆ ทั้งนั้น เหตุการณ์อันตรายรอบด้านที่มองไม่เห็นอาจจะทำร้ายเขา ไม่ว่าจะเป็นไปกัดกับตัวอื่น โดนคนทำร้าย โดนรถชน เป็นต้น คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน การให้สุนัขได้อยู่กับของเล่นในกรงสักพักก่อนที่เราจะกลับมานั้นช่วยได้เยอะเลย

สุนัขหลับในคอก

กรงทำให้สุนัขไม่ไปกัดทำลายข้าวของ

อาจจะมีการฝึกสุนัขในแบบอื่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สุนัขกัด แทะ ทำลายข้าวของภายในบ้าน โดยเฉพาะตอนที่ไม่มีใครอยู่ สุนัขมักจะกัดของเสียจนเละ หากให้คอกสุนัขเป็นพื้นที่ของเขาแล้วในนั้นก็ให้มีของเล่นสำหรับสุนัขไว้ด้วย และไม่ควรจะเป็นกรอกหรือคอกที่แคบ ต้องเดิน วิ่ง ได้สะดวกที่สุด สุนัขจะคุ้นชินกับการเล่นของเล่นไปเอง

สุนัขนอนในคอก

กรงให้ในเวลาที่สุนัขจะต้องเดินทาง

หากเราต้องมีการเคลื่อนย้ายสุนัข เดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ การให้เขาอยู่ในกรงจะสร้างความสบายในการเคลื่อนย้ายมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทางเครื่องบิน ทางรถ ป้องกันไม่ให้สุนัขโดดไปทางอื่น จะเห็นว่าฟาร์มขายสุนัขเองเวลาที่ขนย้ายสุนัขนั้นก็จะใส่กรงส่งให้เจ้าของนั่นเอง

ขังสุนัข

กรงช่วยเคลื่อนย้ายในยามฉุกเฉิน

กรณีที่สุนัขไม่สบายหรือได้รับบาดเจ็บต่าง ๆ ควรนำเข้าไปในกรงก่อนจะพาตัวไปหาหมอ เพราะป้องกันไม่ให้เราไปทำอะไรกระทบกับส่วนที่บาดเจ็บอยู่ และป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ ทั้งจากคนสู่สุนัขและจากสุนัขสู่คนด้วย ในยามฉุกเฉินอีกแบบคือเวลาที่มีแขกแปลกหน้ามาบ้านสุนัขอาจจะชอบเห่าทำให้คนกลัวเราก็นำเขาไปอยู่ในกรงก่อนได้ด้วย แล้วค่อยปล่อยออกมาหลังจากที่แขกกลับไปแล้ว

ขังสุนัข

แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าการขังกรงหรือให้สุนัขอยู่ในคอกมันมีประโยชน์ แต่มันจะไม่ดีแน่ ๆ หากเราปล่อยให้เขาอยู่แต่ในที่แคบ ๆ แบบนั้นโดยไม่ได้ออกมาวิ่งเล่นเลย ไม่ได้ออกไปทักทายคนอื่น ๆ ข้างนอก แบบนี้จะเป็นการกักขังอิสระโดยแท้จริง ซึ่งไม่ควรทำเราเลี้ยงสุนัขก็ควรจะให้ความใส่ใจดูแลพร้อมทั้งมีเวลาให้กับเขาด้วย

7 สิ่ง ที่ไม่ควรมองข้าม จัดเตรียมบ้านเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง

