แมวเปอร์เซีย

แมวเปอร์เซียเป็นแมวที่เป็นขวัญใจและได้รับความนิยมมากสำหรับคนที่จะเลี้ยงแมว เพราะความน่ารัก หัวกลม หูเล็ก จมูกแบน ตากลมโต  ทำให้ใครๆหลายคน หลงชอบและอยากจะเลี้ยงแมวเปอร์เซีย

นิสัยแมวเปอร์เซีย

แมวเปอร์เซียเพศผู้

แมวเปอร์เซียเพศผู้จะมีโครงกสร้างและกระดูกที่ใหญ่กว่าเพศเมีย วัยเด็กจะมีนิสัย ขี้เล่น ซน ชอบปีนป่ายหาสิ่งของมากัด

วัยรุ่น จะมีนิสัยโลกส่วนตัวสูง  ชอบอยู่คนเดียว หากถึงช่วงผสมพันธุ์ อาจจะหนีเที่ยว ร้องเสียงดังหง่าวๆ เพื่อร้องเรียกแมวตัวเมีย หรือบางตัวอาจจะมีการฉี่เพื่อปล่อยกลิ่นเรียกตัวเมีย ทำอาณาเขต

บ้านไหนมีตัวผู้หลายตัวอาจจะมีทะเลาะกันเพื่อชิงตัวเมีย หากให้น้องอยู่ติดบ้าน ให้หาแมวตัวเมียมาเพื่อลดอาการฮีท หรืออาจทำหมันให้น้องไปเลยก็ได้

 

แมวเปอร์เซียเพศเมีย

แมวเปอร์เซียเพศเมีย จะว่านอนสอนง่ายกว่าตัวผู้ ส่วนมากจะมีนิสัยเรียบร้อย ขี้อ้อน  ขี้ประจบ จะคลอเคลียเจ้าของ หรือบางตัวอาจจะมีโลกส่วนตัวสูงตั้งแต่เด็กจนโต หรือาจจะมีขี้เล่นก็ได้

การเลี้ยงแมวเปอร์เซียเพศเมีย ช่วงเป็นสาวหากตัวเมียต้องการผสมพันธุ์ก็จะร้องเหมือนแมวตัวผู้ หรือบางตัวอาจจะฉี่ อุจจาระ เพื่อปล่อยกลิ่นชักชวนตัวผู้ บางครั้งอาจจะนอนหงายเอาหลังถูพื้นดิ้นไปมา เพื่อเป็นการชักชวนให้มาผสมพันธุ์

การดูแลแมวเปอร์เซีย

1.โรคประจำสายพันธุ์ ของแมวเปอร์เซีย

โรคถุงน้ำในเนื้อไต โรคทางเดินปัสสาวะและนิ่ว
สังเกตจากพฤติกรรมการปัสสาวะผิดปกติ ปัสสาวะบ่อย หรือเข้ากระบะทรายนาน อาจมีอาการเบื่ออาหาร ซึม น้ำหนักลด กินน้ำเยอะจนผิดสังเกตได้

โรคจอประสาทเสื่อม  การสังเกต สังเกตการเดิน การยืนและการสัมผัส ที่ผิดปกติ

โรคหัวใจ สังเกต การหายใจ อาการหอบเหนื่อยหากมีความผิดปกติควรรีบพามาปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

แมวเปอร์เซียก็มีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปได้เช่นเดียวกับแมวสายพันธุ์อื่นๆ แต่ด้วยความที่น้องมีลักษณะหน้าสั้น จึงทำให้มีกระโหลกกลม ช่องจมูกสั้นและตีบแคบ ทำให้อาจมีภาวะหายใจลำบาก หายใจมีเสียงดังได้บ่อยๆ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับตา เช่น เชอร์รี่อาย และหนังตาม้วน รวมไปถึงท่อน้ำตาตันทำให้มีน้ำตาไหลเยอะ นอกจากนี้ด้วยความขนยาวฟรุ้งฟริ้งของเค้าจึงมักทำให้เป็นโรคผิวหนังอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะโรคเชื้อรา

2.การดูแลความสะอาดสุขภาพ

หมั่นแปรงฟัน  การแปรงฟันเป็นสุขอนามัยในช่องปาก ที่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าหากเกิดการติดเชื้อในช่องปาก อาจนำมาซึ่งโรค สารพัด และทำให้แมวของคุณอายุสั้นลงได้

หมั่นเช็ดหู เมื่อแมวไม่สามารถทำความสะอาดหูด้วยตนได้ เจ้าของควรจัดการดูแลให้น้องเสมอ ด้วยการใช้กระดาษทิชชู หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดให้มัน ทั้งนี้ หูของแมวนั้นเป็นส่วนที่อ่อนไหวมาก คุณจึงควรพยายามทำความสะอาดให้เบามือที่สุด และใช้เวลาน้อยที่สุด

อย่าปล่อยให้น้องอ้วน เพราะความอ้วนเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพน้องแมว เช่น โรคเบาหวาน โรคตัว เราจึงจำเป็นต้องเข้าใจ และเลือกชนิดและปริมาณอาหารที่เหมาะสมให้น้องแมว

อย่ารำคาญเมื่อแมวขนร่วง แมวเปอร์เซียเป็นแมวขนยาว จึงมีการผลัดขนร่วงตามธรรามชาติจำนวนมาก เจ้าของอาจจำเป็นต้องเข้าใจ และหมั่นแปรงขนน้องแมว และดูแลเก็บกวาดบ่อยๆ

 

เครดิตข้อมูล
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน

ราคาทำหมันสุนัข ราคาทำหมันแมว

วันนี้เราจะพาไปตรวจเช็ค ราคาทำหมันสุนัข  ราคาทำหมันแมว กัน บ้านไหนมีแผนที่จะทำหมันสุนัขหรือแมว สามารถนำไปเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจได้เลย
**สนใจพาน้องไปโรงพยาบาลไหนอย่าลืมตรวจเช็คกับ โรงพยาบาลอีกทีนะ เพราะราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้

การทำหมันสุนัขหรือแมว เราไม่ควรมองเรื่องราคาในการทำหมันอย่างเดียว เราควรคำนึงถึงความปลอดภัยและอุปกรณ์ในการทำหมันห้องในการทำหมันของน้องสุนัขและแมวด้วย เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อความปลอดภัยในการทำหมันของน้องทั้งสิ้น โดยเฉพาะการทำหมันของเพศเมีย จะมีการทำหมันที่มีความซับซ้อนมากกว่าเพศผู้


อายุของน้องสุนัขและแมวที่เริ่มเป็นสัดครั้งแรกขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ พันธุกรรม น้ำหนักตัวความสมบูรณ์พันธุ์ การใกล้ชิดกับตัวผู้ และปัจจัยอื่นๆ โดยทั่วไป การเป็นสัดครั้งแรกอยู่ในช่วง 6- 12 เดือนดังนั้นอายุที่เหมาะสมแก่การทำหมันคือ 8- 10 เดือน สำหรับสุนัข และ 6-8 เดือน สำหรับแมว เพื่อให้ระบบสืบพันธุ์มีการพัฒนาเต็มที่แล้ว

สำหรับกรณีที่ต้องการเริ่มทำหมันก่อนวัยเจริญพันธุ์ สามารถทำได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปหรือทำวัคซีนครบแล้ว แต่ถ้าทำหมันในสัตว์ที่อายุน้อยกว่านี้จะมีความเสี่ยงในการวางยาสลบ เนื่องจากการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายยังไม่สมบูรณ์

ราคาทำหมันสุนัข และทำหมันแมว โรงพยาบาลเอกชน

***ควรตรวจสอบราคาทำหมันอีกครั้ง กับ โรงพยาบาลสัตว์ ที่สนใจเนื่องจาก ราคาอาจจะมีการปรับเปลี่ยน    

1.โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ   Thonglor Hospital

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ   (เปิด 24 ชั่วโมง) 
 Phone. 66 (0) 2079-9999
WEBSITE https://www.thonglorpet.com/home
Facebook https://www.facebook.com/ThonglorPet/




2. โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4 (เปิด 24 ชั่วโมง)

ติดต่อ เลขที่ 5- 5/1 ถนนเทศบาลรังสฤษฎ์เหนือ ประชานิเวศน์1 จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 0-2953-8085-6 0-2954-3597 ( แฟกซ์ ) vet4hospital@gmail.com 0-2589-3204 WEBSITE https://vet4hospital.com/ Facebook https://www.facebook.com/vet4hospital/  

 

 

3. โรงพยาบาลสัตว์ ไอเว็ท – iVET Animal Hospital (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท สาขา พระราม9 โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท สาขา West Centre ศาลายา ติดต่อ โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท 24 ชม รักษาสัตว์ 24 ชม Hotline : 085-244-7899 Line : @ivethospital iVET พระรามเก้า Tel : 02-641-5525 iVET West Centre ( ศาลายา ) Tel : 02-889-5215 WEBSITE https://www.ivethospital.com/ Facebook https://www.facebook.com/iVETHospital   4. โรงพบาบาลสัตว์ตลิ่งชัน (เปิด 24 ชั่วโมง)

 

4. โรงพยาบาลสัตว์ ตลิ่งชัน 

ติดต่อ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน 1 ซ.บรมราชชนนี 61 ถ.บรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. 10170 โทรศัพท์ 02-887-8321-3 โทรสาร 02-448-6369 เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง WEBSITE http://www.talingchanpet.net/ Facebook https://www.facebook.com/tcahFanpage

 

 

   

5.โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ – Rattanathibet Referral Animal Hospital (เปิด 24 ชั่วโมง)

 
โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สำนักงานใหญ่ (เปิด 24 ชั่วโมง) โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาบางบัวทอง (เปิด 24 ชั่วโมง) โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาปทุมธานี (เปิด 24 ชั่วโมง) รงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาแคราย(Express) (เปิด 24 ชั่วโมง) โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาเกษตร-นวมินทร์(Extra) (เปิด 24 ชั่วโมง) โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขา Pet Clinic (เปิด 24 ชั่วโมง)
ติดต่อเรา  55/43-45 หมู่ 1 ถนนราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120  (สำนักงานใหญ่) โทร 02-1968245
 
  

6.โรงพยาบาลสัตว์เมืองเอก สาขาเมืองเอก

โรงพยาบาลสัตว์เมืองเอก สาขาเมืองเอก รังสิต ศูนย์โรคกระดูกและข้อต่อ-ศูนย์สัตวแพทย์เฉพาะทาง
โรงพยาบาลสัตว์เมืองเอก สาขาคลองสาม ธัญบุรี ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
ติดต่อเรา 300/154-157 ซอยพหลโยธิน 87 ปากทางเข้าหมู่บ้านเมืองเอก (มหาวิทยาลัยรังสิต) ลำลูกกา ปทุมธานี 12130 โทร +6625363995
 
 
 

 

แมวสก็อตติชโฟลด์ โรคประจำสายพันธุ์ Scottish Fold

สำหรับทาสแมวทั้งหลายที่สนใจจะเลี้ยงแมวหรือกำลังเลี้ยงแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์อยู่ วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับโรคประจำพันธุ์มาฝาก

แมวสก็อตติชโฟลด์

แมวพันธุ์สก๊อตติสโฟลด์ (Scottish Fold)  เป็นแมวหูพับ  ใบหน้ากลมคล้ายนกฮูก ตาโต เท้ากลม แมวสก๊อตติสโฟลด์พันธุ์แท้ที่มีลักษณะหูพับไปข้างหน้า ซึ่งลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมนี้ส่งผลทำให้เกิดความบกพร่องต่อกระดูกอ่อนในร่างกาย และมีชื่อโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของกระดูกอ่อนนี้ว่า Scottish Fold osteochondrodysplasia (SFOCD) เป็นโรคที่ถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม แมวสก็อตติชโฟลด์จะมีความเจ็บปวดเรื้อรังที่เกิดจากโรคข้อต่อเสื่อมโดยจะมีระดับความรุงแรงที่แตกต่างกันไปในแต่ละตัว โดยแมวจะมีลักษณะความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกภายนอกที่เห็นได้เช่น หางสั้น หนาและไม่มีความหยืดหยุ่น ขาและฝ่าเท้าสั้นลง เป็นต้น

แมวที่มีความผิดปกตินี้จะแสดงอาการเช่น ขาเจ็บ เดินกระเผลก ไม่ค่อยกระโดดขึ้นที่สูง หรือมีท่าทางการเดินแบบขาแข็งทื่อ มีอาการเจ็บบริเวณข้อต่อ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากอาการเสื่อมของกระดูกและข้อซึ่งเป็นผลมาจากการเจริญเติบโตที่บกพร่องและความผิดปกติของกระดูกอ่อน

การวินิจฉัยทำโดยการตรวจร่างกาย การตรวจกระดูกและการวินิจฉัยทางรังสีวิทยาเช่น เอกซเรย์ทั่วไป(Gen. x-ray) , การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computed Tomography ; CT) โดยภาพทางรังสีจะพบความผิดปกติของขนาดและรูปร่างของกระดูกบริเวณ tarsal, carpal, metatarsal ,metacarpal bone, phalanges , caudal vertebrae ,พบการแคบลงของช่องบริเวณข้อต่อ, เกิดการสร้างกระดูกใหม่บริเวณรอบๆข้อต่อของขาส่วนปลาย, เกิดภาวะกระดูกบาง(osteopenia) และเกิดปุ่มกระดูก(exostosis)บริเวณกระดูกฝ่าเท้า โดยมักเกิดกับตำแหน่งขาหลังมากกว่าขาหน้า

การรักษาจะเป็นแนวประคับประคองเนื่องจากไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการให้ยาลดอักเสบ ลดปวด ยาบำรุงข้อ การกายภาพ เป็นต้น ในรายที่มีความผิดปกติของกระดูกรุนแรงอาจจะต้องใช้วิธีการรักษาโดยการผ่าตัดกระดูก (ostectomy) และ การเชื่อมข้อ pantarsal arthrodeses

อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ ทาสแมวทั้งหลายอย่าเพิ่งตกใจไป นี่เป็นเพียงโรคประจำพันธุ์ที่สามารถเจอได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดกับสก็อตติซโฟลด์ทุกตัว หากน้องแมวบ้านไหนเริ่มมีอาการเจ็บข้อ เจ็บขา หรือเดินกระเผลก อย่าลืมแวะเข้ามาตรวจกับสัตวแพทย์ใกล้บ้านได้นะ

เครดิตข้อมูล
พบหมอแมว
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

แมวมีอาการท้องเสีย อาเจียน เป็นอะไร

แมวหรือลูกแมวบ้านไหนมีอาการ ท้องเสีย อาเจียนบ้าง!! เรามาดู 3 โรคยอดฮิต ที่อาจจะเป็น สาเหตุให้ลูกแมวท้องเสียหรือแมวเราท้องเสีย กัน

ลูกแมวที่มีอาการอาเจียนท้องเสีย ใครเป็นทาสแมวไม่รู้จักโรคนี้ไม่ได้ วันนี้จะมาเล่าถึงอาการ รูปแบบที่เจอบ่อยมากๆ ในลูกแมวไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอาเจียนหรือ การท้องเสีย เราคงอยากรู้กันแล้วใช่ไหม ว่า อาการแบบนี้เป็นโรคอะไรได้บ้าง

แมวมีอาการท้องเสีย อาเจียน เป็นอะไร

 

โรคที่ 1 ที่เจอบ่อยที่สุดเลยนั่นก็คือเรื่องของการมีพยาธิ

พยาธิในลำไส้

ถ้าเกิดว่ามีจำนวนมากๆไม่ว่าจะเป็นตัวกลม ตัวแบน ตัวตืด เม็ดแตงกว่า พยาธิเม็ดแตงกว่าส่วนมาก จะเจอบ่อยที่สุด เป็นพยาธิที่ติดมาจากหมัด พอมีหมัดก็จะปล่อยพยาธิเม็ดแตงกวาเข้าไปในลูกแมวหรือเป็นพยาธิตัวกลม ที่ติดมาจากแม่แมวที่ไม่ได้รับการถ่ายพยาธิ

คราวนี้พอลูกแมวมีพยาธิเยอะมากๆ ตัวพยาธิก็จะไปแยกสารอาหารแล้วก็ไปเกิดการระคายเคืองในทางเดินอาหารของลูกแมว จึงทำให้กระตุ้นให้เกิดการอาเจียน แล้วก็ถ่ายออกมาบางครั้งถ้าลูกแมวของเรามีพยาธิเยอะมากๆ ก็อาจจะอาเจียนเห็นมีพยาธิออกมากับอาเจียนได้ด้วยหรือถ่ายออกมามีพยาธิปนก็เจอได้ ซึ่งการที่เราเจอว่าลูกแมวมีพยาธิ เราก็สามารถพาลูกแมวไปถ่ายพยาธิที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้านได้เลย แนะนำให้ไปที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ เพราะว่าเราจะได้ชั่งน้ำหนักลูกแมวแล้วคุณหมอก็จะได้คำนวณปริมาณยาที่เหมาะสมแล้วก็จะเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับพยาธิที่เราเจอได้ด้วย

เรื่องที่ 2 ที่ทำ ให้เกิดอาการอาเจียนและท้องเสียในลูกแมวนั่นก็คือเกิดการติดเชื้อบิดและก็โปรโตซัว

การติดเชื้อบิดและก็โปรโตซัว

ซึ่งเชื้อนี้ถ้าเกิดว่าเป็นแมวโตหรือว่าแมวที่แข็งแรง ก็มักจะไม่ได้มีอาการอะไรมาก แต่ถ้าเกิดกับลูกแมวเด็ก ถ้าเกิดว่ามีการติดเชื้อบิดมากๆและก็โปรโตซัวมากๆคุณหมอเขาจะทำการตรวจได้โดยเอาตัวอย่างอุจจาระไปตรวจ คุณหมออาจจะตรวจอุจจาระ ด้วยการใช้คัตตอนบัต จิ้มเข้าไปในรูก้นของน้อง เพื่อเก็บตัวอย่างแล้วก็มา ส่องแผ่นสไลด์ในกล้องจุลทรรศน์เพื่อขยายดูเชื้อบิดกับโปรโตซัว ที่ทำให้น้องแมวมีอาการไม่สบายท้อง เกิดอาการท้องอืดท้องเสีย อาเจียนได้ เชื้อส่วนใหญ่จะอันตรายในลูกแมวเพราะว่าถ้าเกิดลูกแมวเขาไม่ได้ทานอาหารแค่ 1-2 มื้อแล้วก็มีอาการอาเจียนร่วมด้วย ลูกแมว ก็มีโอกาสจะเสียชีวิตได้เพราะว่าพลังงานของลูกแมวไม่ได้มีสะสมตามกล้ามเนื้อหรือในตับมากมายเท่ากับน้องแมวที่แข็งแรงแล้ว

โปรโตซัว

บิด

ดังนั้นการที่มีเชื้อบิดหรือเชื้อโปรโตซัว เพียงแค่อาเจียนท้องเสียแค่ครั้งสองครั้งนี้ก็อันตรายได้ ควรรีบพาไปตรวจว่า ถ้ามีอาเจียนอาการท้องเสียด้วยจะได้ดูว่ามีพวกเชื้อบิดหรือโปรโตซัวไหม และที่สำคัญการตรวจอุจจาระ เราสามารถหาได้ด้วยว่ามีไข่พยาธิแอบแฝงด้วยหรือเปล่า เราจะได้ถ่ายพยาธิน้องเขาไปได้เลย

โรคที่ 3 ที่ทำให้เกิดอาการอาเจียนและท้องเสีย โรคนี้เป็นโรคที่อันตรายที่สุด ถึงแก่ชีวิตน้องได้เลย
ซึ่งโรคนั้นที่จะพูดถึงมันก็คือ

โรคไข้หัดแมว

ใครเป็นทาสแมวไม่รู้จักโลกนี้ไม่ได้เด็ดขาดเพราะเป็นโรคสำคัญที่เราต้องทำวัคซีนให้ลูกแมวและแมวของเราทุกตัว ซึ่งในลูกแมวถือว่าเป็นโรคที่อันตรายที่สุดแล้วก็มีโอกาสเสียชีวิตมากถึง 100 เปอร์เซ็นต์ถ้าเกิดว่าลูกแมวอายุน้อยมากๆ อายุประมาณ 2 เดือน 3 เดือน การที่เราพาไปพบหมอเร็วโอกาสการมีชีวิตรอดก็พอมีแต่โอกาสการเสียชีวิต ก็มีสูงอยู่มาก เพราะว่าโรคไข้หัดแมวมันเกิดจากเชื้อไวรัส โรคไข้หัดแมว เวลามันติดเชื้อแล้วก็มีอาการอาเจียน ท้องเสียถ่ายเป็นน้ํามีกลิ่นคาวมากๆ เป็นเพราะว่าเชื้อไข้หัดแมวไปปนติดเชื้อตั้งแต่ช่องปากตั้งแต่ในเพดานปากยาวตลอดทางเดินอาหารไปจนถึงลำไส้ใหญ่ไปจนถึงก้นเลยก็ว่าได้

เปรียบเทียบ เมื่อเวลาติดเชื้อไข้หัดแมว เหมือนโดนน้ำร้อนลวกเหมือนโดนน้ำร้อนลวกอยู่ในลำไส้แบบนั้นเลยซึ่งมันจะทำให้น้องแมวปวดท้องแล้วก็ไม่สบายตัวมากๆร่วมกับการที่ติดเชื้อในกระแสเลือดจึงทำให้ภูมิคุ้มกันของน้องแมวลดลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูง

วิธีการรักษาโรคไข้หัดแมว

โรคไข้หัดแมวจะต้องทำการงดน้ำงดอาหารเพื่อพักลำไส้เวลาที่มีอาการอาเจียนท้องเสียหลายๆคนจะถามว่าทำไมถึงต้องงดน้ำงดอาหาร หรือถ้าเกิดว่าน้องแมวกินไม่ได้มันจะไม่ยิ่งอันตรายกว่าเดิมไหม อยากจะบอกวิธีการรักษาที่แนะนำที่เราให้งดน้ำงดอาหารเพื่อพักลำไส้

อยากให้คิดถึงสภาพเวลาถ้าเกิดเราเป็นแผล แผลที่เหมือนถลอก หรือ โดนน้ำร้อนลวก แล้วเราเอาอะไรไปโดน หรือแค่แบบลมพัด เรายังรู้สึกแสบ เราจึงจำเป็นต้องงดน้ำงดอาหารให้น้อง ถึงแม้จะเป็นอาหารอ่อนๆ ไปโดนผิวโดนพื้นที่สัมผัสที่มีแผลมันก็ปวดแสบปวดร้อนมันก็ยิ่งทำให้น้องแมวไม่สบายตัวแล้วก็เจ็บปวดมากๆ

ดังนั้นช่วงแรกของการรักษาจึงจำเป็นมากๆในการให้น้ำเกลือให้กับน้องแมวเพื่อทดแทนกับการที่น้องเขาท้องเสียแล้วก็ทานอะไรไม่ได้

วิธีที่แนะนำที่สุดในการให้น้ำเกลือนั่นก็คือการให้เข้าเส้นเลือด ที่โรงพยาบาลจะให้น้ำเกลือเข้าขาน้องแมวแล้วก็ ในน้ำเกลือคุณหมอจะให้สารอาหาร กลุ่มลดกรดลดอาเจียนเคลือบ พยุงไม่ให้อาการน้องเขาเป็นมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าแนะนำที่สุดแนะนำให้ใช้ยาต้านไวรัสควบคู่ด้วย เพื่อที่จะทำให้เพิ่มภูมิคุ้มกันของน้องแมวขึ้นได้เร็ว แล้วก็สามารถที่จะต้านโรคไวรัสและ สามารถฟื้นกลับมามีชีวิตและหายในที่สุด

สุดท้ายทั้งนี้ทั้งนั้นจริงและโรคไข้หัดแมวเป็นโรคที่ป้องกันได้ เพื่อไม่ให้เราต้องมาปวดหัวกับวิธีการรักษากับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียมากมายแล้วก็โอกาสรอดของน้องที่น้อยนิด
อย่าลืม ถ้าลูกแมวของเราอายุครบ 2 เดือนเมื่อไหร่ ควรรีบไปทำวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมว และก็ถ่ายพยาธิด้วย จะได้ป้องกัน เรื่องอาเจียนท้องเสียของแมวเด็กที่อาจจะเกิดขึ้นกับน้องแมวของเราได้

เครดิตข้อมูล
คลินิคหมอศิวารักษาสัตว์

 

อาหารแมว 7 อันดับอาหารแมวน่าใช้

อาหารแมว 7 อันดับอาหารแมวน่าใช้

ผมรู้นะครับว่าใครที่เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงเป็นทาสแมว หรือไม่ก็คงต้องเลี้ยงแมวกันบ้างใช่ไหมครับ? เมื่อพูดถึงการเลี้ยงแมวสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการเลี้ยงแมวก็คงหนีไม่พ้น “อาหารแมว” ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทั้งสุขภาพ ความแข็งแรง และความสดใสร่าเริงของน้องแมว โดยเฉพาะใครที่เป็นทาสมือใหม่ก็คงจะงง ๆ ว่าจะต้องซื้ออาหารแมวแบบไหน ยี่ห้อไหน เพราะเวลาเดินเข้าไปใน Pet Shop ก็มีให้เลือกซื้อหลายยี่ห้อมาก วันนี้ผมไม่อยากมาแนะนำอาหารแมว 7 ยี่ห้อ ซึ่งเป็นอาหารแมวที่ดีนิยมกัน

ในเมื่อเป็น “ทาส” ก็ต้องหาอาหารมาบรรณาการเจ้านายเหมียว

ถ้าวันนี้คุณต้องการจะซื้ออาหารแมวที่มีคุณภาพดีให้กับน้องแมวที่บ้าน ผมแนะนำว่าให้เลื่อนไปดูตรงส่วนประกอบของอาหารแมวเป็นอันดับแรกครับ โดยให้เน้นดูไปที่แร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นสำหรับน้องแมว อย่าง ทอรีน, โอเมก้า 3, 6, 9 แคลเซียมและวิตามินอื่น ๆ

นอกจากเรื่องของวิตามินและแร่ธาตุแล้ว สิ่งที่ควรจะคำนึงถึงนั่นก็คือคุณภาพของสารอาหารที่อยู่ในอาหารแมว ถ้าแบรนด์ไหนให้โปรตีนสูง ๆ อย่าง 40 %ขึ้นไป ก็จัดว่าเป็นอาหารแมวที่ดีเกรดพรีเมี่ยมเลยครับ

เอาล่ะทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า 7 อันดับที่ผมเอามาฝากคุณ มีอะไรบ้าง

1. อาหารแมวยี่ห้อ Maxima Cat

Maxima Cat เป็นอาหารแมวสูตรพิเศษที่มีส่วนช่วยในการบำรุงขนของน้องเหมียวให้เงางาม ช่วยเสริมสร้างผิวหนังให้มีความแข็งแรงทนทาน อุดมไปด้วยเนื้อปลาและเนื้อแกะซึ่งเนื้อแกะเป็นส่วนผสมที่พบได้ไม่บ่อยนักในอาหารแมวชนิดอื่น

ส่วนผสมของ Maxima Cat นอกจากโปรตีนจากเนื้อแกะและเนื้อปลาแล้ว ยังมีวิตามินและแร่ธาตุอย่างครบถ้วน ผสม MOS ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดีที่ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีและปกติ ช่วยควบคุมระดับของเกลือแร่ในร่างกาย ป้องกันการเกิดโรคไต ควบคุมระดับแมกนีเซียมเพื่อป้องกันการเกิดโรคนิ่ว ภายในตัวอาหารเม็ดไม่มีการผสมข้าวโพด ถั่วเหลือง เศษเนื้อและกระดูกป่น ดังนั้นมั่นใจในคุณภาพของ Maxima Cat ได้เลยครับ

 

Product

 

