แมวหน้าเปื้อน สมัดจ์ ที่เห็นแล้วน่าร๊ากก อยากอุ้มกลับบ้าน

แมวแบบไหนที่น่ารักน่าเลี้ยงสำหรับคุณบ้าง หลายคนก็คงจะมีความชอบในตัวแมวที่แตกต่างกันออกไป และยิ่งเป็นแมวที่มีเหมือนจะมีจุดด่างพร้อยนั้นบางคนก็คิดว่าเป็นแมวไม่น่าชมเอาเสียเลย แต่ว่าตรงกันข้ามเลยกับเจ้า สมัดจ์ แมวพันธุ์หิมาลายันตัวนี้ ที่มีรอยเปื้อยอยู่บนกลางใบหน้ามองเห็นได้เด่นชัดมาก ไม่ได้กลายเป็นปมด้อยแมวแต่อย่างใดเลย แต่รอบเปื้อยนี่เองที่ทำให้เจ้าสมัดจ์โด่งดังและกลายเป็นเซเล่บแมวในที่สุด เรามาชอบภาพความน่ารักของแมวตัวนี้กันเลยครับ

สมัดจ์ เป็นแมวมาดผู้ดีตัวหนึ่งในบรรดาเซเล่บแมว
ความน่ารักของมันไม่ได้มีเพียงแต่รอยเปื้อนสีดำบนใบหน้าเท่านั้น
แต่ลองมองที่ดวงตาเหมียวน้อยดูสิ จะเห็นถึงความบ๊องแบ๊วมาก ๆ
สายตาเหมือนจะอ้อนวอน พร้อมจะอ้อนเราอยู่ตลอดเวลา
แบบนี้ทาสแมวเห็นรับรองว่าต้องใจละลายแน่นอน

สมัดจ์น้อย ตากลม ๆ ขนฟู ๆ
น่าร๊ากกก ใช่มั้ยล่ะ
เห็นแล้วอยากจะกอดจริง ๆ

รอยเปื้อนบนหน้า สีขนที่แตกต่างไม่เคยทำให้ความน่ารักลดลงเลย
ความอ้วนกลม ขนยาวน่ากอด ตาแป๋ว ทำให้สมัดจ์ได้ใจทาสแมวเลย

สมัดจ์ง่วงจังเลย
เข้านอนกันเถอะนะ ๆ ๆ ๆ

เวลาว่างของสมัดจ์ คือ
การนอนอยู่เฉย ๆ

หน้าตาแบบนี้แปลได้ว่า
สมัดจ์หิว แย้ว

แมวจะนอนถ่ายพอแล้ว
สมัดจ์ กล่าว

ทำไมรู้สึกเหมือนที่นอนมันเล็ก ๆ นะ

วันนี้มีอะไรกินบ้างน้าา
สมัดจ์ หิว

ทั้งหมดนี้เป็นภาพความน่ารักของเซเล่ปแมวหน้าเปื้อน สมัดจ์นะครับ ถ้าใครอยากจะติดตามอินสตาแกรมของเจ้าสมัดจ์ก็ไปที่อินสตราแกรมชื่อ purrfectsmudge ได้เลย  เป็นไงบ้างกับความน่ารัก ตาแป๋ว บอกเลยว่าน่ารักมาก ๆ อยากจะอุ้มกลับบ้านจริง ๆ ครับผม

 

 

ขอบคุณภาพจาก

https://www.instagram.com/purrfectsmudge/
http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=342

 

 

เจ้ามนุษย์ไปเที่ยวต้องพาแมวไปด้วยสิ คิดจะเที่ยวคนเดียวแมวไม่ยอม

วันนี้เราได้นำภาพความน่ารักของน้องเหมียวที่ติดตามมนุษย์ผู้ซื่อสัตย์ไปด้วยทุกที่ โดยมีอินสตาแกรมที่ชื่อว่า  campingwithcats ได้โพสภาพการเดินทางท่องเที่ยวกับแมว และทุกคนที่รักแมวสามารถโพสภาพแมวของตัวเองในการพาเที่ยว พร้อมกับติดแฮชแท็กชื่อ #campingwithcats  ได้เลยในอินสตาแกรมดังกล่าวจึงเต็มไปด้วยแมวน่ารัก ๆ กับการท่องโลกกว้างจากทาสแมวจากทั่วโลกเลย วันนี้เราได้นำภาพความน่ารักบางส่วนมาแบ่งปันครับ

แวะเข้ามาชมกันได้เลย ว่าเวลาแมว ๆ ไปเที่ยวจะน่ารักกันขนาดไหน

แคมป์นี้แมวจอง มีใครจะมานอนด้วยมั้ย

การผจัญภัยของ โจรสลัดแมวเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้

อาบแดดสักนิด

แมวไซบีเรียน ตะลุยป่า (เนียนมั้ย)

วันนี้อากาศดีจังเล๊ย

แอบเข้ากระเป๋าไปด้วย มนุษย์คงไม่รู้ตัว ฮะฮ่า

ชอบนอนที่สูง

ตั้งแคมป์ในป่า ตามประสา แมว ๆ

แมวไม่เคยกลัวฝน (จริง ๆ นะ)

จะไปที่ไหนให้บอกมา
แล้วแมวจะพาไป
(แล้วต้องพาแมวไป 555+)

วันนี้ควบหมา ออกมาสำรวจริมลำธาร
ทุกอย่างเรียบร้อย ปกติดีฮะ

ร่างกายต้องการธรรมชาติ
สูดธรรมชาติเข้าเต็มปอดแมว

ตั้งกล้อง เตรียมถ่ายภาพกัน

เอ่อ. . มนุษย์เอ๋ย
แมวหนาว อยากกลับบ้าน

โลกใบนี้เป็นของเราสองคน
ทะเลแสนกว้างก็เช่นกัน

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับภาพความน่ารักของเหล่าแมว ๆ ทั้งหลายกับเจ้าของที่ต้องพกพาแมวไปด้วย หากคุณเลี้ยงแมวและมีโอกาสได้ไปเที่ยวอย่าลืมพาแมวน้อยออกไปยนโลกกว้างด้วยนะครับ

 

ขอบคุณภาพจาก http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=356

โรคแมวข่วน (Cat-scratch) ทาสเเมวควรระวัง

แมวเหมือนจะเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมาก ๆ และคนก็ชอบเล่นกับแมวแต่สิ่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวแมวกว่า 40 % จะเป็นเชื้อแบคทีเรียจากเห็บหมัดต่าง ๆ จะมาโดนเราและทำให้คนป่วย โดยเฉพาะกับผู้ที่เล่นกับแมวบ่อย ๆ ปล่อยให้แมวเลีย หรือโดนกัด โดนข่วน โอกาสที่จะติดเชื้อเเบคทีเรียนั้นมีสูงโดยจะทำให้เกิดเป็นโรคที่ชื่อว่า โรคแมวข่วน (Cat-scratch)ครับ

โรคแมวข่วนนี้อาจจะไม่ได้มีสาเหตุมาจากตัวแมวโดยตรงแต่มาจากเห็บหมัดที่มีฉี่มีมูลที่เต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียนี้อยู่ เวลาคนโดนแมวข่วนเชื้อดังกล่าวที่อยู่บนตัวแมวจะซึมเข้าสู่บาดเเผลได้  บางทีแม้ว่าบาดเเผลไม่ได้เกิดจากแมวแต่บนตัวเรามีแผลอยู่แล้วก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้

โดยในปี 2005 – 2013 ทางCenters for Disease Control and Prevention (CDC)  ออกมาเผยผลการสำรวจสุขภาพของผู้คนในโรงพยาบาลพบว่ามีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจากโรคแมวข่วนสูงถึง 538 คนกันเลยทีเดียว โรคนี้เหมือนจะไม่ร้ายแรงแต่ก็มีผลข้างเคียงไม่ค่อนข้างอันตรายเหมือนกัน

อาการข้างเคียงจากโรคแมวข่วน Cat-scratch)

จะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นแบบทันที ส่วนใหญ่จะพบว่าหลังจากที่ผู้ป่วยได้ติดเชื้อโรคแมวข่วนไปแล้วประมาณ 3 – 14 วันจะเริ่มแสดงอาการออกมา ซึ่งลักษณะอาการของโรคมีดังนี้

  1. รู้สึกอ่อนเพลีย อ่อนล้าร่างกาย
  2. มีอาการปวดหัว
  3. บริเวณแผลจะเริ่มแดงอย่างเห็นได้ชัด
  4. แผลมีอาการบวม และ นูน ขึ้นมาผิดจากปกติ
  5. มีอาการเบื่ออาหาร

หากคุณเล่นกับแมวแล้วโดนแมวข่วน โดนกัด โดนเลีย ต้องรีบทำความสะอาดแผลโดยเร็วที่สุด เพื่อความมั่นใจควรไปให้แพทย์ตรวจรักษาแผลให้ด้วยจะดีกว่าครับ และอย่าลืมพาน้องเหมียวเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย เป็นการป้องกันได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ก็ต้องดูแลความสะอาดแมวอย่าให้มีเห็บหมัดครับผม

