ทำไมต้องแปรงฟันให้น้องหมาน้องแมว

ใครเคยสงสัยไหมว่าทำไมน้องหมาน้องแมว ต้องแปรงฟัน  น้องหมาน้องแมวก็เหมือนคนเราครับ เวลากินอาหารแล้วมีเศษอะไรติดฟันยังรู้สึกรำคาญ แล้วนับประสาอะไรกับน้องหมาน้องแมว ทั้งที่คนเราแปรงฟันกันตั้งวันละ 2-3 ครั้ง แต่สำหรับน้องหมาน้องแมวที่เราเลี้ยง น่าแปลกที่บางคนอาจถึงขั้นไม่เคยดูแลแปรงฟันให้พวกเขาเลย เราเลยอยากมาย้ำเตือนกันเสียหน่อยว่า เพราะอะไรการแปรงฟันในสัตว์เลี้ยงถึงสำคัญ ถ้าพร้อมแล้วไปดูเลย

  • ลดปัญหากลิ่นปากได้ – เคยเป็นไหม เวลาที่เจ้าตูบหอบหายใจทีไร เจ้าของอย่างเราเป็นต้องหนีให้ไกลทุกที เพราะกลิ่นปากที่โชยมามันเกินเยียวยาเสียนี่กระไร ซึ่งความจริงแล้ว การมีกลิ่นปากเป็นการบ่งบอกกลายๆ ว่าสุนัขหรือแมวกำลังมีปัญหาสุขภาพเหงือกและฟันอยู่ และการหมั่นแปรงฟันให้พวกเขาเป็นประจำก็พอจะช่วยบรรเทาเบาบางปัญหานี้ลงไปได้บ้าง
  • ลดการสะสมของหินปูน – สำหรับในคน ปัญหาหนักของฟันก็คือ “ฟันผุ” แต่สำหรับในน้องหมาน้องแมว ปัญหาที่เราควรกังวลมากกว่าก็คือเจ้า “หินปูน” นี่แหละ เพราะการมีหินปูนเกาะที่ฟันเป็นจำนวนมากจะทำให้เริ่มมีช่องว่างระหว่างฟันกับเหงือกมากขึ้น นานวันเข้าฟันก็จะโยกและหลุดได้ ซ้ำร้ายยังอาจติดเชื้อแบคทีเรียเข้าไปตามร่องนั้นจนเข้าถึงกระแสเลือดไปสู่หัวใจได้เลยนะ ดังนั้น การแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการลดการสะสมของหินปูนเหล่านี้
  • แอบสังเกตสุขภาพช่องปากได้ – การที่เราต้องแปรงฟันให้น้องหมาน้องแมวแต่ละครั้ง มันจะทำให้เราได้สังเกตสุขภาพภายในช่องปากของนองหมาน้องแมวไปด้วยในตัวว่ามีอะไรผิดปกติบ้าง ฟันซี่ไหนเริ่มโยกหรือเริ่มมีหินปูนแล้ว หรือในช่องปากมีแผลหรือไม่ ซึ่งอย่างหลังนี่สำคัญในน้องแมวมากเป็นพิเศษ เพราะอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อไวรัสบางชนิดได้ด้วย

ทีนี้ก็รู้แล้วสินะ ว่าการแปรงฟันมันสำคัญสำหรับน้องหมาน้องแมวขนาดไหน

 

เครดิตข้อมูล
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
เครดิตรูปภาพ
https://www.flickr.com

โรคร้าย…ที่มากับฝน !!

ช่วงนี้ฝนตกหนัก อย่าลืมดูแลสุนัขและแมวของเราให้ดีกันนะ… ฝนตกแบบนี้อากาศมักชื้นแฉะ และเป็นปัจจัยที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงป่วยได้ง่ายกว่าปกติค่ะ วันนี้เรามารู้จักโรคหลักๆที่พบบ่อยในหน้าฝน รวมถึงภัยร้ายที่มักแอบแฝงมาโดยที่เราไม่ทันคาดคิด เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยที่ดีให้เจ้าสี่ขาของเรากัน

  1. โรคในระบบทางเดินหายใจ

โรคระบบทางเดินหายใจหรือที่เรารู้จักกันว่าเป็นหวัดนั่นเองอากาศชื้นๆแบบนี้ ยิ่งถ้าบางตัวชอบไปเล่นน้ำอีก จะเป็นหวัดได้ง่าย อาการเบื้องต้นที่สังเกตได้ง่ายจะเริ่มจาก ซึม ไม่กินอาหาร มีน้ำมูก หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย หากพบอาการดังกล่าวควรรีบปรึกษาและพาน้องๆไปพบคุณหมอทันที ยังไงก็ตามการป้องกันเบื้องต้นที่เราสามารถทำได้คือการลดการสัมผัสกับน้ำ เช่น ปิดประตูห้องน้ำเพื่อไม่ให้นอนแช่น้ำ เป็นต้น รวมถึงการหาเสื้อให้ใส่เพื่อเพิ่มความอบอุ่นในกรณีที่นอนในห้องแอร์ และหมั่นเช็ดตัวน้องๆให้แห้ง

  1. โรคผิวหนัง

โรคนี้มาพร้อมกับความอับชื้น เป็นปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมเหนี่ยวนำให้เกิดผิวหนังอักเสบและติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ง่าย นอกจากนี้ความชื้นยังเป็นปัจจัยหลักในการก่อให้เกิดการติดเชื้อราที่ผิวหนังได้ด้วย อาการที่พบบ่อย คือ พบตุ่มหนองใต้ท้อง ขนร่วง คัน เป็นผื่นแดง เป็นต้น ซึ่งมักพบในบริเวณที่เป็นจุดอับชื้น เช่น ง่ามเท้า ขาหนีบ รักแร้ หรือ ตามง่ามหน้าของสุนัขพันธุ์ที่มีรอยพับของผิวหนังมาก การมีอาการดังกล่าวบ่งชี้ถึงการมีความผิดปกติที่ผิวหนังเกิดขึ้น โดยเริ่มแรกเจ้าของอาจเริ่มจากการใช้แชมพูฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราอาบน้ำให้น้องๆก่อน ร่วมกับการหมั่นเช็ดทำความสะอาดตามบริเวณจุดอับชื้นตามตัว รวมถึงป้องกันการเกา เลีย แทะ บริเวณที่คัน อาจใช้การใส่ปลอกคอกันเลีย หรือสวมเสื้อให้ แต่หากไม่ดีขึ้นแนะนำให้เข้ารับคำปรึกษาจากคุณหมอ เนื่องจากโรคผิวหนังบางอย่างอาจไม่ได้มาจากการติดเชื้อเพียงอย่างเดียว การเกิดภาวะภูมิแพ้อาหาร หรือภาวะภูมิแพ้ต่อสิ่งแวดล้อม  ก็สามารถเกิดร่วมกันได้ ดังนั้นการคุมการติดเชื้ออย่างเดียวอาจไม่ได้ผล

  1. เห็บ-หมัด

เจ้าปรสิตพวกนี้โดยปกติก็มีบทบาทก่อกวนในชีวิตประจำวันมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะในประเทศไทยของเราที่มีลักษณะภูมิอากาศร้อนชื้น ยิ่งฝนตกอากาศเหมาะๆ เห็บยิ่งแพร่พันธุ์เพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว และควบคุมได้ยากอีกด้วย ยังไงก็ตามควรพาน้องๆ มาที่คลินิกเพื่อป้องกันและกำจัดเห็บหมัดเป็นประจำทุกเดือน นอกจากนี้การใส่ปลอกคอป้องกันเห็บก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง อีกทั้งเราควรควบคุมเห็บในสิ่งแวดล้อมที่สุนัขอยู่อาศัยควบคู่ไปด้วย โดยการใช้น้ำยาฆ่าเห็บผสมน้ำถูพื้น หรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามผนังบ้านก็ได้

  1. สัตว์มีพิษ

เมื่อฝนตกหนักจึงอาจพบการท่วมขังของน้ำได้มากขึ้น การท่วมขังของน้ำนี้อาจส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษต่างๆ เช่น คางคก งู ตะขาบ แมงป่อง เป็นต้น ทำให้ต้องออกมาจากแหล่งที่อยู่อาศัยของตัวเอง เพื่อมาหาที่อยู่อาศัยใหม่ ซึ่งสัตว์เหล่านี้มักเป็นที่สนใจแก่น้องสุนัขและแมวของเรา เนื่องด้วยมีการเคลื่อนไหวที่แปลกตา น้องสุนัขและแมว ที่ชอบความกระดุกกระดิกของพวกมัน รวมถึงความอยากรู้อยากลองเปิดประสบการณ์ใหม่ไม่สิ้นสุดของเจ้าสี่ขาเหล่านี้ อาจนำมาซึ่งภัยอันตรายอย่างไม่ทันได้คาดคิดได้

วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นหากสุนัขและแมวโดนกัดคือ อาจพบการบวมแดงบริเวณตำแหน่งที่โดนกัด พบเลือดออกจากบาดแผล พบเหงือกซีด หรืออาจถึงขั้นหมดสติอย่างเฉียบพลันโดยที่เราไม่ทราบสาเหตุ  และอาจนำไปสู่อันตรายถึงชีวิตได้หากพบสัตวแพทย์ไม่ทัน