2. อาหารแมวยี่ห้อ Canagan Cat

Canagan Cat เป็นอาหารแมวที่ถูกผลิตออกมาโดยเน้นไปที่ให้ส่วนผสมหลักเป็นโปรตีนชั้นยอดที่มาจากธรรมชาตินั่นก็คือเนื้อสัตว์ มีให้เลือกซื้อด้วยกัน 2 สูตรนั่นคือสูตรไก่และสูตรแซลมอน

สูตรไก่ Free-Run Chicken เป็นสูตรอาหารแมวที่ปราศจากเมล็ดข้าวและธัญพืช มีวัตถุดิบหลักเป็นเนื้อไก่ที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดีในโรงเรือน แล้วนำมาเลาะกระดูกออกให้หมดจากนั้นนำเฉพาะส่วนของเนื้อมาเป็นวัตถุดิบหลักของอาหารแมวมากถึง 65 % ซึ่งการนำเนื้อมาเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อให้น้องแมวได้รับโปรตีนมาจากแหล่งอาหารที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติของบรรพบุรุษและสายเลือดของน้องแมวที่เป็นสัตว์กินเนื้อโดยเฉพาะ

สูตรปลา Scottish Salmon สูตรนี้เป็นสูตรอาหารที่ถูกผลิตมาให้สมดุลอย่างพิถีพิถัน ไม่มีเมล็ดข้าวและธัญพืชเป็นส่วนประกอบ ตัวอาหารเม็ดถูกผลิตมาจากวัตถุดิบหลักซึ่งเป็นเนื้อปลาแซลมอน สูงถึง 75% ช่วยให้น้องแมวได้รับโปรตีนระดับพรีเมียมจากเนื้อปลาที่มีมาตรฐาน โดยกระบวนการผลิตเนื้อปลานั้นถูกผลิตออกมาให้มีคุณภาพเดียวกันกับอาหารของมนุษย์ แล้วนำไปผสมกับปลาแฮร์ริ่ง ปลาเทราต์และปลาขาว นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มวัตถุดิบเพื่อให้ได้มาซึ่งวิตามินและแร่ธาตุจากผัก สมุนไพรต่าง ๆ ส่งผลให้น้องแมวจะได้รับโภชนาการอย่างพอเหมาะครบถ้วนเสริมสร้างระบบการทำงานของร่างกายทั้งหมด
ซึ่งทั้ง 2 สูตรเหมาะสำหรับแมวทุกช่วงวัย

อาหารแมว

3. อาหารแมวยี่ห้อ Royal Canin

เมื่อพูดถึงอาหารแมวจะไม่พูดถึงอาหารแมวยี่ห้อนี้ก็คงไม่ได้ เพราะเป็นอาหารแมวยี่ห้อที่ฟาร์มแมวทั้งหลายชอบใช้ในการให้อาหารให้กับน้องแมว นอกจากนี้ก็ยังถูกรีวิวโดยเหล่า Influencer เยอะมาก
ซึ่งข้อดีของอาหารแมวยี่ห้อนี้ก็คงเป็นสูตรของอาหารแมวที่มีค่อนข้างเยอะ ที่แบ่งออกมาเหมาะสำหรับลูกแมว, แมวโต และแมวแก่ และยังแบ่งสายพันธุ์ของแมวแต่ละชนิดด้วย แถมยังแบ่งแยกย่อยลงไปตามโรคต่าง ๆ อีก อาทิ สูตรสำหรับแมวที่เป็นโรคไต หรือสูตรสำหรับแมวที่ทำหมันแล้วเป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีสูตรที่แบ่งย่อยไปตามสายพันธุ์ของแมวอีก

ส่วนประกอบหลักของอาหารแมวยี่ห้อนี้มาจากสัตว์ปีก ทั้งไขมันและเนื้อ ให้โปรตีนสูงให้ระดับพลังงานที่เหมาะสม มีวิตามินและแร่ธาตุจากข้าว, ข้าวสาลี กลูเตนข้าวโพด, โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันปลา จากดอกดาวเรือง ช่วยให้สุขภาพสมบูรณ์ รูปร่างสมส่วน ช่วยกำจัดเส้นขนที่ตกค้างภายในลำไส้ ป้องกันการเกิดนิ่ว ลดปัญหาก้อนขนและควบคุมปัญหาก้อนขน ช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพแข็งแรงสดใสร่าเริงและอยู่กับเราได้นานขึ้น

https://www.royalcanin.com/th/cats

 

4. อาหารแมว HILL

อาหารแมวยี้ห้อ HILL เป็นอาหารที่มีมาในเมืองไทยค่อนข้างจะนาน ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา มีหลากหลายสูตร ไม่ว่าจะเป็นแมวเด็ก สูตรแมวที่เลี้ยงในบ้าน สูตรแมวหนุ่ม สูตรแมวสูงวัย  และ สูตรสำหรับแมวเฉพาะโรค

แต่ละสูตรมีคุณสมบัติเฉพาะของวัย เช่น อาหารลูกแมวสูตรนี้ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ อุดมไปด้วย DHA จากน้ำมันปลาเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของสมองและสายตา มีโปรตีนคุณภาพสูงที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและพัฒนาการของกล้ามเนื้อ มีแร่ธาตุที่สมดุลช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เพื่อให้ลูกแมวของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงในช่วงปีแรกของชีวิต

อาหารแมว อายุ 1-6 ปี สูตรแมวเลี้ยงในบ้าน มีสูตรพิเศษเพื่อให้พลังงานสำหรับแมว อายุ 1-6 ปีที่เลี้ยงในบ้าน อาหารแมวนี้ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ มี DHA จากน้ำมันปลาเพื่อเสริมสร้างสมองและบำรุงสายตา มีแร่ธาตุที่สมดุลช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ขณะที่ใยอาหารจากธรรมชาติช่วยให้แมวมีสุขภาพการขับถ่ายที่ดี ช่วยให้เจ้าของสามารถทำความสะอาดกระบะทรายได้ง่าย

อาหารแมว อายุ 7 ปีขึ้นไป สูตรแมวเลี้ยงในบ้าน มีสูตรพิเศษเพื่อให้พลังงานที่แมวอายุมากที่เลี้ยงในบ้านต้องการ อาหารสำหรับแมวอายุมากนี้ผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติและโปรตีนคุณภาพสูง ช่วยให้แมวสูงวัยของคุณอิ่มท้อง ขณะเดียวกันใบอาหารจากธรรมชาติและส่วนผสมที่ย่อยง่าย

https://www.hills.co.th/cat-food

 

 

5. อาหารแมวยี่ห้อ Whiskas

พูดถึงยี่ห้อนี้เชื่อว่าทาสแมวแทบทุกคนจะต้องรู้จักและเคยเหลียวแลอย่างแน่นอน ซึ่ง Whiskas สูตรแมวโตรสปลาทูเป็นสูตรใหม่ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างร่างกายของน้องแมวให้แข็งแรงด้วยคุณประโยชน์จากอาหารที่ครบถ้วน เน้นไปที่การบำรุงให้ครบรอบด้านช่วยให้การเติบโตสมบูรณ์ทั้งกล้ามเนื้อ และกระดูก
ให้สารอาหารครบถ้วนทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3, 6 และสังกะสี เพิ่มคุณค่าด้วยวิตามินเอและทอรีนช่วยให้น้องแมวดวงตาสดใสสุขภาพดี และอัดแน่นด้วยโปรตีนจากปลาทะเลพร้อมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เพื่อให้น้องแมวเติบโต แข็งแรง ร่าเริง มีชีวิตชีวา

https://www.whiskas.co.th

 

6. อาหารแมวยี่ห้อ Me-O

เป็นอาหารแมวอีกหนึ่งยี่ห้อที่ชื่อว่าทาสแมวแทบทุกคนต้องรู้จัก มาพร้อมกับสโลแกนน่ารัก ๆ อย่าง ” มีแมว ต้อง Me-O” แต่ยี่ห้อนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่ชื่อหรือสโลแกนนะครับ

โดยในตัวอาหารแมวถูกผลิตออกมาให้มีสารอาหารที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทอรีนช่วยบำรุงสายตาให้ดวงตาสดใส วิตามินซีช่วยกระตุ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดีช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน โอเมก้า 3, 6 และสังกะสีช่วยบำรุงผิวหนังและขนให้เงางาม นอกจากนี้ยังมีส่วนควบคุมค่า pH หรือความเป็นกรดด่างของปัสสาวะ และช่วยควบคุมปริมาณโซเดียมลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไต โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงในแมว

โดยอาหารแมวสูตรนี้ถูกผลิตออกมาสำหรับแมวโตตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป

https://www.facebook.com/meothailand/

 

7. อาหารแมวยี่ห้อ Purina ONE

Purina ONE เป็นอาหารแมวคุณภาพสูงระดับพรีเมียม ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาสูตรร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของแมวมาอย่างยาวนาน ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องปัญหาสุขภาพที่จะตามมาจากการใช้อาหารแมวยี่ห้อนี้ มั่นใจได้เลยว่าจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์และปลอดภัย

นอกจากนี้โปรตีนที่ได้รับจากอาหารแมวยี่ห้อนี้ยังเป็นโปรตีนคุณภาพจากเนื้อปลาแซลมอนที่มีโปรตีนสูง มีส่วนช่วยให้น้อง ๆ มีมวลกล้ามเนื้อและหัวใจที่แข็งแรง นอกจากนี้ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยให้ภูมิต้านทานแข็งแรง ผิวหนังและขนสวยเงางาม

https://www.purinaone.co.th/product

 

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 7 อาหารแมวที่ดีที่สุดในรอบปีนี้ที่ผมจัดหามาให้ อย่างไรก็ดีทั้ง 7 ยี่ห้อนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นนะครับ หวังว่าทาสแมวหัวอกเดียวกันจะลองนำไปปรับใช้แล้วหาซื้ออาหารแมวอร่อย ๆ มาให้เจ้านายได้กลิ่นกันนะครับ

สุดท้ายไม่ว่าอาหารแมวจะดีแค่ไหนก็อย่าลืมให้น้องแมวกินน้ำให้มากและเพียงพอด้วยนะครับ เพราะถ้ากินแต่ข้าวไม่กินน้ำระวังจะเป็นโรคนิ่วได้นะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับเจ้านายและความเป็นทาสที่ทุกคนพร้อมใจจะเป็นกันนะครับ

เครดิตภาพ
https://www.hepper.com/

อาการไวรัสไข้หัดแมว

ไวรัสไข้หัดแมว (FPV) หรือที่เรียกว่าโรคพาร์โวไวรัสแมว

เครดิตภาพ;claychalkvilleanimal

สามารถติดเชื้อได้ง่ายและอาจเป็นโรคร้ายแรงถึงชีวิตที่ทำร้ายลูกแมว​ และแมวโตเต็มวัย เป็นโรคติดเชื้อในทางเดินอาหารของแมว สามารถพบได้ทุกช่วงอายุโดยเฉพาะในแมวเด็ก และแมวที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ในกรณีที่มีอาการรุนแรง สามารถทำให้น้องเหมียวของคุณเสียชีวิตได้ ถือเป็นโรคที่ค่อนข้างร้ายแรงที่คนเลี้ยงแมวไม่ควรมองข้ามเลย

อาการไข้หัดแมว

👉โรคนี้มีระยะการฟักตัวของโรค 2-7 วัน
👉​มีอาการไข้สูงเฉียบพลัน
👉​ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน
👉​ท้องเสีย ร่างกายขาดน้ำ ถ่ายเป็นเลือด
👉ร่างกายอ่อนเพลีย​ อ่อนเเรง

สาเหตุไข้หัดแมว

เกิดจากการติดต่อโดยตรงจากแมวป่วย โดยเฉพาะทางอุจจาระ ภาชนะใส่อาหาร น้ำ กรง ที่ขับถ่ายของแมว หรือพื้นดินที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อไวรัส รวมถึงเสื้อผ้า และรองเท้า การแพร่โรคนี้จะเกิดได้ง่ายขึ้นหากเลี้ยงน้องแมวรวมกันหลายตัว

วิธีป้องกันโรคไข้หัดแมว

แมวจำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีน เพื่อป้องกันโรค โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 8 สัปดาห์และกระตุ้นซ้ำ อีกทีที่ 12 และ 16 สัปดาห์ จากนั้นจึงต้องมากระตุ้นซ้ำทุกปี ที่สำคัญคือหากมีการนำแมวตัวใหม่เข้ามาในบ้านแล้วยังไม่มีประวัติหรือการเคยทำวัคซีน ควรทำการกักโรคไว้ 1 สัปดาห์ หมายถึง แยกเลี้ยงเพื่อให้เคยชินกับสภาพแวดล้อมและรอให้โรคถึงระยะฟักตัวจริงๆ เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อนั่นเอง

เครดิตข้อมูล
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาเชียงใหม่

7 อันดับสายพันธุ์แมวน่าเลี้ยง

ขึ้นชื่อว่าเจ้าแมวเหมียว แมวตัวน้อย เชื่อว่าหลายคนเองก็คงต้องหลงเสน่ห์เจ้าสัตว์ตัวเล็กตัวนี้จนโงหัวไม่ขึ้นไม่ต่างกัน(ผมเองก็เช่นกัน) นั่นก็เพราะนิสัยที่น่ารักขี้อ้อนของเจ้าแมวเหมียวเหล่านี้ทำให้หลายคนตกเป็นทาสโดยไม่รู้ตัว เลยทำให้เจ้าแมวกลายมาเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงคู่ใจของมนุษย์ และด้วยความที่เจ้าแมวเหมียวก็มีทั้งหมดหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็มีนิสัยเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน วันนี้ผมเลยอยากจะมาแนะนำ 7 อันดับสายพันธุ์แมวที่น่าเลี้ยงที่สุด จะมีอะไรกันบ้างมาดูกันเลยครับ

7 อันดับสายพันธุ์แมวที่น่าเลี้ยงที่สุด

1. อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair)

พูดถึงน้องแมวน่าเลี้ยงคงไม่พูดถึงสายพันธุ์นี้ไม่ได้แน่ ๆ “อเมริกัน ชอร์ต แฮร์” เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ หูมีขนาดกลาง มีลายหินอ่อนทั่วทั้งตัว ตามประวัติเป็นแมวที่ถูกนำมาจากยุโรปแล้วไปสู่แผ่นดินอเมริกา จากนั้นก็มีการผสมข้ามสายพันกันมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งสายพันธุ์นิ่งและเห็นเด่นชัดอย่างปัจจุบัน