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=329

 

น้องแมวฝึกอย่างไรให้เชื่อง ทาสเเมวต้องอ่าน

ทาสแมวทั้งหลายฟังทางนี้วันนี้เรามีวิธีการจัดการกับเจ้านายตัวแสบของเราให้เชื่องแล้ว การฝึกแมวอาจจะยากแต่ก็ไม่เสมอไป เพราะมีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น เมื่อเทียบกับการฝึกสุนัขการฝึกแมวง่ายกว่ากันเยอะ เรามาดูกันว่าจะฝึกแมวอย่างไรให้เชื่องและเชื่อฟังทาสอย่างเรา ๆ มาติดตามกันได้เลย

การฝึกแมวให้เชื่องมีวิธีดังต่อไปนี้

  1. การฝึกเรียกชื่อเรียกให้มาหา   เราจะฝึกโดยการเรียกบ่อย ๆ โดยใช้คำเดิม ๆ เพื่อให้แมวเกิดการจดจำ เช่นเรียกให้มาหาเราอาจจะใช้คำว่า มานี(ชื่อแมว) เเละเวลาเรียกแต่ละครั้งก็เรียกแบบเดิม แต่ว่าอย่าลืมให้รางวัลทุกครั้งที่ฝึกเรียกแล้วน้องแมวมาหา  แต่ถ้าฝึกมากไประวังน้องแมวรำคาญหากรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของแมวว่าไม่ดีแล้วให้หยุดก่อน ค่อยฝึกใหม่วันหลัง
  2. สอนให้แมวเข้าลัง  ทุกครั้งที่เราเรียกแล้วน้องแมวมาเข้าลังก็ชมและให้รางวัลเป็นของโปรดเขา จะทำให้เข้าใจว่าการเข้าไปในลังเป็นสิ่งที่จะต้องทำ เพราะทำแล้วจะได้ขนม แต่ถ้าหากแมวออกมานอกลังห้ามชม ห้ามให้ขนมเด็ดขาด พอแมวเริ่มเข้ารังแล้วก็พยายามฝึกให้อยู่นาน ค่อยให้ขนม เมื่อแมวชินจะเข้าใจว่าตรงนั้นเป็นบ้าน

   

3.  ฝึกให้แมวหมอบ  วิธีนี้จะต้องใช้ขนมล่อ สูงไว้จากนั้นค่อย ๆ เลื่อนขนมลงต่ำให้แมวเริ่มหมอบตามขนม จากนั้นก็ให้ค่อย ๆ ถอยห่างออกมาก่อน โดยยังไม่ให้ขนมเมื่อแมวหมอบแล้วเราก็ค่อยให้ แต่ในระหว่างการฝึกเราจะต้องพูดคำว่า “หมอบ” ไปพร้อมกันด้วยนะ

4.   ฝึกการคาบของ  ลองดูว่าแมวของเราชอบอะไรแบบไหนลองหาของเล่นหรือตุ๊กตามาให้ดู โยนให้แมวจากนั้นลองรอให้แมวคาบละเรียกมาหาเรา จากนั้นก็เอาขนมให้เพื่อเป็นของรางวัล หรือเอาขนมให้เพื่อแลกกับของก็ได้

5.  ฝึกขับถ่ายในกระบะทราย  แมวจะต้องรู้จักการเข้ากระบะทรายโดยในช่วงเเรกเราจะเรียกน้องแมวให้รู้จักกระบะทราย เราเรียกและเอามือขุดทรายเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจก็ได้ จากนั้นเมื่อน้องแมวมาหาก็ให้รางวัล โดยจะต้องฝึกในช่วงหลังอาหาร หลังออกกำลังกาย หรือหลังตื่น ประมาณนี้แมวจะได้เข้าห้องน้ำเป็นเวลา แต่สิ่งที่ต้องทำควบกันด้วยคือ การให้อาหารเองก็ต้องเป็นเวลาด้วย

เราสามารถฝึกแมวให้เชื่องได้หากรู้วิธีการที่ถูกต้อง ใน 5 ขั้นตอนนี้สามารถนำไปใช้ได้ทุกคน  การฝึกแมวหาเริ่มเร็วก็จะดีกว่ารอให้แมวโตหรือมีอายุแล้วจะฝึกยากกว่าแมวที่กำลังโต แต่ก็ฝึกได้ทุกวัยเพียงแต่จะต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกที่แตกต่างกัน

ขอบคุณที่มาจาก http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=351

แมวป่วยหรือเปล่า ? สังเกตุอาการดูให้ดีมีอะไรผิดปกติในน้องเหมียวบ้าง

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแมวกำลังป่วย แมวไม่ค่อยแสดงอาการนะครับในบางตัวแถมยังชอบหลบมุมไม่ให้เราเห็นด้วยเวลาแสดงอาการ เราจะสังเกตได้ด้วยตัวเองว่าแมว กำลังป่วยอยู่ โดยมองจากลักษณะภายนอกของตัวแมวดังนี้เลยครับ

เวลาที่แมวป่วยมักจะมีพฤติกรรมแตกต่างไปจากเดิม ให้เราเห็นได้ชัดเลย คือ ไม่ค่อยออกมาเล่นกับเรา นอนเยอะกว่าเดิม จากเดิมที่นอนมากอยู่แล้วก็นอนนานไปอีก  ไม่ค่อยทานอาหาร  ฉี่บ่อยและเยอะกว่าเดิม บ้างก็ฉี่ไม่เป็นที่เป็นทางเอาเสียเลย  เจ้าของจะต้องดูให้ดีว่าแมวเรากำลังมีอาการแบบนั้นอยู่ไหมจะได้หาทางแก้ได้ทันเวลา เพราะแมวมันป่วยบางตัวก็ไม่ได้ไปหาหญ้ากินอย่างที่หลายคนเข้าใจ

นอกจากนั้นยังไม่พอ ลองดูตามตัวน้องแมวด้วย บางทีก็มีคราบอาเจียนติดปากอยู่ แต่เราจะไม่เห็นตอนอาเจียน หรือมีก้นเปียกเเฉะ มีคราบของอึแมวติดอยู่ที่ก้น   บริเวณก้นและท้องแมวขนจะร่วงเยอะมากกว่าเดิม  มูลของแมวจะเปลี่ยนสี  ผิวของแมวเริ่มมีการตกสะเก็ด  บางทีจมูกของแมวก็เปลี่ยนสีอย่างเห็นได้ชัด

สาเหตุที่ทำให้แมวป่วย

แมวป่วยมาจากหลายสาเหตุไม่ใช่แค่การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรคอย่างเดียว แต่ด้วยสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดูที่ส่งผลทำให้เเมวเครียดก็ทำให้แมวป่วยได้ง่าย ๆ ส่วนการกินหญ้าแมวบางตัวก็จะกิน เจ้าของควรจะหาไผ่แมว ข้าวสารี หรือหญ้าที่มีประโยชน์สำหรับแมวมาไว้ด้วย

แมวก็คือแมว เราจะต้องเลี้ยงแมวอย่างเข้าใจอย่าใช้อารมณ์ในการเลี้ยง อย่าโมโหกับแมว และควรจะให้อยู่ในสิ่งแวะล้อมที่เหมาะสม ปลอดโปร่งทำให้น้องแมวอยู่อย่างสุขสบายครับผม หากแมวท่านใดกำลังป่วยแนะนำควรรีบนำพารักษาโดยด่วนครับ

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=360

แมวอ้วนที่ชวนอึ้ง! รวมเหล่าแมวอ้วนทั้งหลาย แสนน่ารักน่ากอด

วันนี้นะครับเราจะพามาชมภาพหมู เอ้ย! ไม่ใช่ครับ แมวครับแมว แต่เป็นแมวที่กลายเป็นหมูไปแล้ว เพราะว่าทาสอย่างเรา ๆ สงสัยจะเลี้ยงดีเกินไปสักหน่อยทำให้เหล่าบรรดาแมว ๆ ทั้งหลายกลายเป็นหมู ไปแล้ว เรามาชมภาพน่ารัก ๆ ของเหล่าบรรดาหมูแมวจ้ำม่ำกันดีกว่าครับ

จะนั่งก็ยาก จะก้มก็ลำบาก
ติดพุง

อ้วนแต่เรียบร้อย
แมวผู้ดี มีไรป่ะ ?