อย่างไรก็ตามโรคและภัยร้ายที่กล่าวมา สามารถป้องกันได้ด้วยการสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิดของเราอย่างสม่ำเสมอ และการเข้ารับการตรวจเช็คสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ เพราะความผิดปกติบางอย่างเจ้าของอาจไม่ทันได้สังเกตเห็น

 

เครดิต สพ.ญ.นพวรรณ ศรีเจริญ
โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์

การป้องกันสัตว์เลี้ยง ช่วงหน้าฝน

ช่วงหน้าฝน ฝนตกทุกวันแบบนี้ เพื่อนๆมีวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างไรกันบ้าง มาแชร์กันหน่อย วันนี้ทาง petsayhi จะมาบอกวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงช่วงหน้าฝนกัน ช่วงหน้าฝนอากาศเปลี่ยน ทั้งฝนตกและความชื้นต่าง ๆ บางทีร่างกายของสัตว์เลี้ยงอาจปรับตัวไม่ทัน ทำให้เจ็บป่วยหรือมีปัญหาด้านผิวหนังได้ เช่นกัน

ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดต่อ

ในช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่มีภาวะแวดล้อมต่างๆ เหมาะสมในการเพาะตัวเพิ่มจำนวนของเชื้อโรค ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงโรคที่มักมากับหน้าฝน ต้องไม่ลืมที่จะพาน้องหมาน้องแมวไปทำวัคซีนป้องกันเชื้อโรคกันนะ โดยเฉพาะน้องหมาน้องแมวที่อายุยังน้อย ยิ่งมีความเสี่ยงสูง

 ดูแลเรื่องอาหารและน้ำของสัตว์เลี้ยง

อากาศที่เปียกชื้นในหน้าฝนจะทำให้อาหารของน้องหมาเกิดการบูดเสียและเกิดเชื้อราได้ง่าย หากใครที่ให้อาหารเม็ด ก่อนจะให้อาหารควรตรวจเช็คให้เรียบร้อยว่าอาหารเม็ดไม่เก่า ไม่ขึ้นรา หรือใครที่ให้อาหารเป็นแบบปรุงเอง ก็ควรทำให้สุกสะอาด ไม่ปล่อยค้างคืน หากสัตว์เลี้ยงที่บ้านเกิดอาการ อาเจียน ท้องเสีย ซึม ก็ควรพาไปพบแพทย์อย่าปล่อยให้น้องมีอาการนานเกินไป

กรงหรือที่อยู่ของน้องหมาต้องไม่เปียกชื้นและไม่อับ

ที่อยู่ของน้องหมาควรมีอากาศถ่ายเทสะดวก หากบริเวณที่อยู่ของน้องหมาเปียกชื้นควรเช็คให้แห้ง และพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนสาด ทั้งนี้ อาจนำไปสู่ปัญหากลิ่นอับ และทำให้น้องตากฝนไม่สบายได้

 

ระวังเรื่องการ ตากฝนของสัตว์เลี้ยง

การปล่อยให้สัตว์เลี้ยงตากฝน ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร อาจทำให้สัตว์เลี้ยงป่วยเป็นโรคหวัดหรือปอดบวมได้ อีกทั้งในช่วงหน้าฝน เป็นช่วงที่เห็บหมัดระบาด เมื่อออกไปข้างนอกมีโอกาสที่ติดเห็บหมัดมาด้วย นับว่าเป็นพาหะนำโรคทั้งในแมวและสุนัข จึงควรระมัดระวังอย่าให้สัตว์เลี้ยงตากฝนจะดีกว่า

ดูและผิวหนังของสัตว์เลี้ยงให้ดี

ระบบผิวหนัง ช่วงที่มีความชื้นสูงในหน้าฝน อาจทำเกิดสภาวะอับชื้นก็เป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ง่าย ซึ่งอาจจะมีตุ่ม ผื่นคัน ยิ่งถ้ามีการติดเชื้อก็จะทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ หรือเชื้อราได้ ซึ่งจะพบได้บ่อยตามบริเวณใบหูด้านใน ง่ามนิ้วเท้า รอบจมูกหรือรอบตา ควรจะหมั่นดูแลเรื่องผิวหนัง ขน ของเขาให้แห้งอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้เปียก หรือชื้น หากพบว่าสุนัขมี ตุ่มคัน เกา สะบัดหูบ่อย ๆ ควรจะรีบพาไปพบสัตวแพทย์ เพราะถ้าปล่อยไว้อาจจะกลายเป็นโรคผิวหนังชนิดเรื้อรัง ซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษานาน รวมถึงต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาและดูแลในปริมาณที่สูงตามมา

 

ระวังเห็บและหมัด

อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้สุนัขและแมวป่วย  เพราะเห็บเป็นพาหะนำโรค เช่น พยาธิในเม็ดเลือดหรือไข้เห็บ โลหิตจาง และ ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ยิ่งช่วงหน้าฝน ที่มีทั้งความร้อน ความชื้น ยังเป็นตัวการแพร่พันธุ์เห็บอย่างดี ดังนั้นจึงควรดูแลรักษาความสะอาดของสัตว์เลี้ยงให้ดีถ้าพบสัตว์เลี้ยงของเรามีเห็บหรือหมัด ควรหายากำจัดเห็บหมัดมาใช้ หรือพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ

ลดความเครียดให้สัตว์เลี้ยง

เมื่อฝนตก ฟ้าร้อง หรือ ฟ้าฝ่า เราควรพาสัตว์เลี้ยงมาไว้ใกล้ตัว เพื่อสร้างความอุ่นใจให้พวกเขาค่ะ เพราะเวลาฝนฟ้าคะนองเสียงดัง อาจทำให้สัตว์เลี้ยงของเราเกิดอาการเครียด และกลัวเสียงดังกล่าว เราจึงควรพาเขามาอยู่ใกล้ๆ หรือ เปิดทีวีเพื่อช่วยเบี่ยงเบนความสนใจก็ได้

เพื่อนๆคนไหนมีวิธีดูแลสัตว์เลี้ยงช่วงหน้าฝน มาแชร์กันได้นะครับ

เครดิตรูปภาพ
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Golden_retriever_dirty.jpg
https://pixabay.com/th
http://maxpixel.freegreatpicture.com

เครดิตข้อมูล

สุขภาพดี สร้างได้ด้วยตัวคุณ

นักเรียนรร. บ้านแม่หลู้ รัฐราษฎร์รังสรรค์ ช่วยลูกหมาที่อยู่ในท่อ ก่อนน้ำจะมา

หลังเพจเฟซบุ๊ก “รร. บ้านแม่หลู้ รัฐราษฎร์รังสรรค์ จังหวัดแพร่” เผยแพร่ภาพของนักเรียนทำความดีช่วยเหลือลูกสุนัขที่ติดอยู่ในท่อท่อระบายน้ำในโรงเรียนก่อนที่ฝนจะตกหนัก พร้อมระบุข้อความว่า “ผมพีครับ หน่วยกู้สุนัขเกิดใหม่ ติดอยู่ในท่อ ผมช่วยสุนัข 9 ตัวสำเร็จครับผม ก่อนฝนตกหนัก”

โดยนักเรียนในโรงเรียนได้ยินเสียงสุนัขร้องในท่อขณะที่ฝนกำลังจะตกจึงเข้าช่วยเหลือเพราะเกรงว่าสุนัขจะได้รับอันตราย ซึ่งเด็กชายตัวเล็ก นักเรียนชั้น ป.4 ยอมถอดเสื้อผ้าออกเหลือเพียงกางเกงในเพื่อมุดท่อเข้าช่วยลูกสุนัขรวม 9 ตัว ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆช่วยกันขุดดินออกจากท่อ จนช่วยชีวิตลูกสุนัขเหล่านี้ได้สำเร็จ

ผมจะลงไปช่วยน้องหมาแล้วนะครับ

เริ่มมุดท่อแล้วนะ

รอดแล้วเจ้าหนู

คุณครูก็มาช่วย ร่วมแรงร่วมใจกันทั้ง โรงเรียนเลย

ช่วยได้ก่อนที่น้ำจะมา

 

เมื่อโลกโซเชียลได้เห็นการทำดีเช่นนี้ต่างชื่นชมเด็กๆที่รวมใจรวมพลังเพื่อช่วยสัตว์ ทำดีแบบนี้ต้องขอขอบคุณและชื่นชมทั้งคุณครูโรงเรียนและเด็กๆ ด้วยนะครับ ขอให้เป็นตัวอย่างที่ดีแบบนี้ต่อไป

 

เครดิต
http://news.ch7.com/detail/250049

สังเกตสัญญาณปัญหาโรคผิวหนัง

คุณแน่ใจหรือ…ว่าน้องหมาน้องแมวที่คุณเลี้ยงไม่มีปัญหาผิวหนัง?
หลายท่านมักคิดว่า การที่สุนัขหรือแมวจะมีปัญหาผิวหนังได้คือต้องมีอาการคัน หรือไม่ก็ขนร่วง จึงมีความเป็นไปได้สูงที่เมื่อเจ้าของเห็นว่าสุนัขหรือแมวไม่ได้มีอาการดังกล่าว จึงไม่ได้สังเกตหรือใช้มือสัมผัสตามตัว หรือแหวกขนของสัตว์เลี้ยงดูเลย ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณพลาดอะไรบางอย่างไปก็ได้ เพราะความจริงแล้ว ความผิดปกติของผิวหนัง ไม่ได้มีแค่อาการดังกล่าวเท่านั้น แต่ยังมีอาการเหล่านี้ได้ด้วย