2. เทอร์คิช แองโกรา

“เทอร์คิช แองโกรา” เป็นแมวสายพันธุ์หนึ่งจากเมืองแองโกรา ประเทศตุรกี มีขนคล้ายเส้นไหมและหนาเหมือนขนแกะ มีต้นกำเนิดมาจากเมืองแองโกราตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จึงจัดว่าเป็นแมวพันธุ์ขนยาวที่เก่าแก่ที่สุด และถือเป็นต้นกำเนิดของแมวพันธุ์ขนยาวปัจจุบัน

3. แร็กดอลล์

แมวพันธุ์นี้มีลักษณะภายนอกคล้ายกับตุ๊กตาผ้าเหมือนกับชื่อสายพันธุ์ เวลาอุ้มขึ้นมาจะชอบทำตัวอ่อน ย้วย เหมือนกับไม่มีกระดูก ขนตลอดตัวโดยเฉพาะบริเวณเอวจะแน่น ฟู นุ่ม บริเวณเท้าจะเป็นสีด่างขาวจึงทำให้ดูเหมือนกำลังใส่ถุงเท้าอยู่ตลอดเวลา เสียงร้องค่อนข้างเบาและเป็นแมวที่มีนิสัยชอบความเงียบสงบ

4. เปอร์เซีย

แมวเปอร์เซียเป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เปอร์เซียหรือแถบอิหร่าน มีการผสมข้ามสายพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวอังกฤษ จากนั้นก็มีการพัฒนาสายพันธุ์ต่อมาเรื่อย ๆ จนได้แมวที่มีขนหนาและยาวกว่าเดิม
แมวเปอร์เซียที่มีลักษณะตามมาตรฐานควรจะมีจมูกอยู่ระดับเดียวกับตา โครงสร้างลำตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็ก ปลายหูกลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นตรงไม่มีรอยหัก ขนยาวฟู ท่าทางการเดินดูสง่างาม

แมวเปอร์เซียเป็นที่นิยมในประเทศต่าง ๆ มากกว่าร้อยปีมาแล้ว สำหรับประเทศไทยจัดว่าเป็นแมวต่างประเทศที่ถูกนำมาเผยแพร่เป็นพันธุ์แรก เนื่องจากเป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน สุขุม เข้ากับคนง่าย มีความร่าเริงซุกซน มีไหวพริบแต่ก็ชอบประจบประแจง

5. สก็อตติช โฟลด์

พูดถึงสายพันธุ์แมวน่าเลี้ยงจะไม่พูดถึงแมวสายพันธุ์นี้ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะสก็อตติช โฟลด์ จัดว่าเป็นแมวอีก 1 สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงอย่างแพร่หลายมาก เป็นแมวขนาดกลาง ตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอที่สั้น ดวงตากลมใหญ่ แสดงออกถึงความน่ารักสดใส ใบหูมีได้ตั้งแต่ลักษะตั้งตรงขนาดกลางไปจนถึงหูพับขนาดเล็ก ปากและคางจะโค้งรับกันพอดีคล้ายกับกำลังยิ้มอยู่ ทำให้ได้รับฉายาน่ารัก ๆ ว่า ” smiling cat” หรือเจ้าแมวหน้ายิ้มนั่นเอง

6. แมงซ์

เป็นเจ้าเหมียวที่ขึ้นชื่อเรื่องของความน่ารัก น่าเอ็นดู จุดสำคัญและเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าเหมียวอันนี้ก็คือไม่มีหางครับ ชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ ลักษณะโดยทั่วไปลำตัวจะกลมขาสั้น ด้วยคราวหลังจะมีความยาวมากกว่าขาหน้า ดูไปดูมาก็คล้ายกระต่ายนะครับ ทำให้มีอีกชื่อหนึ่งว่า “บันนี่แคท” ขึ้นชื่อว่าหามาเลี้ยงยากพอสมควรแต่รับประกันเรื่องความน่ารักและขี้เล่น ใครที่อยากหามาเลี้ยงอาจจะต้องใช้ความพยายามนิดนึงแต่รับรองว่าคุ้มแน่นอนครับ

7. ทอยเกอร์

ทอยเกอร์เป็นน้องแมวสายพันธุ์ผสมที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาให้มีความสวยงาม แล้วถูกยอมรับให้เป็นสายพันธุ์แมวสายพันธุ์หนึ่ง โดยแมวสายพันธุ์นี้มีลักษณะเด่นอยู่ที่ลายบนตัว สิ่งที่มองไกลๆลายบนตัวของเจ้าแมวพันธุ์ทอยเกอร์ก็เหมือนกับเสือเลยครับ โครงสร้างสวยงามสมส่วน หน้าตาภายนอกอาจจะดูเหมือนเสือแต่นิสัยแท้จริงแล้วขี้เล่นมากครับไม่ได้ดุร้ายเลย ที่สำคัญคือแมวสายพันธุ์นี้ฉลาดพอสมควร ถ้าคุณรู้วิธีและรู้จักฝึกมันมันก็สามารถทำตามคำสั่งของคุณได้เช่นกัน

จบไปแล้วนะครับกับ 7 อันดับแมวที่น่าเลี้ยงที่สุดในยุคนี้ 6 อันดับแรกบอกเลยครับว่าเป็นแมวที่น่าเลี้ยงแบบสมัยนิยม แต่สำหรับอันดับที่ 7 เป็นความชอบส่วนตัวครับก็เลยเอาใส่เข้ามาเพื่อแบ่งปันให้กับใครที่ได้อ่านบทความนี้ เผื่อใครที่ชอบแมวลายสวยๆหน้าตาเหมือนเสือเท่ๆเอามาเลี้ยงนะครับ

สุดท้ายในการเลี้ยงแมวหรือว่าเลี้ยงสัตว์อะไรก็แล้วแต่ไม่ใช่แค่เห็นมันน่ารักก็เลยจะเอามาเลี้ยงนะครับ ตอนนั้นก็คือหนึ่งชีวิตเหมือนกัน ต้องการการดูแล การเอาใจใส่ แต่ต้องการได้รับความรักไม่ต่างจากเราเลยครับ ใครที่กำลังมองหาน้องแมวน่ารักๆมาอยู่เป็นเพื่อน เอาไว้เล่นด้วยเวลาเหนื่อย เวลาเครียดในการทำงาน ก็ลองเลือกดูจาก 7 สายพันธุ์นี้ก็ได้นะครับ

สุนัขและแมวชักต้องทำอย่างไร

อาการชักที่เกิดขึ้นกับหมาและแมว มักทำให้เจ้าของตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะช่วยน้องอย่างไร จนบางครั้งทำให้น้องหมาน้องแมวจากไป ทีม PETSAYHI ขอนำบทความคำถามเกี่ยวอาการชักจาก คุณหมอ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน มาแชร์ให้ทุกคนได้รู้และได้อ่านกัน

เครดิตข้อมูล สัตวแพทย์ประจำศูนย์ระบบประสาท โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน หมอหมวย หรือ สพ.ญ.ปิโยรส โพธิพงศธร

.
1. อาการชัก เป็นอย่างไร
เมื่อน้องหมาหรือแมวชัก จะมีอาการ เกร็ง ตาลอย เคี้ยวปาก น้ำลายไหล ชักปั่นจักรยาน ปัสสาวะและอุจจาระราด แต่ถ้าหาก น้องหมาแค่มีอาการที่คล้ายกัน เช่น เป็นลดหมดสติ อ่อนแรงเดินแล้วล้ม หรือปวดเกร็งจนเดินไม่ได้ แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นอาการชัก ดังนั้น หากเจ้าของเข้าใจอาการของน้องหมาหรือแมวอย่างถูกต้องก็จะให้ข้อมูลหมอได้ถูกต้องอันมีผลต่อการรักษาพยาบาล
.
2. การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อน้องหมาและแมว เกิดอาการชัก
กรณีที่ชักครั้งแรก ขอให้คุณตั้งสติ หาผ้าสะอาดมาเช็ดคราบน้ำลายเพื่อป้องกันการสำลัก และควรรีบพาส่งโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุดทันที
.
3. การให้ข้อมูลอาการของน้องหมาและแมว
เรื่องนี้สำคัญมาก เจ้าของควรลำดับเหตุการณ์ก่อนชักว่ามีอาการอย่างไร มีอาการแบบนี้บ้างไหม เช่น ไม่ทานข้าว หลบซ่อนตัว กระวนกระวาย หายใจหอบ ฯลฯ และควรเล่าประวัติเพิ่มเติมให้สัตวแพทย์ทราบ เช่น มีโรคประจำตัวอะไร ต้องกินยาอะไรอย่างต่อเนื่อง ช่วงที่มีอาการชัก มีอาการอย่างไร และกินเวลานานแค่ไหน
หากเป็นไปได้ถ้าเจ้าของถ่ายคลิปวีดีโอขณะที่น้องมีอาการมาประกอบให้คุณหมอได้ดูวินิจฉัยโรคด้วยจะเป็นเรื่องที่ดีมาก
.

4. วิธีการรักษา
เบื้องต้นสัตวแพทย์จะให้ยาลดอาการชัก หรือตรวจเลือดเพื่อหาความผิดปกติ ดูค่าตับ ค่าไต ดูระดับน้ำตาลในเลือดตรวจหาเชื้อ เพื่อหาความผิดปกติ ต่างๆ หากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะเช่นนี้ก็ทำให้น้องหมาและแมวชักได้ หรือหากติดเชื้อไข้หัด ก็ทำให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน
หากน้องหมาแมวไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้อันเนื่องมาจากตับวาย หรือไตวาย ก็ทำให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน ดังนั้นการตรวจเลือดดูค่าตับหรือไต จึงเป็นวิธีที่ดีสำหรับวินิจฉัยหาสาเหตุของโรคอีกวิธีหนึ่ง
.
5. อาการชักอันเนื่องจากโรคทางพันธุกรรม
ถ้าน้องหมาหรือแมวมีอาการชักในช่วงอายุ 6 เดือน – 6 ปี ก็สันนิษฐานว่าเป็นโรคลมชัก ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม ไม่ควรให้น้องหมามีลูกต่อไปเราควรทำหมันน้องหมาหรือน้องแมวเพื่อยุติโรคนี้ แต่หากน้องหมาหรือแมวเกิดอาการชักในอายุที่มากกว่า 6 ปีไปแล้ว สันนิษฐานว่าอาจะเกิดจากเนื้องอกที่สมอง หรือเป็นมะเร็งที่สมอง ซึ่งอาจจะต้องเอ๊กซ์เรย์ หรืออัลตร้าซาวนด์ เพื่อตรวจดู
.
6. อาการอื่นๆที่คล้ายกับอาการชัก
ยังมีโรคที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ หรือการเจ็บปวดที่ร่างกาย ก็จะมีอาการคล้ายกับการชัก แต่ไม่ใช่เพราะมาจากระบบอื่นๆของร่างกายไม่ใช่เกิดมาจากระบบประสาท ดังนั้น เจ้าของสุนัขควรทำความเข้าใจกับอาการชักให้ถูกต้อง
.
7. อย่าเฉยเมยหรือนิ่งนอนใจกับอาการชัก
บางครั้งเมื่อหมาหรือแมวมีอาการชักและสามารถกลับมาเป็นปกติได้ อาจทำให้เจ้าของเคยชินและคิดเอาเองว่าเป็นแล้วเดี๋ยวก็หายเอง ซึ่งหมอไม่อยากให้เจ้าของคิดเช่นนี้
ในกรณีที่น้องหมามีอาการชักมากกว่า 1 ครั้ง สิ่งที่เจ้าของต้องหมั่นสังเกตคือ อาการชักเกิดถี่แค่ไหน เกิดแต่ละครั้ง นานแค่ไหน และเริ่มรบกวนการดำเนินชีวิตปกติหรือไม่ เจ้าของควรพาน้องหมามาตรวจหาสาเหตุเพื่อทำการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ความปล่อยให้น้องหมาหรือแมวชักอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะการชักแต่ละครั้งสมองจะขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง หากสมองขาดออกซิเจนนานเกิน 5 นาทีก็มีโอกาสที่น้องหมาหรือแมวจะเสียชีวิตหรือเป็นอัมพาตได้

ดังนั้นหากน้องหมาและแมวเกิดอาการชัก ก็ไม่ควรปล่อยไว้ ควรพาตรวจและรับคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ เพื่อเราจะได้ช่วยกันหาแนวทางการรักษา และให้น้องหมาและแมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถอยู่กับเราได้ไปนานๆ

เครดิต ข้อมูล
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน

เชื้อราแมว การติดเชื้อราในแมว

จากกระแสเพจ หมอแล็บแพนด้า ได้แชร์ภาพอาการของเจ้าของที่มีอาการคล้ายกับการเป็นเชื้อราที่ติดจากน้องแมว เรามาตรวจเช็คน้องแมวเราดีกว่าว่ามีอาการเหล่านี้หรือเปล่า

  • มีวงขนร่วงเป็นวงกลม สีแดง ขอบหนาตัว มีสะเก็ด
  • ผิวหนังมีสะเก็ดรังแค
  • เส้นขนแห้ง หยาบ เปราะแตกง่าย
  • เกา หรือ เลีย​ ที่บริเวณผิวหนังจนผิวหนังอักเสบ
  • เล็บเปราะ แตกง่าย เป็นสะเก็ด ผิดรูป

หากมีอาการดังกล่าว แสดงว่าเจ้านายเหมียวของท่านมีโอกาสจะเป็นโรคเชื้อรา หรือที่เรียกกันว่า ” Ringworm “ นั่นเอง
เกิดจากการติดเชื้อราในกลุ่ม Dermatophyte ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดรอยโรคผิวหนังในแมวทุกตัวที่สัมผัสเชื้อ แมวกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ลูกแมวอายุน้อย แมวแก่อายุมาก แมวป่วย แมวที่เป็นโรคที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของผิวหนัง แมวที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง แมวเครียด

