[มีคำถาม] ทำไมแมวชอบเอาตัวมาคลอเครียขามนุษย์ ?

แมวเป็นสัตว์ที่มีต่อมกลิ่นเฉพาะตัวของมันแทบจะทั่วร่างกายเลย และเวลามันต้องการจะแสดงความเป็นเจ้าของกับอะไรสักอย่าง แมวจะเริ่มเลีย คลอเครีย เข้าใกล้อย่างมากเลย เราจึงเห็นบ่อย ๆ ที่เเมวมักจะเอาตัวของมันหรือสีข้างมาถู ๆ ไถ ๆ ขาของเรานั่นเองครับ

ต่อมกลิ่นของแมวมีส่วนไหนบ้าง ?

อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่ามีแทบจะทั่วตัวเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น สีข้าง หาง ริมฝีปาก หน้าผาก ของแมว ไม่ว่ามันจะเอาส่วนไหนมาสัมผัสก็มีกลิ่นของมันติดมาด้วยแน่นอน แมวมันก็มีความเป็นส่วนตัวและต้องการแสดงความเป็นเจ้าของกับหลาย ๆ อย่างเหมือนกันนะครับเพียงแต่การแสดงออกของมันนั้นอาจจะเป็นเหมือนลูกอ้อนมาก ๆ ก็ตาม

ถ้าหากว่าแมวที่เป็นคุณหรือมีแมวที่ไหนกำลังเอาตัวมาถู ๆ คลอเครียขาคุณอยู่ แสดงว่ามันสนใจคุณมาก ๆ หากเป็นแมวที่เลี้ยงเองก็แปลได้ว่ามันรักคุณมากมายเลย และมันกำลังแสดงความเป็นเจ้าของกับคุณอยู่ จงดีใจไว้เลยว่าแมวก็ไม่ได้เมินมนุษย์เสมอไปนะ มีมุกที่แมวเองก็เรียกร้องความสนใจเหมือนกัน (จะไม่บางอารมณ์ของแมวแต่ละตัวก็ตามที) เราควรจะดีใจนะครับที่แมวมาคลอเครียร์ใกล้ ๆ แสดงว่าชนะใจแมวได้แล้วล่ะครับ

อย่างไรก็ตามไม่ว่าแมวจะทำอะไรอยู่แบบไหน ในฐานะเจ้าของและทาสเเมวโดยสมบูรณ์อย่าลืมให้ความสำคัญกับมันด้วยนะครับ หากเรารักมันมาก ๆ มันเองก็คงจะรักเราไม่ต่างกันครับผม

ทำไมแมวใช้เวลาหมดไปกับการนอน 17 ชั่วโมงต่อวัน

เคยสังเกตไหมครับในแต่ละวัน หนึ่งวันบรรดาแมว ๆ ทั้งหลายใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง ส่วนใหญ่เราจะเห็นเหล่าแมวตัวป่วนทั้งหลายนิ่งสนิทหลับ เคลิ้มอยู่ ณ ส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ขอบหน้าต่าง ขอบกำลังแพง เก้าอี้ โซฟา เตียงนอน คอนโดแมว โต๊ะอาหาร หลังตู้เย็น หลังคาบ้าน และอื่น ๆ ทุกที่เป็นที่นอนได้หมดเลยสำหรับแมว ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่สูง ๆ เสียด้วย ทำไมกันนะแมวถึงชอบนอนอะไรมากขนาดนี้

ทำไมแมวชอบนอน ?

ขนาดมนุษย์เรายังบอกว่าการนอนหลับคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดเลยจริงไหมครับ ถ้าเช่นนั้นแมวก็โคตรได้พักผ่อน หลับสบาย สุด ๆ เลย 1 วัน แมวนอนยาวรวมกว่า 17 ชั่วโมง โอ้โห้ จะนอนกินประเทศกันเลยหรอ ? ห้ามไม่ได้นะครับก็ในเมื่อการนอนเป็นกิจวัตรประจำที่น้องแมวชอบทำอยู่แล้วนั่นเอง อาจจะอารมณ์ประมาณว่า ถ้าไม่นอนจะให้แมวทำอะไร

นิสัยการนอนของแมวนั้นคงติดมาจากบรรพบุรุษแมวที่เป็นแมวป่ามาก่อน แต่ไม่ชอบการออกหาล่าเหยื่อ ยกเว้นเวลาหิวเลยเอาเวลาที่เหลือ ๆ นี้มาหมดไปกับการนอนแล้วก็นอนนั่นเองครับ กินอิ่มแล้วก็ต้องนอน เล่นเสร็จแล้วก็หาที่นอน เบื่อการเล่นกับมนุษย์แล้วก็นอน แมวตัวไหน ๆ ก็ชื่นชอบการนอนเป็นชีวิตจิตใจ มันจึงกลายเป็นเรื่องปกติของบรรดาแมวทั้งหลายที่เป็นแมวขี้เซากันทุกตัวเลยครับ

เวลาแมวหลับมันก็น่ารักดีนะครับ เหมือนโลกกับมาสู่ความสงบสุขอีกครั้ง แต่เวลาแมวตื่นคุณจะต้องมาสนใจแมวนะครับผม เพราะมันจะต้องการเรียกร้องความสนใจอย่างมากเลยทีเดียว  บ้านไหนที่เลี้ยงแมวก็อย่าลืมจัดหาสถานที่และที่นอนแมวไว้ให้พร้อมนะครับ เพราะการนอนคือสิ่งสำคัญมากสำหรับน้องแมวเลยครับ

[มีคำถาม] ทำไมแมวต้องร้อง เหมียว เหมียว ?

อาจจะเป็นเรื่องปกติของแมวที่จะต้องมีเสียงร้อง เมี็ยว ๆ เหมียว ๆ เราต่างก็คุ้นชินกับเสียงร้องเหล่านั้นดีจริงไหมครับ  แต่มีข้อสงสัยกันบ้างไหมครับ อาจจะสงสัยแบบจริงจังหรือสงสัยกันเล่น ๆ ก็ได้ ทำไมแมวต้องร้องเหมียว ๆ หรือ ทำไมมันต้องร้อง หรือว่ามันอยากร้องก็ร้องแบบไม่มีความหมายอะไรกันนะ

แมวรู้จักที่จะสร้างเสียงร้อง เมี็ยว เมี็ยว ตั้งแต่เกิดมาเลย คงเป็นสัญชาติญาณที่ติดตัวมาด้วยนั่นแหละครับ แมวอยู่ดี ๆ มันจะไม่รู้หรอก เพราะสำหรับความเป็นแมวแล้วชอบอยู่ในโลกส่วนตัวมากกว่า ยกเว้นแต่ว่าต้องการให้คนสนใจหรือกำลังรู้สึกอะไรบางอย่างอยู่

แมวร้อง ก็เหมือนคนเราเวลาพูดนั่นแหละครับ ทำไมแมวถึงร้องเหมียว เหมียว มันกำลังแสดงอาการหรือกำลังบอกถึงอารมณ์ของมันอยู่  เวลาที่พอใจก็ร้อง เวลาไม่พอใจก็ร้องอยู่ดี หรือเวลาอยากอาหาร เวลาหิว ก็ร้อง สรุปคือ เวลาแมวร้องมันคนต้องการอะไรสักอย่างอยู่แน่นอนเลยครับ

หากเจ้าตัวป่วนที่บ้านของคุณร้องเหมียว ๆ ลองสังเกตจากน้ำเสียงได้ครับว่ามันกำลังพอใจหรือไม่พอใจ หรือต้องการอะไร ต้องอาศัยวิจารณญานร่วมด้วยเลยครับ เพราะเราอาจจะดูไม่ค่อยออกว่ามันร้องเพราะอะไรกันแน่ แต่ถ้าหากเป็นแมวของเราที่เลี้ยงมาก็คงจะดูไม่ยากแน่นอน หรือลองถามแมวดูซิ ที่ร้องเนี่ย ต้องการอะไรจากมนุษย์หรอ ? มันอาจจะจ้องตาเราแล้วร้อง ม๊าววว ให้คำตอบก็ได้นะครับ

เห็นลายบนตัวข้ามั้ยเจ้ามนุษย์ ข้าเป็น “เสือ” ในร่างแมวรู้ไว้ซะ

วันนี้มีความลายเสือมาฝากครับ มีท่านใดเคยเห็นแมวที่ลายเหมือนเสือ หน้าตาดูผ่าน ๆ นี่มันเสือชัด ๆ แต่เป็นเสือฉบับมินิมอลมากเลย เพราะคงเป็นเสือตัวเท่าแมว วันนี้ผมมีเจ้าแมวลายเสือสายพันธุ์เบงกอลมาฝากครั้ง เป็นเน็ตไอดอลเเมวอีกตัวที่มีคนพูดถึงค่อนข้างเยอะเหมือนกัน เจ้านี่ชื่อ  Thor  ครับ เป็นแมวจากประเทศเบลเยี่ยมมาดูความน่ารักของมันกันดีกว่า

มองข้าทำไมเจ้ามนุษย์ ไม่เคยเห็นเสือหรอ ?