สะเก็ดรังแค
เป็นเศษผิวหนังตายแล้วที่หลุดลอก อาจบ่งบอกถึงปัญหาผิวหนังแห้ง หรือถ้าเป็นเศษผงสีดำ นั่นอาจเป็นอึของหมัดก็ได้นะ! เพราะเมื่อเจ้าหมัดดูดกินเลือดและเศษเซลล์ของสัตว์เลี้ยงแล้ว มันก็จะปล่อยอึที่เป็นเหมือนผงเลือดแห้งๆ ออกมา แสดงว่าการป้องกันเห็บหมัดที่ทำอยู่อาจจะไม่ได้ผลที่เท่าที่ควร

ผิวหนังแดง 
มักมาพร้อมกับอาการคัน เป็นหนึ่งในกระบวนการอักเสบ นั่นแปลว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างที่มากระตุ้นการอักเสบของผิวหนังบริเวณนั้น อาจเป็นการติดเชื้อยีสต์ แบคทีเรีย ไร หรือโรคภูมิแพ้ผิวหนังก็ได้

ขนร่วง
สิ่งหนึ่งที่เจ้าของต้องแยกแยะก่อนคือ อาการขนร่วงที่เกิดจากปัญหาผิวหนัง แตกต่างจากการผลัดขนโดยทั่วไป เพราะการผลัดขนจะผลัดทั่วทั้งตัว และใช้เวลาไม่นาน ส่วนอาการขนร่วงที่ผิดปกติ มักจะเห็นขนแหว่งไปเป็นหย่อมๆ อาจเป็นตำแหน่งที่เกามากๆ หรือตำแหน่งที่โครงสร้างขนและผิวหนังถูกทำลายจนเปราะบาง และอาการจะไม่หายไปจนกว่าจะกำจัดสาเหตุได้

เลียเท้าบ่อย
สังเกตง่ายๆ โดยเฉพาะในน้องหมาขนสีขาว เราจะเห็นเป็นคราบน้ำลายสีน้ำตาลเปื้อนอยู่ตามขนที่อุ้งเท้า หรือบริเวณอื่นๆ ที่สัตว์เลี้ยงคันแล้วใช้ลิ้นเลีย และหนึ่งในโรคยอดฮิตของอาหารคันตามอุ้งเท้าก็คือปัญหาการติดเชื้อยีสต์ โดยมักจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวตามตัวสุนัข หรืออาจเป็นอาการเบื้องต้นของโรคภูมิแพ้อาหารก็เป็นได้

 

เครดิตข้อมูล โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
เครดิตภาพ;http://www.dog-care-knowledge.com/dog-dandruff.html

รายชื่อเพจสำหรับการประชาสัมพันธ์และให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นของเพื่อนสี่ขา

หลายคนคงเจอปัญหาว่าเจอน้องบาดเจ็บโดนรถชน หรือโดนทำร้าย  อยากช่วยน้องแต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร จะพาน้องไปที่ รพ.ก็ไม่ได้ ถ้าพาไปก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของเรา เงินเราก็ยิ่งไม่มี จะทำงัยดี ผมได้นำข้อมูลจาก กระทู้ pantip ที่รวบรวม เพจต่างๆที่พอจะช่วยเหลือน้องได้ มาให้ทุกคนได้ติดตามกัน

**ถ้าต้องการขอความช่วยเหลือให้สัตว์ที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วย กรุณาระบุพิกัดที่พบเจอสัตว์ที่บาดเจ็บ พร้อมทั้งโพสเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลของสัตว์ตัวที่บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยด้วย
**ถ้าต้องการหาบ้านให้สุนัขหรือแมว กรุณาระบุพิกัดของสุนัขและแมว พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลของสุนัขและแมวตัวดังกล่าวด้วย


กู้ภัยหมา-แมว https://www.facebook.com/Animal.Rescue.Thailand
หมาวัด_สวัสดี https://www.facebook.com/pages/หมาวัด_สวัสดี/257412701130660
หมานคร https://www.facebook.com/citizendogthailand
เพื่อนเดรัจฉาน https://www.facebook.com/pages/เพื่อนเดรัจฉาน/609961385783126
มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ประเทศไทย (Soi Dog – in Thai) https://www.facebook.com/SoiDogInThai
อาสาเพื่อหมาหัวเน่า https://www.facebook.com/Volunteer4TheDog
Dog Nation ทีม(เพื่อ)  https://www.facebook.com/DogNationTeam
เพื่อนกัน _ไม่ทิ้ง(น้องหมา)กัน https://www.facebook.com/thailandpoordog
ให้ใจเจ้าสี่ขา(น้องหมา-แมว) https://www.facebook.com/groups/1390991264447259/
โครงการช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ด้อยโอกาส https://www.facebook.com/pages/โครงการช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ด้อยโอกาส/186643561376563
เพื่อนข้างถนน https://www.facebook.com/midroadlover
กองทุนร่วมด้วยช่วยแมว – หมา : Cats & Dogs https://www.facebook.com/KxngthunRwmDwyChwyMaewHmaCatsDogs
โครงการรักษ์แมว ปันนํ้าใจให้แมวจร https://www.facebook.com/catroompantip
หมาหาบ้าน Places for Paws https://www.facebook.com/pfpthai
Voice of Animals https://www.facebook.com/pages/Voice-of-Animals/1544002115826507
Pet Get Vet https://www.facebook.com/petgetvet
Animal Aholic https://www.facebook.com/AnimalAholic?ref=br_tf
SOS ANIMALS Thailand https://www.facebook.com/SOS.Animals.Thailand
Fight for dog https://www.facebook.com/fightfordog
Thai Aga https://www.facebook.com/thaiagafanpage
The Voice (เสียงจากเรา) https://www.facebook.com/thevoiceforanimals
PAC – Pattaya Animal Coalition https://www.facebook.com/PattayaAnimalCoalition
” A call for Animal Rights ” Walk Rally https://www.facebook.com/ACALLforAnimalRightsThailand
Happy Paws ช่วยเหลือหมาแมว https://www.facebook.com/HappyPawsThailand
ค น รั ก สุ นั ข https://www.facebook.com/konruksunak
โตขึ้นจะเป็นหมา https://www.facebook.com/pages/โตขึ้นจะเป็นหมา/1379115695652698
น้องหมาหาบ้าน DOG NEED HOME https://www.facebook.com/DOG.NEED.HOME
Thai Animal Protection Law https://www.facebook.com/ThaiAnimalLaw
โครงการเพื่อน้องหมา RMUTK https://www.facebook.com/TheDogRmutk
มาช่วยเหลือ น้องหมา น้องแมว เพื่อนรักร่วมโลก ของเรากัน https://www.facebook.com/pages/มาช่วยเหลือ-น้องหมา-น้องแมว-เพื่อนรักร่วมโลก-ของเรากัน/1540687956154831
ธนาคารเลือดน้องแมว น้องหมา Namo Angel TG https://www.facebook.com/pages/ธนาคารเลือดน้องแมว-น้องหมา-Namo-Angel-TG/762469737138334

หรือพบเห็นการทารุณกรรมสัตว์ กิน ฆ่า ค้าสุนัขและแมวแจ้ง WATCHDOG THAILAND https://www.facebook.com/watchdogthailandpage

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ก้บทุกคน ที่คิดจะช่วยเหลือน้องสัตว์เลี้ยง

ขอบคุณข้อมูลจากกระทู้ pantip.com

Thonglor Pet City ทำเลแห่งใหม่ใจกลางเมืองสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง

ว๊าววว…..พบแล้ว!! สังคมแห่งการพบปะ สังสรรค์ พูดคุยสำหรับ คนรักสัตว์เลี้ยง  วันนี้ผมจะพาทุกคนไปดู Thonglor Pet City  ซึ่งตั้งอยู่ใน  โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ พระราม9 ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยโรงปูน  เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

Thonglor Pet City จะตั้งอยู่ด้านหลัง ของ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ พระราม 9 ซึ่งก่อนจะเข้าไปภายในโครงการ ก็จะมีร้าน 7-ELEVVEN  และร้าน Gokfayuen ร้านบะหมี่เกี๊ยวกุ้งสูตรฮ่องกง  ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้า โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ  ส่วนใครชอบ Coffee ก็จะมี ร้าน Coffee Tom N Toms จะต้้งอยู่ภายในตัว โรงพยาบาล

บรรยากาศภายในร้านอาหาร Gokfayuen ร้านบะหมี่เกี๊ยวกุ้งสูตรฮ่องกง

 

ร้าน Coffee Tom N Toms ตั้งอยู่ภายในตัว โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

 

พอเข้ามาถึงด้านหน้า ทางเข้า Thonglor Pet City ก็จะเจอป้ายบอกชัดเจนว่าถึง Thonglor Pet City แล้วนะ เราเข้าไปดูด้านใน กัน