เชื้อราในแมวเป็นโรคที่ติดต่อกันโดยผ่านการสัมผัสทั้งทางตรงและทางอ้อม และสามารถติดต่อกันได้ทั้งในหมู่สัตว์เลี้ยง (เช่น สุนัข, แมว เป็นต้น) แถมยังติดต่อจากสัตว์สู่คนได้อีกด้วย

รอยโรคการติดเชื้อราในคน มีความคล้ายคลึงกับในแมว คือ ช่วงแรกจะพบลักษณะของตุ่ม/ผื่นแดง จากนั้นจะค่อยๆลามออกไปจนมีลักษณะเป็นวงสีแดง ขอบนูนเล็กน้อย มีขอบเขตชัดเจน อาจพบตุ่มน้ำหรือขุยสีขาวอยู่รอบๆ มักมีอาการคันเล็กน้อย

หากสงสัยว่าเจ้านายเหมียวของท่านมีโอกาสจะเป็นโรคเชื้อรา ควรพามาพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างถูกวิธี หากปล่อยทิ้งไว้นานจนการติดเชื้อลุกลาม จะทำให้รักษายาก ใช้เวลานาน และยังอาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปยังคนในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆอีกด้วย

เครดิต.
ขอบคุณความรู้ดีๆจาก…หมอสพ.ญ.นันทรัตน์ เต็มโชคทวีทรัพย์
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน
หมอแล็บแพนด้า

 

เชื้อราแมว

คือ เชื้อราที่ทำให้แมวเป็นโรคผิวหนัง แมวที่ติดเชื้อจะมีขนหลุดออกมาเป็นหย่อมๆ ผิวหนังแดง แห้ง ลอกเป็นขุยๆ และมีการตกสะเก็ดร่วมด้วย ซึ่งผู้ที่ชอบสัมผัสกับแมวโดยไม่ทำความสะอาดหลังจากสัมผัสมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ นอกจากแมวแล้ว สัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ เช่น สุนัข แฮมสเตอร์ ก็สามารถพบการติดเชื้อรานี้ได้ เช่นกัน

อาการของผู้ติดเชื้อราแมว

1.ผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย ทั้งวงเล็กและวงใหญ่
2.มีขุยขึ้นตามบริเวณรอบๆผื่นแดง
3.มีอาการคันตามผื่นแดง
4.อาจเกิดผื่นแดงเพิ่มขึ้นเมื่อเกาที่บริเวณผื่นแดง และไปสัมผัสจุดอื่นๆบนร่างกาย
5.หากมีการติดเชื้อที่หนังศีรษะอาจพบเส้นผมในบริเวณที่ติดเชื้อร่วงเป็นหย่อม

วิธีรักษาเชื้อราแมวในผู้ป่วย

สำหรับที่ผิวหนัง
ให้ทายาฆ่าเชื้อราที่ได้รับจากคุณหมออย่างต่อเนื่องโดยอาการต่างๆจะดีขึ้นภายใน 3 สัปดาห์
หากพบผื่นจำนวนมาก แพทย์อาจให้รับประทานยาต้านเชื้อราควบคู่กับการทายาฆ่าเชื้อราไปด้วย

สำหรับการติดเชื้อบนหนังศีรษะ ควรรับประทานยาต้านเชื้อราตามที่คุณหมอสั่งอย่างต่อเนื่องการใช้ยาทาหรือแชมพูเชื้อราเพียงอย่างเดียวอาจมีประสิทธิภาพในการรักษาไม่เพียงพอ

วิธีการป้องกันตัวจากเชื้อราแมว

1.หากแมวเป็นโรคผิวหนัง บนผื่นหรือรอยแดงที่ผิวหนัง ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแมวที่เป็นโรคผิวหนังจนกว่าจะหาย
2.ไม่ควรคลุกคลีกับสัตว์ที่เลี้ยงในระบบเปิดอย่างใกล้ชิดมากจนเกินไป เช่น นำสัตว์เลี้ยงมานอนด้วย ให้สัตว์เลี้ยงเลียหน้าหรือปาก
3.ดูแลความสะอาดของสัตว์เลี้ยงอยู่เสมอ เช่น เป่าขนให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ
4.หลังสัมผัสหรือใกล้ชิดสัตว์เลี้ยง ควรทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสสัตว์เลี้ยงทันทีทุกครั้ง
5.นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อรา
6.ทำความสะอาดสิ่งของภายในบ้านที่สัตว์เลี้ยงสัมผัส เช่น โซฟา โต๊ะ ผ้าห่ม เป็นประจำ

 

การรักษาเชื้อราแมวในแมว

วิธีการวินิจฉัยโรคเชื้อราที่ดีที่สุดคือ การพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อมองหาสาเหตุที่แท้จริงของการติดเชื้อราในเเมว ว่าติดมาจากเเมวด้วยกัน หรือ ติดจากสัตว์ exotic จำพวกหนูหรือกระต่ายที่อาจเลี่ยงในสิ่งเเวดล้อมเดียวกัน หรือเเม้กระทั่งเป็นเชื้อราที่ติดมาจากดิน  หากสามารถทราบได้เเล้ว คุณหมอจะเริ่มให้การรักษาโดยมีการรักษาทั้งเบบเฉพาะที่ (ยาทา สเปรย์ยา น้ำยาทำความสะอาด รวมไปถึงแชมพูฆ่าเชื้อรา) เเละการรักษาเเบบทางระบบหรือก็คือการรักษาโดยใช้ยากินนั่นเอง ซึ่งในการรักษาเชื้อรา เเต่ละกรณีสัตวแพทย์ให้การรักษาที่แตกต่างออกไป ตามเเต่ลักษณะของรอยโรคที่พบ

โดยมากสัตวแพทย์ อาจจะแนะนำให้น้องเเมวตัดขนให้สั้น เพื่อลดปริมาณขนที่ติดเชื้อและลดการปนเปื้อนของสปอร์ที่อยู่บนเส้นขนในสิ่งแวดล้อม ร่วมกับการใช้ยาทาเฉพาะที่ หรือสเปรย์ หรือ แชมพูอาบน้ำที่มีส่วนประกอบของตัวยา ketoconazole สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยมีคำเเนะนำว่าในการใช้เเชมพูยา ควรให้มีระยะเวลาในการสัมผัสของเเชมพูกับตัวน้องแมว อย่างน้อย 10-15 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา นอกจากนี้สัตวแพทย์อาจจ่ายยากินเพื่อรักษาอาการโรตผิวหนังจากเชื้อรา โดยนิยมให้ยา itraconazole เเบบกิน ซึ่งมีทั้งรูปแบบยาน้ำ เเละยาแคปซูล ร่วมไปกับการรักษาเฉพาะที่ เช่นยาทา หรือยาอาบ ด้วยก็ได้ ระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอของการให้ยา ระดับภูมิคุมกันของน้องเเมวเเต่ละตัว รวมไปถึงเพื่อนสัตว์เลี้ยงอื่นๆในสิ่งแวดล้อมหรือในบ้านเดียวกันด้วย  ในกรณีที่มีแมวป่วยในบ้านมากกว่า 1 ตัว อาจติดซ้ำกลับไปมา จึงอาจใช้ระยะเวลาในการรักษานานถึง 3-6 เดือนเลยทีเดียว
ให้ยากับน้องแมวกินตามที่สัตวแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
หากแมวมีอาการเบื่ออาหาร ซึม ควรหยุดยากินและพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
พาน้องแมวไปรับการตรวจร่างกายตามที่สัตวแพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ

 

 

เครดิตข้อมูล
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากากาดไทย
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

 

 

 

ทำไมแมวถึงทำลายเฟอร์นิเจอร์

ฟันและกรงเล็บของแมวสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อโซฟา  เฟอร์นิเจอร์และผ้าม่าน ความจริงของเรื่องนี้ก็คือสิ่งนี้เป็นไปตามธรรมชาติของพวกเจ้าเหมียวและวิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงก็คือการจัดหาทางเลือกที่เหมาะสมให้กับน้องแมว

คนเลี้ยงแมวส่วนใหญ่มักจะชอบเลี้ยงแมวในบ้านมากกว่าปล่อยน้องแมวไว้ข้างนอก  ปกติน้องแมวมีวิวัฒนาการมาชอบปีนป่ายและชอบออกไปข้างนอกล่าเหยืออยู่แล้ว  การที่เลี้ยงแมวอยู่ในบ้าน จึงต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ต้องการให้พวกเขา

แมวต้องการที่ที่สามารถปีนกระโดดและเดินเตร่ได้ ,พวกมันชอบความสูงเพราะช่วยให้มองเห็นและติดตามเหยื่อได้ เช่นกันเนื่องจากพวกมันสามารถตกเป็นเหยื่อของสัตว์ใหญ่ได้แมวจึงมักจะรู้สึกปลอดภัยกว่าเมื่ออยู่ในที่ซ่อนสูง

วิธีนี้ช่วยอธิบายนิสัยแปลก ๆ บางอย่างที่แมวของคุณมีได้ พวกมันทำตัวเหมือนนักล่าในบางครั้งและบางครั้งก็ล่าเหยื่อ เหมือนอยู่ในป่า

การปีนผ้าม่านของแมวโซฟา เป็นวิธีที่พวกเขาสร้างสิ่งนี้ขึ้นใหม่ในบ้านของเราหากพวกเขาไม่มีที่ให้ล่า

ทำให้แมวของคุณหยุดทำลายสิ่งของของคุณ

1.อย่าลงโทษพวกเขา
สิ่งแรกที่ควรจำไว้ก็คือสิ่งที่พวกเขากำลังทำนั้นไม่ได้ผิดโดยมันเป็นธรรมชาติของแมวอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้จึงไม่สมเหตุสมผลที่จะลงโทษพวกเขาเป็นสิ่งที่พวกเขาทำและต้องการมันในการใช้ชีวิต (การลงโทษแมวเพราะเป็นแมวอาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวในภายหลัง)

2. สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับแมว
ดังที่เราได้กล่าวมาแล้วข้างต้นแมวต้องปีนป่ายเพื่อให้รู้สึกปลอดภัย พวกเขาต้องการเฝ้าดูเหยื่อและอยู่อย่างปลอดภัยจากนักล่า เราควรสร้างสภาพแวดล้อมนั้นด้วยการเพิ่มคอนโดแมว ตะกร้าแขวนที่ออกแบบมาเพื่อให้แมวแอบอยู่หรือนอนบนชั้นวางที่แข็งแรง (สิ่งนี้ให้สิ่งที่พวกเขาต้องการโดยน้องแมวอาจจะไม่ทำลายเฟอร์นิเจอร์เรา)

3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับกรงเล็บ
เหตุผลที่คอนโดแมวปูด้วยพรมก็คือมันเป็นจุดที่ปลอดภัยและเป็นที่ต้องการสำหรับแมวในการยืดอุ้งเท้าและลับคมกรงเล็บเราสามารถสร้างเองด้วยเศษไม้และนำพรมเพื่อให้น้องลับคมเล็บได้ เราสามารถฝึกแมวให้ใช้สิ่งนี้ในการลับคมแทนที่จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ของเรา

4. ฝึกแมวของไม่ให้กรงเล็บ – สำหรับลูกแมว
การฝึกแมวตั้งแต่เด็กๆ ให้พวกเขาเล่นและใช้ความอยากรู้อยากเห็นและสัมผัสถึงการสำรวจในพื้นที่ที่ออกแบบมาสำหรับพวกแมวเท่านั้น แมวชอบล่าสัตว์ ลองวางของเล่นไว้ในระดับที่สูงขึ้น  สิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นให้พวกเขาเล่นที่นั่น หรือ อาจจะวางขนมไว้สำหรับให้น้องมาทานในพื้นที่ของเขาที่เราจัดเตรียมไว้ให้

5. ฝึกแมวของคุณไม่ให้กรงเล็บ – สำหรับผู้ใหญ่
สามารถฝึกแมวโตได้ในลักษณะเดียวกับลูกแมว  แมวที่มีอายุมากขึ้นก็จะยิ่งกระโดดปีนและกระโดดได้ยากขึ้น แมวที่โตเต็มวัยอาจจะไม่ชอบไปที่สูงมากนักเราควรทิ้งขนมไว้ตลอดทาง ที่ที่เราจะให้น้องแมวไปอยู่เพื่อให้เขาไปตำแหน่งที่เราต้องการ

เครดิตข้อมูล
bickfordvet.com/

 

โรคหัดแมว

ไวรัสไข้หัดแมว (FPV) หรือที่เรียกว่าโรคพาร์โวไวรัสแมว

โรคไข้หัดแมว เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มพาร์โวไวรัสในแมว  มีผลต่อระบบทางเดินอาหารของแมว พบรายงานการพบโรคนี้มานานแล้ว ซึ่งสามารถพบในแมวทุกตระกูล ไม่ว่าจะเป็น เสือ สิงโต แมวป่า หรือแม้แต่แมวบ้านทุกพันธุ์นอกจากนี้ยังพบได้ในสัตว์ตระกูลอื่นๆ อีก เช่น สกั๊งค์ เฟอเร็ต มิ้งค์ แรคคูน ซึ่งโรคนี้ทำให้แมวมีอาการอาเจียนและท้องเสีย บางครั้งอาจมีอาการหวัดแทรกซ้อน จึงมีคนเรียกชื่อต่างๆ มากมาย เช่น “โรคไข้หัดแมว” (Cat distemper) และ “โรคลำไส้อักเสบในแมว” (Feline Parvovirus Enteritis) เป็นต้น


เครดิตภาพ 3 HD

ส่วนใหญ่พบในแมวอายุน้อยและก่อให้เกิดความรุนแรงค่อนข้างมาก ส่วนแมวโตนั้นก็สามารถพบได้เช่นกัน โดยอาการที่พบคือ ซึม เบื่ออาหาร มีไข้สูง อาเจียน ท้องเสีย ถ่ายเป็นมูกเลือดกลิ่นคาว ร่างกายขาดน้ำ บางครั้งอาจมีอาการเกร็ง ปวดช่องท้อง และพบลักษณะลำไส้หนาตัว ภายในมีแก๊สและของเหลว อาจมีผลต่อการทรงตัวของลูกแมวและทำให้ลูกแมวตาบอดได้ ในแมวที่หายจากโรคนี้ในระยะแรกยังสามารถตรวจพบเชื้อไวรัสในอุจจาระได้หลายสัปดาห์ ส่วนในแมวที่ตั้งท้องอาจทำให้เกิดการแท้งลูกหรือลูกตายหลังคลอดได้

