แมวเปอร์เซีย

แมวเปอร์เซียเป็นแมวที่เป็นขวัญใจและได้รับความนิยมมากสำหรับคนที่จะเลี้ยงแมว เพราะความน่ารัก หัวกลม หูเล็ก จมูกแบน ตากลมโต  ทำให้ใครๆหลายคน หลงชอบและอยากจะเลี้ยงแมวเปอร์เซีย

นิสัยแมวเปอร์เซีย

แมวเปอร์เซียเพศผู้

แมวเปอร์เซียเพศผู้จะมีโครงกสร้างและกระดูกที่ใหญ่กว่าเพศเมีย วัยเด็กจะมีนิสัย ขี้เล่น ซน ชอบปีนป่ายหาสิ่งของมากัด

วัยรุ่น จะมีนิสัยโลกส่วนตัวสูง  ชอบอยู่คนเดียว หากถึงช่วงผสมพันธุ์ อาจจะหนีเที่ยว ร้องเสียงดังหง่าวๆ เพื่อร้องเรียกแมวตัวเมีย หรือบางตัวอาจจะมีการฉี่เพื่อปล่อยกลิ่นเรียกตัวเมีย ทำอาณาเขต

บ้านไหนมีตัวผู้หลายตัวอาจจะมีทะเลาะกันเพื่อชิงตัวเมีย หากให้น้องอยู่ติดบ้าน ให้หาแมวตัวเมียมาเพื่อลดอาการฮีท หรืออาจทำหมันให้น้องไปเลยก็ได้

 

แมวเปอร์เซียเพศเมีย

แมวเปอร์เซียเพศเมีย จะว่านอนสอนง่ายกว่าตัวผู้ ส่วนมากจะมีนิสัยเรียบร้อย ขี้อ้อน  ขี้ประจบ จะคลอเคลียเจ้าของ หรือบางตัวอาจจะมีโลกส่วนตัวสูงตั้งแต่เด็กจนโต หรือาจจะมีขี้เล่นก็ได้

การเลี้ยงแมวเปอร์เซียเพศเมีย ช่วงเป็นสาวหากตัวเมียต้องการผสมพันธุ์ก็จะร้องเหมือนแมวตัวผู้ หรือบางตัวอาจจะฉี่ อุจจาระ เพื่อปล่อยกลิ่นชักชวนตัวผู้ บางครั้งอาจจะนอนหงายเอาหลังถูพื้นดิ้นไปมา เพื่อเป็นการชักชวนให้มาผสมพันธุ์

การดูแลแมวเปอร์เซีย

1.โรคประจำสายพันธุ์ ของแมวเปอร์เซีย

โรคถุงน้ำในเนื้อไต โรคทางเดินปัสสาวะและนิ่ว
สังเกตจากพฤติกรรมการปัสสาวะผิดปกติ ปัสสาวะบ่อย หรือเข้ากระบะทรายนาน อาจมีอาการเบื่ออาหาร ซึม น้ำหนักลด กินน้ำเยอะจนผิดสังเกตได้

โรคจอประสาทเสื่อม  การสังเกต สังเกตการเดิน การยืนและการสัมผัส ที่ผิดปกติ

โรคหัวใจ สังเกต การหายใจ อาการหอบเหนื่อยหากมีความผิดปกติควรรีบพามาปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

แมวเปอร์เซียก็มีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปได้เช่นเดียวกับแมวสายพันธุ์อื่นๆ แต่ด้วยความที่น้องมีลักษณะหน้าสั้น จึงทำให้มีกระโหลกกลม ช่องจมูกสั้นและตีบแคบ ทำให้อาจมีภาวะหายใจลำบาก หายใจมีเสียงดังได้บ่อยๆ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับตา เช่น เชอร์รี่อาย และหนังตาม้วน รวมไปถึงท่อน้ำตาตันทำให้มีน้ำตาไหลเยอะ นอกจากนี้ด้วยความขนยาวฟรุ้งฟริ้งของเค้าจึงมักทำให้เป็นโรคผิวหนังอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะโรคเชื้อรา

2.การดูแลความสะอาดสุขภาพ

หมั่นแปรงฟัน  การแปรงฟันเป็นสุขอนามัยในช่องปาก ที่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าหากเกิดการติดเชื้อในช่องปาก อาจนำมาซึ่งโรค สารพัด และทำให้แมวของคุณอายุสั้นลงได้