  ตรงทางเข้าด้านข้างจะเป็นห้องอาบน้ำ ตัดขน สำหรับน้องหมาน้องแมว หลังจากที่เราพาน้องเดินเล่น แล้ว ก่อนกลับบ้าน สามารถพาน้องมาอาบน้ำ ให้ตัวหอมๆได้ที่นี่เลย มีบริการ ถุงเก็บอึ ให้น้องสัตว์เลี้ยงมีให้บริการ (เลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ น้องอึ ที่ไหนเก็บด้วยนะคร้าบบ ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม)

เดินเข้ามาอีกหน่อยเราจะเจอสระว่ายระบบเกลือ สำหรับน้องหมา สระว่ายน้ำนี้เจ้าของสามารถลงว่ายได้ด้วยนะ ถ้าเจ้าของไม่ลงก็จะมีทีมพนักงาน ที่จะค่อยดูแลน้องสัตว์เลี้ยงให้อย่างใกล้ชิด

สระว่ายน้ำค่อยข้างใหญ่เลยที่เดียว มีหลังคาป้องกันแดด และ ฝนด้วย

ด้านหลังสระว่ายน้ำ มีที่ล้างตัวสำหรับน้องสุนัข หรือเจ้าของ  ไว้ให้บริการ

ถึงแล้ว!! Pet Park สวนวิ่งเล่นสำหรับเจ้าลูกรักของคุณ

ก่อนจะเข้า Pet Park จะมีข้อกำหนดหรือระเบียบการใช้สนามหญ้า ให้ทุกคนได้อ่านกัน  ที่นี่จะมีรั้วกั้น 2 ชั้น เพื่อป้องกันการหลุดออกมาข้างนอกของน้องสัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นการป้องกันอันตราย

ที่นั่งพักผ่อน รบแดด รบฝน ภายในสนามหญ้า ก็มีให้บริการ

สนามหญ้าที่จะน้องมาวิ่งเล่น ค่อยข้างจะกว้างพอสมควร มีต้นไม้ใหญ่ ปลูกเป็นร่มเงาภายในสนาม

หลังจากที่ วิ่งในสนามหญ้าเสร็จก็มีที่ล้างขา หรือล้างตัว สำหรับน้องสุนัขและเจ้าของ

วิ่งมาเหนื่อยๆ เริ่มหิว และอยากพักผ่อนกันแล้วใช่ไหม ทีนี่ก็มีบริการ ร้านขนมและร้านอาหาร แม้กระทั่งร้านทำเล็บ มาให้บริการด้วย นอกเหนือจากร้าน Gokfayuen ร้านบะหมี่เกี๊ยวกุ้งสูตรฮ่องกง และ ร้าน Coffee Tom N Toms ที่ได้แนะนำไปก่อนหน้าแล้ว

ร้าน  ka-nom junior ถ้าพูดถึงทาร์ตไข่แสนอร่อย คงไม่มีใครไม่รู้จักร้าน Ka-Nom แน่นอน สามารถพาน้องหมาน้องแมวเข้ามานั่งในร้านได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มชา กาแฟ อาหารไทยจานเดียว อาหารว่าง และพาสต้า ให้ได้เลือกชิมมากมาย หรือหากติดใจ จะซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านก็ได้เลย Open: 10.00-19.00 daily

 

หน้าตาขนมน่าทานมาก

ภายในร้าน   ka-nom junior  มีที่นั่งพูดคุย หรือพบปะสังสรรค์สำหรับเจ้าของ ได้สบายๆ เลย

 

ร้านต่อไป ร้าน Sitting Bull
ถ้าชอบสไตล์ไทยๆ รสจัดจ้านมาร้านนี้เลย เมนูเด็ดของทางร้านก็น้ำลายไหลทั้งคนทั้งน้องหมาแล้ว เช่น ตำเถื่อน, เล้งแซ่บ, ข้าวหมูฮ้อง, ข้าวกระเพราเป็ดย่าง, เห็ดทอดกรอบ และยังมีอีกมากมาย ที่เก๋ยิ่งกว่าคือที่นี่เขามีครัวอยู่หน้าร้านเลย โชว์กันให้ดูสดๆ ว่าแต่ละเมนูทำยังไงบ้าง
Open: 10.00-20.00 daily

ร้านแนะนำอีกร้าน ระหว่างรอ น้องว่ายน้ำ หรือ อาบน้ำ  ร้านนี้เลย ร้านทำเล็บ Tropical มีทั้งบริการสปามือ/เท้า, ทาเจล, ต่อเล็บอะคริลิค/เจล, เพ้นท์เล็บ
สวยทั้งน้องหมาและเจ้าของเลย
Open: 10.30-19.00 daily

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ที่พบปะพูดคุย พักผ่อนแห่งใหม่ สำหรับ คนเลี้ยงสัตว์    ช่วงวันหยุดทีนี่จะมีการจัด meeting สำหรับคนรักสัตว์ด้วยนะ สามารถติดตามข่าวได้ที่ เพจโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ได้เลย

 

พาทุกคนไปรู้จักกับฟันของสุนัขกัน

ทราบหรือไม่ว่าสุนัขก็มีฟัน 2 ชุดเหมือนกันกับคนเรา คือ มีฟันน้ำนม และ ฟันแท้
โดยสุนัขจะมีฟันน้ำนมทั้งหมด 28 ซี่ (ฟันบน 14 ซี่ ฟันล่าง 14 ซี่) และมีฟันแท้ 42 ซี่ (ฟันบน 20 ซี่ ฟันล่าง 22 ซี่)

ช่วงอายุและลักษณะภายในช่องปากของสุนัข
2-4 สัปดาห์ ยังไม่พบฟันน้ำนมขึ้น
3-4 สัปดาห์ ฟันน้ำนมบางซี่เริ่มขึ้นแทรกเนื้อเหงือก
4-6 สัปดาห์ ฟันน้ำนมซี่ต่างๆ มีการขึ้นแทรกเนื้อเหงือก
8 สัปดาห์ ฟันน้ำนมซี่ต่างๆ ขึ้นครบหมดทุกซี่
3-4 เดือน ฟันน้ำนมครบทุกซี่ เริ่มกระจายตัวห่าง
5-7 เดือน ฟันน้ำนมเริ่มหลุด และฟันแท้เริ่มขึ้น
7 เดือน ฟันแท้ซี่ต่างๆ ขึ้นครบหมด

โดยปกติฟันน้ำนมของลูกสุนัขควรจะหลุดก่อนที่ฟันแท้จะขึ้น ในกรณีที่ฟันน้ำนมยังคงอยู่ในขณะที่ฟันแท้ขึ้นแล้ว เราจะเรียกลักษณะนี้ว่า ฟันซ้อน ซึ่งจะทำให้เหงือกของสุนัขเกิดการบาดเจ็บและอักเสบได้ ถ้าพบลักษณะนี้ควรรีบพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์นะครับ

เครดิตรูปภาพ
https://www.nettopet.com.au
www.thelabradorsite.com

เทคนิคการป้อนยาน้องหมา

บางครั้งเจ้าของคงเหนื่อยใจกับการต้องป้อนยาน้องหมาที่บ้านเวลาน้องหมาป่วย วันนี้มีเทคนิคเล็กๆน้อยๆในการป้อนยามาฝากกันครับ

1. การป้อนยาน้ำ จับน้องหมาแหงนหน้า แล้วใช้ไซริงค์ป้อนยาเข้าที่บริเวณกระพุ้งแก้ม ใช้มือปิดปากน้องให้แน่น แล้วลูบบริเวณคอเพื่อกระตุ้นให้กลืนยา ข้อควรระวังคือไม่ควรเปิดปากแล้วดันยาเข้าไปในปากอย่างรวดเร็วเพราะนอกจากเค้าจะสะบัดแล้ว ยังอาจสำลักเข้าหลอดลมอีกด้วย

2 การป้อนยาเม็ด ลูบหัวน้องให้ตายใจ แล้วใช้มือข้างนึงจับปากบน อีกข้างง้างปากล่างลง แล้วรีบป้อนยาให้ลึกที่สุด บริเวณด้านในโคนลิ้น แล้วรีบปิดปากและลุบปริเวณต้นคอ หากน้องกลืนยาลงไปจะแลบลิ้นเลียปาก ถ้ายังไม่กลืนให้เป่าที่รูจมูกเพื่อช่วยกระตุ้นอีกทาง หลังป้อนยาอาจให้ขนมเป็นรางวัลด้วยครับ

 

นอกจากนี้ยังอาจใช้อาหารคนเช่น ลูกชิ้น เนื้อสัตว์ หรืออาหารเหลวปั้นผสมยาลงไปหรืออาจบดยาให้ละเอียดผสมอาหารหรือน้ำที่มีรสหวานก็ได้นะครับ

 

เครดิตภาพ
http://p.lnwfile.com/_/p/_raw/9w/l2/nc.jpg
https://www.thespruce.com/puppies-treatment-pilling-2804771

ดัชชุน [Dachshund]สายโหลดมาแล้ว สุนัขสายพันธุ์เยอรมัน สุดคาวาอี้

สายโหลดมาแว๊ว!!! ถอยหน่อย ๆ ดัชชุน (Dachshund) จะเดิน — วันนี้เรามาทำความรู้จักที่มาและลักษณะเด่นของดัชชุนกันครับ เป็นสุนัขสายพันธุ์เยอรมันที่สุดแสนคาวาอี้ ในไทยเราจะนิยมเรียกว่า “หมาไส้กรอก” ก็ลองคิดภาพตามนะครับ ดัชชุนเป็นสุนัขพันธุ์แบบโหลดเตี้ย เดินไปไหนมาไหนเราจะเห็นเหมือนกับไส้กรอกเดินได้นั่นเอง แต่สุนัขพันธุ์นี้ก็ได้รับความนิยมเลี้ยงกันมากและยังเป็นสุนัขประจำชาติของเยอรมันครับผม