 

การติดต่อของโรค

สามารถติดได้จากการสัมผัสแมวป่วย หรือสัมผัสกับอุจจาระ สิ่งคัดหลั่งต่างๆ หรือภาชนะเครื่องใช้ของแมวป่วย หรือติดผ่านจากมนุษย์เป็นพาหะนำโรคผ่านเสื้อผ้า อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆที่สัมผัสกับแมวป่วย โรคไข้หัดแมวจะมีระยะการฟักตัวของโรค 2-7 วัน โดยแมวอายุน้อยมักตายอย่างรวดเร็ว อัตราการตายอยู่ระหว่าง 25-90% เป็นโรคที่มีอัตราการตายสูงโดยเฉพาะในกลุ่มแมวที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน เมื่อตรวจเลือดมักจะพบเม็ดเลือดขาวต่ำมาก จึงมีชื่อเรียกโรคนี้ว่า “Feline Panleukopenia”

อาการไข้หัดแมว

👉โรคนี้มีระยะการฟักตัวของโรค 2-7 วัน
👉​มีอาการไข้สูงเฉียบพลัน
👉​ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน
👉​ท้องเสีย ร่างกายขาดน้ำ ถ่ายเป็นเลือด
👉ร่างกายอ่อนเพลีย​ อ่อนเเรง

การรักษา

ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพราะเป็นโรคติดต่อร้ายแรง โดยเฉพาะแมวที่ไม่กินอาหาร มีอาเจียน ท้องเสีย จะทำให้ร่างกายอ่อนแรง ขาดน้ำ เสียสมดุลย์ของอิเล็คโตรไลท์ในร่างกาย สัตว์อาจอยู่ในสภาวะช็อกได้ แนวทางการรักษาโรค คือ การรักษาตามอาการและพยุงอาการเพื่อให้สัตว์สามารถสร้างภูมิต้านทานต่อโรคได้ โดยการให้สารน้ำเข้าทางหลอดเลือด (Fluid therapy) ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน นอกจากนี้อาจมีการให้ยาระงับการอาเจียนร่วมด้วย เนื่องจากโรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสโดยตรง การรักษาจึงทำเพื่อประคับประคองและพยุงอาการเท่านั้น

การป้องกัน

ควรแยกแมวป่วยออกจากแมวปกติตัวอื่นทันที เพราะโรคนี้เป็นได้กับแมวทุกอายุ ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่อาจแพร่ออกมากับอุจจาระ ปัสสาวะ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่ผสมโซเดียมไฮโปคลอไรด์ เจ้าของแมวที่มีแมวตายด้วยโรคไข้หัดแมว การป้องกันโดยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคทุกปี ซึ่งปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมวหลายยี่ห้อและยังเป็นวัคซีนรวมอีกด้วย คือ ใช้ป้องกันได้ทั้งโรคไข้หัดแมวและโรคไข้หวัดแมวไปพร้อมๆ กันซึ่งสามารถรับการฉีดวัคซีนได้ตามคลินิกและโรงพยาบาลสัตว์ทั่วไป ส่วนสัตว์ป่าตระกูลแมว และแมวทุกเพศ ทุกวัย ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันเช่นกัน

 

เครดิตข้อมูล
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
สพ.ญ. ปิยวรรณ ภู่ระหงษ์ (หมอก้อย) โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขารามอินทรา

เครดิตรูปภาพ
https://www.pets4homes.co.uk/
เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

 

สิวใต้คางในแมว คืออะไร

ทาสแมวหลายคน คงอยากรู้และสงสัยว่า สีดำๆตรงคางแมว มันคืออะไรกัน #Petsayhi มีคำตอบ

จากรูป อาจเป็นลักษณะของ feline chin acne หรือสิวใต้คางในแมว ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของรูขุมขน/มีการสร้างชั้นผิวหนังและเคราตินที่มากผิดปกติ จนทำให้รูขุมขนมีลักษณะเป็นหัวสิว/คราบสีดำๆ หรือสิวหัวดำ ที่เรียกว่า comedones หรือ blackheads ในบางครั้งอาจพบมีเม็ดตุ่มหนอง เนื่องมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเข้าไปที่บริเวณที่เกิดสิว ซึ่งในกรณีนี้มีลักษณะคล้ายกับสิวหรือ acne ในคน แต่การเกิด chin acne ในแมวอาจพบการพัฒนาเป็นรูขุมขนอักเสบ หรือลักษณะคล้ายสิวหัวช้าง ตามมาได้

สาเหตุของการเกิด chin acne ในแมว ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่า มักมีความผิดปกติของการสร้างไขมันในชั้นผิวหนัง คือมีการสร้างมากเกินไป จนเกิดทับถมกันจนเกิดเป็นความหนาคัวที่ผิดปกติ หรือเกิดจากพฤติกรรม grooming ของแมวที่น้อยกว่าเดิม เช่นในแมวที่มีโรคอื่นๆ แอบแฝงอยู่ แต่เคยมีรายงานว่ามีความสัมพันธ์ของการใช้ชามน้ำชามอาหาร ที่ผลิตจากพลาสติกเกี่ยวข้องกับการเกิด chin acne โดยคาดว่าพื้นผิวของพลาสติกที่ไม่เรียบ หรือมีรอยข่วน/กัดทำให้เศษพลาสติกเป็นร่องที่ไม่เรียบ นำไปสู่การปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียที่ชาม และมีโอกาสทำให้เชื้อนั้นติดเข้าไปในรูขุมขนบริเวณคางและริมฝีปากของแมวได้

อาการโดยทั่วไปมักพบลักษณะที่คางดูสกปรกมีคราบดำติดอยู่บริเวณตั้งแต่คางไปจนถึงริมฝีปากล่างและบน ในแมวบางตัวอาจพบลักษณะริมฝีปากและคางหนากว่าปกติเพราะมีการอักเสบร่วมด้วย ในรายที่เป็นเรื้อรังมานานอาจมีความเจ็บปวดเมื่อเจ้าของจับหรือสัมผัสบริเวณที่เป็น ซึ่งสามารถพบได้ทั้งแมวเพศผู้และเพศเมีย

การตรวจวินิจฉัยแนะนำให้พบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจเซลล์ผิวหนังหรือขูดตรวจผิวหนังเพื่อคัดแยกโรคที่ทำให้เกิดรูขุมขนอักเสบในแมวอื่นๆ ที่อาจเกิดจากปรสิต ภายนอก หรือเชื้อรา ออกไปก่อน และอาจต้องทำการเพาะเชื้อแบคทีเรียและทดสอบความไวต่อยาปฏิชีวนะที่จะใช้ในการรักษา เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่เกิดขึ้นบริเวณที่เป็น chin acne ส่วนการดูแลของเจ้าของที่บ้านแนะนำให้ดูแล ทำความสะอาดที่ผิวหนังตามที่สัตวแพทย์เเนะนำ เเละดูแลความสะอาดของชามน้ำชามอาหาร โดยหมั่นล้างทำความสะอาดทุกวัน เเละอาจลองเปลี่ยนเป็นวัสดุของชามมาเป็นลักษณะพื้นผิวเรียบ เช่นวัสดุที่ทำจากแก้ว หรือ สแตนเลส ส่วนการรักษาของสัตวแพทย์ อาจมีการใช้ยาปฏิชีวนะ ทั้งแบบกิน เเละยาใช้เฉพาะที่ ร่วมกับยาที่มีฤทธิ์ล้างรูขุมขน เเละ supplement ในกลุ่มกรดไขมันโอเมก้า 3

เครดิตภาพข้อมูล
facebook Thatsanai Toy
ทาสแมว
https://vcahospitals.com/

ยาคนให้สัตว์กินได้หรือไม่

ยาคนกับยาสัตว์ต่างกันอย่างไร ?

ยาคน หมายถึง ยาที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในคน และ
ยาสัตว์ หมายถึง ยาที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในสัตว์

  1. ในแง่ของการผลิตและการขอขึ้นทะเบียนนั้นเป็นเช่นเดียวกับยาที่ใช้ในคนและมีมาตรฐานการผลิตที่เป็นมาตรฐานเดียวกันแต่ความแตกต่างที่สำคัญ คือ จำนวนตัวอย่างที่ใช้ศึกษาผลทางคลินิกนั้นมีจำนวนตัวอย่างน้อยกว่ายาที่ใช้ในคน
  2. การศึกษาผลของยาและพิษวิทยาของยาที่ใช้ในคนนั้น แม้ว่ายาจะได้มีการทดลองในห้องทดลองโดยใช้สัตว์ทดลองมาก่อนก่อนที่จะนำมาทดลองทางคลินิกกับคนไข้เพื่อประกอบการขอขึ้นทะเบียนยา แต่บริษัทผู้ผลิตยาไม่มีสิทธิที่จะโฆษณาหรือประกาศว่า ยาชนิดนั้นใช้ในสัตว์ได้ จนกว่าจะมีการขอขึ้นทะเบียนเพื่อใช้เฉพาะในสัตว์ โดยต้องระบุชนิดของสัตว์ รวมทั้งขนาด และสรรพคุณอื่นๆ
  3. อย่างไรก็ตามสัตวแพทย์อาจสั่งใช้ยาของคนเพื่อมารักษาสัตว์ที่ตนดูแลได้ตามความจำเป็นและเห็นสมควร โดยทั่วไปสัตวแพทย์จะเลือกใช้ยาที่ขึ้นทะเบียนยาสัตว์ก่อน หากไม่ได้ผลหรือไม่อาจหายาสัตว์รักษาได้จึงจะคิดถึงการนำยาที่ใช้ในคนมาใช้ทดแทน ขนาดของยาที่จะนำมาใช้ทดแทนนั้นต้องเป็นไปตามที่นักวิจัยทางสัตวศาสตร์ได้ทดลองและตีพิมพ์ผลการศึกษานั้นในวารสารวิชาการทางสัตวศาสตร์ที่สามารถอ้างอิงได้ โดยจะมีการรวบรวมขนาดยาและสรรพคุณของยาสัตว์และยาคนที่ใช้ในสัตว์ไว้ในหนังสือคู่มือยาสัตว์เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์ใช้ในทางคลินิกต่อไป
  4. จำนวนชนิดของยาที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนเพื่อใช้ในสัตว์นั้นมีจำนวนน้อยกว่ายาที่ใช้ในคน เนื่องจากตลาดเล็กกว่ามาก ดังนั้นจำนวนการผลิตจึงน้อยทำให้ต้นทุนมีราคาแพงกว่ายาที่ใช้ในคน การนำยาคนมาใช้ในสัตว์จึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของเจ้าของสัตว์เลี้ยงได้ในระดับหนึ่ง
  5. แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่สามารถที่จะนำยาคนทุกตัวมาใช้กับสัตว์ได้ เพราะถึงแม้ว่ายาทุกตัวจะมีฤทธิ์ต่อคนและสัตว์คล้ายกัน แต่การตอบสนองของร่างกายคนและสัตว์อาจแตกต่างกัน ยาบางชนิดมีพิษต่อคนต่ำแต่มีพิษต่อสัตว์สูง เจ้าของจึงไม่ควรนำยาคนมาใช้ในสัตว์ โดยไม่ได้รับความเห็นจากสัตวแพทย์ก่อน

ถาม: เมื่อสุนัขและแมวป่วยจะให้ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้แพ้ และยาลดน้ำมูกของคนได้หรือไม่ ?

ตอบ: ยาสามัญประจำบ้านหรือยาที่ใช้กันเป็นประจำเพื่อลดไข้บรรเทาปวดในคน เช่น ยาแอสไพริน หรือยาพาราเซตามอล รวมไปถึง ยาแก้แพ้และยาแก้คัดจมูกนั้น ไม่ได้ปลอดภัยหรือมีความเป็นพิษตํ่าในสุนัขและแมวเช่นเดียวกับคน แต่อาจทำให้เกิดความเป็นพิษหรือเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นไม่ควรป้อนยาให้สุนัขและแมวของท่านเองโดยไม่ได้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน

  1. แอสไพรินแมว จะไวต่อพิษมากกว่าสุนัข เนื่องจากร่างกายของแมวจะเปลี่ยนแปลง และขับยาแอสไพรินออกไปได้อย่างช้าๆ สำหรับขนาดที่อันตรายสำหรับแมวอยู่ที่ 26 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวแมว 1 กิโลกรัม (ยาแอสไพริน 1 เม็ด ขนาดเท่ากับ 500 มิลลิกรัม) อาการแสดงความเป็นพิษ ได้แก่ ซึม อาเจียนจนถึงอาเจียนเป็นเลือด หายใจถี่ อุณหภูมิร่างกายสูง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปอดบวม สมองบวม โคม่า และเสียชีวิตได้สุนัข จะมีปัญหาเกี่ยวกับเอนไซม์ในการเปลี่ยนแปลงยาน้อยกว่าแมว แต่ปัญหาที่มักพบจากการได้รับยาแอสไพรินในสุนัข คือ การระคายเคืองทางเดินอาหาร มีเลือดออก และเกิดแผลหลุมในกระเพาะอาหาร ขนาดที่อันตรายคือ 55 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวสุนัข 1 กิโลกรัมเป็นต้นไป การดูแลขั้นต้นอาจทำให้อาเจียน ป้อนผงถ่าน (activated carbon) แล้วรีบส่งโรงพยาบาลสัตวทันที
  2. พาราเซตามอลแมว จะไวต่อความเป็นพิษของยาพาราเซตามอลได้มากกว่าสุนัข โดยขนาดยาเพียง 45-55 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ก็สามารถทำให้เกิดความเป็นพิษได้ จึงไม่แนะนำให้ใช้ยาตัวนี้ในแมว (พาราเซตามอล 1 เม็ด ขนาดเท่ากับ 500 มิลลิกรัม) เนื่องจากในแมวนั้นขาดเอนไซม์ที่ใช้เปลี่ยนแปลงยาทำให้ยาเกิดความเป็นพิษขึ้น โดยจะมีความเป็นพิษร้ายแรงต่อไต ตับ ระบบทางเดินอาหาร และระบบเลือด โดยเม็ดเลือดแดงของแมวนั้นไวต่อการถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถขนส่งออกซิเจน ส่งผลให้แมวเสียชีวิตได้ อาการที่แสดงความเป็นพิษจะเกิดขึ้นภายใน 4-12 ชั่วโมงหลังจากได้รับยา โดยอาการที่อาจพบได้ในระยะเริ่มแรก คือ น้ำลายฟูมปาก อาเจียน ซึม หายใจลำบาก เหงือกมีสีคล้ำ อุ้งมือบวม อุ้งเท้าบวม หน้าบวม และเบื่ออาหาร อาการทั้งหลายเหล่านี้จะแสดงหลังได้รับยาเพียง 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นตับอาจเสียหาย เริ่มสังเกตเห็นอาการดีซ่าน ชัก โคม่า และเสียชีวิตได้ภายใน 18-36 ชั่วโมง
    สุนัข ขนาดของยาที่ทำให้เกิดความเป็นพิษจะสูงกว่าในแมว คือ 165-250 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเป็นต้นไป ความเป็นพิษมักเกิดขึ้นกับตับ และไต ทำให้เกิดภาวะตับ และไตวายได้ อาการที่แสดงความพิษที่พบได้ คือ ซึม อาเจียน น้ำปัสสาวะสีน้ำตาลแดงคล้ำ และเสียชีวิตภายใน 2-5 วัน ดังนั้นเจ้าของสัตว์เลี้ยงจึงไม่ควรให้ยาพาราเซตามอลกับสุนัขและแมวด้วยตนเอง หากจำเป็นควรอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์ การรักษาแมวที่ได้รับพิษมักไม่ได้ผล สำหรับสุนัขได้ผลดีกว่า ทั้งนี้ขึ้นกับขนาดยาที่ได้รับ อาจทำให้อาเจียน ป้อนผงถ่าน (activated carbon) แล้วรีบพาไปโรงพยาบาลสัตว์ทันที
  3. ยาแก้แพ้ เช่น ตัวที่เรารู้จักกันดีที่มีชื่อว่า CPM หรือคลอเฟนิรามีน ถึงแม้ยาตัวนี้จะมีการนำมาใช้รักษาในทางสัตวแพทย์ แต่หากได้รับเข้าไปเกินขนาดก็จะทำให้เกิดความเป็นพิษร้ายแรงต่อระบบประสาทส่วนกลาง อาจพบอาการตื่นเต้นไปจนถึงมีอาการชัก หรือ ซึมไปจนถึงโคม่า กดการหายใจ หายใจลำบาก และเสียชีวิตได้ การดูแลขั้นต้นอาจทำให้อาเจียน ป้อนผงถ่าน (activated carbon) แล้วรีบพาไปโรงพยาบาลสัตว์ทันที

เครดิตข้อมูล
https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/

บ้านพักพิงแมว แม่แตง เชียงใหม่

ที่ญี่ปุ่นมีเกาะแมว ที่ภาคเหนือของไทยมีชุมชนแมว

บ้านพักพิงแมว ที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อมสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์ดูแลแมวจรจัดที่ช่วยมาจากที่ต่างๆ นี่คือโซนที่เพิ่งสร้าง ในจำนวนสี่ แห่งรวมทั้งหมด แปดร้อยกว่าตัว มีสองโซนเป็นศูนย์ฟื้นฟูและรักษาเพราะที่เข้ามามีเป็นจำนวนมากที่เจ็บป่วยและบางตัวอาการหนักมาก และมูลนิธิมีสัตวแพทย์ดูแลประจำเพื่อดูแลสุขภาพแมวเหล่านี้

ใครที่รักแมวอย่าลืมแวะมากอดน้องแมวและมาช่วยกันทำบุญกับน้องเหมียวกันนะ
พิกัดบ้านกึ้ดช้าง 1 หมู่ อำเภอ แม่แตง จังหวัด เชียงใหม่

 

เครดิตภาพและข้อมูล
https://www.facebook.com/lek.chailert

เตือนภัย ❗❗ อาบน้ำแมวอาจทำให้แมวปอดชื้น

#เรื่องเล่าบนออนไลน์
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนที่ชอบอาบน้ำให้น้องเหมียว ไม่ว่าจะไปที่ร้านอาบน้ำตัดขน หรือ แม้กระทั่งการอาบน้ำให้น้องเหมียวด้วยตัวเอง ควรจะตรวจเช็คคอยสังเกตอาการน้องทุกครั้งหลังจากอาบเสร็จ เนื่องจากน้องเหมียวส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบน้ำอยู่แล้ว

ปัญหาที่เจอบ่อยสำหรับน้องเหมียวที่กำลังอาบน้ำหรืออาบน้ำเสร็จแล้ว
1.น้องมีอาการช็อกระหว่างอาบน้ำ เช่น ช็อกจากเครื่องเป่าขน หรือ ช็อกการการเกร็งการอาบน้ำ
2.ปัญหาการเป่าขนไม่แห้ง ทำให้เป็นเชื้อรา หรือ ปอดชื้น
3.ปัญหาน้ำหรือแชมพูเข้าหู หรือ เข้าตา
4.ปัญหาจากการตัดเล็บ ตัดขนแล้ว โดนเนื้อน้อง ทำให้เกิดแผล

เรื่องนี้ขอขอบคุณ เรื่องจากคุณ  Art November Rain  ที่มาแชร์เป็นอุทาหรณ์ให้เราคนเลี้ยงแมวได้ระวังกัน

” ขอเตือนเป็นอุทาหรณ์ในการอาบน้ำน้องแมวที่เรารักถึงแม้ว่าเราจะอาบน้ำให้เขามา4ปี เเม้ว่าเราจะอาบน้ำให้เขาทุกอาทิตย์ เเม้ว่าเเมวของเราจะเเข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยอะไรเลย แต่ใครจะรู้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราอาบน้ำให้เขาเเล้วเขาจะช๊อคเเล้วตาย หลังจากอาบน้ำผมเช็ดขน เเล้วใช้ไดร์เป่าขนจนเเห้ง เหมือนเดิมทุกๆครั้งที่ทำมาตลอด4ปี แต่หลังจากนั้นอาการเขาซึมหายใจขัดๆเเล้วลิ้นจุกปาก ผมได้พาเขาไปหาหมอทันที หมอบอกว่าน้องปอดชื้นมีโอกาศตายสูง ทั้งให้ยาทั้งให้อ๊อกซิเจน แต่สุดท้ายน้องก็เสีย.
ใครจะรู้ว่าการอาบน้ำครั้งนี้ มันคือการที่เราฆ่าแมวที่เรารักมากที่สุด ในมือของเราเอง😢😭😭😭 “

เครดิต
ชมรมแมวสายดาร์ก
คุณ Art November Rain

🏥 โรงพยาบาลสัตว์ น่าใช้บริการ

รวบรวมโรงพยาบาลสัตว์น่าใช้บริการในกรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ใครมี โรงพยาบาลสัตว์ ไหนน่าใช้บริการแนะนำ ผ่านมาทางเพจได้เลย

1.โรงพยาบาลสัตว์เล็กจุฬาฯ

เปิดบริการ จันทร์-ศุกร์ ในเวลา 8.00-15.00 น. คลินิกนอกเวลา 17.00-20.00 น.
เสาร์-อาทิตย์ 8.30-11.00 น. คลินิกนอกเวลา 13.00-20.00 น.
วันหยุดนักขัตฤกษ์ 8.30-11.00 น. คลินิกนอกเวลา 13.00-20.00 น.
แผนกฉุกเฉินเปิด 24 ชั่วโมง
คลินิกเฉพาะทางเปิดเฉพาะในเวลาเท่านั้น

ติดต่อ
โรงพยาบาลสัตว์เล็ก
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
39 ถนนอังรีดูนังต์ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทร : 02-218-9751, 02-218-9715

Facebook
https://www.facebook.com/CUVETHospital/

2.โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

โรงพยาบาลสัตว์

ธนาคารเลือด  ทุกวัน  08.30 – 19.00 น.
เวชศาสตร์ฉุกเฉินทุกวัน   24 ชั่วโมง 

รอบเช้า เริ่มเปิดรับลงทะเบียน เวลา 07.30 น.  ปิด เวลา 14.00 น.เว้นวันศุกร์ รอบเช้า เริ่มเปิดรับลงทะเบียน เวลา 07.30 น.  ปิด เวลา 11.00 น.รอบเย็น เริ่มเปิดรับลงทะเบียน เวลา 16.30 น.  ปิด เวลา 20.00 น การบริการกรณีฉุกเฉินแผนกฉุกเฉินและสัตว์ป่วยวิกฤตของโรงพยาบาลสัตว์ฯ สามารถให้บริการในกรณีฉุกเฉินและสัตว์ป่วยวิกฤตได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดต่อ
โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
เลขที่ 50 ถนนพหลโยธิน
แขวง ลาดยาว เขต จตุจักร
กรุงเทพมหานคร 10900 ประเทศไทย
โทรศัพท์ : 02-797-1900 ต่อ 3101 – 3104

Facebook
https://www.facebook.com/คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 

3.โรงพยาบาลสัตว์ประศุอาทร มหาวิทยาลัยมหิดล  (อยู่นครปฐม),(ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์

ตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคสัตว์ทางด้านอายุรกรรม ศัลยกรรม และคลินิกเฉพาะทาง

คลินิกในเวลาราชการ
จันทร์ – พฤหัสบดี 08.30 – 15.30 น.
วันศุกร์ 08.30 – 11.30 น.

คลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ
เปิดให้บริการทุกวันเวลา 17.00 – 20.00 น.
เสาร์-อาทิตย์เปิดให้บริการ 08.30 – 15.30 น.
คลินิกฉุกเฉินและสัตว์ป่วยวิกฤติ
เปิดให้บริการทุกวันเวลา 08.30 – 20.00 น.

ติดต่อ
โรงพยาบาลสัตว์ประศุอาทร มหาวิทยาลัยมหิดล
สอบถาม โทร. 02-441-5245-6
โทรสาร. 02-441-5232

WEBSITE
https://vs.mahidol.ac.th/th/

4.โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ 

โรงพยาบาลสัตว์

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาพระราม9 (สาขาใหญ่)  (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาสุขุมวิท
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขา สิรินธร-ปิ่นเกล้า (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาศรีนครินทร์ (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขารังสิต (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขารามอินทรา (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาประดิษฐ์มนูธรรม (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาติวานนท์ (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาพระราม2 (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาเพ็ทเวลเนสเซนเตอร์ Central Eastville

ติดต่อ
80 PhetPrararm Road (Petchaburi Road heading to Rama9), Bang Kapi, Huai Khwang Bangkok 10310
Phone. 66 (0) 2079-9999

WEBSITE
https://www.thonglorpet.com/home

Facebook
https://www.facebook.com/ThonglorPet/

5. โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4 (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์

ติดต่อ
เลขที่ 5- 5/1 ถนนเทศบาลรังสฤษฎ์เหนือ ประชานิเวศน์1 จตุจักร กรุงเทพฯ 10900
0-2953-8085-6
0-2954-3597 ( แฟกซ์ )
vet4hospital@gmail.com
0-2589-3204

WEBSITE
https://vet4hospital.com/

Facebook
https://www.facebook.com/vet4hospital/

 

6. โรงพยาบาลสัตว์ ไอเว็ท – iVET Animal Hospital (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์

โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท สาขา พระราม9
โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท สาขา West Centre ศาลายา

ติดต่อ
โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท 24 ชม รักษาสัตว์ 24 ชม
Hotline : 085-244-7899
Line : @ivethospital
iVET พระรามเก้า Tel : 02-641-5525
iVET West Centre ( ศาลายา ) Tel : 02-889-5215

WEBSITE
https://www.ivethospital.com/

Facebook
https://www.facebook.com/iVETHospital

 

7. โรงพบาบาลสัตว์ตลิ่งชัน (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์

ติดต่อ
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน 1 ซ.บรมราชชนนี 61 ถ.บรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. 10170
โทรศัพท์ 02-887-8321-3 โทรสาร 02-448-6369
เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง

WEBSITE
http://www.talingchanpet.net/

Facebook
https://www.facebook.com/tcahFanpage

8.โรงพยาบาลสัตว์ เจริญสุข Charoensuk Animal Hospital (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์

 

Emergency | ฉุกเฉิน
สำหรับสัตว์เลี้ยงป่วยฉุกเฉินและอุบัติเหตุ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ติดต่อเรา
167 ซ.เอกมัย5 (ทองหล่อ10) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา
กรุงเทพมหานคร 10110
WEBSITE
www.cah.co.th
9.โรงพยาบาลสัตว์พญาไท ๗ (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์

โรงพยาบาลสัตว์พญาไท ๗ เปิดให้บริการดูแลรักษาสัตว์เลี้ยงทุกชนิดยาวนานกว่าครึ่งทศวรรษ ดูแลการรักษาด้วยทีมสัตวแพทย์ และเครื่องมือการตรวจรักษาโรคที่ทันสมัย โดยให้บริการคลินิกพิเศษ รวมทั้งให้บริการด้านสัตว์เลี้ยงครบวงจร เพื่อการดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คลินิกโรคผิวหนัง คลินิกสูติกรรม คลินิกโรคกระดูกและข้อ คลินิกศัลยกรรมเนื้อเยื่ออ่อน หน่วยรังสีวินิจฉัย คลินิกทันตกรรม คลินิกโรคหัวใจ-ไต คลินิกโรคตา และคลินิกสัตว์เลี้ยงพิเศษ
ติดต่อเรา
9/9 ซอยชำนาญอักษร แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพ 10400
โทร 02 619 5782
10.โรงพยาบาลสัตว์โอะไดจินิ (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์
ติดต่อเรา
2 Soi Ramindra52/1, Ramindra road, Kannayao, Kannayao
กรุงเทพมหานคร 10230
โทร 02 948 5099
11.โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ – Rattanathibet Referral Animal Hospital (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์
โรงพยาบาลสัตว์ ให้บริการ 24 ชั่วโมง
รักษาสัตว์ทางอายุรกรรม ศัลยกรรม คลินิกเฉพาะทาง อุบัติหตุ ฉุกเฉิน ฉีดวัคซีน อาบน้ำตัดขน จำหน่ายอุปกรณ์และอาหารสัตว์เลี้ยง
โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สำนักงานใหญ่ (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาบางบัวทอง (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาปทุมธานี (เปิด 24 ชั่วโมง)
รงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาแคราย(Express) (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาเกษตร-นวมินทร์(Extra) (เปิด 24 ชั่วโมง)
โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขา Pet Clinic (เปิด 24 ชั่วโมง)
ติดต่อเรา
 55/43-45 หมู่ 1 ถนนราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120  (สำนักงานใหญ่)
โทร 02-1968245