มีอะไรกินมั่ง เอามาซิมนุษย์ อย่าให้ข้าต้องคำราม

คิดการใหญ่ต้องใจนิ่ง

เขี้ยวเล็บต้องหมั่นฝึก(ฝน) เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน

ยอมอ่อนข้อเพื่อล่อเหยื่อ โฮ่ ๆ

อย่าเข้ามานะ ดูเขี้ยว ซะก่อน เหอะ ๆ

ของีบสักแป๊ปนะ

เคยเห็นเสือในสารคดีนอนแบบนี้บ่อย ๆ (เอามั่ง)

บริหารร่างกายสักหน่อย อึ๊บ ๆ

แล้วก็นอน สิ!!

แค่กรงเล็บกับสายตา ใครผ่านมาจำต้องสยบ

เป็นไงครับสำหรับเสือน้อยตัวนี้ สายพันธุ์นี้นะครับเป็นแมวที่ถูกพัฒนามาอีกทีจาก Egyptian Mau มาผสมกับแมวดาว Asian Leopard Cat จนออกมาเป็นเจ้าเสือน้อยลายนี้ ชื่อสายพันธุ์เบงกอลนี่เอง  ใครอยากจะตามไปดูความน่ารักของเจ้า Thor ก็ไปตามต่อที่ไอจี  bengalthor นะครับผม

ขอบคุณภาพจาก : IG: bengalthor

ทำไมแมวถึงกลัวน้ำมากกว่าสุนัข?

เคยไหมเวลาที่ทาสแมวอย่างเราจับน้องเหมียวไปอาบน้ำแล้วเขาจะต้องร้องเสียงดังหรือบางทีก็ข่วนคุณในตอนที่คุณยกขันน้ำมาอาบให้กับเขา อีกครั้งหลังบ้านนั้นเลี้ยงน้องเหมียวกับน้องถูกไปด้วยกันจึงทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าทำไมน้องเหมียวถึงกลัวน้ำมากกว่าสุนัข ทั้งๆ ที่สัตว์ทั้ง 2 ประเภทนี้ก็อยู่ด้วยกันได้และเป็นสัตว์ที่มีขนเหมือนกัน เอาล่ะเราไม่อยากปล่อยให้ทาสแมวอย่างคุณคิดเข้าข้างตัวเองไปมากกว่านี้เราเลยมาบอกคำตอบที่ถูกต้องให้กับคุณได้รู้กัน

ความจริงของแมวที่กลัวน้ำ

http://cheezburger.com

ความจริงของน้องเหมียวนั้นเขาไม่ได้กลัวน้ำเลยสักนิด คุณอาจจะเคยเห็นน้องเหมียวที่ว่ายน้ำในสระกับเจ้าของหรือแม้กระทั่งเล่นน้ำกับน้องหมาในสระตาม youtube หรือ facebook  นั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าน้องเหมียวไม่ได้กลัวน้ำอย่างที่คุณคิดหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าผิวหนังของพวกเขาบอบบางมาก และสามารถทนอุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดไม่ได้เลย ทำให้เมื่อไหร่ที่คุณพาเขาไปอาบน้ำด้วยน้ำเย็นจะทำให้พวกเขารู้สึกหนาวมากกว่าคนเรา หรือถ้าคุณพาเขาไปอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นก็จะทำให้พวกเขารู้สึกร้อนมากกว่าที่เรารู้สึกนั่นเอง

น้องแมวทุกตัวไม่ได้กลัวน้ำและไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่สามารถอาบน้ำได้เลยตลอดทั้งชีวิต เพียงแค่คุณจะต้องอาศัยช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือวันที่สภาพอากาศร้อนๆ ให้เขาได้อาบน้ำอุณหภูมิปกติ หรือถ้าวันไหนที่อากาศเย็นคุณก็ควรให้เขาอาบน้ำที่อุ่นเด็กน้อยเพื่อให้เขาสามารถปรับอุณหภูมิในร่างกายของตัวเองได้ทัน

 

Credit feature image: www.wovely.com

แปรงขนน้องเหมียวทุกวันดีมัย?

ทาสแมวคนไหนที่มีเวลาว่างหรือรักความสะอาดมากเป็นพิเศษนั้นพวกเขาจะต้องคิดถึงการอาบน้ำให้น้องเหมียวและการแปรงขนให้กับน้องเหมียวอยู่ตลอดเวลาใช่ไหมล่ะ แม้กระทั่งคุณเองก็คิดเหมือนกันใช่ไหมละว่าจะต้องเป็นคนให้กับน้องเหมียวทุกวันเลยหรือเปล่า

เราต้องแปรงขนให้กับน้องเหมียวทุกวันไหม?

www.89cats.tumblr.com

การแปรงขนให้กับน้องเหมียวนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันเป็นการช่วยให้ขนของน้องเหมียวเรียงตัวกันได้อย่างสวยงามมากขึ้น แล้วยังเป็นวิธีการที่ทำให้ขนที่หลุดร่วงได้ออกมาจากตัวของน้องเหมียวในตอนที่คุณแปรงได้เลยทันที ไม่ต้องรอให้น้องเหมียวไปนอนบนโซฟาหรือที่นอนแล้วขนไปล่วงบนพื้นที่เหล่านั้นแทน ทาสแมวหลายคนก็คิดว่าการแปลงขนให้กับน้องเหมียวนั้นมันดีและเป็นการช่วยสร้างความสวยงาม และสุขภาพดีให้กับขนของน้องเหมียว

ฉะนั้นคุณก็ควรแปรงขนให้กับน้องเหมียวบ่อยๆ เพราะคุณควรให้ เพียงแค่คุณใช้แปรงในการแปรงขนให้กับเขาทุกวันก็เป็นการช่วยทำให้ตัวของพวกเขาสะอาดมากขึ้น มีขนที่เรียบเนียนสวย แล้วยังเป็นการช่วยให้คุณเหมียวไม่ต้องกลืนขนเข้าไปในท้องเวลาเลียขนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

 

Credit feature image: www.s-media-cache-ak0.pinimg.com

ฤดูติดสัตว์ของน้องเหมียวคือช่วงไหน?