ดัชชุนนั้นกลุ่มสุนัขฮาวด์ (Hound Group) มีส่วนสูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่  13 – 23  ซม. น้ำหนัก   8 – 12 กิโลกรัมเท่านั้นเอง มีความเตี้ยเหมือนไส้กรอกอย่างเห็นได้ชัด มีความบึกบึน มีความแข็งแรง คือมีความเหมือนไส้กรอกอ้วน ๆ กรามของดัชชุนแข็งแรงมาก ในส่วนของสีตาก็เป็น ดำ – น้ำตาล  กล้ามเนื้อจะแข็งแรง ใบหูยาว

ดัชชุนนั้นมีทั้งพันธุ์แบบ ขนสั้น ขนยาว ขนหยาวด้วยนะ ซึ่งก็ยังคงมีความโหลดเตี้ยเหมือนกันเลย สีขนเองก็หลากหลายแต่ก็ยังคงอยู่ในโทน น้ำตาล ดำ ครีม ช็อคโกแลต เทา เป็นต้น และใน 1 ตัว ก็ไม่ได้มีแค่สีใดสีหนึ่งอาจจะมีผสมสัก  3 – 5 สีเลยครับ สวยใช่เล่นเลย  ราคาคงไม่ต้องพูดถึงแน่นอนว่า “แพง” ครับ

นิสัยของสุนัชดัชชุน

สบายใจครับเลี้ยงหมาพันธุ์นี้อารมณ์ดีได้ทั้งวัน  เพราะนิสัยของสุนัขดัชชุนนั้นร่าเริง อารมณ์ดี มีความสดใจ ตื่นตัวเสมอ เหมือนมันพร้อมสำหรับการวิ่งเล่นตลอดเวลา ชอบค้นหา ชอบอะไรที่ตื่นเต้น ๆ รักเจ้าของสุด ๆ ขี้อ้อนมากกกกกกก เลยครับ และที่สำคัญยังเป็นสุนัขขี้อิจฉาอีกด้วย ระวังนะครับถ้าใครจะรับสุนัขมาเลี้ยงเพิ่มโดยมีดัชชุนอยู่แล้วอาจจะต้องปรับความเข้าใจและขออนุญาติดัชชุนก่อนนะ

ถ้าอยากจะเลี้ยงบ้านก็อย่าลืมศึกษาข้อมูล ก่อนนะครับและต้องมีการเตรียมตัว เตรียมสถานที่ และสำคัญกว่านั้นคือ ต้องมี” เวลา” ให้น้องหมาด้วยครับผม และไม่ว่าท่านจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อะไร ราคาถูก ราคาแพงอาจจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ สิ่งสำคัญคืออยู่ด้วยกันแล้วสนุก มีความสุขทั้งสองฝ่ายครับผม

9 สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนรับเลี้ยงสุนัขจร

มีหลายบ้านที่ต้องการอยากจะรับเลี้ยงหมาจรไว้เพื่อให้น้องได้มีบ้านอยู่ แต่ว่าเราเองก็จะต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะรับน้องเข้ามาอยู่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เพราะสุนัขเองก็มีความคิด มีอารมณ์ นิสัย ลักษณะเฉพาะตัวเองในแต่ละตัวอาจจะผ่านเรื่องราวเเสนลำบาก เจ็บปวดมาไม่เหมือนกัน หลายบ้านที่รับเลี้ยงหมาจรก็มีบ้างที่จะต้องพบกับปัญหาในตัวของสุนัขเองไม่ว่าจะเป็น การไม่เชื่อฟัง การดื้อ การหนี ไม่ให้เข้าใกล้ ขู่ กัด และอื่น ๆ มากมาย หมามันระแวงเป็นธรรมดาเราต้องรู้อารมณ์และค่อย ๆ ปรับให้น้องค่อย ๆ ชินไปแบบทีละน้อยจนทำให้มันรู้สึกสบายใจ

แต่การรับมาเลี้ยงนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมครับ อย่างน้อยเหล่าหมาจรทั้งหลายจะได้รับความรัก มีบ้านอยู่ มีเจ้าของมีที่ให้วิ่งเล่น มีความสุขมากขึ้น ดีกว่าต้องไปเป็นหมาจรข้างถนน ครับ เอาล่ะวันนี้ผมเอา 9 สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนที่จะตัดสินใจรับน้องหมาเข้ามาเลี้ยงครับ

9 สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนรับเลี้ยงสุนัขจร

  1.  หากเจอสุนัขจรที่หมายตาจะเอามาเลี้ยงแล้วอย่าพึ่งด่วนตัดสินใจทันที ให้ทำความรู้จักกับกับนิสัยของสุนัขตัวนั้นก่อน และสร้างความคุ้นชินกันก่อน อย่างน้อยก็ให้น้องสบายใจเวลาเห็นเราและเราเองก็จะเริ่มเห็นนิสัยและพฤติกรรมของสุนัข
  2. หากคุณเป็นคนที่ค่อนข้างรำคาญง่าย หงุดหงิดง่าย การเลี้ยงหมาจรอาจจะไม่เหมาะเพราะมันจะค่อนข้างติดเจ้าของ อยากอยู่ด้วย อยากอยู่ใกล้ อยากเห็นติดตามตลอดเวลา น้องอาจจะสร้างความรำคาญให้คุณได้ฉะนั้นก็ต้องนึกคิดให้ดีก่อนนะครับ
  3.  ถามใจตัวเองดูพร้อมที่จะเป็นจ่าฝูงในการเผชิญกับศึกของสุนัขแล้วหรือยัง เพราะมันอาจจะสร้างความป่วนให้คุณได้ตลอดเวลา
  4.  ถ้าหากที่บ้านเลี้ยงหมาอยู่ก่อนแล้ว แต่การจะรับหมาตัวใหม่เข้ามาเลี้ยงก็อาจจะต้องใช้เวลาให้ หมาเก่า หมาใหม่ปรับตัวเข้าหากันนะครับ อย่าให้ความรักแก่หมาตัวไหนเป็นพิเศษ (หมามันน้อยใจเป็น)
  5.  ถ้าเดินทางบ่อย ไม่มีเวลาให้กับสุนัข ชอบปล่อยไว้ที่บ้านหรือมีคนดูแลแทน แต่มันก็ไม่เหมือนเจ้าของดูแลเองนะ คิดดี ๆ ครับ
  6.  ถ้าดูแล้วไม่มีเวลาเลย เฉียดมาเลยก็ไม่ได้ แนะนำว่าอย่าพึ่งรับมาเลยครับ
  7.  ถ้าสุนัขที่เลี้ยงอยู่ก่อน ขี้หวงเจ้าของมาก ข้อนี้ก็อย่าเลยครับ ไม่ดีต่อจิตใจหมาทั้งสองตัว
  8.  บริเวณบ้านถ้ายังไม่มีรั้วขอบ หรือไม่มีสถานที่สำหรับน้องหมาก็จัดเตรียมให้เรียบร้อยก่อนครับ เพราะถ้ารั้วไม่รอบขอบไม่ชิดน้องหมาอาจจะลอดออกไปข้างนอกได้ เสี่ยงอันตรายครับ
  9.  ถ้าบ้านมีเด็กซน ๆ อยู่ อย่าเพิ่มเลี้ยงหมาครับ เราไม่รู้ว่าหมา กับ เด็กในบ้านจะไปด้วยกันได้ดีมั้ย เพราะอาจจะเกิดอันตรายกับเด็กได้ครับผม

หมาจรจัดอยู่ข้างถนนมาก่อน ถูกทิ้งมาก่อน ปล่อยให้โดดเดี่ยวมาก่อน บางทีมันอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวหากมันจะเริ่มมีบ้านใหม่อีกครั้ง ท่านใดที่อยากจะรับเลี้ยงสุนัขจรจัดควรจะคิดให้ดีและเตรียมให้พร้อมครับ หากทั้งสุนัขและผู้เลี้ยงจูนกันติดก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้ครับผม

วิธีการสังเกตว่าสุนัขของเราตั้งท้องหรือไม่

แนะนำวิธีการสังเกตว่าสุนัขของเราตั้งท้องหรือไม่กัน

 

โดยทั่วไปสุนัขจะมีระยะเวลาในการตั้งท้องประมาณ 59-63 วัน โดยในช่วงแรกของการตั้งท้อง(2-3สัปดาห์แรก) จะสังเกตได้ค่อนข้างยาก แต่ร่างกายของแม่สุนัขจะค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆดังนี้

1.ช่องท้องเริ่มขยายใหญ่ ร่วมกับน้ำหนักตัวที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น

2.เต้านมเริ่มขยายและหัวนมมีสีชมพูอ่อนๆ

3.อวัยวะเพศขนาดใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับตอนช่วงก่อนที่สุนัขแสดงอาการสัด

4.มีพฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป บางตัวเบื่ออาหาร บางตัวกินเก่งขึ้น แต่สุนัขจะไม่มีอาการเจียนแพ้ท้องเหมือนคนนะ