หมั่นเช็ดหู เมื่อแมวไม่สามารถทำความสะอาดหูด้วยตนได้ เจ้าของควรจัดการดูแลให้น้องเสมอ ด้วยการใช้กระดาษทิชชู หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดให้มัน ทั้งนี้ หูของแมวนั้นเป็นส่วนที่อ่อนไหวมาก คุณจึงควรพยายามทำความสะอาดให้เบามือที่สุด และใช้เวลาน้อยที่สุด

อย่าปล่อยให้น้องอ้วน เพราะความอ้วนเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพน้องแมว เช่น โรคเบาหวาน โรคตัว เราจึงจำเป็นต้องเข้าใจ และเลือกชนิดและปริมาณอาหารที่เหมาะสมให้น้องแมว

อย่ารำคาญเมื่อแมวขนร่วง แมวเปอร์เซียเป็นแมวขนยาว จึงมีการผลัดขนร่วงตามธรรามชาติจำนวนมาก เจ้าของอาจจำเป็นต้องเข้าใจ และหมั่นแปรงขนน้องแมว และดูแลเก็บกวาดบ่อยๆ

 

เครดิตข้อมูล
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน

ราคาทำหมันสุนัข ราคาทำหมันแมว

วันนี้เราจะพาไปตรวจเช็ค ราคาทำหมันสุนัข  ราคาทำหมันแมว กัน บ้านไหนมีแผนที่จะทำหมันสุนัขหรือแมว สามารถนำไปเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจได้เลย
**สนใจพาน้องไปโรงพยาบาลไหนอย่าลืมตรวจเช็คกับ โรงพยาบาลอีกทีนะ เพราะราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้

การทำหมันสุนัขหรือแมว เราไม่ควรมองเรื่องราคาในการทำหมันอย่างเดียว เราควรคำนึงถึงความปลอดภัยและอุปกรณ์ในการทำหมันห้องในการทำหมันของน้องสุนัขและแมวด้วย เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อความปลอดภัยในการทำหมันของน้องทั้งสิ้น โดยเฉพาะการทำหมันของเพศเมีย จะมีการทำหมันที่มีความซับซ้อนมากกว่าเพศผู้


อายุของน้องสุนัขและแมวที่เริ่มเป็นสัดครั้งแรกขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ พันธุกรรม น้ำหนักตัวความสมบูรณ์พันธุ์ การใกล้ชิดกับตัวผู้ และปัจจัยอื่นๆ โดยทั่วไป การเป็นสัดครั้งแรกอยู่ในช่วง 6- 12 เดือนดังนั้นอายุที่เหมาะสมแก่การทำหมันคือ 8- 10 เดือน สำหรับสุนัข และ 6-8 เดือน สำหรับแมว เพื่อให้ระบบสืบพันธุ์มีการพัฒนาเต็มที่แล้ว

สำหรับกรณีที่ต้องการเริ่มทำหมันก่อนวัยเจริญพันธุ์ สามารถทำได้ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปหรือทำวัคซีนครบแล้ว แต่ถ้าทำหมันในสัตว์ที่อายุน้อยกว่านี้จะมีความเสี่ยงในการวางยาสลบ เนื่องจากการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายยังไม่สมบูรณ์

ราคาทำหมันสุนัข และทำหมันแมว โรงพยาบาลเอกชน

***ควรตรวจสอบราคาทำหมันอีกครั้ง กับ โรงพยาบาลสัตว์ ที่สนใจเนื่องจาก ราคาอาจจะมีการปรับเปลี่ยน    

1.โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ   Thonglor Hospital

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ   (เปิด 24 ชั่วโมง) 
 Phone. 66 (0) 2079-9999
WEBSITE https://www.thonglorpet.com/home
Facebook https://www.facebook.com/ThonglorPet/




2. โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ 4 (เปิด 24 ชั่วโมง)

ติดต่อ เลขที่ 5- 5/1 ถนนเทศบาลรังสฤษฎ์เหนือ ประชานิเวศน์1 จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 0-2953-8085-6 0-2954-3597 ( แฟกซ์ ) vet4hospital@gmail.com 0-2589-3204 WEBSITE https://vet4hospital.com/ Facebook https://www.facebook.com/vet4hospital/  

 

 

3. โรงพยาบาลสัตว์ ไอเว็ท – iVET Animal Hospital (เปิด 24 ชั่วโมง)

โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท สาขา พระราม9 โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท สาขา West Centre ศาลายา ติดต่อ โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท 24 ชม รักษาสัตว์ 24 ชม Hotline : 085-244-7899 Line : @ivethospital iVET พระรามเก้า Tel : 02-641-5525 iVET West Centre ( ศาลายา ) Tel : 02-889-5215 WEBSITE https://www.ivethospital.com/ Facebook https://www.facebook.com/iVETHospital   4. โรงพบาบาลสัตว์ตลิ่งชัน (เปิด 24 ชั่วโมง)

 

4. โรงพยาบาลสัตว์ ตลิ่งชัน 

ติดต่อ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน 1 ซ.บรมราชชนนี 61 ถ.บรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. 10170 โทรศัพท์ 02-887-8321-3 โทรสาร 02-448-6369 เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง WEBSITE http://www.talingchanpet.net/ Facebook https://www.facebook.com/tcahFanpage

 

 

   

5.โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ – Rattanathibet Referral Animal Hospital (เปิด 24 ชั่วโมง)

 
โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สำนักงานใหญ่ (เปิด 24 ชั่วโมง) โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาบางบัวทอง (เปิด 24 ชั่วโมง) โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาปทุมธานี (เปิด 24 ชั่วโมง) รงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาแคราย(Express) (เปิด 24 ชั่วโมง) โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขาเกษตร-นวมินทร์(Extra) (เปิด 24 ชั่วโมง) โรงพยาบาลสัตว์รัตนาธิเบศร์ สาขา Pet Clinic (เปิด 24 ชั่วโมง)
ติดต่อเรา  55/43-45 หมู่ 1 ถนนราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120  (สำนักงานใหญ่) โทร 02-1968245
 
  

6.โรงพยาบาลสัตว์เมืองเอก สาขาเมืองเอก

โรงพยาบาลสัตว์เมืองเอก สาขาเมืองเอก รังสิต ศูนย์โรคกระดูกและข้อต่อ-ศูนย์สัตวแพทย์เฉพาะทาง
โรงพยาบาลสัตว์เมืองเอก สาขาคลองสาม ธัญบุรี ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง
ติดต่อเรา 300/154-157 ซอยพหลโยธิน 87 ปากทางเข้าหมู่บ้านเมืองเอก (มหาวิทยาลัยรังสิต) ลำลูกกา ปทุมธานี 12130 โทร +6625363995
 
 
 

 

แมวสก็อตติชโฟลด์ โรคประจำสายพันธุ์ Scottish Fold

สำหรับทาสแมวทั้งหลายที่สนใจจะเลี้ยงแมวหรือกำลังเลี้ยงแมวพันธุ์สก็อตติชโฟลด์อยู่ วันนี้เรามีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับโรคประจำพันธุ์มาฝาก

แมวสก็อตติชโฟลด์

แมวพันธุ์สก๊อตติสโฟลด์ (Scottish Fold)  เป็นแมวหูพับ  ใบหน้ากลมคล้ายนกฮูก ตาโต เท้ากลม แมวสก๊อตติสโฟลด์พันธุ์แท้ที่มีลักษณะหูพับไปข้างหน้า ซึ่งลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมนี้ส่งผลทำให้เกิดความบกพร่องต่อกระดูกอ่อนในร่างกาย และมีชื่อโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของกระดูกอ่อนนี้ว่า Scottish Fold osteochondrodysplasia (SFOCD) เป็นโรคที่ถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม แมวสก็อตติชโฟลด์จะมีความเจ็บปวดเรื้อรังที่เกิดจากโรคข้อต่อเสื่อมโดยจะมีระดับความรุงแรงที่แตกต่างกันไปในแต่ละตัว โดยแมวจะมีลักษณะความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกภายนอกที่เห็นได้เช่น หางสั้น หนาและไม่มีความหยืดหยุ่น ขาและฝ่าเท้าสั้นลง เป็นต้น

แมวที่มีความผิดปกตินี้จะแสดงอาการเช่น ขาเจ็บ เดินกระเผลก ไม่ค่อยกระโดดขึ้นที่สูง หรือมีท่าทางการเดินแบบขาแข็งทื่อ มีอาการเจ็บบริเวณข้อต่อ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากอาการเสื่อมของกระดูกและข้อซึ่งเป็นผลมาจากการเจริญเติบโตที่บกพร่องและความผิดปกติของกระดูกอ่อน