หนึ่งในช่วงที่จะต้องสร้างความปวดหัวให้กับ ทาสแมวทั้งหลายนั่นก็คือฤดูติดสัดของน้องเหมียวนั่นเอง ทาสแมวอย่างคุณรู้หรือเปล่าว่าฤดูติดสัดของน้องเหมียวนั้นอยู่ในช่วงไหนบ้างแล้วอาการของน้องเหมียวที่แสดงออกมาจะมีลักษณะอย่างไร ทาสแมวมือใหม่ที่อยากรู้หรือทาสแมวมือเก่าที่ยังไม่รู้มาไขปริศนาข้อนี้ได้เลย

ฤดูติดสัดของเจ้าเหมียว

www.etsy.com

ในช่วงฤดูร้อนของทุกๆ ปีนั้นจะเป็นฤดูติดสัดของน้องเหมียว ซึ่งมันก็คือในช่วงประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายนนั่นเอง ซึ่งอาการที่แสดงออกมาจะนานถึง 1 ถึง 2 อาทิตย์ แล้วหลังจากนั้นอาการของน้องเหมียวจะเว้นระยะออกไปแต่ถ้าหากว่ายังอยู่ในช่วงของฤดูติดสัดก็อาจจะกลับมามีอาการได้ถ้ายังไม่ได้ผสมพันธุ์

อาการของเจ้าเหมียวที่ติดสัด

www.catster.com

 1  เจ้าเหมียวเพศเมียจะมีอาการติดสัดแสดงออกมาโดยจะร้องเสียงดังเพื่อเรียกหาเจ้าเหมียวตัวผู้ให้มาผสมพันธุ์ตลอดทั้งตอนเช้าและตอนเย็น

2 เมื่อเจ้าเหมียวร้องง้าวๆ เสียงดังแล้วคุณเอามือไปลูบที่ตัวของเขาเขาจะกงบริเวณก้นขึ้นแล้วซอยขาไปมา

3 สำหรับเจ้าเหมียวตัวผู้นั้นจะแต่เมื่อเขาได้ยินเสียงร้องของเจ้าเหมียวตัวเมียเขาก็จะร้องเสียงง้าวๆ ตอบกลับแล้วพยายามตามหาต้นเสียง

เมื่อไหร่ที่ถึงฤดูร้อนแล้วเจ้าเหมียวที่บ้านของคุณแสดงอาการเหล่านี้ออกมาแล้วเราก็นั่นหมายความว่าเขาอาจกำลังอยู่ในช่วงติดสัดอยู่ก็ได้เพราะฉะนั้นให้คุณดูแลน้องเหมียวที่บ้านให้เป็นอย่างดีหรืออาจจะพาไปทำหมันหลังจากที่เขาอายุได้ 5-6 เดือน และมีน้ำหนัก 2 กิโลกรัมขึ้นไป

 

Credit feature image: www.thiswaycome.com

ต้องเป็นแมวที่ ป่วย และ แก่ เธอคนนี้ถึงจะเลี้ยง มาติดตามเรื่องราวความแปลกนี้กัน

การรับเลี้ยงแมวสำหรับคนทั่วไปอาจจะอยากได้ตัวที่น่ารัก ๆ เชื่อง ๆ เลี้ยงง่าย ดูแลง่าย แต่สำหรับเธอคนนี้ Dominique Weiser มันต้องไม่ธรรมดาในการรับเลี้ยงแมว เธอเป็นหญิงสาวชาวนครเบอร์ลิน เงื่อนไขในการรับเลี้ยงแมวของเธอที่แจ้งแก่สถานพักพิงนั้นจะต้องแก่ หรือไม่สบาย คือจะต้องเป็นแมวที่ต้องได้รับการดูแลแบบพิเศษ ๆ นั่นเอง นับถือใจเธอแล้วล่ะครับ

เธอได้แมวตัวไหนมาเลี้ยง ?

โชคชะตาฟ้ากำหนด หรือแมวกำหนดไม่รู้ครับในระหว่างที่เธอกำลังเดินอยู่ในศูนย์พักพิงนั้น มีแมวตัวหนึ่งที่พยายามเรียกร้องความสนใจและพยายามเอาหัวมันกระแทกกับกรงเพื่อให้ได้ออกไปหาเธอ มันคือเจ้า Noodle และเจ้าหน้าที่ก็เปิดกรงออก มันวิ่งตรงเข้าไปหา Dominique Weiser และนั่งบนตักเธอ อีกทั้งยังเรียกร้องความสนใจเต็มที่ คลอเคียร์ เลียมือ ทำนองกับบอกว่าช่วยรับมันไปเลี้ยงด้วย

เจ้าแมว Noodle อ้อนสำเร็จทำให้เธอรับมันไปเลี้ยงด้วย และมันก็ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นข้ออักเสบและต้องยาไปตลอดชีวิตของมันเลย แถมยังแก่แล้วอายุตั้ง 10 ปี แต่มันก็มีความน่ารักในแบบของมัน เจ้าหน้าบอกว่าพบมันมันถูกทิ้งมานาน 4 เดือนแล้วในสถานที่น่ากลัว ๆ  และเธอยังบอกอีกว่าจะเลี้ยงเจ้า Noodle ให้ดีที่สุดเหมือนกับแมวตัวอื่น ๆ มันก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวของเธอ

แล้วตอนนี้เธอกับเจ้า Noodle ก็อยู่ด้วยกันมา 3 ปีแล้ว มันกินดีอยู่ดี อ้วยเป็นหมีกันแล้ว มันชอบนอนหลับใต้ผ้าห่มและหลับไปพร้อมกัน ทั้งเธอและแมวมีความสุขกันทั้งคู่ เธอรู้สึกขอบคุณมันที่ยอมให้เธอเป็นเจ้าของด้วย และเชื่อว่ามันเองก็คงจะรู้สึกขอบคุณเธอเช่นกันครับ

ช่างเป็นแมวที่โชคดีจริง ๆ เลย เชื่อครับว่ามันคงจะมีความสุขกับครอบครัวนี้ไปตลอดกาล

เรื่องราวความน่ารักของคนกับแมวที่เคยจร ตอนนี้มีเจ้าของมันช่างอบอุ่นใจอย่างยิ่งว่าไหมครับ ขอให้ทุกคนเลี้ยงแมวก็รักแมวด้วยนะครับ อย่าเอาเขาไปทอดทิ้งเลยแม้บางทีเขาจะดื้อบ้าง ซนบ้าง ก็ค่อย ๆ เอาน้ำเข้าลูบนะครับ แมวต้องการคนเอาใจมาก ๆ ครับผม

ขอบคุณข้อมูลจาก lovemeow

 

[มีคำถาม] ทำไมเวลาเราหิ้วคอแมว มันถึงนิ่งสนิท ไม่ร้อง ไม่ดิ้นเลย ?

เคยเห็นเวลาแม่แมวมันคาบลูกแมวไหมครับ ? มันจะคาบตรงส่วนไหน สังเกตว่ามันจะคาบที่ส่วนคอนั่นเอง เวลาคนเราจะหิ้วแมวเล่นบริเวณคอก็เหมือนกัน แมวมันจะนิ่ง แต่ไม่หลับแค่มันไม่ขยับเท่านั้นเอง มันจะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้แมวนิ่งแบบนั้นได้ แต่เราก็อาจจะเห็นพฤติกรรมหิ้วคอแล้วนิ่งนี้กับสัตว์ 4 ขา เลี้ยงลูกด้วยนมอีกหลายชนิดเลย สุนัข สิงโต เสือ ทำนองนี้ก็ล้วนแต่หิ้วคอลูก ๆ กันทั้งนั้นครับ มาเราทำความเข้าใจกันดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจ

หลังคอแมวเป็นอย่างไร ?

เมื่อแมวปล่อยให้แม่แมว และคนหิ้วได้อย่างอิสระแบบนั้นแสดงว่าต้องมีอะไรพิเศษกว่าสัตว์หลายประเภทแน่นอน ถูกต้องแล้วครับ หลังคอแมวจะมีหนังที่ยืดออกมาได้เยอะมาก ก็เป็นส่วนที่เหมือนถูกออกแบบมาเพื่อให้โดนหิ้วได้ง่าย ๆ นั้นเอง  เหมือนเป็นปุ่ม Stop เอากดเพื่อหยุดแมวโดยเฉพาะ 555+ ถ้ามันดิ้น ร้องโวยวายเวลาโดนหิ้วมันอาจจะได้รับบาดเจ็บก็ได้ เลยจำใจต้องยอมให้หิ้วได้อย่างนั้นครับ

สัญญาติญาณแมว ๆ ของความเป็นแมวโดนหิ้ว

แมวทุกตัวล้วนแต่เคยผ่านประสบการณ์ในการโดนหิ้วมาด้วยกันทั้งนั้น  เมื่อแมวโดนหิ้วมันจะมีสัญญาติญาณของแมวว่ามันจะต้องอยู่นิ่ง ๆ เพื่อไม่ให้เจ็บตัว มันจะรู้สึกว่าเหมือนกำลังโดนบังคบให้ทำอะไรสักอย่างโดนขัดขืนไม่ได้ เช่น เมื่อแม่แมวหิ้วคอลูกแมว เจ้าแมวน้อยก็จะนิ่งและยอมให้หิ้วตามใจแม่