5.อารมณ์ของสุนัขจะแปรปรวนได้ง่าย จากที่เคยวิ่งซนก็อาจจะสงบเสงี่ยมมากขึ้น แต่บางตัวก็หงุดหงิดง่าย อาจจะเก็บเนื้อเก็บตัวและแยกตัวออกจากสุนัขตัวอื่นๆ ในบ้าน

แต่ข้อสังเกตเหล่านี้ก็ไม่ได้แน่นอนเสมอไป หากสงสัยว่าสุนัขตั้งท้องสามารถพาสุนัขไปให้สัตวแพทย์ช่วยวินิจฉัยโดยมีวิธีวินิจฉัยคร่าวๆดังนี้

-การultrasound สามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 25-30 วันขึ้นไป ข้อดีคือสามารถเห็นการเต้นของหัวใจจองลูกสุนัข ช่วยประเมินได้ว่าลูกยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ไม่สามารถนับจำนวนลูกสุนัขที่แน่นอนได้

-การ x-ray สามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 45 วันขึ้นไป ข้อดีคือสามารถนับจำนวนลูกได้แม่นยำกว่าการ ultrasound นอกจากนี้ในสุนัขท้องแก่(อายุครรภ์ 55 วันขึ้นไป) ยังช่วยประเมินภาวะการคลอดยากคร่าวๆได้ด้วย

เครดิตรูปภาพ
http://dogs.lovetoknow.com

เทียบอายุสุนัขกับอายุคน

เจ้าของแต่ละคน อาจเคยได้ยินมาว่า สุนัขอายุ 1 ปี เท่ากับอายุมนุษย์ 7 ปี แต่ในความเป็นจริงนััน สุนัขมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงต้น ดังนั้นในปีแรกของสุนัข จึงเทียบเท่าอายุ 15 ปีของคน
นอกจากนี้ ขนาด และสายพันธุ์ ยังมีบทบาทต่ออายุสุนัขด้วย สุนัขขนาดเล็ก มีแนวโน้มอายุยืนยาวกว่าสุนัขขนาดใหญ่

หากคุณไม่ทราบวันเกิดของสุนัข ทำให้ยากต่อการทำนายอายุของสุนัข แต่เราสามารถสังเกตได้จากพัฒนาทางร่างกายต่างๆ ดังนี้
อายุ 8 สัปดาห์ ฟันน้ำนมจะขึ้นทั้งหมด
อายุ 7 เดือน ฟันแท้จะขึ้นทั้งหมด ฟันจะขาวและสะอาด
อายุ 1-2 ปี ฟันบางส่วนจะเริ่มเหลือง
อายุ 3-5 ปี ฟันทั้งหมดจะเริ่มมีการสะสมของหินปูน
อายุ 5-10 ปี สุขภาพฟันไม่ค่อยดี เริ่มมีอาการของโรคทางทันตกรรมบางอย่าง
อายุ 10-15 ปี ฟันเริ่มหลุด และมีคราบหินปูนจำนวนมาก


สัตว์แพทย์ ยังสามารถคาดเดาอายุของสุนัขได้จาก การตรวจสอบสภาพร่างกาย เช่น การทดสอบที่กระดูก ข้อต่อต่างๆ กล้ามเนื้อ และอวัยวะภายใน โดยสุนัขแก่ จะมีสัญญาณตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น
ตาขุ่นมัว
ขนสีเทา
ผิวย่น
ขาแข็ง ไม่ยืดหยุ่น

Credit: http://pets.webmd.com/dogs/how-to-calculate-your-dogs-age

เจ้าตูบแสนดี ทำหน้าที่คาบหนังสือพิมพ์ จนวาระสุดท้าย เพื่อเจ้านายที่มันรัก

อีกหนึ่งเรื่องราวความน่าประทับใจของสุนัขครับ เป็นสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์  ชื่อว่า คูวา หน้าที่ของมันที่ทำเป็นประจำคือ คาบหนังสือพิมพ์มาให้เจ้าของทุกวัน ทุกวัน เป็นเวลา 10 ปี จนลมหายใจสุดท้าย สุนัขแสนรู้ตัวนี้เป็นของ เบรนต์ คูเปอร์ ชายอายุ 55 ปี  เขาได้แชร์เรื่องราวความน่าประทับใจนี้มาให้รู้จักกันครับ

เจ้าคูวาทำหน้าที่คาบหนังสือพิมพ์อยู่แบบนี้เสมอ เนื่องจากว่าบ้านของเจ้าของมันนั้นอยู่ในชนบท คนส่งหนังสือพิมพ์เข้าไม่ถึง เวลามาส่งจะทิ้งหนังสือพิมพ์ไว้ที่ทางเข้าบ้านซึ่งห่างไปกว่า 50 เมตร เจ้าคูวาจะคาบมันเข้ามาวางไว้ให้ทุกวัน ๆ  มันจะวางหนังสือพิมพ์ไว้ที่หน้าระเบียงไว้ให้เจ้าของ

เมื่อเวลาผ่านไปอายุของเจ้าคูวาก็มากขึ้น และได้จากไปอย่างสงบ ความทรงจำที่น่าประทับใจสำหรับเจ้าของอย่างคูเปอร์ที่มีต่อมันมิเคยจางไป เจ้าคูวาเริ่มคาบหนังสือพิมพ์มาส่งให้ตั้งแต่อายุได้ 4 ปี หลังจากนั้นมันก็ทำแบบนั้นมาตลอดทุกวัน จนลมหายใจสุดท้าย ฝน ตก แดดออก ลมแรงแค่ไหน คูเปอร์ก็ยังเห็นหนังสือพิมพ์มาวางอยู่ที่ระเบียงให้เหมือนเดิม จึงรู้ว่าเป็นฝีมือของเจ้าคูวาแน่นอน

หนึ่งวันก่อนที่เจ้าคูวาจะจากไป มันยังคงทำหน้าที่คาบหนังสือพิมพ์มาไว้ให้ มันอายุได้ 15 ปี แล้ว ความเร็วในการคาบมันจึงลดลง แต่ทว่าวันนั้นคูเปอร์สังเกตเห็นว่าคูวามันเซและได้ล้มลงไป ในระหว่างที่มันกำลังคาบหนังสือพิมพ์อยู่ และได้พาตัวมันไปพบสัตวแพทย์แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้เจ้าคูวาได้เวลาต้องพักผ่อนยาวนาน เหลือไว้แต่ความทรงจำที่ดีตลอดไปกับครอบครัวนี้   ครับ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก  Brent Cooper

น่าสงสารปนน่ารักเมื่อเจ้าสุนัขตัวน้อยไปดวลกับงูเขียวมา หน้าบวมฉึ่ง

มาเสิร์ฟข่าวแนวสุนัขน่ารัก ๆ กันบ้างครับหลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว สำหรับการเปิดศึกดวลกันระหว่าง 3 ทหารเสือตูบน้อยปะทะงูเขียวเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 60 ที่ผ่านมานี่เองโดยเรื่องราวน่ารักเหล่านี้นำเสนอโดยเจ้าของเฟซบุ๊ก ชลภัทร สีสา ได้โพสภาพความน่ารักพร้อมกับข้าวความว่า

” เจ้าหมาน้อยได้เล่นกับงูเขียวจนโดนฉก แต่ว่าทุกตัวสบายดี วิ่งได้ กินข้าวได้ และที่ตนใจเย็นเพราะไปหาหมอก็ได้แต่ดูอาการเฉย ๆ รับรองว่าเจ้าตูบน้อยไม่ตายแน่นอน” 

งานนี้บาดของนักรบก็แสดงออกมาบนใบหน้าของเจ้าตัวเล็ก เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ปนความน่ารักไปในตัวครับ มาดูภาพความบวมเบ่งและน่ารักของเจ้าตัวเล็กกันเลย

เมื่อชาวเน็ตได้เห็นข่าวนี้ก็มาแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ มากมาย สร้างความฮือฮาให้กับคนรักหมาที่ดูแล้วจะต้องยิ้มตาม แอบขำเบา ๆ เลยครับ

ปัจจุบันน้องหมา อาการหารดีแล้วครับ น่ารักมากเลยทีเดียว

แม้ข่าวนี้จะสร้างรอยยิ้มได้แต่ก็อดสงสารไม่ได้เหมือนกันครับ แต่มันเป็นเรืื่องราวที่กำลังบอกเราว่าควรจะดูแลเจ้าตัวเล็กอย่างดีครับ ระมัดระวังอย่าให้ไปเจอกับอันตราย เพราะบางอย่างอาจจะมีพิษร้ายแรงก็ได้นะครับผม สำหรับข่าวนี้ก็ยินดีใจเจ้าของและเจ้าตูบน้อยด้วยที่บาดเเผลแห่งนักรบได้หายดีแล้วครับ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ชลภัทร สีสา

 

 

การเสียสละชีวิตแทนเจ้าของ เรื่องราวสุดซึ้งของเจ้าตูบ “แรมโบ้” หมาผู้มีใจรักยิ่งใหญ่