อย่าพึ่งถ่ายรูปสิ
กำลังบิดตัวหามุมผอมอยู่

ฝนตก น้ำท่วม แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
ข้าก็ไม่หนี
หนักตัวเอง ขอนอนอยู่ตรงนี้แหละ

อ๋อยยยย อิ่ม
ขอนอนตากพุงหน่อยละกัน

มาเป็นของเค้าเถอะนะค้าา
ตะเองหนีเค้าไม่รอดหรอก

ขอนัั่งเอนหลังแปป
ไปวิ่งจับหนูมา เหนื่อย

พี่อ้วน เพราะมีกิน ไอ้น้อง

มองไร เจ้ามานุด

รู้สึกไหมว่าเตียงมันเล็กลง

ขอลาออกจากการเป็นแมว
เป็นกระต่ายแทนได้มั้ย

นั่งหมา . . หรือ หนู  . .. จับกินจะเป็นไรมั้ยนะ

ข้าคือ สิงโต

ทุกวันนี้ไปไหนมาไหน ไม่เดินกันแล้ว
กลิ้งเอา !!!

แมวอ้วนแต่ละตัวบอกเลยครับว่าแทบจะอยากจะเรียกว่าแมว อ้วนกันจริง ๆ ถ้าจะให้ดูเวลาเลี้ยงไม่ต้องให้อ้วนขนาดนี้ก็ได้ อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของน้องแมวในอนาคต ควรจะหาเเมวออกกำลังกายบ้าง อาหารควรควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่พอดีต่อมื้อ อ้วนถึงจะน่ารักแต่มันอาจจะอ้วนเกินไปหรือเปล่า อย่าลืมพาเหมียว ๆ ไปตรวจสุขภาพกันด้วยนะครับผม

ขอบคุณภาพจาก http://petmaya.com/cat-or-pig

สายตาแมว แบบไหนที่ทำให้มนุษย์รู้สึกใจละลายมากทีสุด

สายตาน้องแมวนั้นบางทีก็ดูเหวี่ยง หน้าตาไม่สบอารมณ์ตลอดเวลา บางทีก็ตาละห้อย น่าสงสาร บางทีก็ตาลอย ๆ ตลอดวัน จนบางครั้งเราก็เริ่มสงสัยว่าทำไมแมวแต่ละตัวถึงได้มีสายตาไม่เหมือนกัน มนุษย์ธรรมดาที่เป็นธาตุแมวอย่างเรา ๆ คงไม่ต้องคิดอะไรมาก ทำได้เพียงตอบสนองต่อสายตาเหล่านั้นอย่างอ่อนโยน แมวแต่ละสายพันธุ์สายตาก็มีดุ มีอ้อนต่างกันไป แมวบางตัวมาอ้อนเราแต่หน้าตายังเหวี่ยงอยู่เลย นั่นก็เพราะธรรมชาติเป็นแบบนั้น เรามาดูกันว่าสายตาแมวมีแบบไหนบ้าง ที่ทำให้ใจละลาย

สายตา แมวมองอย่างสนใจ [ สายตาเหมือนแมวเจอจิ้งจก]

เหมือนมองแล้ว ทิ่มแทง แมวสายตาพิฆาตร

เจ้า มานุด ข้าอยากออกไปเล่นข้างนอก พาไปหน่อยสิ

โอมเพี้ยง!! มนุษย์จงอยู่ภายใต้อำนาจข้า

ทำไมวันนี้มันไม่สนุกเลย . . . แมวเบื่อ

วันนี้พี่ไปเปิดศึก กับแมวหน้าปากซอยมา . . เหอะ ๆ งานนี้หมอบราบไปทุกตัว

ในที่สุด มานุดเอ๋ย ก็ตกเป็นทาสข้า

อย่ามากวนได้มั้ย แมวต้องการเวลาส่วนตัว

แอบ ๆ ดีกว่า เดี๋ยวสาว ๆ รู้ว่ามีแมวมอง

ไม่เอาแล้ว หนีออกจากบ้านดีกว่า มานุดไม่สนใจ

ข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ ในใต้ล่า

ถ้าอย่างนั้น พวกข้าก็เป็นแมว สินะ

รอคอยอย่างอดทน คือ แมวผู้เด็ดเดี่ยว

จงอุ้มข้า เจ้ามานุด

อ้อนแบบนี้ผ่านมั้ย ?

วันนี้จะให้เค้าอยู่บ้านตัวเดียว จริง ๆ  หยอ

หึ!! มนุษย์ไม่อยู่บ้าน แมวยึดครองแล้วสินะ โฮ่ ๆ

มาเล่นกันเถอะ ๆ

พวกมนุษย์ทำไรอยู่ มองดูดิ๊

ทำไมวันนี้ ไม่มีใครมาเล่นกับเดี๊ยนเลยอ่ะ . . เชอะ ไม่สบอารมณ์แมวสวย

สนใจออกไปเดทกับพี่มั้ย น้องสาว

ไปเล่นข้างนอกตัวเดียวก็ได้ว๊ะ

เน่ ๆ เจ้ามนุษย์ ข้าหิวแล้ว

อย่าเอาชั้นไปโดน สิ่งสกปรกข้างนอกนั่นนะ พวกมนุษย์

ตัวก็ใหญ่ ทำไมขาสั้น …ไม่เข้าใจเลยเหมียว

ทำแบบนี้มักจะได้ขนม จากมานุด

เป็นแมวจะอยู่ในกล่องแบบไหนก็ได้

เป็นแมวจะอยู่ในถุงแบบไหนก็ได้

แมวเมืองหนาว ต้องพลางตัวด้วย หิมะ

วันนี้เล่นเหนื่อยมาทั้งวัน นอนดีกว่า  ฉะบายจาย เหมียว ๆ

ไม่ว่าแมวจะแสดงออกมาด้วยสายตาที่ทิ่มแทงมนุษย์ขนาดไหน แมวก็คือแมว ยังเป็นแมวอยู่เหมือนเดิม ยังคงได้รับการดูแลเอาใจใส่จากมนุษย์ในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะสายตาดุแค่ไหน แมวก็ยังน่ารักสำหรับมนุษย์เสมอ

ดูแลเน้นๆ 4 จุด ให้น้องแมวทุกวัยแข็งแรงงงง

ไม่ว่าจะเป็นน้องแมววัยเด็ก วัยรุ่น หรือวัยชรา ต่างก็ต้องการการดูแลในเรื่องต่าง ๆ ที่มีทั้งที่เหมือนกัน และแตกต่างกัน แต่หากเราเข้าใจหลักการแล้วการดูแลน้องแมวในแต่ละช่วงวัยไม่ใช่เรื่องยากเลย มาดูกันดีกว่าเจ้านายว่าน้องแมวในแต่ละวัยต้องเน้นในจุดไหน และแต่ละวัยต้องการการดูแลที่เหมือนกัน และแตกต่างกันอย่างไร

1. เน้นอาหารการกิน
ทุกวัยเหมือนกัน : แนะนำให้เลือกอาหารสำเร็จรูปสำหรับน้องแมว เพื่อง่ายต่อการดูแลและได้สารอาหารที่เหมาะสม รวมทั้งดูแลเรื่องความสะอาดและการเก็บรักษาอาหาร และมีการตั้งน้ำดื่มอย่างเพียงพอ
ต่างวัยต่างกัน : แต่ละช่วงอายุมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน เลือกสูตรอาหารให้เหมาะกับแต่ละวัยเพื่อให้ได้สารอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์แข็งแรง

2. เน้นที่อยู่อาศัย
ทุกวัยเหมือนกัน : ดูแลความสะอาด กระบะทราย อากาศถ่ายเท อุณหภูมิที่เหมาะสม
ต่างวัยต่างกัน : จัดสถานที่ให้ปลอดภัยกับเจ้าเหมียวแต่ละวัย เนื่องจากความซุกซนและความสามารถในการปีนป่ายแตกต่างกัน

3. เน้นกิจกรรมเด่น
ทุกวัยเหมือนกัน : เอาใจใส่และดูแลให้เวลากับเจ้าเหมียวอย่างเพียงพอ
ต่างวัยต่างกัน : จัดของเล่นที่เหมาะสมกับอายุเพราะความซนของแต่ละวัยพร้อมที่จะซุกซนไม่เหมือนกัน

4.เน้นสุขภาพ
ทุกวัยเหมือนกัน : การทำวัคซีนควรทำให้ครบถ้วน ถ่ายพยาธิสม่ำเสมอ และมีการป้องกันเรื่องปรสิตภายนอก เห็บหมัด พยาธิหนอนหัวใจ อย่างต่อเนื่อง
ต่างวัยต่างกัน : เด็กน้อยอาจจะต้องมาพบคุณหมอในช่วงแรกบ่อย ๆ เพราะต้องมีการกระตุ้นวัคซีนหลายครั้งเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน แต่เมื่อโตจึงพามากระตุ้นปีละครั้ง แต่อย่าลืมเรื่องยาป้องกันปรสิตที่สามารถปกป้องน้องแมวจากปรสิตภายนอก และปรสิตภายใน โดยทำเป็นประจำทุก ๆ เดือน ซึ่งเจ้าของสามารถซื้อไปหยดเองที่บ้านได้ สะดวก ปลอดภัย และไม่ยุ่งยากเลย