ใครที่อยากรู้ว่า เวลาแมวโดนหิ้วคอมันจะนิ่งจะยอมให้หิ้วจริงไหม ลองหิ้วเล่น ๆ แมวที่บ้านดูได้นะครับ แล้วมาแบ่งเรื่องราวกันได้ว่ามันเป็นอย่างไรบ้างเมื่อเจ้าจอมซมที่บ้านคุณโดนหิ้ว

 

เรื่องของแมวเศร้าเดินเหงา ๆ อยู่ตัวเดียว

มีข่าวรายงานความคืบหน้าเรื่องของแมวตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นแมวอ้วนที่คาดว่าน่าจะเคยมีเจ้าของมาก่อน แต่อาจจะหลงทางหาทางกลับบ้านไม่เจอหรือไม่มันก็ “ถูกทิ้ง” อย่าใจร้าย มีคนพบแมวอ้วนตัวนี้ที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สายตามันเศร้า และ เหงา มาก ๆ เหมือนมันไม่ได้ขาดแค่ที่อยู่อาศัยและอาหารแต่ยังขาดซึ่งความรัก อีกด้วย

มีเจ้าหน้าที่ของห้างมาพบเข้าและส่งตัวเจ้าแมวให้กับศูนย์พักพิง Here Kitty Kitty Rescue ในเมือง Elkhart รัฐ Indiana มองสายตามันสิครับ เห็นแล้วเศร้าตามเลย ไม่มีใครรู้ว่ามันถูกทิ้งหรือหลงทาง เพราะไม่มีอะไรบ่งบอกถึงเจ้าของและที่มาของตัวมันเลย แล้วมันก็ถูกตั้งชื่อว่า Ryanne  มันเป็นแมวน่ารัก ชอบให้คนสนใจและชอบให้ลูบตัวมาก ๆ เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงกล่าว

เจ้าแมวหน้าเศร้า Ryanne  อยู่ในศูนย์พักพิงได้ประมาน 1 สัปดาห์ ก็มีคนมารับตัวมันไปเลี้ยง โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งมากับครอบครัวของเธอเจ้าแมว Ryanne  ก็เดินเข้าไปหา ไปเล่นด้วยทันที เหมือนกันกำลังพยายามบอกว่าให้มันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวด้วยเถอะนะ

แล้วมันก็สมหวังครอบครัวนี้ต้อนรับมันอย่างอบอุ่น

เจ้าแมว Ryanne  ใช้เวลาสักพักในการปรับตัวสำหรับบ้านใหม่ เจ้าของคนใหม่ แรก ๆ อาจจะไม่ชินแต่พอนานไป มันก็เริ่มที่จะหายเศร้า หายซึม กลับมาเป็นแมวร่าเริง เล่นกับเจ้าของต้องการให้เอาใจและทำตัวน่ารัก ๆ อย่างที่แมวทั่วไปเป็นกัน พร้อมกับอยู่กับครอบครัวใหม่นี้อย่างมีความสุข ครับ [จบแล้วเรื่องแมวหน้าเศร้า]

ขอบคุณข้อมูลLovemeow

“ภาษากาย” ของน้องเหมียวที่เจ้าของต้องรู้

แมวไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกตัวเองผ่านเสียงร้องอย่างเดียว แต่ยังมีภาษากายหลายอย่างที่กำลังสะท้อนบอกให้เจ้าของรับรู้ว่ามันกำลังรู้สึกอะไรอยู่ในขณะนั้น วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกับภาษากายของแมวกันแบบง่าย ๆ ที่เจ้าของหลายคนก็ยังมองข้ามกันได้อีกนะครับจะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย

ภาษากายน้องเหมียว

  1. การสะบัดหาง หมายถึง น้องเเมวกำลังไม่พอใจอยู่กับอะไรบางอย่างในขณะนั้น แต่ว่าการสะบัดหากก็แปลว่ารู้สึกดีได้เหมือนกัน ในส่วนนี้เราจะต้องดูสถานการณ์และสถานที่ด้วยจะได้เข้าใจอารมณ์ของน้องแมวได้ถูก
  2.  หางตั้งตรงขนชี้ฟู มีเสียงขู่ ตาเบิกโพรง หมายถึง น้องเหมียวกำลังกลัว
  3. หางขดอยู่ใต้หว่างขา ตาโตและขู่ หมายถึง กำลังกลัวอยู่เช่นกัน
  4. หางตั้งขึ้นปลายหาเอนมาข้างหน้า หูตั้งและเอนมาข้างหน้า หมายถึง กำลังมีความสุข กำลังรู้สึกดี
  5.   หลบหน้า หนี หาย หมายถึง แมวกำลังเจ็บป่วยอยู่ เพราะเวลาแมวป่วยจะชอบหลบไม่อยากให้ใครเห็น (ไม่อยากให้เห็นตอนที่กำลังอยู่ในสภาพไม่สวยแน่ ๆ )

ภาษากายเป็นสิ่งที่น้องแมวแสดงออกง่ายที่สุด เราจะต้องทำความเข้าใจโดยเฉพาะเวลาที่น้องแมวหายไป หลบ และเบื่ออาหารแสดงว่าท่าไม่ดีแน่นอนควรพาไปพบแพทย์โดยเร็วจะได้รักษาและดูอาการของน้องแมวได้ทันนะครับ

การสำรวจโลกภายนอกครั้งแรกของน้องเหมียว เริ่มต้นอย่างไร

ต้อนรับมิตรรักแฟนแมวทั้งหลายครับ การเลี้ยงแมวไม่ใช่จะต้องคอยให้อยู่แต่ในบ้านอย่างเดียว เพราะว่าแมวต้องการที่จะอยากออกไปผจญภัยข้างนอกเหมือนกัน แต่ทำสำคัญ “อย่าลืมทำหมัน” นะครับ เรามาดูกันหน่อยว่าเมื่อไหร่คือช่วงเวลาอันสมควรที่จะปล่อยให้แมวนั้นรู้จักภายนอกได้

สถานที่เรียนรู้ครั้งแรกสำหรับน้องเหมียว

ครั้งแรกย่อมตื่นเต้นเสมอสำหรับน้องเหมียวแล้วอิสระคือความสุขมากที่สุด แต่การจะออกไปเผชิญโลกกว้างนั้นมันจะต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป วันเวลาที่เหมาะสุดในการออกมานอกบ้านเปิดโลกของการสำรวจขึ้นต้องเป็นวันที่อากาศดี ๆ บรรยากาศแห้ง ๆ และต้องมั่นใจว่าปลอดภัยสำหรับน้องแมวด้วย ครั้งแรกนี้ให้เป็นสนามหน้าในบริเวณบ้านตัวเองดีที่สุด เพราะว่าปลอดภัยมากกว่าที่อื่นอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่จะปล่อยให้แมวออกมาได้เองเลยมันต้องมีขั้นตอน

ครั้งแรกของการผจญภัยสำหรับแมว

น้องแมวที่จะได้รับอนุญาติให้ออกมาเล่นข้างนอกได้นั้นต้องมีอายุประมาณ 13 สัปดาห์และหลังจากได้รับวัคซีนในครั้งที่ 2 แล้วเท่านั้น เล็กกว่านี้ไม่แนะนำเพราะอาจจะมีอันตรายได้ โดยในครั้งแรกนี้เจ้าของจะต้องเป็นคนอุ้มพาออกไปเดินเล่นก่อนให้น้องแมวได้มองเห็น สิ่งต่าง ๆ รอบข้าง คิด คำนวนเรียนรู้ และค่อย ๆ สัมผัสไปทีละน้อย มีเริ่มมีแผนที่ของตัวเองสำหรับเส้นทางการเดินสำรวจโลกของแมว