การวินิจฉัยทำโดยการตรวจร่างกาย การตรวจกระดูกและการวินิจฉัยทางรังสีวิทยาเช่น เอกซเรย์ทั่วไป(Gen. x-ray) , การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computed Tomography ; CT) โดยภาพทางรังสีจะพบความผิดปกติของขนาดและรูปร่างของกระดูกบริเวณ tarsal, carpal, metatarsal ,metacarpal bone, phalanges , caudal vertebrae ,พบการแคบลงของช่องบริเวณข้อต่อ, เกิดการสร้างกระดูกใหม่บริเวณรอบๆข้อต่อของขาส่วนปลาย, เกิดภาวะกระดูกบาง(osteopenia) และเกิดปุ่มกระดูก(exostosis)บริเวณกระดูกฝ่าเท้า โดยมักเกิดกับตำแหน่งขาหลังมากกว่าขาหน้า

การรักษาจะเป็นแนวประคับประคองเนื่องจากไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยการให้ยาลดอักเสบ ลดปวด ยาบำรุงข้อ การกายภาพ เป็นต้น ในรายที่มีความผิดปกติของกระดูกรุนแรงอาจจะต้องใช้วิธีการรักษาโดยการผ่าตัดกระดูก (ostectomy) และ การเชื่อมข้อ pantarsal arthrodeses

อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ ทาสแมวทั้งหลายอย่าเพิ่งตกใจไป นี่เป็นเพียงโรคประจำพันธุ์ที่สามารถเจอได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดกับสก็อตติซโฟลด์ทุกตัว หากน้องแมวบ้านไหนเริ่มมีอาการเจ็บข้อ เจ็บขา หรือเดินกระเผลก อย่าลืมแวะเข้ามาตรวจกับสัตวแพทย์ใกล้บ้านได้นะ

เครดิตข้อมูล
พบหมอแมว
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

แมวมีอาการท้องเสีย อาเจียน เป็นอะไร

แมวหรือลูกแมวบ้านไหนมีอาการ ท้องเสีย อาเจียนบ้าง!! เรามาดู 3 โรคยอดฮิต ที่อาจจะเป็น สาเหตุให้ลูกแมวท้องเสียหรือแมวเราท้องเสีย กัน

ลูกแมวที่มีอาการอาเจียนท้องเสีย ใครเป็นทาสแมวไม่รู้จักโรคนี้ไม่ได้ วันนี้จะมาเล่าถึงอาการ รูปแบบที่เจอบ่อยมากๆ ในลูกแมวไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอาเจียนหรือ การท้องเสีย เราคงอยากรู้กันแล้วใช่ไหม ว่า อาการแบบนี้เป็นโรคอะไรได้บ้าง

แมวมีอาการท้องเสีย อาเจียน เป็นอะไร

 

โรคที่ 1 ที่เจอบ่อยที่สุดเลยนั่นก็คือเรื่องของการมีพยาธิ

พยาธิในลำไส้

ถ้าเกิดว่ามีจำนวนมากๆไม่ว่าจะเป็นตัวกลม ตัวแบน ตัวตืด เม็ดแตงกว่า พยาธิเม็ดแตงกว่าส่วนมาก จะเจอบ่อยที่สุด เป็นพยาธิที่ติดมาจากหมัด พอมีหมัดก็จะปล่อยพยาธิเม็ดแตงกวาเข้าไปในลูกแมวหรือเป็นพยาธิตัวกลม ที่ติดมาจากแม่แมวที่ไม่ได้รับการถ่ายพยาธิ

คราวนี้พอลูกแมวมีพยาธิเยอะมากๆ ตัวพยาธิก็จะไปแยกสารอาหารแล้วก็ไปเกิดการระคายเคืองในทางเดินอาหารของลูกแมว จึงทำให้กระตุ้นให้เกิดการอาเจียน แล้วก็ถ่ายออกมาบางครั้งถ้าลูกแมวของเรามีพยาธิเยอะมากๆ ก็อาจจะอาเจียนเห็นมีพยาธิออกมากับอาเจียนได้ด้วยหรือถ่ายออกมามีพยาธิปนก็เจอได้ ซึ่งการที่เราเจอว่าลูกแมวมีพยาธิ เราก็สามารถพาลูกแมวไปถ่ายพยาธิที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้านได้เลย แนะนำให้ไปที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ เพราะว่าเราจะได้ชั่งน้ำหนักลูกแมวแล้วคุณหมอก็จะได้คำนวณปริมาณยาที่เหมาะสมแล้วก็จะเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับพยาธิที่เราเจอได้ด้วย