ถึงแม้น้องแมวเหมียวอย่างเราจะอายุแค่ไหน แต่ทุกๆวัยก็ยังต้องการความรัก การดูแลและเอาใจใส่นะฮัฟเจ้านายยยย

เครดิตข้อมูลHealthy Pet Zociety
เครดิตรูปภาพ
http://www.petmd.com/cat/slideshows/7-cat-toy-dangers-you-should-know
https://www.mnn.com/family/pets/stories/why-are-cats-so-quirky-about-drinking

6 Tips for Dealing with Diabetes in Cats


http://animaltheory.blogspot.com/
https://diamondcarepetfood.com/cats-need-activity/

ตอนนอนนิ่ง ๆ จะดูน่ารักเป็นพิเศษนะเจ้านายเหมียวน้อยทั้งหลาย

เคยจ้องมองแมวตอนหลับไหมจะนิ่งมากเป็นพิเศษ และประกายออร่าความน่ารักยิ่งพุ่งปริ๊ด มากกว่าตอนซน ๆ เสียอีก แมวบ้านไหนหลับได้น่ารักบ้าง มาแชร์กันได้นะ สำหรับเรื่องนี้จะเน้นที่ภาพความน่ารักในยามที่เจ้าเหมียวจอมซนทั้งหลายไปเฝ้าพระอินทร์แล้ว ทุกอย่างจะดูนิ่ง สงบ ไม่ไหวติง ไม่เคลื่อนไหว มีความอ่อนโยนบวกเสียงกรนเบา ๆ เอาดูความน่ารักของเหล่าเหมียวน้อยกันเลยครับ

แมวนอน

หนึ่ง  สอง  สาม สี่ . . . เล่นซ่อนแอบกันเค้าปิดตานับเลขแล้วน้า

แมวหลับ

เป็นแมว จะนอนท่าไหนก็ได้!!

0-6

แมวโสด ไม่มีแฟน หนุนแขนตัวเอง วนไป

0-6

เหงาจัง . . . นอนไม่หลับเลย

แมวนอนหลับ

มาเล่นผีผ้าห่มกันมั้ย เหมียว ^__^

แมวนอนหลับ

การนอนของแมวผู้ดี ต้องอำพรางตัว [เนียนได้อีก]

แมวนอน

ครอบครัวอบอุ่น . . . [ อุ่นจนจะร้อน อยู่ละ ]

แมวนอน

แดดประเทศไทย มันชั่งโหดร้ายนัก  . . . เเมวเพลีย

แมวง่วง

ง๊าววว … ง่วงแล้ว

แมวหลับ

นี่. . นอนเป็นคู่ [เชือดแมวโสด]

แมวนอน

อ๋อย ย ย . . . ขี้เกียจเดินเข้าบ้านจังเลย

0-6

กอดตัวเองก็ได้ อุ่นอยู่แล้ว ขนเยอะ

แมวนอนหลับ

วันนี้กินเยอะไปหน่อย  ขยับไม่ได้หนักพุง นอนเลยแล้วกัน

แมวกอด

กอดกัน ๆ นะ

แมวนอน

ขอหลับต่ออีกหน่อยนะ

แมวนอน

มันก็จะโรแมนติกหน่อย [ถ้ามีใครมานอนด้วยคงจะฟิน ]

แมวนอน

โตแล้ว จะนอนยังไงก็ได้

แมว

เป็นแมวขาดความอบอุ่นไม่ได้

แมวนอน

ขออาบแดดสักชั่วโมงนะ

แมวนอน

นอนแบบแถวตอนเรียง หนึ่ง

แมวนอน

มีความแมวไฮโซ จะนอนอวดตัวยังไงก็ได้

เป็นยังไงบ้างครับสำหรับภาพความน่ารักของเจ้าเหมียวจอมซนทั้งหลาย แต่ละตัวมีท่านอนที่น่ารักต่างกันไปนะ เมื่อเราเห็นภาพแบบนี้ก็มีความสุขและอดที่จะยิ้มตามไม่ได้เลย แต่ไม่แน่ใจว่าในท่านอนแต่ละท่านั้นมีความหมายอะไรอยู่ไหม แต่โดยรวมแล้วเป็นการพักผ่อนที่สบายที่สุดของเจ้าเหมียวเลย

สฟิงซ์ [ Sphynx ] แมวไร้ขนที่มีความน่ารักในแบบฉบับตัวเอง

เราจะคุ้นเคยกับแมวเป็นอย่างดีในหลาย ๆ สายพันธุ์ ทุกตัวจะมีความน่ารัก น่าอุ้ม มาก ๆ สำหรับทาสเเมวแล้วไม่ว่าแมวจะทำอะไรก็ตามใจแมวได้หมดเลย และยังมีแมวอีกพันธุ์ที่หากไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องแมวจะไม่รู้เด็ดขาดว่าเป็นแมว นั่นคือ แมวพันธุ์ Sphynx สฟิงซ์ หน้าตาดุ ๆ ขนไม่มี สีแตกต่างกันออกไป แต่ก็ยังคงความน่ารักในแบบแมว ๆ ไว้เหมือนเดิม วันนี้เรามีรูปเจ้า Sphynx ที่น่ารักมาฝากกันครับ

Sphynx

ลักษณะทั่วไปของแมวพันธุ์สฟิงซ์ Sphynx

รู้ไหมใคร ๆ ต่างก็บอกว่าแมวสายพันธุ์สฟิงซ์นี้เป็นแมวที่น่าเกลียดที่สุดในโลกเลยนะเพราะว่า Sphynx เป็นแมวที่ไม่มีขน ส่วนต้นตอวงตระกูลมาจากแมวอะไรผสมอะไรยังไม่มีข้อมูลเปิดเผยที่แน่ชัดจึงยังไม่รู้ว่าที่มาจริง ๆ ของเจ้าสฟีงซ์นั้นมาจากไหน  บ้างก็ว่าอียิปบ้างก็ว่าฮาวาย ถึงอย่างไรก็ยังไม่มีอะไรมายืนยัน

Sphynx

ที่จริงแล้ว Sphynx มีขนนะแต่น้อยและบางมาก ๆ ถ้าหากไม่ลองสังเกตดี ๆ จะไม่เห็นเลยคิดว่าเป็นแมวไม่มีขน รูปลักษณ์ของสฟิงซ์จะมีหัวเป็นลิ่ม หูทรงสามเหลี่ยม แต่ปลายหูจะมีความมนและกลม ส่วนดวงตาจะเป็นสีอำพัน พื้นหนังท้องจะเป็นแถบสีขาว ลำตัวยาวกลาง ๆ ไม่ยาวมาก สีผิวขิง Sphynx ก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ว่ามีอะไรบ้างซึ่งก็อาจจะมีทั้ง น้ำตาล ดำ ขาว เหลือง เป็นต้น

4-3

นิสัยแมว Sphynx

ไม่ว่าสฟิงซ์จะหน้าตาเป็นอย่างไรแต่สฟิงซ์ก็ยังเป็นแมวปกติ ที่นิสัยก็ยังเป็นแมวเช่นเดิม Sphynx จะค่อนข้างขี้ประจบจอมอ้อน เวลาที่สฟิงซ์เรียกร้องความสนใจจากเจ้าของนั้นมักจะร้องเบา ๆ แบบขาด ๆ เป็นท่อน เสียงของสฟิงซ์จะต่างจากแมวทั่วไปนับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสายพันธุ์ก็ได้

Sphynx

Sphynx เป็นแมวที่ไม่ชอบอากาศเย็นมาก ๆ เพราะตัวไม่มีขนจะอุ่นยากกว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ ทั้งนี้ในด้านของอาหารการกินของเจ้าเหมียวสฟิงซ์นั้นจะเน้นที่โปรตีนมากเป็นพิเศษ

Sphynx

สำหรับคนที่รักสัตว์อยากเลี้ยงแมว แต่ว่าตัวเองเป็นคนแพ้ขนแมว ขนสัตว์อื่น ๆ ด้วย Sphynx จึงเป็นเพื่อนคลายเหงาให่กับเราได้ แม้ว่าจะไม่มีขนสายเหมือนแมวสายพันธุ์อื่นแต่ก็กอดอุ่นเหมือนกันนะ

Sphynx

ไม่ว่าจะถูกเรียกว่าแมวขี้เหร่ แมวไม่มีขน Sphynx ก็ยังน่ารัก และรักเจ้าของ

Sphynx

4-3

ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบแมว Sphynx ก็ตามแต่หากเลี้ยงแล้วจะต้องใส่ใจดูแล เพราะว่าสฟิงซ์ก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่รู้คุณเจ้าของ ต้องการคนเอาใจและขี้อ้อนเหมือนกันกับแมวชนิดอื่น ๆ นะครับ