ในช่วงแรกนี้น้องแมวจะค่อนข้างตื่นเต้นมากเวลาที่จะได้ออกสำรวจโลก เจ้าของควรจะต้องใช้สายจูงและพาไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของน้องเหมียว เพราะครั้งแรก ๆ อาจจะทำให้เกิดความประมาทและตื่นเต้นกับโลกจนไม่ทันได้ระวังตัวเอง แมวมีความอยากรู้อยากเห็น อยากลอง ไปเสียหมด และในบ้านจะต้องมีประตูแมวไว้ด้วย และจะฝึกให้เจ้าเหมียวเข้าออกโดยใช้ประตูแมวให้เป็น ในอนาคตเจ้าเหมียวก็ออกไปสำรวจโลกได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีเจ้าของพาไปได้แล้ว

สายจูงจะไม่ต้องใช้ก็ต่อเมื่อแมวน้อยได้รับการทำหมันแล้ว หรือไม่ก็อายุได้ประมาณ  5 – 6 เดือน โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วนั่นเอง และเมื่อถึงเวลานั้นน้องแมวก็คงจะผ่านการฝึกเข้าออกบ้านโดยการใช้ประตูแมวได้อย่างดีแล้ว และรู้เส้นทางในการกลับบ้านด้วยตัวเอง

บ้านไหนกำลังเลี้ยงน้องเหมียวน้อยอยู่ หากโตพอที่จะพาออกสำรวจโลกแล้วอย่าลืมเตรียมสถานที่ให้พร้อม และนำไปฉีดวัคซีนให้ครบ ทำหมัน และฝึกการเดินเข้าออกผ่านประตูแมวให้เป็น น้องแมวจะค่อย ๆ เรียนรู้และสำรวจโลกกว้างอย่างมีความสุขและตื่นเต้นพร้อมทั้งกลับมาบ้านอย่างปลอดภัยครับ

การฝึกขับถ่าย ให้น้องเหมียวแสนง่ายทำยังไงมาดูกัน

สวัสดีครับทุกท่านวันนี้มาเรียนรู้เรื่องที่หลาย ๆ คนคงจะรู้กันอยู่แล้วคือ การหาห้องน้ำให้น้องแมวและการฝึกขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทาง ซึ่งการจะทำห้องน้ำให้น้องแมวนั้นเพียงแค่ไปหากระบะทรายมา ทรายแมวหาซื้อไม่ยากตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงมีพร้อม อยากจะได้สีอะไร ขนาดแค่ไหน ราคาเท่าไหร่ปรึกษาคนขายได้เลยครับ เอาล่ะเรามาเข้าเรื่องการฝึกขับถ่ายสำหรับเจ้าแมวกันเลยดีกว่า

ปกติแล้วแมวจะได้รับการสอนจากแม่แมวให้รู้จักการขับถ่ายตั้งแต่อายุได้ 8 เดือนเลย มันจะรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ และพอโตมามันก็ต้องรู้จักที่จะขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทาง เจ้าของควรจะจัดหาห้องน้ำแมวมาไว้ให้พร้อมสำหรับแมวทุกตัวภายในบ้าน

การจัดหาห้องแมวจะต้องทำดังนี้

  1.   หากระบะมาใส่ทรายแมวให้เรียบร้อยและถ้าจะให้ดีควรแยกกระบะส่วนตัวของใครของมันสำหรับแมวแต่ละตัว
  2. นำไปวางไว้ให้ไกลจากที่ทานอาหารทั้งแมวและคน
  3. นำไปวางในที่ที่สงบที่สุด และไม่มีอะไรมารบกวนเวลาขับถ่ายของแมวได้
  4. จะต้องทำความสะอาดทุกวัน

การฝึกขับถ่ายสำหรับน้องแมว

ในการฝึกน้องแมวให้ขับถ่ายเป็นที่นั้นไม่ยากแต่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย ทำได้ง่าย ๆ หลักจากที่เราได้เตรียมห้องน้ำส่วนตัวแมวไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องอุ้มน้องแมวไปวางที่กระบะทรายเป็นประจำทุกวันในช่วงเช้า หลังอาหาร และก่อนนอน จนน้องแมวเข้าใจได้ว่าตรงนั้นคือห้องน้ำสำหรับการขับถ่าย หากน้องแมวทำได้แล้วอย่าลืมให้รางวัลเป็นของขวัญ ขนมอร่อย ๆ ด้วย แต่ถ้าหากน้องแมวยังทำไม่ได้ก็ห้ามทำโทษและให้อดทน รอ และฝึกเขาต่อไป เชื่อว่าไม่นานแมวทุกตัวก็จะทำได้และขับถ่ายถูกที่เพราะว่าแมวเป็นสัตว์ที่ฉลาดอยู่แล้วครับ

ทุกบ้านที่เลี้ยงแมวโดยเฉพาะในบริเวณบ้านที่ไม่มีพื้นที่โล่งว่าง สงบมากพอจะให้แมวหาห้องน้ำได้เอง การสร้างห้องน้ำให้น้องแมวเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ มองข้ามไม่ได้และเราจะต้องฝึกให้น้องแมวเรียนรู้ที่จะใช้มันด้วย ในอนาคตข้างหน้ามันจะได้ขับถ่ายอย่างเป็นที่เป็นทางง่ายต่อการทำความสะอาดสำหรับเจ้าของอีกด้วยครับ

อาหารสดแบบไหนที่เป็นของโปรดเจ้าเหมียว ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด

แมวเป็นสัตว์กระตูลกินเนื้อเหมือนกัน แต่มันก็แทบจะกินทุกอย่างที่อร่อยสำหรับแมว บางคนเลี้ยงแมวแต่ไม่เคยเปลี่ยนอาหารเลยให้แต่อาหารแบบเดิมซ้ำ ๆ แบบนั้นระวังนะครับน้องแมวอาจจะได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอก็ได้  วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของอาหารสดสำหรับน้องแมวกันว่ามีอะไรบ้างที่ทานได้ และนอกจากอาหารสดน้องแมวทานอาหารแบบไหนได้บ้างถึงจะมีประโยชน์

อาหารสดแมวประเภทปลา

ถ้าคิดถึงแมว กับ อาหาร ของที่หลายคนคิดถึงคงจะเป็น ปลา หรือ ปลาทู เกือบจะ 90 % กันเลย มันก็ไม่ผิดแมวกินปลาและชอบมาก ๆ ด้วย ถึงแม้ว่าการกินปลาสด ๆ จะไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับน้องแมวแต่ว่าแมวมันไม่ต้องหากินเองตามธรรมชาติแล้ว เพราะเป็นแมวเลี้ยงผู้เลี้ยงอย่างเรา ๆ ก็ควรจะใส่ใจในอาหารด้วย ตัวปลาสดเองก็ต้องเอามาปรุงให้สุกก่อน ความเป็นปลาที่ให้แมวนั้นในต่างประเทศจะเป็นปลากระป๋องมากกว่าปลาสดนะ แต่จะหาปลากระป๋องมาให้น้องเหมียวกินบ่อย ๆ ก็เสี่ยงที่จะได้รับสารอันตรายอย่างสารตะกั่วการแมกนีเซียมซึ่งจะเป็นภัยต่อแมวแน่นอน และปลาเองแบบไม่ต้องอยู่ในกระป๋องโดยเฉพาะปลาน้ำเค็มก็มีเกลือเยอะไปกินบ่อย ๆ ก็ไม่ดีต่อไตด้วยนะ สลับ ๆ อาหารจะเป็นการดีสุด

อาหารสดแมวชีล Cheese

อาหารที่แมวชอบกินอีกอย่างหนึ่งก็คือชีส เป็นว่าถือเป็นแหล่งโปรตีนสำหรับน้องเหมียวเลย แต่ก็ยังเป็นอาหารที่ไม่สามารถจะให้ได้ทุกวันอีกเช่นกัน และการทานนมก็เหมือนกันหากน้องแมวกินแล้วท้องเสีย ท้องอืดขึ้นมาชีสก็ให้ไม่ได้มันอันตรายต่อสุขภาพของน้องแมว แต่ว่าจะเลือกมาใช้เป็น Low Lactose Cheeses ลองหาซื้อดูตามร้านจำหน่ายอาหารสัตว์อาจจะมีบ้างหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไปก็อาจจะมี