สำหรับครอบครัวที่ไม่เคยเลี้ยงสุนัขและแมวมาก่อน สิ่งของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ อาหาร ยาและของแต่งบ้าน ที่เราคุ้นเคย อาจเป็นอันตรายต่อพวกเขาได้ คุณสามารถจัดเตรียมบ้านให้พร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ ที่อยู่ในช่วงวัยซุกซน อยากรู้อยากเห็น แน่นอนว่าเราไม่สามารถจะสอดส่องดูแลเจ้าสี่ขาได้ตลอดเวลา ในบางครั้งก็ต้องปล่อยให้อยู่ตัวเดียวบ้าง เป็นการฝึกอย่างหนึ่งเพื่อให้สัตว์เลี้ยงเรารู้จักการรอ หากข้าวของยังจัดบางอย่างสุ่มเสี่ยงต่อการทำให้สุนัขได้รับบาดเจ็บการจัดบ้านให้ดีมีมุมสำหรับน้องหมาน้องแมวในบ้านจะช่วยให้พวกเขาอยู่อย่างปลอดภัยและมีความสุขมากขึ้น

ปิดประตู้ไม่ให้สุนัขออก

1.ประตูหน้าต่างระเบียง

สำหรับบางบ้านที่น้องหมาแมวจอมซนนั้นชอบมุดออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ซึ่งนอกบ้านไม่ใช่พื้นที่สำหรับวิ่งเล่น แต่เป็นถนนที่รถวิ่งเยอะ หรือเป็นบริเวณบ้านแต่ไม่มีกำแพงรอบไว้อาจจะทำให้สัตว์เลี้ยงเผลอออกไปเดิมเล่นนอกพื้นที่ไกล ๆ อาจจะเกิดอันตรายได้ง่าย ๆ ถ้าจะให้ดูด้านนอกควรจัดทำเป็นรั้วรอบไว้ป้องกันไม้ให้วิ่งออกได้ แต่ทำให้มองเห็นข้างนอกได้ ถ้าบ้านไหนไม่มีบริเวณกว้างลานบ้าน พื้นที่ด้านในก็ควรจะต้องมีมุมสำหรับหมา แมว ด้วย และปิดประตูหน้าต่าง ทุกครั้งป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงแอบออกไปได้

กั้นบันได

2.กั้นบันได

เป็นการป้องกันอันตรายจากการลื่นตกลงมาโดยเฉพาะสุนัขตัวเล็ก ที่ขาไม่ยาวพอจะขึ้นบันได แต่สำหรับแมวอาจจะกันยากเพราะว่าแมวปีนป่ายค่อนข้างเก่ง เวลากั้นอาจจะต้องกั้นให้ครอบทั้งบันไดเลย แต่สำหรับสุนัขกั้นเพียงแค่ไม่ให้ต่ำกว่าการกระโดดก็พอแล้ว สุนัขจะชอบขึ้นลงบ้านตามเจ้าของ เพื่อจะได้ให้อยู่ใกล้ชิดมากที่สุดโดยไม่ได้นึกถึงอันตรายที่อาจจะเกิดจากการขึ้น – ลง บันได โดยเฉพาะสุนัขบางตัวมักจะรีบวิ่งแล้วเบรคไม่ทันเวลาลงจะกลิ้งลงมาทั้งตัวได้รับบาดเจ็บ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้ความซนเหล่านั้นเป็นอันตรายต่อพวกเขาเราก็ต้องป้องกันเอาไว้ก่อน

aid21374-v4-728px-Keep-Cats-from-Chewing-on-Electric-Cords-and-Chargers-Step-16

3.เครื่องใช้ไฟฟ้าสายไฟใครอยู่ให้ห่างสัตว์เลี้ยง

หลายคนที่เราต้องกุมขมับเมื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักเผลอกัด แทะ สายไฟเป็นขนมขัดฟันเล่น หรือบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่วางไว้มุมสูงจะมีเจ้าเหมียวคอยกระโดดขึ้นไปนั่่งเคียงข้างแล้วดันสิ่งของเหล่านั้นตกลงมาแบบหน้าตาไม่เดือดร้อนอะไร  หรือบางครั้งก็เกิดอยากจะทำความสะอาดตัวเองแบบไม่อยากจะเลียขนแล้วไปมุดอยู่ในเครื่องซักผ้า หากเราไม่เห็นอาจจะเผลอปิดฝาขังจอมซนไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ขาดอากาศหายใจถึงขั้นตายได้ในเวลาต่อมา

เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้านที่มองดูแล้วจะเป็นอันตรายสำหรับสุนัข แมว ในบ้านได้ อย่างแรกที่เราต้องทำคือ ถอดปลั๊กออกให้เรียบร้อย อย่างน้อย ๆ หากเราลืมเก็บสายไฟแล้วจอมซน 4 ขา ไปกัดแทะก็ไม่โดนไฟช็อต ไมโครเวฟควรวางในที่ที่ตกลงมาได้ยากและไม่ควรเหลือพื้นที่ข้าง ๆ ไว้ให้แมวนั่งด้วย สำหรับเครื่องซักผ้า หลังใช้งานแล้วถอดปลั๊กปิดฝาให้มิดชิด รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นสายไฟควรเก็บให้เรียบร้อยจัดวางให้เป็นระบบ การเดินสายไฟต่าง ๆ ต้องไม่เกะกะป้องกันไม่ให้เกิดการปีนป่ายลงมาเล่น หรือการเดินสะดุดทั้งสัตว์เลี้ยงและเจ้าของเลย

4-3

4.จัดระเบียบห้องน้ำให้ปลอดภัย

คงไม่ดีแน่ ๆ ที่วันหนึ่งเราไม่ทันได้สังเกตหรือเราไม่อยู่บ้านแล้วน้องหมา น้องแมว เกิดอยากจะลองเปิดประสบการณ์ใหม่ของการกินน้ำขึ้นมา แล้วลื่นลงไปในชักโครกจะขึ้นมาลำบากมาก ยิ่งถ้าเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก แมวตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีแรงตะกายนั้นจะติดแหง็กอยู่ตรงนั้นจนกว่าเราจะมาพบ ถ้าใครออกจากบ้านไปทำงานทั้งวันแล้วปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้านตัวเดียว อีกหนึ่งพื้นที่ที่ต้องจัดระบบไว้คือห้องน้ำ ชักโครงปิดฝาให้สนิท อ่างล้างหน้าพยายามอย่าวางของที่เสี่ยงต่อการร่วงแล้วแตก หากมีอ่างอาบน้ำ ไม่ควรเปิดน้ำทิ้งเอาไว้

เก็บของใช้ขนาดเล็ก

5.ของใช้ขนาดเล็กเก็บให้เป็นที่ [อันตรายเก็บให้พ้นมือสัตว์เลี้ยง]

เอะอะ ๆ ก็จับเข้าปากหมด นั่นคือความซนของน้องหมา น้องแมว เห็นอะไรเล็ก ๆ แหลม ๆ เป็นไม่ได้ชอบเล่น ชอบกัด ถ้าหากแทะแล้วคายก็คงไม่อันตรายมากแต่ข้าวของก็เสียหาย บางตัวชอบกลืนเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นขนม หรือเป็นของขัดฟันที่แทะแล้วจะกินได้ หากน้องหมา แมว ไม่ได้เล่นของเหล่านั้น แต่เราวางไม่เป็นที่เก็บไม่เป็นระเบียบเวลาที่สัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นในบ้านมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บจากของใช้เล็ก ๆ ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะ เข็ม ปากกา เครื่องเขียน กระดุม ฯลฯ

ฉะนั้นเมื่อเราใช้แล้วควรเก็บเข้าที่เข้าทางอย่าเอาออกมาวางล่อตาล่อปากสัตว์เลี้ยงจะดีกว่า ขนาดโซฟาตัวใหญ่ โต๊ะตัวแข็ง ยังพากันแทะได้นับประสาอะไรกับของเล็ก ๆ งานนี้ไม่แทะอย่างเดียวมีกลืนเข้าไปด้วย เจ้าของจึงต้องเก็บให้ดี