สวัสดีครับ วันนี้เสิร์ฟข่าวแบบชวนซึ้งกันบ้าง เป็นเรื่องราวของนักผจญภัยหนุ่มกับเจ้าตูบแสนรัก ที่ต้องเผชิญเรื่องดีและร้ายไปด้วยกัน ข่าวนี้อาจจะน่าเศร้าสักหน่อยแต่ก็เป็นเรื่องที่มองแล้วอบอุ่นในอีกมุมนะครับผม มาเข้าเรื่องกันเลยครับ โจนาธาน ฮาร์ดแมน คือนักผจญภัยจากเมืองเบรกเคนริดจ์ รัฐโคโลราโด สหรัฐฯ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็มักจะมีคู่หู 4 ขา อย่างเจ้าแรมโบ้ไปด้วยเสมอ และครั้งนี้เขาจะเจ้าแรมโบ้ก็ได้ออกไปปีนเขา เบียร์สตัดท์ โดยแน่นอนว่าทุกครั้งจะมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี แต่ก็ยังไม่ได้เตรียมใจว่ามันจะเป็นการผจญภัยครั้งสุดท้ายของทั้งคู่ที่จะได้ร่วมทางกัน

โดยทางไลฟ์บัซ เว็บไซต์ ได้นำเสนอเรื่องราวนี้อย่างสุดซึ้ง ว่าในขณะที่ โจนาธาน ฮาร์ดแมน เจ้าแรมโบ้ และกลุ่มเพื่อนนักปีนเขาได้เผชิญกับสถาการณ์ที่คาดว่าจะเป็นอันตราย มีเมฆฝนลอยมาและฟ้าคะนองอย่างหนัก ณ จุดนั้น ทำให้พวกเขาตัดสินใจลงจากบนของภูเขาเบียร์สตัดท์ อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าในขณะที่ โจนาธาน  กับแรมโบ้กำลังลงจากเขานั้นเกิดกระแสฟ้าผ่า เปรี้ยง!! ลงมาอย่างแรง โจนาธาน เขารู้ตัวอีกทีก็นอนอยู่กับพื้นและได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก ส่วนเจ้าแรมโบ้นั้นมันนอนแน่นิ่งอยู่ข้างกายเขา แล้วมันก็ได้จากเขาไปโดยไม่ทันไม่ร่ำลาเลย

หลังจากนั้น โจนาธาน ฮาร์ดแมน ถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลและเขาก็ได้ทราบจากหมอว่า โชคดีมากที่มีเจ้า 4 ขา สุนัขแสนรักของเขานั้นช่วยชีวิตเอาไว้ เพราะถ้าไม่มีมันป่านนี้ โจนาธาน ฮาร์ดแมน เองก็คงจะไม่อยู่มาจนถึงตอนนี้ เนื่องจากว่าเจ้าแรมโบ้รับเอากระแสไฟฟ้าไปมากกว่าเขา ทำให้มันสละชีพไปแทนเขานั่นเอง

ด้วยความรักและคิดถึงเจ้าแรมโบของโจนาธาน ทำให้เขาย้อนไปดูภาพการผจญภัยของเขากับเจ้าแรมโบ้บนยอดเขานั้น และนำเสนอเรื่องราวผ่านเฟสบุ๊ค กล่าวถึงกาลเสียสละชีวิตของแรมโบ้และบอกคิดถึงมันมากเลยนะ เมื่อเรื่องราวนี้ถูกนำเสนอบนอินเตอร์เน็ตก็มีชาวเน็ตมาให้กำลังใจโจนาธานและยกย่องเจ้าแรมโบ้ให้เป็นหมาผู้ที่รักและซื่อสัตว์ต่อนายอย่างมาก  เรื่องราวชวนซึ้งมากครับเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทุกวันนี้เราก็ดูแลเจ้าตูบที่บ้านให้ดีนะครับผม

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก  Jonathan Tyler และ thedodo.com

สุนัขป่วยเป็นโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมีอาการอย่างไร

เป็นอีกหนึ่งโรคที่่เกิดกับทางเดินปัสสาวะของสุนัข บ้างก็อาจจะมีโรคไต โรคนิ่ว แต่ว่าโรคนี้จะคนละแบบกันซึ่งจะเป็นโรคเกี่ยวกับการติดเชื้อนั่นเอง เรียกว่าเป็นโรคติดเชื่อในทางเดินปัสสาวะในสุนัข ซึ่งโรคนี้จะส่งผลให้สุนัขมีการปัสสาวะผิดปกติเรามาดูกันว่าสาเหตุของโรค อาการของโรค และการรักษาเป็นอย่างไร

โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะสุนัขสาเหตุมาจากอะไร ?

สำหรับโรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะในสุนัข (Urinary tract infection) เป็นโรคที่มักพบได้บ่อยสุดในสุนัขเพศเมียมากกว่าเพศผู้ ส่วนสาเหตุนั้นมาจากติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ในบางทีมันก็ลุกลามไปถึงส่วนอวัยวะใกล้เคียงด้วย หรืออาจจะเกิดจากปัสสาวะอุจาระของสุนัขเองที่มีแบคทีเรียอยู่ในนั้น บ้างก็เกิดจากสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของเชื้อราและเเบคทีเรียนั่นเอง มีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุได้  และสุนัขเพศผู้ก็เสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้เหมือนกันโดยเฉพาะสุนัขที่ป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากอักเสบด้วย

ลักษณะอาการของโรคเป็นอย่างไร ?

อาการจะแสดงออกมาหลากหลายจากตัวของสุนัขที่ป่วย โดยส่วนใหญ่จะบ่งบอกถึงความผิดปกติเวลาปัสสาวะ บ้างก็ออกมากระปิดกระปอย ปัสสาวะเปลี่ยนสีหรือมีเลือดปนออกมา บ้างก็มีกลิ่นเหม็นรุนแรงมาก บ้างก็ปวดแต่ก็ไม่ออก ซึ่งจะต้องนำตัวน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วนเลยครับ เพราะมันอาจจะลุกลามได้ ทางแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยโรคพร้อมทั้งให้ยารักษาโรคมาให้อย่างถูกวิธี รู้เร็วป้องกันเร็วก็หายครับ

บ้านไหนที่เลี้ยงสุนัขไว้สังเกตความผิดปกติของสุนัขด้วยนะครับ จะได้รู้ว่ากำลังป่วยอยู่หรือเปล่าหากปล่อยเอาไว้อาจจะส่งผลให้เกิดอันตรายกับน้องหมาได้นะครับผม

Savannah หมาท่องโลกกับ Tom เจ้านายแสนรักของมัน

เรื่องราวความน่ารัก น่าประทับใจบนโลกใบนี้เกิดขึ้นมากมาย จะคนหรือสัตว์ต่างก็เป็นมิตรสหายกันได้ทั้งนั้นครับ สำหรับเรื่องนี้ผมจะนำเสนอเรื่องคน “คน กับ หมา” ที่พากันออกไปท่องโลก และแน่นอนคนพาไปคือคนนั่นเอง เขาคนนั้นเป็นชายหนุ่มที่เคยมองโลกในมุมปกติแต่แล้ววันหนึ่ง ความคิดเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อได้สูญเสียเพื่อนไป เขาจึงออกเดินทาง เขาคือ Tom Turcich  มาติดตามเรื่องของเขากันเถอะ

ชายหนุ่ม Tom Turcich เริ่มออกเดินทางในช่วงอายุ 25 ปีโดยตัวคนเดียว และเขาวางแผนมาก่อนแล้วถึง 8 ปี ในการเดินทางของเขา มีไอเดียต่าง ๆ นำเสนอสปอร์นเซอร์ เพื่อให้มีเงิน มีอาหารตลอดการเดินทางด้วย  และเขาได้ออกเดินทางจุดแรกจากบ้านเกิดของเชาเองเมือง New Jersey  นั่นเอง การเดินทางของเขามีเพื่อการกุศลด้วยโดยทางบริษัท Philadelphia Sign ที่เป็นสปอร์นเซอร์ของเขาจะจ่ายให้องศ์กรการกุศลทุก ๆ ไมล์ที่ทอมได้เดินทางไปเพื่อเป็นการอุทิศให้แก่เพื่อนสนิทของทอมที่จากไป

แล้ววันหนึ่ง Tom  ต้องนอนสะดุ้งตื่นกลางดึกและบ่อยครั้งที่เป็นแบบนั้นเขาจึงคิดว่าคงต้องมีเพื่อนร่วมทางสักหน่อย วันนี้เองที่ทำให้มีเจ้า   Savannah สุนัขนักท่องโลกเคียงคู่เขามา 1 ตัว ที่รับมาจากสถานรับเลี้ยงในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส แต่ว่าในการเดินทางของเจ้า 4 ขา ช่วงแรกอาจจะยังไม่ชินมันเลยต้องมีตะกร้าส่วนตัวสำหรับนอนพักในบางเวลาด้วย

การเดินทางของ 1 คน กับอีก 1 ตัว ดำเนินไปเรื่อย ๆ ในหลายต่อหลายประเทศ ซึ่งสร้างประสบการณ์ การเรียนรู้ ความตื่นเต้นให้แก่เขา ปัจจุบัน Tom Turcich อายุ 28 แล้วเก็บมาได้หลายประเทศมาก ๆ แล้วเขาก็พบความโหดร้ายของสภาพภูมิประเทศทะทรายในเปรู ร้อนเสียจนทนแทบไม่ได้เจ้า 4 ขา Savannah เองมันก็ต้องมีแว่นกันแดดนเลยทีเดียว