บล็อคโครี่สำหรับแมว

โปรตีนอาจจะจำเป็นต่อแมวจริงแต่จะกินแต่เพียงโปรตีนอย่างเดียวก็ไม่ได้นะ  หลายคนอาจจะเคยเห็นน้องแมวบางทีจะต้องเเทะต้นไม้ ผักใบไม้ หรือบางบ้านไม่มีต้นอะไรให้แทะไม้กวาดก็ยังโดน พฤติกรรมเหล่านี้แปลได้ว่าระบบทางเดินอาหารของเจ้าเหมียวกำลังมีปัญหาอยู่นะ ฉะนั้นควรจะมีหญ้าแมวไว้ในบ้านแด้วยและการจัดเตรียมอาหารให้แมวก็เลือกที่หลากหลายให้มีส่วนผสมของผักใบเขียวด้วยจะได้มีประโยชน์มากขึ้น

อาหารสดแมวประเภทเนื้อ Beef  

คำว่าเนื้อในที่นี้หลัก ๆ อาจจะหมายถึงเนื้อวัวแต่ว่า ก็รวมไปถึงเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลาด้วย เราให้น้องแมวทานในปริมาณที่เหมาะสมได้ อย่าให้ทานมากไประวังจะกลายเป็นแมวอ้วนเกินไป น้ำหนักตัวเกิน โรคร้ายอาจจะถามหาได้ง่าย ๆ เลยและตัวเนื้อต่าง ให้ตัดส่วนที่เป็นไขมันออกไปให้ส่วนที่เป็นเนื้อล้วน ๆ เท่านั้นจะดีกว่า และสิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าลืมนำไปปรุงให้สุกก่อนด้วยนะครับ

นอกจากอาหารสดที่กล่าวมาแล้วก็ยังมีอีกมากมายหลายอย่างที่น้องแมวทานได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นอาหารแมวแบบไหนสิ่งที่ควรคิดถึงก็คือ ต้องมีประโยชน์ต่อร่างกาย ต้องปรุงสุกแล้ว สะอาด และควรให้ทานในปริมาณที่เหมาะสม พยายามอย่าให้อาหารแบบเดิมซ้ำ ๆ เปลี่ยนอาหารให้มีความหลากหลายด้วยน้องแมวจะได้ไม่เบื่ออาหารครับ

แมวสายพันธุ์ “ศุภลักษณ์” แมวไทยเลี้ยงแล้วเป็นมงคล

แมวสายพันธุ์ไทยเรามีตั้ง 17 สายพันธุ์เลยนะ มีใครรู้จักครบไหม ผมเองถ้าให้นับก็คงจำไม่ได้เหมือนกัน แต่ว่าทุกพันธุ์มีความเป็นมงคลต่อคนเลี้ยงอย่างมาก โดยเฉพาะแมวชื่อดังอย่างสายพันธุ์ “ศุภลัภลักษณ์” หลายคนก็คงจะเคยเห็น เคยเลี้ยงเคยสัมผัสกันมาบ้างแล้ว บอกเลยว่าสวยมากทุกปลายเส้นขนเป็นแมวที่มีเสน่ห์มาก ๆ ครับผมยังชอบเลย ส่วนความเป็นมงคลของแมวสายพันธุ์ศุภลักษณ์นั้นคืออะไรมาอ่านบทความนี้กันครับ

แมวสายพันธุ์ศุภลักษณ์มีอีกชื่อเรียกว่า “ทองแดง” ก็ดูไม่ยากสีขนที่เห็นเด่นชัดอยู่แล้วว่าเป็นสีทองแดงนั่นเอง สวยมากมีตาเป็นประกาย ซุกซนเหมือนแมวอื่น ๆ แต่ว่าก็มีความเชื่อว่าใครที่เลี้ยงแมวสายพันธุ์ไทยศุภลักษณ์นั้นจะมีโชคทางด้าน ลาภ ยศถาบรรดาศักดิ์  มีความเจริญรุ่งเรืองในด้านกิจการค้าขาย การทำธุรกิจต่าง ๆ นั่นเอง

ลักษณะทั่วไปของแมวศุภลักษณ์

เป็นแมวขนสั้นจะสวยขนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ๆ หรือสีทองแดง เส้นหนวดเหมือนเส้นทองแดงเลย ใบหูใหญ่ หัวกลม หางใหญ่ ยาว เรียวลง ได้สัดส่วนมาก ๆ   เจ้าของควรดูแลให้ดีอย่าให้ขนยาวมากไป อย่าให้อ้วนเกินไปเพราะจะไม่ดีต่อสุขภาพของแมวเอง

แม้ว่าแมวสายพันธุ์ศุภลักษณ์นี้จะมีราคาดี เป็นที่นิยมแต่ก็มีข้อด้อยอยู่หลายอย่างเหมือนกัน ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยงควรจะศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนทุกครั้ง รวมถึงแมวสายพันธุ์อื่น ๆ ด้วยก็เหมือนกันครับ การเลี้ยงแมวทองแดงนี้อาจจะมีความเชื่อว่าจะทำให้รุ่งเรืองจริงแต่ถ้าหากไม่ดูแลมันก็พาร่วงได้เหมือนกัน และทุกอย่างอยู่ที่ความขยันตั้งใจทำงานของเราเองครับอาจจะไม่เกี่ยวกับแมวเลยก็ได้

เลี้ยงแมวขอให้เลี้ยงเพราะรักนะครับผม ศุภลักษณ์เองก็มีทั้งความน่ารัก ความซน เหมือนกับแมวอื่น ๆ เจ้าของควรใส่ใจอย่างมากในทุก ๆ ด้านเพื่อให้เขาได้อยู่อย่างสุขสบายนะครับ ถ้าหากไม่พร้อมในด้านสถานที่ต่อให้มีเงินซื้อแมวศุภลักษณ์ ก็ไม่แนะนำให้เลี้ยงนะครับ รอให้พร้อมทุกด้านก่อนจะดีกว่า

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก

https://pet.kapook.com/view146.html
www.pinterest.com
purrfectcatbreeds
stuff.co.nz

Pallas แมวสายพันธุ์ที่ขนนุ่มที่สุด ชอบอาศัยอยู่ในถ้ำ [แมวหรือค้างคาวเนี่ย] มาดูกัน

วันนี้ก็มีเรื่องแมว ๆ มาฝากกันครับ เป็นแมวสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อว่าขนนุ่มที่สุดในบรรดาแมว ๆ นั่นเอง Pallas นั่นเอง เรามาทำความรู้จักกับแมวตัวนี้กันดีกว่า บอกเลยว่าจะต้องชอบและอยากเลี้ยงอย่างแน่นอน บางทีก็อาจจะสงสัยนะว่านี่มันแมวหรือค้างคาวหรือว่านกฮูกกันแน่ เชื่อเถอะว่าวันนี้จะต้องสงสัยตามผมแน่นอนครับเมื่อได้รู้จักกับเจ้าเหมียวสายพันธุ์ Pallas นี้แล้ว

ลักษณะทั่วไปของแมว Pallas

อาจจะมีขนฟูขนปุย ๆ ดูตัวใหญ่กว่าแมวสายพันธุ์อื่น ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้ตัวใหญ่ครับ ตัวเท่า ๆ กับแมวพันธุ์อื่นเลยเพียงแค่ขนมันฟูและเยอะกว่าเท่านั้นเองแถมยังมีขนนุ่มมาก ๆ อีกด้วย  น้ำหนักของแมว 2.5 – 4.5 กิโลกรัม เท่านั้นเองก็เป็นน้ำหนักของแมวทั่วไปนั่นเอง  ขนของเจ้าพัลลัสนี้ไม่ได้มีไว้แค่ให้กอดอุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นเกราะป้องกันอันตรายให้กับตัวมันเองได้เป็นอย่างดีเลย ทำนองว่าหากจะไปสู้กับแมวอื่น ๆ โอกาสที่จะถูกกัดนั้นมีน้อยกว่าแมวทั่วไปด้วย มองโลกในแง่ดีจริง ๆ ใช่ไหมล่ะครับ