เก็บยาให้ห่างจากสัตว์เลี้ยง

6.ยาและสารเคมีต่าง ๆ เก็บให้มิดชิดที่สุด

หากในบ้านมียาต่าง ๆ หรือสารเคมีที่อันตรายควรเก็บให้มิดชิดที่สุด เก็บให้มองไม่เห็นเลย เพราะแม้ว่าตัวยาจะอยู่ในบรรจุภัณฑ์แต่ถ้าหากสุนัข แมว เอามาเล่น มากัด แล้วเกิดฝาเปิดออก กล่องทะลุ ตัวสารเคมีรั่วไหล อันตรายอย่างมากต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง แล้วหากมียา หรือสารเคมีเข้าปากกลืนลงไปส่งผลต่อระบบภายในร่างกายแน่นอน ถ้าเราช่วยเหลือไม่ทันทำให้เสียชีวิตได้เลย ไม่ว่ายาต่าง ๆ นั้นจะเป็นสำหรับคนหรือสัตว์เลี้ยงเราก็จะต้องเก็บไว้ให้ดีที่สุด เป็นการป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับจอมซน 4 ขาในบ้านเราเอง

กล้องไร้สาย

7. ติดกล้องภายในบ้านเพื่อสอดส่องดูแล

เมื่อเราจัดบ้านเป็นระเบียบที่สุดเหมาะกับสัตว์เลี้ยงแล้ว แต่ยังมีความเป็นห่วงอยู่กลัวว่าเขาจะเหงาบ้าง หรือเราอาจกำลังอยากรู้ว่าตอนนี้สัตว์เลี้ยงที่รักของเราอยู่สบายดีที่บ้านไหม หลายคนจะนิยมติดตั้งกล้องไร้สายไว้ในบ้าน จะเรียกว่าใช้เป็นหูเป็นตาแทนเราก็ได้  ถ้าเราติดกล้องไว้จะทำให้เห็นพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงในบ้านตามระยะของกล้อง และพิเศษกว่านั้นเรายังพูดคุยกันผ่านกล้องได้ด้วย ทำให้เหมือนกับเราอยู่บ้านกับเขาตลอดเวลา และเมื่อเจ้าของอยากจะนำภาพความน่ารักของสัตว์เลี้ยงมาอวดเพื่อน ๆ บนโลกโซเชียลก็ทำได้เลย เพราะการใช้งานกล้องรุ่นนี้ง่าย ๆ ทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อเข้ากับมือถือของเรา ไม่ว่าจะอยู่ไกลกันแค่ไหนก็เหมือนใกล้นิดเดียว

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pawbo ได้ที่  http://www.pawbothailand.com
ติดตามข่าวสารอัพเดทและกิจกรรมของ Pawbo ได้ที่ https://www.facebook.com/pawbothailand

#Pawbothailand #Pawbo

เครดิตข้อมูล
cat&dog academy

เครดิตรูปภาพ
http://www.petsafe.nethttp:
www.improvementscatalog.comhttp:
www.wikihow.comhttp:
www.catster.com

รู้หรือไม่ ? สุนัขไม่ได้ตาบอดสีอย่างที่เข้าใจกัน

มีหลายคนเข้าใจว่าสุนัขมองเห็นสีไม่เหมือนกับมนุษย์ซึ่งข้อนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ว่าสุนัขไม่ได้ตาบอดสีเพราะว่าตาของสุนัขแยกแยะสีได้มากกว่าแค่สีขาวกับสีดำ แต่เนื่องด้วยมีเซลล์ที่ไม่เหมือนกันกับมนุษย์เซลล์ในการรับแสงสีเขียวของสุนัขไม่มีจึงทำให้มีเซลล์ที่เป็นทรงกรวย (Cone Cell) ทำหน้าที่รับสีเพียง 2 ชุดเท่านั้น ทำให้การแยกสีแดง ส้ม เหลือง เขียว ออกจากกันนั้นทำไม่ได้ในสุขัน ซึ่งต่างจากคนที่มีเซลล์ทั้ง 3 ชุดจึงแยกสีได้ชัดเจน