10 วิธีแมวอ้อนจนมนุษย์ ต้องยอมสยบ

แมวเป็นสัตว์ที่มีความอินดี้ในตัวแล้วยังมีความน่ารักอีกด้วย แมวจะรู้ตัวเองเสมอว่าตัวเองน่ารักมากสำหรับคนรักสัตว์ แต่แมวเห็นเราเป็นทาส แม้จะอย่างนั้นเราก็ยอมจำนนโดยดีต่อความน่ารัก ขี้อ้อน ของเจ้าเหมียว เป็นทาสแมวก็มีความสุขดี แมวมักจะใช้ความขี้อ้อนปนความน่ารักตัวเองเข้าหามนุษย์เมื่อแมวกำลังต้องการได้รับความสนใจ มีดูกันว่าแมวมักจะอ้อนอย่างไรบ้างจนเราต้องแพ้ทางแมว

แมวอ้อน

10 วิธีเหมียวน้อยอ้อนมนุษย์ แสนน่าร๊าก

  1. เวลาเรานั่งอยู่หรือกำลังทำงานหน้าคอมเเมวน้อยจะกระโดดมานั่งบนตักแบบหน้าตาเฉย จากนั้นจะเริ่มเอาหัว เอาตูมาถู ๆ เรา เป็นวิธีอ้อนของแมวทั่วโลกเลยเบสิคของการอ้อนก็ข้อนี้เลย
  2. ส่วนแมวตัวไหนที่ค่อนข้างมีนิสัยน่ารัก ผู้ดี เรียบร้อยสักหน่อย จะอ้อนแบบงาม ๆ โดยการร้อง เมี๊ยว เมี๊ยว เบา ๆ เท่านั้น ให้เราได้ยิน จากนั้นก็จะส่งสายตาแป่ว ๆ มาอ้อน
  3. งับเบา ๆ อย่าพึ่งคิดว่าแมวกัดแทะแข้ง ศอก แขน ของเจ้าของแล้วคิดว่าแมวตัวนั้นนิสัยไม่ดี แต่นั่นเป็นการอ้อนแบบหนึ่งของแมว แต่อาจจะแสดงออกแปลก ๆ สักหน่อย ส่วนมากแมวที่มีความเป็นผู้นำเป็นจ่าฝูงมักจะเป็นกันเพราะจะให้อ้อรแบบน่ารัก ๆ คงทำไม่เป็น
  4. แมวน้อยนวดหลัง เป็นแมวที่รู้จักเอาใจจริง ๆ โดยมันจะขึ้นมาบนหลังแล้วนวด ๆ  ๆ ๆ ให้เรา แม้จะเบาไปหน่อยแต่ก็รู้สึกดี คงไม่มีใครปฏิเสธความน่ารักของแมวได้ลงคอ

แมวอ้อน

5.    แมวหอมแก้มสังเกตดูเวลาที่เราอุ้มแล้วแมวจะเอาจมูกมาจุ๊บแก้มเรา แสดงถึงความรักเจ้าของมาก ๆ
6.   แมวลูบหน้าจากนั้นส่องเสียงเมี๊ยว เบา ๆ เพื่อให้รู้ว่าแมวรักเจ้าของนะ (รักนะเจ้าทาส เหอะ ๆ ๆ)
7.    เอามือมาตบ ๆ แปะ ๆ ลูบหน้าเราเหมือนจะชื่นชมความน่ารักของเจ้าของ
8.   เดิน ๆ เอาตัวมาถูขาแรง ๆ เป็นการอ้อนแบบแมวจอมกวน แมวขี้โวยวาย เเมวเอาแต่ใจแต่ก็รักนะเจ้าของ
9.    แมวกระโดดเกาะหลัง ขึ้นขี่หัว อ้อนแบบแมวดื้อขี้เล่น
10.   เอาตัวมานอนซุกเวลาี่เราหลับแปลว่าแมวรักเรามาก ๆ แทบอยากจะอยู่ด้วยตลอกเวลาเลย

แมวขี้อ้อน

ไม่ว่าเจ้าเหมียวจะมาไม้ไหน เราก็ยังคงรักอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าแมวบางตัวจะอ้อนไม่เก่งแสดงออกไม่เก่ง แต่ก็จะมีวิธีแสดงออกในแบบของตัวเอง ยังไงแม้ว่าเเมวจะเห็นมนุษย์เป็นทาส แต่แมวก็ขาดทาสไม่ได้เลยนะ ต้องเอาใจแมวทุกอย่าง ต้องมอบความรักให้แมวเยอะ ๆ นั่นเป็นความต้องการของแมวทั้งจักรวาลเลย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=243510605728463&id=162494837163374

7 สิ่ง ที่ไม่ควรมองข้าม จัดเตรียมบ้านเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง

สำหรับครอบครัวที่ไม่เคยเลี้ยงสุนัขและแมวมาก่อน สิ่งของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ อาหาร ยาและของแต่งบ้าน ที่เราคุ้นเคย อาจเป็นอันตรายต่อพวกเขาได้ คุณสามารถจัดเตรียมบ้านให้พร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ ที่อยู่ในช่วงวัยซุกซน อยากรู้อยากเห็น แน่นอนว่าเราไม่สามารถจะสอดส่องดูแลเจ้าสี่ขาได้ตลอดเวลา ในบางครั้งก็ต้องปล่อยให้อยู่ตัวเดียวบ้าง เป็นการฝึกอย่างหนึ่งเพื่อให้สัตว์เลี้ยงเรารู้จักการรอ หากข้าวของยังจัดบางอย่างสุ่มเสี่ยงต่อการทำให้สุนัขได้รับบาดเจ็บการจัดบ้านให้ดีมีมุมสำหรับน้องหมาน้องแมวในบ้านจะช่วยให้พวกเขาอยู่อย่างปลอดภัยและมีความสุขมากขึ้น

ปิดประตู้ไม่ให้สุนัขออก

1.ประตูหน้าต่างระเบียง

สำหรับบางบ้านที่น้องหมาแมวจอมซนนั้นชอบมุดออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ซึ่งนอกบ้านไม่ใช่พื้นที่สำหรับวิ่งเล่น แต่เป็นถนนที่รถวิ่งเยอะ หรือเป็นบริเวณบ้านแต่ไม่มีกำแพงรอบไว้อาจจะทำให้สัตว์เลี้ยงเผลอออกไปเดิมเล่นนอกพื้นที่ไกล ๆ อาจจะเกิดอันตรายได้ง่าย ๆ ถ้าจะให้ดูด้านนอกควรจัดทำเป็นรั้วรอบไว้ป้องกันไม้ให้วิ่งออกได้ แต่ทำให้มองเห็นข้างนอกได้ ถ้าบ้านไหนไม่มีบริเวณกว้างลานบ้าน พื้นที่ด้านในก็ควรจะต้องมีมุมสำหรับหมา แมว ด้วย และปิดประตูหน้าต่าง ทุกครั้งป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงแอบออกไปได้

กั้นบันได

2.กั้นบันได

เป็นการป้องกันอันตรายจากการลื่นตกลงมาโดยเฉพาะสุนัขตัวเล็ก ที่ขาไม่ยาวพอจะขึ้นบันได แต่สำหรับแมวอาจจะกันยากเพราะว่าแมวปีนป่ายค่อนข้างเก่ง เวลากั้นอาจจะต้องกั้นให้ครอบทั้งบันไดเลย แต่สำหรับสุนัขกั้นเพียงแค่ไม่ให้ต่ำกว่าการกระโดดก็พอแล้ว สุนัขจะชอบขึ้นลงบ้านตามเจ้าของ เพื่อจะได้ให้อยู่ใกล้ชิดมากที่สุดโดยไม่ได้นึกถึงอันตรายที่อาจจะเกิดจากการขึ้น – ลง บันได โดยเฉพาะสุนัขบางตัวมักจะรีบวิ่งแล้วเบรคไม่ทันเวลาลงจะกลิ้งลงมาทั้งตัวได้รับบาดเจ็บ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้ความซนเหล่านั้นเป็นอันตรายต่อพวกเขาเราก็ต้องป้องกันเอาไว้ก่อน

aid21374-v4-728px-Keep-Cats-from-Chewing-on-Electric-Cords-and-Chargers-Step-16

3.เครื่องใช้ไฟฟ้าสายไฟใครอยู่ให้ห่างสัตว์เลี้ยง

หลายคนที่เราต้องกุมขมับเมื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักเผลอกัด แทะ สายไฟเป็นขนมขัดฟันเล่น หรือบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่วางไว้มุมสูงจะมีเจ้าเหมียวคอยกระโดดขึ้นไปนั่่งเคียงข้างแล้วดันสิ่งของเหล่านั้นตกลงมาแบบหน้าตาไม่เดือดร้อนอะไร  หรือบางครั้งก็เกิดอยากจะทำความสะอาดตัวเองแบบไม่อยากจะเลียขนแล้วไปมุดอยู่ในเครื่องซักผ้า หากเราไม่เห็นอาจจะเผลอปิดฝาขังจอมซนไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ขาดอากาศหายใจถึงขั้นตายได้ในเวลาต่อมา

เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้านที่มองดูแล้วจะเป็นอันตรายสำหรับสุนัข แมว ในบ้านได้ อย่างแรกที่เราต้องทำคือ ถอดปลั๊กออกให้เรียบร้อย อย่างน้อย ๆ หากเราลืมเก็บสายไฟแล้วจอมซน 4 ขา ไปกัดแทะก็ไม่โดนไฟช็อต ไมโครเวฟควรวางในที่ที่ตกลงมาได้ยากและไม่ควรเหลือพื้นที่ข้าง ๆ ไว้ให้แมวนั่งด้วย สำหรับเครื่องซักผ้า หลังใช้งานแล้วถอดปลั๊กปิดฝาให้มิดชิด รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นสายไฟควรเก็บให้เรียบร้อยจัดวางให้เป็นระบบ การเดินสายไฟต่าง ๆ ต้องไม่เกะกะป้องกันไม่ให้เกิดการปีนป่ายลงมาเล่น หรือการเดินสะดุดทั้งสัตว์เลี้ยงและเจ้าของเลย

4-3

4.จัดระเบียบห้องน้ำให้ปลอดภัย

คงไม่ดีแน่ ๆ ที่วันหนึ่งเราไม่ทันได้สังเกตหรือเราไม่อยู่บ้านแล้วน้องหมา น้องแมว เกิดอยากจะลองเปิดประสบการณ์ใหม่ของการกินน้ำขึ้นมา แล้วลื่นลงไปในชักโครกจะขึ้นมาลำบากมาก ยิ่งถ้าเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก แมวตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีแรงตะกายนั้นจะติดแหง็กอยู่ตรงนั้นจนกว่าเราจะมาพบ ถ้าใครออกจากบ้านไปทำงานทั้งวันแล้วปล่อยสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้านตัวเดียว อีกหนึ่งพื้นที่ที่ต้องจัดระบบไว้คือห้องน้ำ ชักโครงปิดฝาให้สนิท อ่างล้างหน้าพยายามอย่าวางของที่เสี่ยงต่อการร่วงแล้วแตก หากมีอ่างอาบน้ำ ไม่ควรเปิดน้ำทิ้งเอาไว้

เก็บของใช้ขนาดเล็ก

5.ของใช้ขนาดเล็กเก็บให้เป็นที่ [อันตรายเก็บให้พ้นมือสัตว์เลี้ยง]

เอะอะ ๆ ก็จับเข้าปากหมด นั่นคือความซนของน้องหมา น้องแมว เห็นอะไรเล็ก ๆ แหลม ๆ เป็นไม่ได้ชอบเล่น ชอบกัด ถ้าหากแทะแล้วคายก็คงไม่อันตรายมากแต่ข้าวของก็เสียหาย บางตัวชอบกลืนเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นขนม หรือเป็นของขัดฟันที่แทะแล้วจะกินได้ หากน้องหมา แมว ไม่ได้เล่นของเหล่านั้น แต่เราวางไม่เป็นที่เก็บไม่เป็นระเบียบเวลาที่สัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นในบ้านมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บจากของใช้เล็ก ๆ ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะ เข็ม ปากกา เครื่องเขียน กระดุม ฯลฯ

ฉะนั้นเมื่อเราใช้แล้วควรเก็บเข้าที่เข้าทางอย่าเอาออกมาวางล่อตาล่อปากสัตว์เลี้ยงจะดีกว่า ขนาดโซฟาตัวใหญ่ โต๊ะตัวแข็ง ยังพากันแทะได้นับประสาอะไรกับของเล็ก ๆ งานนี้ไม่แทะอย่างเดียวมีกลืนเข้าไปด้วย เจ้าของจึงต้องเก็บให้ดี

เก็บยาให้ห่างจากสัตว์เลี้ยง

6.ยาและสารเคมีต่าง ๆ เก็บให้มิดชิดที่สุด

หากในบ้านมียาต่าง ๆ หรือสารเคมีที่อันตรายควรเก็บให้มิดชิดที่สุด เก็บให้มองไม่เห็นเลย เพราะแม้ว่าตัวยาจะอยู่ในบรรจุภัณฑ์แต่ถ้าหากสุนัข แมว เอามาเล่น มากัด แล้วเกิดฝาเปิดออก กล่องทะลุ ตัวสารเคมีรั่วไหล อันตรายอย่างมากต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง แล้วหากมียา หรือสารเคมีเข้าปากกลืนลงไปส่งผลต่อระบบภายในร่างกายแน่นอน ถ้าเราช่วยเหลือไม่ทันทำให้เสียชีวิตได้เลย ไม่ว่ายาต่าง ๆ นั้นจะเป็นสำหรับคนหรือสัตว์เลี้ยงเราก็จะต้องเก็บไว้ให้ดีที่สุด เป็นการป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับจอมซน 4 ขาในบ้านเราเอง

กล้องไร้สาย

7. ติดกล้องภายในบ้านเพื่อสอดส่องดูแล

เมื่อเราจัดบ้านเป็นระเบียบที่สุดเหมาะกับสัตว์เลี้ยงแล้ว แต่ยังมีความเป็นห่วงอยู่กลัวว่าเขาจะเหงาบ้าง หรือเราอาจกำลังอยากรู้ว่าตอนนี้สัตว์เลี้ยงที่รักของเราอยู่สบายดีที่บ้านไหม หลายคนจะนิยมติดตั้งกล้องไร้สายไว้ในบ้าน จะเรียกว่าใช้เป็นหูเป็นตาแทนเราก็ได้  ถ้าเราติดกล้องไว้จะทำให้เห็นพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงในบ้านตามระยะของกล้อง และพิเศษกว่านั้นเรายังพูดคุยกันผ่านกล้องได้ด้วย ทำให้เหมือนกับเราอยู่บ้านกับเขาตลอดเวลา และเมื่อเจ้าของอยากจะนำภาพความน่ารักของสัตว์เลี้ยงมาอวดเพื่อน ๆ บนโลกโซเชียลก็ทำได้เลย เพราะการใช้งานกล้องรุ่นนี้ง่าย ๆ ทำงานผ่านอินเตอร์เน็ตเชื่อมต่อเข้ากับมือถือของเรา ไม่ว่าจะอยู่ไกลกันแค่ไหนก็เหมือนใกล้นิดเดียว

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pawbo ได้ที่  http://www.pawbothailand.com
ติดตามข่าวสารอัพเดทและกิจกรรมของ Pawbo ได้ที่ https://www.facebook.com/pawbothailand

#Pawbothailand #Pawbo

เครดิตข้อมูล
cat&dog academy

เครดิตรูปภาพ
http://www.petsafe.nethttp:
www.improvementscatalog.comhttp:
www.wikihow.comhttp:
www.catster.com

ทำไมแมวชอบเลียขนตัวเองบ่อยครั้ง

เคยสังเกตไหมว่าแมวจะเลียขนตัวเองค่อนข้างบ่อยซึ่งบ่อยมาก มันมีข้อดีสำหรับตัวน้องแมวการถ้าเป็นแมวที่อยู่ในแถบเมืองหนาวการเลียขนเป็นการเก็บความร้อนอย่างหนึ่ง แต่น้องแมวเมืองร้อนนั้นเลียขนไม่ใช่ว่าจะระบายนะครับ แต่ว่าการเลียขนแมวที่โดนแสงแดดมานั้นเป็นการรับเอาวิตามิน D ที่เป็นประโยชน์เข้าร่างกายนะเออ การเลียขนจึงเป็นการกินวิตามินนั่นเอง

แมวเลียขน

แล้วแมวระบายความร้อยยังไงล่ะ ?

ก็เช่นกันเลียขนนั่นแหละเพียงแต่ว่าไม่ได้ระบายออกมาทางตัว แต่ออกมาทางปาก ทางลิ้น ทางน้ำลายที่เลียนั่นเอง พอร้อนมาก ๆ น้องแมวก็จะเริ่มเลีย เลีย และก็เลียจนเปียกไปหมดเลยน้ำลายจะเริ่มมีการระเหยออกมานั่นเป็นการระบายความร้อนของแมว
แมวเลียขน

แมวเครียดก็เลียขนเหมือนกัน

หากน้องแมวมีอาการเครียด กังวล ก็จะเริ่มเลียขนหากจะเทียบกับคนเราก็จะเป็นลักษณะเกาหัว ทำนองคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง อีกอย่างคือ เดี๋ยวขนน้องแมวจะไม่สวย หลังจากที่โดนจับ โดนอุ้ม โดนอะไรมาต่าง ๆ นานา ก็จะเลียขน แต่เหตุผลจริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่แมวห่วงสวยแต่เป็นการปรับกลิ่นตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง เช่น เวลาโดนอุ้มก็จะมีกลิ่นคนอุ้มติดมาด้วยแมวไม่อยากได้เลยต้องเลียขนให้มีกลิ่นของตัวเองเหมือนเดิม

แมวเลียชนทำไม

เลียขนบอกรัก

หากแมวมีการเลียขนให้กันและกันแปลว่ามันรักกัน เช่น แม่แมวเลียขนให้ลูกแมว พี่น้องแมวเลียขนให้กับ แม่แมวจะสอนลูกแมวให้เลียขนเป็น แมวที่โตมาด้วยกันรักกันก็มักจะเลียขนให้กันด้วยโดยจะเลียในส่วนที่ลิ้นตัวเองไปไม่ถึงนั่นเอง
แมวรักกัน

การเลียขนของแมวเรียกว่า อะไร ?