เจ้าแมวพันธุ์ Pallas นี้ยังได้ชื่อว่าเป็นแมวอ้วนมาก ๆ อีกด้วย  ถ้าไม่เชื่อลองดูจากภาพด้านบนก็ได้ครับ เป็นคำตอบได้อย่างดีเลย แม้ว่าในความจริงตัวมันจะไม่ได้อ้วนขนาดนี้เพียงแต่ว่าขนมันฟูมากเกินไปหน่อยเท่านั้นเอง ใครที่เลี้ยงแมวพันธุ์นี้แค่เดิมผ่านเฉย ๆ แมวอื่นก็อาจจะวิ่งแล้วก็ได้ แต่ในประเทศไทยนั้นไม่ค่อยนิยมเลี้ยงกันสักเท่าไหร่ เจ้า Pallas นั้นชอบอาศัยอยู่ในถ้ำอีกทั้งยังชอบออกไปหากินตอนกลางคืนอีกด้วย ข้อนี้แหละทำให้อดคิดไม่ได้เลยว่านี่แมวหรือค้างคาว หรือนกฮูกกันแน่ ดูหน้าตาบางทีมันก็คล้ายนกฮูกเหมือนกันนะ

นิสัยของแมว Pallas 

เป็นแมวที่รักความสันโดษเอามาก ๆ ดูจากลักษณะความเป็นอยู่ของมันที่ชอบอยู่ในถ้ำก็น่าจะตอบเรื่องนิสัยของ Pallas ได้ส่วนหนึ่ง รักอิสระด้วย แต่ในอีกมุมมันก็มีความน่ารักน่ากอด ขี้อ้อนเหมือนกันเพราะมันก็เป็นแมวนี่นา ถึงแม้บางครามมันจะเหมือนเสีอบ้าง บางทีมันก็เหมือนกฮูกก็ตาม Pallas นี้จะพบได้เยอะในประเทศอีหร่าน และทางทิศตะวันตกของประเทศจีนด้วย ใครอยากจะก็ลองไปหาเที่ยวอีหร่านดูนะครับ

เป็นแมวที่มีความน่าสนใจจริง ๆ ไม่ใช่แค่ความขนนุ่มขนฟูมากที่สุดอย่างเดียวนะครับ แต่ว่าดูหน้าตาของ Pallas สิ จะเห็นว่าตากวน….มาก ๆ เลยออกแนวแมวหน้าเหวี่ยงหน้าดุอีกตัวแล้ว แต่มันจะหน้าแบบนี้มันก็ยังเป็นแมวที่มีความน่ารักอยู่ดีว่าไหมครับ

 

ที่มาภาพจาก https://kknews.cc/news/xqpe9r.html

http://www.factzoo.com/mammals/pallas-cat-manul-thickest-fur-wild-mountain.html

 

แมวสายพันธุ์ไฮโซ Ashera ที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลก

แมว ๆ ทั้งหลายจากทั่วโลกหลายตัวก็เป็นเซเลปแมวเป็นไฮโซแมวไปแล้ว ที่เวลาไปออกงานนั้นค่าตัวแพงมาก ๆ แต่ก็ยังมีคนจ้างเพราะว่าชื่อเสียงของแมวนั้นโด่งดังเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางเลย วันนี้เราจะพามาชมภาพความสวยงามของเซเลปแมวอย่าง Ashera ที่ต้องบอกเลยว่าตอนนี้ค่าตัวแพงเป็นอันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียวครับ เมื่อเห็นค่าตัวแล้วคุณอาจจะต้องสะตั้นไปสัก 10 วิ เหมือนผมแล้วแอบมีคำถามเล็กน้อยว่า จะแพงไปไหนนะ

แมวสายพันธุ์ Ashera ค่าตัวแพงที่สุดในโลก

มันก็ไม่แปลกเลยที่บางทีเราอาจจะไม่คุ้นหูกับชื่อสายพันธุ์ Ashera แต่เมื่ออ่านบทความนี้จบคุณอาจจะจำชื่อสายพันธุ์นี้แบบไม่มีวันลืมเลยก็ได้ โดยสายพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นมาจากการคิดค้นของทางการผสมพันธุ์แมวโดย บริษัท แคลิฟอร์เนีย ไบโอเทค นั่นเอง โดยสายพันธุ์หลักของมันจะเป็น African Serval (แมวป่าแอฟริกัน) , Asian Leopard Cat (แมวเสือดาวเอเชีย) และแมวบ้าน 3 แบบกันเลยทีเดียว

 

แมวเเน่ ๆ ใช่มั้ย ??

เจ้าแมวสายพันธุ์ Ashera นั้นจะเป็นที่นิยมมากในสังคมไฮโซของอเมริกา (แล้วก็เลยกลายเป็นเซเลปไปด้วยเลย) น้ำหนักตัวนี่เหมือนเสือน้อยเลยครับ หนักที่ประมาณ 13.6 กิโลกรัม  อยากรู้ราคาการซื้อขายกันแล้วใช่ไหม บอกเลยก็แล้วกัน อยู่ที่ประมาณ 510,000–3.5 ล้านบาท เลยครับ ช็อคแปป!!

 

ถ้าใครอยากจะเลี้ยงก็ลองหาซื้อมาได้นะครับผม ในประเทศไทยยังไม่ค่อยเห็นนิยมกันเท่าไหร่นัก จะเรียกว่ายังไม่มีใครเลี้ยงเลยอาจจะถูกนะครับ ใครที่เลี้ยงแล้วก็ถ่ายรูปมาอวดโฉมกันบ้างนะครับผม

 

เครดิตภาพ http://www.liveinternet.ru/users/5124649/post380568379/

ทำหมันแมว. . .เพื่อให้มันออกไปท่องโลกกว้างได้อย่างสบายใจกันเถอะ

แมวชอบการผจญภัย จนบางทีเพราะความเป็นแมวแบบแมว ๆ ในการออกตาเฝ้าสาว ๆ ในต่างถิ่นจนบางทีมันก็ได้รับบาดเจ็บกลับมาบ้าน ซึ่งก็เป็นปัญหาหนักใจเหมือนกันสำหรับเจ้าของอย่างเรา ๆ ที่อยากจะให้แมวอยู่บ้านเฉย ๆ บางทีมันก็เป็นเรื่องยากยกเว้นจะเลี้ยงแบบปิดจริง ๆ การทำหมันแมวจึงมีประโยชน์มาก ๆ เลยกับตัวมันเอง

การทำหมันแมวทำอย่างไร

ในการจะที่ทำหมันแมวนั้นไม่ใช่ว่าเจ้าของจะต้องทำเอง เราจะต้องพาไปให้สัตวแพทย์ที่มีความชำนาญในด้านนี้เป็นคนจัดการให้ โดยแมวที่พร้อมสำหรับการทำหมันจะอยู่ในช่วงอายุ 4 – 6 เดือน มันปลอดภัยและดีต่อแมว ๆ ทั้งหลายอย่างแน่นอน โดยจะไม่เจ็บเพราะว่าจะหลับจากยาสลบอยู่แล้ว ในการทำหมันแมวนั้นอวัยวะสืมพันธุ์จะถูกตัดออกไปนั่นเอง ซึ่งมันจะดีข้อดีก็คือ

  1. ทำให้แมว ไม่ต้องทานแคลลอรี่เยอะ หลังทำหมันเจ้าของควรลดปริมาณอาหารลง เพื่อป้องกันไม่ให้แมวนั้นอ้วน น้ำหนักเกิน
  2. ลดการเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว การปะทะกันระหว่างแมวตัวอื่น แล้วก็มีแผลกลับมาเต็มไปหมด บางทีก็แพ้กลับมาแมวก็เจ็บใจแค้นอีก
  3. อีกทั้งยังป้องกันการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ของเหล่าแมว ๆ ทั้งหลายได้ดีเลย
  4. อยากจะออกไปท่องโลกกว่้างแค่ไหนก็สบายใจได้เลย ไม่มีอะไรมากวนใจ
  5. ลดการฉี่ไม่เป็นที่ และฉี่ไม่เรี่ยราด ฉี่น้อยลงด้วย