สุนัขตาบอดสี

สุนัขนั้นมีเซลล์รับแสง 2 ตัว 

สุนัขนั้นมีเซลล์รับแสงแค่ 2 ตัวคือ เซลล์เป็นแท่ง (Rod Cell) และ เซลล์ทรงกรวย (Cone Cell) แม้การแยกสีของสุนัขจะทำได้ไม่ดีเท่าคนแต่ว่าก็เป็นธรรมชาติของสุนัขที่ทำให้มีข้อดีคือ มีความสามารถมองเห็นได้ชัดเจนในเวลากลางคืน ซึ่งคนเราทำไม่ได้ในที่มืดจอประสาทตาจะปรับอะไรไม่ได้เลยหากไม่มีแสงสว่างเข้ามาช่วย เพราะการแยกสีได้จำกัดของสุนัขทำให้ดูคล้ายกับเป็นตาบอดสีนั่นเอง
 โครงสร้างและตำแหน่งของเซลล์ในชั้นเรตินา

สำหรับสุนัขแล้วเป็นสัตว์สายพันธุ์กินเนื้อสัตว์นักล่าที่ออกหากินในเวลากลางคืน    การแยกสีจึงไม่มีความจำเป็นอะไรธรรมชาติสร้างสายตามาให้เหมาะสมที่สุดแล้วเพราะการมองเห็นกลางคืนของสุนัขมันสำคัญกว่า  เมื่อตอนที่สุนัขยังต้องออกหาอาหารด้วยตัวเองการล่าส่วนมากจะเป็นตอนกลางคืนที่สัตว์อื่น ๆ หลับหมดแล้วจึงง่ายต่อการล่า ในสมัยนี้สุนัขกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงมากขึ้นแต่ยังไงสุนัขก็ยังคงเป็นสุนัขที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมาให้มีความพิเศษเฉพาะตัวมันเอง

สายตาสุนัข

ในสมัยนี้แม้สุนัขจะกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้นและเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของหลาย ๆ บ้าน แต่สายตาของมันก็ยังจำเป็นในตอนกลางคืนเพราะเวลามีอะไรเกิดขึ้นมันจะมองได้ชัดเจนและเห่าแจ้งเหตุให้เจ้าของรู้ตัวได้  มันไม่ได้สนใจในการมองเห็นสีเพราะสุนัขมีความสามารถในการดมกลิ่นและจดจำได้ดีอยู่แล้ว
การแยกแยะสีของตาสุนัขและคน

ไม่ว่าสุนัขจะมองเห็นสีเป็นแบบไหน ความสามารถในการมองสีจะน้อยมาก แต่สุนัขก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่รักและซื่อสัตว์กับเจ้าของมาก ๆ บ้านไหนเลี้ยงสุนัขอยู่อย่าลืมใส่ใจเขาให้มากนะครับ เผื่อจะได้มีสัตว์เลี้ยงที่แสนดีในครอบครัวอบอุ่นไปนาน ๆ

เครดิตภาพจาก : วิชาการดอมคอม http://www.vcharkarn.com

ควรเตรียมตัวสุนัขอย่างไร ก่อนการพาไปพบหมอ

สุนัขพบหมอ

ปัญหาหนึ่งที่มักจะพบได้เสมอในการพาน้องหมาไปตรวจกับสัตวแพทย์ที่โรงพยาบาลก็คือ สุนัขตื่นกลัวมาก กระวนกระวาย หรือไม่อยากออกจากบ้าน
วิธีที่จะช่วย เตรียมตัวรับมือกับน้องหมาในภาวะดังกล่าว มีดังนี้คือสุนัขพบหมอ

1. อาจหารางวัลที่สุนัขชื่นชอบให้เค้า ทั้งก่อนและหลังพาไปพบหมอ เช่น ให้ของเล่น ให้ขนม เพื่อให้เค้ารู้สึกว่าการไปพบหมอนั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัว แถมยังน่าสนุกได้สิ่งที่ชอบอีกด้วย