แมวเลียขนเรียกว่าการล้างสางขนซึ่งจะมีอยู่ดังนี้

  • เลียขนหางตั้งแต่โคนหางไปจนถึงปลายเลย
  • เลียหลังเท้า
  • เลียอวัยวะเพศ
  • เลียขาหน้า เลียไหล่
  • เสียปาก
  • เสียข้างอุ้งเท้า
  • เอาอุ้งเท้าที่ถูกเลียเปียกแล้วไปถูกับหู แก้ม คาง (ส่วนที่เลียไม่ถึง)

เป็นการเลียขนที่บอกอะไรได้หลายอย่างเหมือนกันสำหรับน้องแมว หายสงสัยกันหรือยังครับว่าทำไมน้องแมวจึงชอบเลียขนบ่อย ๆ แมวเป็นสัตว์ที่โลกส่วนตัวสูงนะแต่ดูเหมือนว่าจะอะไร ๆ ก็ชอบเลียขนคิดแล้วก็น่ารักดี

 

เครดิตข้อมูลจาก : กระปุกดอทคอม

 

ดีไหม หากสามารถพาเจ้าเหมียวไปที่ทำงานได้?

 

ดีไหม หากสามารถพาเจ้าเหมียวไปที่ทำงานได้?
บริษัทแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเชื่อว่าแมวช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ จึงอนุญาตให้พนักงานสามารถเอาแมวไปเลี้ยงที่ออฟฟิศในเวลางาน นอกจากนี้ผู้บริหารบริษัทยังตั้งงบประมาณราว 2,000 บาทไว้ให้พนักงานที่ต้องการรับแมวจากสถานสงเคราะห์สัตว์มาเลี้ยงด้วย
พนักงานบอกว่า แมวที่เชื่องและเป็นมิตรช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน แต่ขณะเดียวกันการปล่อยให้เจ้าเหมียวสามารถเดินไปมาภายในสำนักงานได้อย่างอิสระนั้นก็สร้างความปวดหัวอยู่ไม่น้อย เพราะแมวมักชอบเดินเหยียบย่ำไปบนโต๊ะทำงาน แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ และบางครั้งยังปิดคอมพิวเตอร์ด้วย

 

เครดิตข้อมูล
http://www.bbc.com

ทำไมลูกแมวที่เกิดมาสีไม่เหมือนพ่อในบ้านของมัน

petsayhi_cat_color_by_mom2
เจ้าของบ้านที่เป็นทาสแมวนั้นจะต้องเกิดความสงสัยอย่างแน่นอนว่าทำไมเจ้าแมวเหมียวของคุณที่คลอดออกมานั้นทำไมถึงไม่มีสีเหมือนพ่อหรือแม่ที่อยู่ในบ้านเลย คุณเคยนับลูกแมวที่คลอดออกมาแล้วดูสีมันไหมล่ะ บางตัวก็มีสีดำ บางตัวก็มีสีเทา ทั้งๆ ที่พ่อ และแม่ของมันที่อยู่ในบ้านนั้นมีขนสีทองด้วยกันทั้งคู่ มันจึงทำให้ทาสแมวอย่างคุณเกิดความสับสนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับลูกทูนหัวกันให้มากขึ้นว่าทำไมตอนที่พวกเค้าคลอดออกมาแล้ว ทำไมถึงไม่มีสีเหมือนพ่อแม่ในบ้านกันแน่?

petsayhi_cat_color_by_mom

แม่แมวสามารถติดลูกได้หลายครั้ง
หลังจากที่แม่แมวได้ผสมพันธุ์กับพ่อแมวในบ้านเป็นที่เรียบร้อย และเกิดการปฏิสนธิไปแล้วนั้น แม่แมวสามารถเกิดการปฏิสนธิขึ้นได้อีกหลายครั้งถ้าหากว่ามีการผสมพันธุ์กันอีก ทำให้แม่แมวได้รับตัวอสุจิจากแมวตัวผู้มาได้ในครั้งที่สอง หรือสาม หรือในครั้งถัดไปได้ ซึ่งแม่แมวอาจจะไปมีกิ๊กนอกบ้าน โดยเจ้าเหมียวที่มาผสมพันธุ์นั้นอาจจะไม่ใช่พ่อแมวในบ้านเสมอไป อีกทั้งแมวนั้นก็ไม่เหมือนคนที่เมื่อไหร่เกิดการปฏิสนธิแล้วจะต้องรอให้ครบ 9 เดือนจึงจะมีลูกได้อีกครั้ง แล้วนี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลที่แม่แมวคลอดลูกออกมาแล้วมีหลายสี และไม่เป็นสีเหมือนพ่อแมวแม่แมวในบ้านนั่นเอง
แม่แมวไม่จำเป็นต้องมีกิ๊กเสมอไป

petsayhi_cat_color_by_mom1

การที่ลูกแมวที่หลากหลายสีนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าพ่อแมว และแม่แมวมีกรรมพันธุ์สีอื่นๆ ทำให้ลูกแมวที่คลอดออกมานั้นมีสีอื่นๆ ที่ไม่เหมือนพ่อแมว และแม่แมวในบ้าน โดยอาจจะเป็นสีเดียวกับสีของบรรพบุรุษของพวกเค้า เช่น ปู่ ยา ตา ยาย ของพ่อแมวแม่แมวนั่นเอง ฉะนั้นเมื่อไหร่ที่แม่แมวคลอดลูกออกมาหลากสีอย่าพึ่งโมโหแล้วคิดไปเองล่ะว่าแม่แมวจะมีกิ๊กนอกบ้านทุกครั้งเสมอไป

เครดิตรูปภาพ

s-media-cache-ak0.pinimg.com

tigatails.co.uk

y0os.tumblr.com

 

Posted in CAT

ทำไมแมวถึงไม่ชอบอาบน้ำ?

petsayhi_cat_unlike_shower

เมื่อไหร่ที่ถึงเวลาแดดออก หรืออากาศร้อนๆ ทาสแมวหลายคนมักจะคิดเสมอว่าควรให้เจ้าเหมียวอาบน้ำ เพราะคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมียวน้อยของคุณควรได้รับการทำความสะอาดเหมือนกับสุนัข และอาจจะทำให้การอาบน้ำนั้นเป็นไปได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ถ้าหากว่าให้แมวเหมียวของคุณมาอาบน้ำในช่วงฤดูร้อนที่แดดจัดๆ แบบนี้ แต่การอาบน้ำในแต่ละครั้งนั้นมันไม่ได้ง่ายเลย แถมยังยากกว่าการจับเจ้าตูบมาอาบน้ำในห้องน้ำซะอีก

เอาล่ะ…เราจะมาดูว่า ทำไม๊ ทำไม ทูนหัวของบ่าวของคุณถึงไม่ชอบอาบน้ำเอาซะเลย!

petsayhi_cat_unlike_shower2ทูนหัวของบ่าวไม่ชอบอาบน้ำ?
นั่นก็เป็นเพราะว่าทูนหัวแมวเหมียวของคุณนั้นไม่มีเส้นขนที่สามารถกันความเย็นจากน้ำได้ อีกทั้งผิวหนังของเจ้าแมวเหมียวนั้นก็ยังบาง ทำให้แมวเหมียวของคุณไม่สามารถทนได้กับอุณหภูมิของน้ำได้ ถึงแม้ว่าคุณจะใช้น้ำอุ่นในการอาบให้ก็ตาม เพราะฉะนั้นคุณควรทำความเข้าใจใหม่ซะว่าบางครั้งการอาบน้ำนั้นอาจจะทำให้ทูนหัวหนวดยาวของคุณไม่สบาย หรือร้องโวยวาย และโกรธคุณไปหลายวันได้เลยทีเดียวนะ

วิธีการทำความสะอาดของทูนหัวคืออะไร?

petsayhi_cat_unlike_shower1
วิธีการอาบน้ำของแมวเหมียวก็คือการที่เค้าได้เลียขนของพวกเค้าเอง โดยไม่ต้องใช้น้ำในการอาบเลย ด้วยการที่เจ้าเหมียวเค้ามีลิ้นสากๆ ที่สามารถเลียขนให้ยาวสวย และเลียเอาสิ่งสกปรกออกไปได้นั้นทำให้พวกเค้าไม่จำเป็นต้องอาบน้ำเลย ซึ่งแมวจะใช้เวลาในการเลียขนนานมาก พอตื่นมาก็จะเลีย จะนอนก็จะเลีย เพราะนั่นคือการทำความสะอาดของพวกเค้ายังไงล่ะ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าญาติๆ ตระกูลของแมวเหมียว เช่น สิงโต เสือ พวกเค้าก็ไม่ชอบอาบน้ำเหมือนกันนั่นแหละ เพราะพวกเค้าสามารถใช้ลิ้นในการทำความสะดวกเนื้อตัวได้โดยไม่ต้องง้อน้ำกับสบู่เหมือนเหล่าทาสแบบคุณหรอก