หลังจากการทำหมันเสร็จใหม่ ๆ นั้นแมวจะต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างเป็นพิเศษ ต้องการความรักจากเจ้าของมาก ๆ เลยด้วย โดยในช่วง 48 ชั่วโมงแรกนี้จะต้องพิเศษกว่าปกติ และไม่นานการเจ็บจากการทำหมันแมวก็จะบรรเทาและหายดีไปตามระยะเวลาของมันเอง

หากแมวทำหมันแล้ว เจ้าของเองจะต้องเรียนรู้วิธีการดูแลแมวอย่างดีจากการแนะนำของสัตวแพทย์ และเราก็สามารถวางใจได้เลยว่าเจ้าเหมียวจะไม่ได้ไปปะทะคารมกับกงเล็บกับแมวเด็กแนวแถวไหนมาอีก และไม่ทำให้ตั้งครรภ์ในเวลาที่ไม่ต้องการได้อีกด้วย ใครที่ยังไม่ได้ทำหมันแมวก็พาไปทำจะดีกว่าครับเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของตัวแมวเอง

ขอบคุณเนื้อหาจาก ช่อง Whiskas Thailand

แมวสายพันธุ์สิงหะปุระ [Singapura] แมวพันธุ์เล็กที่สุดในโลก

หลายคนคงไม่คิดว่าแมวจะมีสายพันธุ์ที่ตัวเล็กมาก ๆ ด้วย ถ้าพูดถึงว่าแมวอะไรที่ตัวเล็กที่สุดในโลกหลายคนก็คงจะมีเครื่องหมายคำถามต่อกับตัวเองว่า พันธุ์อะไรหว่า ? วันนี้เราก็เลยนำเอาความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกันครับ สำหรับแมวพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลกชื่อว่า พันธุ์สิงหะปุระ (Singapura) ในประเทศไทยเราจะไม่ค่อยนิยมเลี้ยงกันเท่าไหร่ สิงหะปุระที่เป็นพันธุ์แท้จะตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับแมวชนิดอื่น ๆ

แมวพันธุ์สิงหะปุระที่เล็กที่สุดในโลกนั้น ถิ่นกำเนิดมาจากประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงเราเลย นั่งคือ “ประเทศสิงคโปร์” แต่ว่าตามจริงแมวเป็นแมวที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาอีกทีจากอเมริกานั่นเอง ความโดดเด่น น่ารัก น่าเลี้ยงของแมวพันธุ์เล็กที่สุดในโลกนี้คือ ตาโต ใบหูใหญ่ น่ารักมาก ๆ  ตัวเล็ก ๆ แต่ดูผ่าน ๆ ก็เหมือนจะคล้ายแมวพันธุ์อะบีชิเพราะหูใหญ่เหมือนกันเลย

สีขนของแมวสิงหะปุระ จะเป็นแบบเนียนสวย เป็นแมวที่มีสีขนเรียบหรูมาก โดยจะมีสีน้ำตาลกระจายออกมา  มีดวงตาเป็นสีน้ำแดง บ้างก็เขียวหรือเหลืองด้วย ในส่วนของตีนเเมวจะเล็กมาก ๆ ถึงมากทีสุดเลยปกติแล้วแมวธรรมดาก็เล็กอยู่แล้วแต่มาเป็นพันธุ์สิงหะปุระจะยิ่งเล็กลงไปอีก

นิสัยของแมวพันธุ์สิงหะปุระ 

จะเป็นแมวที่มีความซนอยู่ในตัวสูงมากแมวปกติชอบก่อกวนมวลมนุษย์มากแค่ไหน Singapura นี่มีมากกว่านั้น ชอบเรียกร้องความสนใจจากคนแบบสุด ๆ ไปเลย ทำอะไรก็ต้องให้ความสนใจแมวด้วย ใครที่ขี้เหงารีบรองว่าหายแน่นอนถ้าเลือกจะเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้ไว้เป็นเพื่อน แถมยังเป็นแมวฉลาดชอบดูโน่นทำนี่ ขี้สงสัยไปเสียหมด ชอบให้เล่นด้วยมาก ๆ เลยล่ะครับ

Singapura เป็นแมวพันธุ์ขนสั้นดูแลง่ายแต่การจะหามาเลี้ยงนั้นไม่ง่ายเท่าไหร่นักในประเทศไทย เป็นของหายากไปเสียแล้ว ราคาก็ถ้าใครจ่ายไหวหามาเลี้ยงเป็นเพื่อนแก้เหงากันได้นะ ประมาณ 60,000 บาท เริ่มต้นเท่านั้น เอ๊ง (เสียงสูง) ไม่ธรรมดาจริง ๆ กับความแสนซนของแมวพันธุ์สิงหะปุระ ถ้าใครหามาเลี้ยงก็ถ่ายรูปมาแบ่งแชร์กันบ้างนะครับผม

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

http://www.vetstreet.com/cats/singapura
http://www.tica.org/find-a-breeder/item/272-singapura-introduction
http://carecat.weebly.com/

 

 

 

มารับข้าไปเลี้ยงเดี๋ยวนี้นะเจ้ามนุษย์ ไม่สนใจใช่มั้ย นี่ เลียกระจกโชว์เลย

วันนี้มีภาพความน่ารักของแมวชื่อ Sigmund  ที่อยู่ในสถานรับเลี้ยง ซึ่งก่อนนั้นมันมีคนรับไปเลี้ยงแล้วแต่ว่าเจ้า Sigmund  สงสัยจะซนเกินไป จนเจ้าของเขาต้องเอามาคืนและรอผู้รับเลี้ยงคนใหม่ต่อ แต่เมื่อนาน ๆ ไปไม่มีใครสนใจรับมันไปเลี้ยงสักทีมันก็คิดหาวิธีการดึงความสนใจจากมนุษย์ด้วยการ เลียกระจก เสียเลย

แมวตัวนี้อยุ่ที่  Cat Haven ศูนย์พักพิงสัตว์ในออสเตรเลีย การที่มันเลียกระจกเพื่อเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์นั้นได้ผลนะ เพราะเวลามันเลียกระจกทีไรคนก็จะหันมามองว่ามันกำลังทำอะไร และไม่นาน เจ้า Sigmund  ก็กลายเป็นที่สนใจขึ้นมาทันทีและก็มีคนรับมันไปเลี้ยงในที่สุด ด้วยความโด่งดังจากการเลียกระจกของมันเอง คนถ่ายภาพ อัดคลิปแชร์ความน่ารัก ความแปลกของมันลงโซเชียลนั่นเอง

ในที่สุดแผนการยึดครองบ้านมนุษย์และนำมนุษย์คนใหม่มาเป็นทาสของเจ้า Sigmund  ก็ได้ผลแล้ว

Sigmund เป็นแมวชอบกระโดด ชอบเล่น เป็นที่สุด

การอยู่เฉย ๆ คืออะไร ? Sigmund  ไม่รู้จัก

อยู่อย่างสุขสบาย ณ บ้านหลังใหม่

ยึดครองทั้งบ้านเรียบร้อยแล้ว

จะทำงานหรอ หรือทำอะไร ก็ต้องมี  Sigmund  อยู่ด้วยเสมอ
(ผู้คุมงาน)

ความน่ารัก ฉลาดของ  Sigmund  จากไอเดียการเลียกระจกได้ผล จนได้บ้านใหม่สมใจในตอนอายุ 4 ปี ความพยายามของแมวสูงจริง ๆ เห็นแล้วทาสแมวขอคารวะครับผม เก่ง ๆ เลยนะ  Sigmund  ขอให้มีความสุขที่บ้านใหม่นะ

 

ที่มา http://www.catthailand.com/catnews.php?qno=368