2. ถ้าสุนัขตื่นกลัวการขึ้นรถมากๆ อาจใช้วิธีค่อยๆ ฝึกพาขึ้นไปบนรถที่จอดไว้เฉยๆ และหากิจกรรมให้ผ่อนคลายความกังวล จากนั้นจึงค่อยขับรถช้าๆ วนรอบบริเวณใกล้ๆ แล้วเพิ่มระยะทางขึ้นเรื่อยๆ จนสุนัขปรับตัวได้ครับ

3. อย่าให้อาหารมื้อหนักทั้งก่อนและหลังเดินทางใหม่ๆ เพราะอาจทำให้อาเจียนได้

4. เจ้าของควรศึกษาเส้นทาง เวลาทำการของคลินิก และช่วงเวลารถติด รวมถึงเตรียมของใช้ส่วนตัว และยารักษาโรคของน้องหมา ก่อนวันนัดพบหมอครับ

เพียงเท่านี้การพาน้องหมาไปหาหมอก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด

 

เครดิตข้อมูล
พบหมอหมา

เครดิตรูปภาพ
http://www.petmd.com

จะนั่งรอจนกว่าจะได้กิน

ขอบคุณจริงๆ จากกรณีที่ในโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพน้องสุนัขตากฝน ซึ่งในเฟซบุ๊ก “ฟงหวิ๋น โมโตเอ็กซ์” ได้โพสต์ภาพและข้อความถึงเหตุการณ์ที่ตนช่วยเหลือสุนัขจรจัด

 ‘..จะนั่งรอจนกว่าจะได้กิน
กว่าจะได้กินสายฝนก็หยุดพอดี
เพราะ..ต้องกลับไปเอาอาหารในเมืองpetsayhi

 

petsayhi_dograin2

เขาไม่ได้ช่วยแค่ตัว 2 ตัวนะ

petsayhi_dograin3

เขาช่วยสุนัขเป็นฝูงใหญ่เลย

petsayhi_dograin4

น่ารักจริงๆเลย….ขอบคุณจริงๆ  “ฟงหวิ๋น โมโตเอ็กซ์”

เครดิตรูปภาพ
“ฟงหวิ๋น โมโตเอ็กซ์”

 

5 เทรนด์การเลี้ยงสุนัขมาแรงของปี 2560 ที่คุณต้องห้ามพลาด

มนุษย์ยังคงมีเพื่อนที่รู้ใจเป็นสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัขจะได้รับความนิยมสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี เมื่อย่างเข้ามาในปีนี้ 2560 สุนัขยังคงเป็นสัตว์เลี้ยงแสนซื่อสัตว์และนิยมไม่เสื่อมคลาย กว่า 56% สุนัขกลายเป็นสมาชิกในหลายครอบครัว ในส่วนของภาคธุรกิจก็มีการเปิดตัวธุรกิจเกี่ยวกับสุนัขมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมยังได้รับการตอบรับอย่างดี เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาเทรนด์ในการเลี้ยงสุนัขมีความนิยมสูงขึ้นมีอะไรบ้างนั้นมาดูกัน
1. สุนัขพันธุ์เล็กได้รับความนิยมเลี้ยงสูงขึ้น
มีข้อดีหลายอย่างที่หลายคนหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กเพราะว่า ช่วยเซฟในด้านของค่าอาหาร ค่าหมอ ค่าเลี้ยงดูต่าง ๆ ในการไปรับบริการที่ต่าง ๆ ก็ถูกลงตามไปด้วย สุนัขพันธุ์เล็กอย่าง ชิวาวา ปอมเมอร์เรเนียน ชิสุ พุดเดิ้ล ฯลฯ กำลังมาแรง อีกทั้งยังเป็นสายพันธุ์ที่เพิ่มระดับความเป็นคุณหนูไฮโซให้กับคนเลี้ยงอีกด้วย ในด้านการพกพาสุนัขไปที่ต่าง ๆ หากเป็นพันธ์เล็กก็สะดวกมากขึ้นด้วย