จากนั้นก็ไปเผชิญความเหน็บหนาวกันต่อที่ทวีปแอนตาร์กติกา ยากลำบากเอาการแต่ว่าพวกเขาทั้งสองก็ผ่านมันมาได้ด้วยดี  ทอมมีความตั้งใจไว้ว่าเป้าหมายของเขาจะต้องไปให้ได้ครบ 7 ทวีปพร้อมเจ้า 4 ขาของเขาภายใน 5 ปี ก็หวังว่าเขาจะทำสำเร็จ  เป็นกำลังใจให้พวกเขากันครับ

เรื่องราวความน่าตื่นเต้นและภาพสวย ๆ ของทั้งสองมีให้ดูเรื่อย ๆ ผ่านอินสตาแกรม์ของทอมที่ Tom Turcich และเผื่อใครสนใจอยากจะร่วมบริจาคสมทบทุนการเดินทางของเขาไปได้ที่ Patreon ของพวกเขาได้เองเลยนะครับ การเดินทางมันแสนวิเศษเสมอ กับคนหรือสัตว์เราก็สามารถเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีต่อกันได้ ผมก็หวังว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะได้ยินข้าวดีของทั้งสองว่าไปเยือนมาครบทั้ง 7 ทวีปแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ครับผม

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก www.ladbible.com

6 วิธีกำจัดเห็นหมัดในสุนัขตัวโปรดของคุณอย่างง่ายทำได้ด้วยตัวเอง

มีหมาก็ต้องมีหมัดไม่รู้ว่ามันเป็นสำนวนมาจากทางไหน แต่ดูแล้วก็เหมือนจะเป็นจริงอย่างนั้นเพราะว่าเห็นหมัดกับน้องหมานั้นมีอยู่ด้วยกันตลอดจริง ๆ บางทีเราว่าเราดูแลดีแล้วแต่ก็ยังไม่วายมีเห็บอยู่เหมือนเดิม สำหรับวันนี้เรานำ 6 วิธีกำจัดเห็นหมัดให้อยู่หมัดมาฝากกันครับ สามารถนำไปใช้ได้กับทุก ๆ บ้านเลยไม่หวง ๆ

6 วิธีกำจัดเห็บในสุนัข 

บอกเลยว่าในขั้นตอนที่เราจะแนะนำนี้ไม่มีอะไรยากเลย ทุกบ้านสามารถนำวิธีทั้งหมดไปใช้กับน้องหมาในบ้านตัวเองได้เลยครับ มีอะไรบ้างมาติดตามกันได้เลย

  1.  การตัดขน : เป็นขั้นแรกเลยสำหรับบ้านไหนที่เห็บหมัดเยอะ เมื่อตัดขนให้สั้นลงเราก็เหมือนกำจัดแหล่งสะสมของบรรดาเห็บไปได้ในระดับหนึ่ง แล้วยังทำให้เรามองเห็นผิวหนังของสุนัขได้ชัดเจนขึ้น หากเจอเห็บหมัดก็หยิบออกมาได้เลย แต่ถ้าขนยาวเราจะมองไม่ค่อยเห็น
  2. การใช้แชมพูกำจัดเห็บหมัด : จะเป็นยี่ห้อไหนสูตรอะไรก็ลองเลือกกันดูให้เหมาะสมกับสภาพผิวหนังของสุนัขเรามากที่สุด หากไม่แน่ใจในการเลือกซื้อแนะนำให้สอบถามผู้รู้หรือสัตวแพทย์ก่อน เราจะได้เลือกผลิตภัณฑ์แชมพูกำจัดเห็นหมัดได้ถูกตัว
  3.  การใช้แป้งกำจัดเห็นหมัด : หาซื้อได้ไม่ยากเช่นกัน แป้งจะใช้งานเพราะแค่นำมาโรยบนตัวของน้องหมาแล้วมันอาจจะคันหน่อย ๆ แต่ว่าได้ผลดีเห็บจะเเข็งและตายไปในที่สุด เช่นกันว่าจะต้องเลือกแป้งกำจัดเห็บหมัดให้เข้ากับช่วงอายุและสายพันธุ์ของน้องหมาด้วย
  4.  ยาหยอดกำจัดเห็บหมัด : เป็นยาใช้สำหรับหยอดลงบนคอหรือท้ายทอยของสุนัข ตัวนี้ไม่รู้ว่ามันออกฤทธิ์อย่างไรแต่ว่าได้ผลดีมากเลยทีเดียว สุนัขเด็ก ๆ ใช้แป้งก็ยังไม่ได้นั้น ขั้นตอนการหยอดจะปลอดภัยมากที่สุดเห็บจะไม่มาเกาะสักพักใหญ่ ๆ เลย
  5. สเปรย์กำจัดเห็บ : เป็นอีกตัวที่ใช้ในการพ่นลงบนตัวของสุนัข แต่ระวังอย่าให้เข้าปากเข้าตาได้ ค่อนข้างอันนตราย ใครจะใช้สเปรย์กำจัดเห็บนี้จะต้องอ่านคู่มือการใช้งานให้ดี นะครับ
  6. ปอกคอกำจัดเห็บหมัด : เป็นนวัฒตกรรมใหม่ของวงการจริง ๆ สำหรับการใช้ปอกคอกำจัดเห็บหมัด แต่ระวังเวลาสวมอย่าให้มีส่วนไหนของปอกคอโผล่ออกมาให้สุนัขแทะ กัด ถึงได้เพราะว่ามันมีสารเคมีอันตรายอยู่ในนั้นด้วยครับ

เพียงเท่านี้เราก็ได้วิธีในการกำจัดเห็บอย่างมากมายแล้ว ใครที่อยากจะนำไปใช้ก็เลือกได้เลย ส่วนใหญ่จะต้องมีการใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดต่าง ๆ เข้ามาช่วยอย่าลืมสอบถามข้อมูลจากทางสัตวแพทย์หรือคนขายให้ดีครับ เราจะได้เลือกของที่เหมาะกับน้องหมาชองเรา

 

การเลียแผลของสุนัข ทำให้แผลหายเร็ว จริงหรือ ?

มันเป็นความจริงไหมตามความเข้าใจของหลาย ๆ คนเลยที่บอกว่าเมื่อสุนัขได้รับบาดเจ็บมีแผลหากมันเลียแผลตัวเองจะทำให้แผลหายเร็วขึ้น วันนี้เราเอาความรู้มาฝากครับใครที่เลี้ยงหมาต้องอ่านเลย เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งมันก็ไม่ได้แปลว่าเป็นไปไม่ได้ในส่วนนี้เพราะว่ามีนักวิทยาศาสตร์หลายคนเลยที่ได้ทำการสังเกตว่า ทำไมกันนะแผลในปากถึงหายเร็วกว่าส่วนอื่น ๆ ในเรื่องกาย แล้วคุณคิดอย่างไร

ในน้ำลายสุนัขมีอะไรบ้าง 

ในน้ำลายของสุนัขสามารถทำลายแบคทีเรียได้แต่ว่าอ่อนมากโดยจะเป็นแบคทีเรีย Streptococcus canis และ E. coli แต่ว่าแม้น้ำลายของน้องหมาจะมีฤทธิ์ในการทำลายจริงแต่มันอ่อนมากจนไม่น่าจะมีผลต่อการรักษาแผลให้หายดีได้เลย ในน้ำลายสุนัขเป็นอะไรที่ค่อนข้างอันตรายจากแบคทีเรียหลายตัวเลย ซึ่งจะทำให้แผลติดเชื้อมากกว่าเดิมเสียอีกครับ โดยเฉพาะแบคทีเรียตัวร้ายอย่าง Gram negative anaerobic bacteria นั้นมันยังสร้างสาร  Endotoxins ที่ทำให้แผลของสุนัขถึงขั้นร้ายแรงอย่างการติดเชื้อในกระแสเลือดได้เลยทีเดียวเพราะสารตัวนี้มันทำลายเนื้อเยื่อได้  หากเจ้าของปล่อยให้น้องหมาเลียแผลตัวเองบ่อยเข้าจะกลายเป็นโรค  lick granuloma ได้เลยนะครับ

เมื่อสุนัขเป็นแผลควรทำอย่างไร

อย่างแรกเลยห้ามให้สุนัขเลียแผลตัวเองเด็ดขาดเพราะว่าอันตรายมากที่เเผลจะติดเชื้อตามที่กล่าวมาด้านบน เจ้าของควรจะทำแผลให้ดีบริเวณไหนเป็นแผลควรโกนขนสุนัขออกจากนั้น ทำความสะอาดแผล และทำแผลให้ดี พยายามหาทางป้องกันการเลีย การเกาของสุนัขด้วย สำหรับใครที่ทำแผลให้น้องหมาไม่ชำนาญควรพาไปพบสัตวแพทย์จะดีที่สุด

สรุผคือสุนัขเลียแผลไม่ได้ทำให้แผลหายเร็วขึ้นนะครับเพราะว่าฤทธิ์ในการรักษาจากน้ำลายมันอ่อนเกินไป ฉะนั้นอย่าให้สุนัขเลียแผลตัวเองเด็ดขาด ทำแผลให้เลยจะดีกว่าครับผมเพื่อความปลอดภัยและแผลจะได้หายเร็วขึ้นครับ