 

หลายคนอยากช่วยน้องแต่ไม่มีกำลังทรัพย์หรือติดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือน้อง ลองติดต่อมูลนิธิ หรือเพจตามด้านล่างนี้ดู

 รายชื่อเพจสำหรับการประชาสัมพันธ์และให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นของเพื่อนสี่ขา

กู้ภัยหมา-แมว https://www.facebook.com/Animal.Rescue.Thailand
หมาวัด_สวัสดี https://www.facebook.com/pages/หมาวัด_สวัสดี/257412701130660
หมานคร https://www.facebook.com/citizendogthailand
เพื่อนเดรัจฉาน https://www.facebook.com/pages/เพื่อนเดรัจฉาน/609961385783126
มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ประเทศไทย (Soi Dog – in Thai) https://www.facebook.com/SoiDogInThai
อาสาเพื่อหมาหัวเน่า https://www.facebook.com/Volunteer4TheDog
Dog Nation ทีม(เพื่อ)  https://www.facebook.com/DogNationTeam
เพื่อนกัน _ไม่ทิ้ง(น้องหมา)กัน https://www.facebook.com/thailandpoordog
ให้ใจเจ้าสี่ขา(น้องหมา-แมว) https://www.facebook.com/groups/1390991264447259/
โครงการช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ด้อยโอกาส https://www.facebook.com/pages/โครงการช่วยเหลือสัตว์ยากไร้ด้อยโอกาส/186643561376563
เพื่อนข้างถนน https://www.facebook.com/midroadlover
กองทุนร่วมด้วยช่วยแมว – หมา : Cats & Dogs https://www.facebook.com/KxngthunRwmDwyChwyMaewHmaCatsDogs
โครงการรักษ์แมว ปันนํ้าใจให้แมวจร https://www.facebook.com/catroompantip
หมาหาบ้าน Places for Paws https://www.facebook.com/pfpthai
Voice of Animals https://www.facebook.com/pages/Voice-of-Animals/1544002115826507
Pet Get Vet https://www.facebook.com/petgetvet
Animal Aholic https://www.facebook.com/AnimalAholic?ref=br_tf
SOS ANIMALS Thailand https://www.facebook.com/SOS.Animals.Thailand
Fight for dog https://www.facebook.com/fightfordog
Thai Aga https://www.facebook.com/thaiagafanpage
The Voice (เสียงจากเรา) https://www.facebook.com/thevoiceforanimals
PAC – Pattaya Animal Coalition https://www.facebook.com/PattayaAnimalCoalition
” A call for Animal Rights ” Walk Rally https://www.facebook.com/ACALLforAnimalRightsThailand
Happy Paws ช่วยเหลือหมาแมว https://www.facebook.com/HappyPawsThailand
ค น รั ก สุ นั ข https://www.facebook.com/konruksunak
โตขึ้นจะเป็นหมา https://www.facebook.com/pages/โตขึ้นจะเป็นหมา/1379115695652698
น้องหมาหาบ้าน DOG NEED HOME https://www.facebook.com/DOG.NEED.HOME
Thai Animal Protection Law https://www.facebook.com/ThaiAnimalLaw
โครงการเพื่อน้องหมา RMUTK https://www.facebook.com/TheDogRmutk
มาช่วยเหลือ น้องหมา น้องแมว เพื่อนรักร่วมโลก ของเรากัน https://www.facebook.com/pages/มาช่วยเหลือ-น้องหมา-น้องแมว-เพื่อนรักร่วมโลก-ของเรากัน/1540687956154831
ธนาคารเลือดน้องแมว น้องหมา Namo Angel TG https://www.facebook.com/pages/ธนาคารเลือดน้องแมว-น้องหมา-Namo-Angel-TG/762469737138334

หรือพบเห็นการทารุณกรรมสัตว์ กิน ฆ่า ค้าสุนัขและแมวแจ้ง WATCHDOG THAILAND https://www.facebook.com/watchdogthailandpage

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ก้บทุกคน ที่คิดจะช่วยเหลือน้องสัตว์เลี้ยง

ขอบคุณข้อมูลจากกระทู้ pantip.com

แมวสุขภาพดีเป็นแบบไหน?

มาเช็คเบื้องต้นกันดีกว่าว่าแมวของคุณสุขภาพดีกันไหม

  1. หู แมวควรสะอาดไม่มีขี้หู
  2. ปาก เหงือกแมวควรมีสีชมพูอ่อน ไม่ซีด ฟัน สะอาด ช่องปากไม่มีกลิ่นเหม็น
  3. พฤติกรรม แมวที่มีสุขภาพดีจะมี ความกระตือรือร้น อยากรู้อยากเห็น ขี้เล่น
  4. รูปร่าง แมวที่สุขภาพดีไม่ควรผอมจนสัมผัสซี่โครงได้ หรือ มีน้ำหนักมากเกินไปจนเมื่อมองจากด้านบนแล้วมองไม่เห็นเอว
  5. รูทวาร ควรสะอาดไม่เลอะคราบอุจจาระ แมวที่มีปัญหาเรื่องพยาธิอาจพบพยาธิที่รูทวารได้
  6. ผิวหนังและขน ผิวหนังที่ดีต้องไม่มีรังแค ไม่มีหย่อมขนร่วง ไม่มีหมัด
  7. จมูก ธรรมชาติจมูกแมวจะอุ่นเล็กน้อยและมีความชื้นไม่แห้งหรือร้อนจนเกินไปแต่ไม่ถึงขนาดเปียกหรือมีน้ำมูก
  8. ตา ควรมีดวงตาสุกใสไม่มีรอยอักเสบแดง ไม่มีคราบขี้ตาหรือตาแฉะ

บ้านไหนมีครบทั้ง 8 ข้อบ้าง….

เครดิต
พบหมอแมว

หมากินอาหารแมว / แมวกินอาหารหมาได้ไหม ?

หลายๆคนคงเคยเห็นน้องแมวกินอาหารน้องหมา น้องหมากินอาหารน้องแมว อยากจะรู้กันไหมว่าทั้งน้องหมาน้องแมวสามารถกินอาหารกันได้ไหม วันนี้คุณหมอจากเพจ Thonglor Pet Hospital Chiang Mai โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เชียงใหม่ มีคำตอบมาให้ 


หมากินอาหารแมว / แมวกินอาหารหมาได้ไหม ?
(โดย สพ.ญ. ชญาณิศวร์ เลิศลักขณาวงศ์ – หมอการ์ตูน)

🐶🐱หลายๆ บ้านที่เลี้ยงแมวและหมาไว้ด้วยกัน อาจพบว่าหลายครั้งสัตว์เลี้ยงของคุณมักกินอาหารสลับกัน ทั้งนี้หากหมาและแมวกินอาหารที่ไม่เหมาะสมกับชนิดของตัวเองในระยะยาวจะส่งผลอะไรต่อร่างกายของสัตว์เลี้ยงบ้าง ลองอ่านดูค่ะ

เหตุผลแรก แมวต้องการกรดอะมิโนจำเป็นที่ชื่อว่าทอรีน (Taurine) ซึ่งในหมาสามารถสร้างได้เอง อาหารแมวปกติจะมีกรดอะมิโนชนิดนี้ผสมอยู่แล้วแต่อาหารหมาไม่มีหรือมีน้อยมาก ดังนั้นหากแมวที่ขาดกรดอะมิโนชนิดนี้อาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว (Hypertrophic Cardiomyopathy)

เหตุผลที่สองคือ ระดับความต้องการโปรตีนในหมาและแมวแตกต่างกัน โดยแมวเป็นสัตว์ที่ต้องการโปรตีนสูงกว่าหมา หากแมวกินอาหารหมาอาจได้รับโปรตีนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย แต่ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต สำหรับหมาที่กินอาหารแมวจะได้โปรตีนสูงเกินความจำเป็น ในระยะยาว ไตจะทำงานหนัก จนเกิดปัญหาโรคไตได้

เหตุผลสุดท้าย อาหารแมวส่วนใหญ่มีความน่ากินสูง ซึ่งมักจะใช้ไขมันมาช่วยเพิ่มความน่ากิน หากหมากินอาหารแมวนานๆ อาจทำให้อ้วนง่ายขึ้น บางครั้งอาจมีอาการอาเจียน ท้องเสีย และเกิดภาวะตับอ่อนอักเสบซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก มีโอกาสทำให้หมาเสียชีวิตได้ค่ะ

จากเหตุผลดังกล่าวนี้ หากอยากให้สัตว์เลี้ยงอยู่กับคุณไปนานๆ ควรทานอาหารที่เหมาะสมกับชนิดของสัตว์เลี้ยงนั้นๆ จะดีที่สุดค่ะ

เครดิต
Thonglor Pet Hospital Chiang Mai โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ เชียงใหม่

ใครอยากโคลนนิ่งน้องเหมียวบ้าง

“การโคลนนิ่งแมว” ได้ประสบความสําเร็จเป็นครั้งแรกที่ประเทศจีน โดยโครงการโคลนนิ่งนี้ของบริษัท Sinogene Biotechnology Company ในกรุงปักกิ่ง เขาได้ทำการ Cloning ลูกแมวที่ชื่อว่า “Garlic” แมวพันธุ์ British Shorthair ซึ่งเป็นแมวที่ตายแล้ว โดยนักธุรกิจชาวจีน เป็นเจ้าของแมวบอกมาว่า เขาทำใจไม่ได้กับ Garlic แมวตัวที่เขาเลี้ยงมาได้ 2 ปี ป่วยตายจากไปด้วยโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอักเสบ เขาจึงอยากให้ทางบริษัท Sinogene ซึ่งทำการวิจัยเกี่ยวกับการโคลนนิ่งนี้ ช่วยทำให้แมวของเขากลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งโดยวิธี การโคลนนิ่งแมว ขึ้นมา


.
โดยวิธีการของเขามีอยู่ว่า ใช้โครงสร้างยีนและโครโมโซมของแมวตัวนั้นที่ตายไปแล้ว มาสร้างพันธุกรรมเพาะเลี้ยงเป็นตัวอ่อนออกมาอีกตัวหนึ่ง แล้วนำไปฝังในแม่แมวที่ถูกเลือกให้มาอุ้มท้อง ใช้เวลารวมทั้งหมด 66 วัน ตามระยะเวลาแมวเกิดแบบปกติ
.
แมวที่ได้คลอดออกมานั้นจะมีลัษณะคล้ายกับแมว Garlic ที่ตายไปแล้วของเขามาก ถึงแม้ว่า DNA ของลูกแมวจะตรงกับ Garlic ดั้งเดิม แต่ก็ยังมีความแตกต่างในสีตาและขนของมันเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ นิสัย บุคลิก อารมณ์ความรู้สึก ของแมวตัวนี้อาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้ Lai Liangxue นักวิทยาศาสตร์หัวหน้าทีมวิจัยแห่งสถาบัน Chinese Academy of Sciences เขาบอกว่าอายุขัยของแมวที่โคลนนิ่งมาจะไม่แตกต่างจากแมวทั่วไป
.
ความสำเร็จในครั้งนี้ ทำให้บริษัทเริ่มเตรียมที่จะเปิดรับโคลนนิ่งแมวด้วยราคา 250,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยก็คือ 1.07 ล้านบาท!!!

 

 

เครดิต
ขอขอบคุณข้อมูล…

การโคลนนิ่งแมว ครั้งแรกของจีนประสบความสำเร็จแล้ว เตรียมเปิดให้บริการ Cloning สัตว์เลี้ยงที่ประเทศจีน

PM2.5 ภัยอันตรายใกล้ตัวสำหรับน้องหมาน้องแมว

ฝุ่นละออก PM 2.5 ที่สูงเกินมาตรฐานในปัจจุบัน โดยส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนเราที่สูดดมเข้าไปในปริมาณมากแล้ว น้องหมาน้องแมวก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

โดยเฉพาะน้องสัตว์เลี้ยงชนิดที่เป็นพันธุ์หน้าสั้น จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินหายมากกว่าสัตว์อื่น เช่น สุนัขพันธ์ปั๊ก,บลูด็อก,ชิสุห์ แมวพันธุ์เปอร์เซีย สก็อตติสโพลด์

น้องหมาน้องแมว ที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็กเป็นเวลานาน จนอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ขึ้นมาได้ เช่น น้องมีอาการไอ หายใจลำบาก น้ำตาไหล เจ็บคอ น้ำมูกไหล หอบหืดกำเริบ หายใจแรงเร็ว อ่อนแรงขาดออกซิเจน มึนงง กินลดลง หิวน้ำบ่อย อ้าปากหายใจ

วิธีป้องกันสุขภาพสัตว์เลี้ยง ได้แก่
1.ล้างแอร์สม่ำเสมอ
2.ดูดฝุ่นบ้านและที่นอนของสัตว์เลี้ยงบ่อยๆ
3.งดสูบบุหรี่หรือหลักเลี่ยงการจุดธูปภายในบ้าน
4.ถูพื้นบ่อย เพื่อขจัดคราบฝุ่น
5.อาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงบ่อยๆ
6.งดพาสัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นนอกบ้าน โดยเฉพาะ ริมถนน แต่ให้ออกไปขับถ่ายได้ปกติ แล้วรีบให้กลับเข้าบ้าน
7.ควรเลี้ยงในบ้าน
8.รดน้ำต้นไม้ ล้างโรงรถ หรือบ้านสัตว์เลี้ยงบ่อยขึ้น

 

เครดิต
คลินิกรักษาสัตว์หมอเอิน
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Faculty of Veterinary Science, CU.
Thonglor Pet Hospital โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
thairesidents