petsayhi_dog_trend1

2. เลี้ยงสุนัขอายุยืนขึ้นมากกว่าเดิม
ความใส่ใจในการดูแลสุนัขสูงขึ้น หากได้รับบาดเจ็บ ป่วย เจ้าของจะนำไปหาสัตวแพทย์ทันที จะไม่ปล่อยเอาไว้ให้ป่วยและตาย ในส่วนของอาหารตลาดอาหารสุนัขเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสูตรที่พัฒนาให้มีประโยชน์ต่อร่างกายสุนัขมากขึ้น ทำให้สุนัขมีอายุยืนขึ้นถึง 10 ปี หรือมากกว่านั้น เจ้าของเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ดูแลเขาจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต ทำให้ประชากรสุนัขสูงอายุมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งก็เป็นผลดีที่เห็นว่ามนุษย์มีความเอาใจใส่มากกว่าเดิม

petsayhi_dog_trend2

3. ผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขสูตรเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมสูง
ความใส่ใจในการเลี้ยงสุนัขมีมากขึ้น ทำให้เจ้าของต่างก็เลือกสรรอาหารที่ดีต่อสุขภาพสุนัขมาให้ โดยจะเน้นไปที่อาหารที่มีสูตรธรรมชาติ สูตรเกษตรอินทรีย์เพราะจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น ส่งผลให้อาหารสุนัขสูตรเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมสูง เป็นสินค้าที่ขายดีในตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

3-2

4. บริการดูแลสุขแบบเฉพาะด้านมีเยอะขึ้น
ทุกวันนี้สุนัขเจ็บป่วยเป็นอะไรก็มีทางในการรักษาให้หายได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับในอดีต สัตวแพทย์เก่งขึ้น มีโรงพยาบาล คลินิกรักษาสัตว์เลี้ยงเปิดให้บริการจำนวนมาก อีกทั้งยังได้รับการตอบรับการใช้บริการเป็นอย่างดี และมีการรักษาแบบเฉพาะทางมากขึ้นด้วย ในอนาคตแนวโน้มการตลาดธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง สถานพยาบาลสัตว์จะสูงกว่าเดิม

petsayhi_dog_trend4

5. เทคโนโลยีใหม่ตอบโจทย์ผู้ใช้และสุนัขมากขึ้น
มีหลากหลายนวัฒกรรมในปัจจุบันที่ผลิตออกมาเพื่อสุนัขโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสุนัขเอง หรือสำหรับสุนัขกับเจ้าของ เช่น เครื่องแปลภาษาสุนัข เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ทำออกมาเพื่อให้สุนัขใช้งาน และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ที่คนหันมาสนใจความเป็นอยู่ของสุนัขมากขึ้น

ในปี 2017 นี้ เทรนด์การเลี้ยงสุนัขดีขึ้นมาก คนหันมาใส่ใจ เอาใจใส่สัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี ทั้งในด้านของอาหาร ความเป็นอยู่ การดูแลขณะเจ็บป่วย นำพาเทคโนโลยีมาสู่สุนัขเพื่อความเข้าใจกันและกันมากขึ้น บ่งบอกให้เห็นว่าเทรนด์มันกำลังแรงขึ้น แนวโน้มว่าคนจะเลี้ยงสุนัขก็เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

 