 

เครดิตรูปภาพ;cuteandwuvely.com,cute-pets.club,cygstarz.hubpages.com

ทำไมน้องเหมียวมีเสียงพรือๆ ในลำคอ?

petsayhi_ทำไมน้องเหมียวมีเสียงพรือๆในลำคอเครดิตรูปภาพ;tumblr.com

ทาสแมวที่อยู่กับแมวเหมียวจะต้องเคยได้ยินเสียงนี้กันใช่ไหมล่ะ? ซึ่งเสียงที่ว่าเนี่ยเป็นเสียงที่ดังเหมือนเจ้าเหมียวของเรากำลังเป็นหวัด ไม่ว่าจะหายใจเข้าหรือหายใจออกก็จะมีเสียงนี้อยู่ในลำคอ จนบางคนก็ทำให้ทาสแมวหลายคนไม่อยากให้น้องเมียวเข้าใกล้เด็กๆ เพราะกลัวว่าน้องเหมี่ยวจะแพร่เชื้อโรคจากเสียงนี้ไปสู่เด็กๆ เราจะมาดูกันว่าเจ้าเสียงพรือๆ ที่ว่าเนี่ยที่แท้จริงแล้วมันเป็นเสียงอะไรกันแน่?!

สรุปมันคือเสียงอะไรกันนะ?
เสียงที่ว่านี้ฝรั่งเค้าจะเรียกว่าเสียง Pur ซึ่งเป็นเสียงที่แมวเหมียวของคุณส่งเสียงออกมาดังพรือๆ เหมือนคนที่กำลังนอนกรนนั่นแหละ หลายคนเข้าใจไปว่าการที่แมวส่งเสียงนี้ออกมาแปลว่าเจ้าเหมียวกำลังเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อไหร่ที่เหมียวของคุณส่งเสียงนี้ออกมา แสดงว่ามันกำลัง “มีความสุข” อยู่ต่างหาก และมันอาจหมายความได้อีกว่าเจ้าเหมียวกำลังเกิดการผ่อนคลาย ไว้ใจ และมีความสุขในช่วงที่ส่งเสียงออกมานั่นเอง
เสียงพรือๆ หมายถึงเค้ากำลังมีความสุข และกำลังผ่อนคลาย

สำหรับเจ้าของแมวที่ได้ยินเสียงนี้ออกจากลำคอของแมวเหมียวให้สังเกตดูว่าเมื่อไหร่ที่คุณได้ยินสียงนี้ส่วนมากเจ้าเหมียวของคุณมักจะส่งเสียงตอนที่กำลังนอน หรือตอนที่ได้อยู่ใกล้กับคุณ ทาสแมวหลายคนจึงหายห่วงได้เลยว่าแมวเหมียวของคุณกำลังจะเป็นโรค เพราะอันที่จริงแล้วทูนหัวของคุณกำลังมีความสุขมากๆ เลยทีเดียวล่ะ โดยเฉพาะที่แมวเหมียวคลานขึ้นไปอยู่บนตัวคุณแล้วส่งเสียงนี้ออกมา นั่นหมายความว่าเค้ามีความสุขมากๆ เลยที่ได้นอนอยู่บนพุงของคุณ หรือนอนอยู่ใต้ผ้าห่มกับคุณยังไงล่ะ

petsayhi_ทำไมน้องเหมียวมีเสียงพรือๆในลำคอ2เครดิตรูปภาพ; the-crazy-cat.com

การเตรียมสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน

การเตรียมสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน

ใครจะพาน้องเดินทางไปไหนด้วยเครื่องบินลองศึกษาดูนะครับ น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมาก

เคล็บลับการเปลี่ยนอาหาร

เมื่อน้องหมาน้องแมวเราเริ่มไม่กินอาหารยี่ห้อเดิม สูตรเดิม หรือกินน้อยลง อาจเป็นไปได้ว่าน้องอาจจะมีอาการการเบื่ออาหารตัวเดิมแหละ (ไม่เสมอไปนะครับ บางตัวอาจจะไม่สบายก็ได้ เจ้าของควรสังเกตน้องดีๆนะครับ) หน้าที่ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างพวกเรา จะทำงัยดี

1.อาจจะหาอาหารชนิดเปียกมาผสมกับอาหารเม็ดให้น้อง

อาหาร

2.เพิ่มความน่าทานราดด้วยน้ำเกรวี่ราดอาหาร

กี่วี

3.ถ้ายังไม่ทานอีก อาจจะต้องเปลี่ยนยี่ห้ออาหารให้น้องไปเลย

อาหารสุนัข

 

การเปลี่ยนอาหารยี่ห้อเก่าไปยี่ห้อใหม่ให้กับน้องสัตว์เลี้ยงของเรา

เพื่อป้องกันการท้องเสีย และให้สุนัขคุ้นเคยกับอาหารใหม่ได้ง่าย เราจะใช้เวลาประมาณ 7 วันในการเปลี่ยนแปลงอาหาร

วันที่ 1-2 อาหารเก่า 75%   อาหารใหม่ 25%

วันที่ 3-4 อาหารเก่า 50%  อาหารใหม่ 50%

วันที่ 5-6 อาหารเก่า 25%  อาหารใหม่ 75%

วันที่ 7 อาหารใหม่ 100%

สัดส่วนการแบ่งอาหาร

 

เครดิตรูปภาพ
royalcanin
hunsa.com

ความเป็นพิษของพาราเซตามอลในสุนัขและแมว

petsayhicat

พาราเซตามอล (paracetamol) หรือ acetaminophen เป็นยาระงับปวดและลดไข้ที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ตั้งแต่ พ.ศ.2436 แต่ได้รับความนิยมเมื่อ 50 ปีหลังจากนั้น (Kolf-Clauw and Keck, 1994) พาราเซตามอลเป็นยาที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในคน เนื่องจากมีข้อดีกว่าแอสไพรินตรงที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุกระเพาะ และไม่มีผลต่อการเกาะตัวของplatelets จึงไม่ทำให้เกิดแผลหลุมในกระเพาะและไม่ทำให้การแข็งตัวของเลือดเสียไป อย่างไรก็ตามพาราเซตามอลไม่มีผลในการลดอักเสบเหมือนแอสไพริน จึงไม่สามารถใช้ในการลดการอักเสบของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ หรือข้ออักเสบได้ (Hjelle and Grauer, 1986)

paracetamol_variety_WEB
จากการที่พาราเซตามอลเป็นยาสามัญประจำบ้านที่สามารถซื้อหาได้ทั่วไปโดยไม่ ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ ทำให้คนนิยมใช้เพราะหยิบฉวยได้ง่าย และคิดว่าเป็นยาที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย ข้อความนี้อาจเป็นจริงในคนเมื่อใช้ในขนาดที่แนะนำ แต่ไม่เป็นจริงในสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะในแมว ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไวต่อความเป็นพิษจากพาราเซตามอล อาการของความเป็นพิษในแมวอาจสังเกตเห็นได้หลังจากแมวได้รับ regularstrength tablet* เพียงครึ่งเม็ดหรือเพียง163 มิลลิกรัมเท่านั้น (Hjelle and Grauer, 1986) ทั้งนี้อาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าของที่เอายาให้แมวกินเพื่อ แก้ไข้
จากสถิติของศูนย์ควบคุมความเป็นพิษในสัตว์แห่งชาติ ที่สหรัฐอเมริกา พบว่า ความเป็นพิษจากยาที่เกิดขึ้นในแมว 50%มีสาเหตุมาจากพาราเซตามอล (Haliburton and Buck, 1983) จึงมีคำแนะนำว่าไม่ควรให้พาราเซตามอลกับแมวไม่ว่าในกรณีใดๆ (Ilkiw and Ratcliffe, 1987)จะเห็นได้ว่าความเป็นพิษในแมวเกิดจากความตั้งใจดีของเจ้าของ แต่ในสุนัขมักเกิดจากการรื้อค้นยาที่เจ้าของเก็บไว้อย่างไม่ระมัดระวัง และกินยาจำนวนมากเข้าไป จนเกิดความเป็นพิษ ซึ่งจะพบเมื่อสุนัขกินพาราเซตามอลในขนาดที่สูงกว่า 200 มก./กก. (Savides et al., 1984)การเปลี่ยนแปลงของยาและการเกิดพิษ

 

เครดิตข้อมูล

แหล่งที่มา:  http://www.vet.chula.ac.th/

เครดิตรูปภาพ

http://www.thetimes.co.uk/