ที่มา https://www.dogilike.com/content/tip/5690/

เจ้าตูบเลือดออกทำไงดี มาเรียนรู้วิธีห้ามเลือดที่ถูกต้องกัน

เลือดสุนัขไหลได้ในทุกสัดส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหาง ใบหู หน้าท้อง หน้าอก จมูก โดยสาเหตุที่ทำให้เลือดไหลนั้นก็มีจากหลายสาเหตุเพราะเจ้าตัวซนคงไปทำกิจกรรมมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซนไปบ้างก็อาจจะได้แผลกลับมาเป็นเรื่องธรรมดา ขั้นตอนการห้ามเลือดสุนัขนั้นก็ขึ้นอยู่กับบาดแผลในแต่ละจุดอีกด้วย เราสามารถทำเองได้หากเป็นแผลไม่ใหญ่มาก แต่หากบาดแผลฉีดขาดไปจนถึงตัวเส้นเลือดใหญ่จะต้องไปถึงมือสัตวแพทย์โดยเร็ว ขั้นตอนการห้ามเลือดเบื้องต้นทำอย่างไรมาดูไปพร้อมกันเลย
อุปกรณ์ในการห้ามเลือดสุนัข
-ผ้าก็อช
-น้ำแข็ง
-ผ้าสะอาด
การห้ามเลือดโดยใช้ผ้าพันแผล
หากบาดแผลที่ได้มาอยู่ในจุดที่เราสามารถทำเองได้อย่างที่ปลายเท้า ผ้าก็อซ ผ้าสะอาดสามารถนำมาห้ามเลือดได้แต่จะต้องพันให้กระชับเข้าไปในแผลด้วยเพื่อให้เลือดหยุดไหลเร็วขึ้น แต่ว่าจะต้องเฝ้าจะคลายผ้าออกในทุก 30 นาที และปล่อยผ้าคลายอยู่ประมาน 3 นาที เพราะหากเราปล่อยเอาไว้นาน ๆ จะเป็นผลเสียคือ ทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ตายเร็วขึ้น การทำงานของหลอดเลือดผิดปกติซึ่งมันจะไม่ไหลไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายสุนัขได้ครบทุกจุด หากที่แผลนั้นเลือดออกไม่หยุดอย่าลืมแปะผ้าก็อซก่อนจะพันแผลอีกรับให้แน่น จากนั้นเพื่อความถูกต้องในการรักษาบาดแผลน้องหมาเราต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลสัตว์ในทันที

 

1
การห้ามเลือดสุนัขโดยการประคบ
กรณีที่สุนัขเลือดออกที่จมูก เลือดกำเดาไหล ในการห้ามเลือดสุนัขเบื้องต้น อาจจะต้องใช้น้ำแข็งห่อกับผ้าสะอาดประคบดั้งเอาไว้สักระยะ หรือเราจะเอาใส่ถุงก็ได้หากหาผ้าสำหรับห่อไม่ได้ก็นำมาโปะที่จมูกห้ามเลือดได้เช่นกัน สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้สุนัขเลือดไหลออกจมูกนั้นมาเพราะเส้นเลือดฝอยแตก อากาศร้อนจัด กัดกัน หรือเป็นพยาธิในเม็ดเลือด เป็นต้น ซึ่งส่งผลต่อเส้นเลือด

 

petsayhi_dog_blood

การห้ามเลือดในกะเพราะอาหาร
สำหรับข้อนี้เราจะทราบได้เมื่อสุนัขถ่ายออกมาเป็นเลือด อาเจียนมีเลือดปน ซึ่งเราไม่สามารถที่จะห้ามเลือดเบื้องต้นได้เอง ทางที่จะช่วยน้องหมาได้เร็วสุดคือต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลสัตว์ในทันที่เพื่อให้สัตวแพทย์ทำการวินิจฉันและรักษาให้ทันเวลา
คงไม่มีใครอยากจะเห็นสัตว์เลี้ยงแสนรักต้องเจ็บปวด เลือดไหล แต่ถ้าหากมันเกิดขึ้นแล้วไม่ว่าจากสาเหตุอะไรก็ตาม ในฐานะเจ้าของจะต้องให้ความช่วยเหลือสุนัขอย่างสุดความสามารถ การห้ามเลือดเบื้องต้นจะช่วยบรรเทาอาการเสียเลือดได้มากก่อนที่จะส่งถึงมือสัตวแพทย์ หากสุนัขของคุณกำลังบาดเจ็บอย่าปล่อยเอาไว้รีบห้ามเลือดโดยเร็วที่สุดเพื่อตัวสุนัขของคุณเอง