เรื่องที่ 2 ที่ทำ ให้เกิดอาการอาเจียนและท้องเสียในลูกแมวนั่นก็คือเกิดการติดเชื้อบิดและก็โปรโตซัว

การติดเชื้อบิดและก็โปรโตซัว

ซึ่งเชื้อนี้ถ้าเกิดว่าเป็นแมวโตหรือว่าแมวที่แข็งแรง ก็มักจะไม่ได้มีอาการอะไรมาก แต่ถ้าเกิดกับลูกแมวเด็ก ถ้าเกิดว่ามีการติดเชื้อบิดมากๆและก็โปรโตซัวมากๆคุณหมอเขาจะทำการตรวจได้โดยเอาตัวอย่างอุจจาระไปตรวจ คุณหมออาจจะตรวจอุจจาระ ด้วยการใช้คัตตอนบัต จิ้มเข้าไปในรูก้นของน้อง เพื่อเก็บตัวอย่างแล้วก็มา ส่องแผ่นสไลด์ในกล้องจุลทรรศน์เพื่อขยายดูเชื้อบิดกับโปรโตซัว ที่ทำให้น้องแมวมีอาการไม่สบายท้อง เกิดอาการท้องอืดท้องเสีย อาเจียนได้ เชื้อส่วนใหญ่จะอันตรายในลูกแมวเพราะว่าถ้าเกิดลูกแมวเขาไม่ได้ทานอาหารแค่ 1-2 มื้อแล้วก็มีอาการอาเจียนร่วมด้วย ลูกแมว ก็มีโอกาสจะเสียชีวิตได้เพราะว่าพลังงานของลูกแมวไม่ได้มีสะสมตามกล้ามเนื้อหรือในตับมากมายเท่ากับน้องแมวที่แข็งแรงแล้ว

โปรโตซัว

บิด

ดังนั้นการที่มีเชื้อบิดหรือเชื้อโปรโตซัว เพียงแค่อาเจียนท้องเสียแค่ครั้งสองครั้งนี้ก็อันตรายได้ ควรรีบพาไปตรวจว่า ถ้ามีอาเจียนอาการท้องเสียด้วยจะได้ดูว่ามีพวกเชื้อบิดหรือโปรโตซัวไหม และที่สำคัญการตรวจอุจจาระ เราสามารถหาได้ด้วยว่ามีไข่พยาธิแอบแฝงด้วยหรือเปล่า เราจะได้ถ่ายพยาธิน้องเขาไปได้เลย

โรคที่ 3 ที่ทำให้เกิดอาการอาเจียนและท้องเสีย โรคนี้เป็นโรคที่อันตรายที่สุด ถึงแก่ชีวิตน้องได้เลย
ซึ่งโรคนั้นที่จะพูดถึงมันก็คือ

โรคไข้หัดแมว

ใครเป็นทาสแมวไม่รู้จักโลกนี้ไม่ได้เด็ดขาดเพราะเป็นโรคสำคัญที่เราต้องทำวัคซีนให้ลูกแมวและแมวของเราทุกตัว ซึ่งในลูกแมวถือว่าเป็นโรคที่อันตรายที่สุดแล้วก็มีโอกาสเสียชีวิตมากถึง 100 เปอร์เซ็นต์ถ้าเกิดว่าลูกแมวอายุน้อยมากๆ อายุประมาณ 2 เดือน 3 เดือน การที่เราพาไปพบหมอเร็วโอกาสการมีชีวิตรอดก็พอมีแต่โอกาสการเสียชีวิต ก็มีสูงอยู่มาก เพราะว่าโรคไข้หัดแมวมันเกิดจากเชื้อไวรัส โรคไข้หัดแมว เวลามันติดเชื้อแล้วก็มีอาการอาเจียน ท้องเสียถ่ายเป็นน้ํามีกลิ่นคาวมากๆ เป็นเพราะว่าเชื้อไข้หัดแมวไปปนติดเชื้อตั้งแต่ช่องปากตั้งแต่ในเพดานปากยาวตลอดทางเดินอาหารไปจนถึงลำไส้ใหญ่ไปจนถึงก้นเลยก็ว่าได้

เปรียบเทียบ เมื่อเวลาติดเชื้อไข้หัดแมว เหมือนโดนน้ำร้อนลวกเหมือนโดนน้ำร้อนลวกอยู่ในลำไส้แบบนั้นเลยซึ่งมันจะทำให้น้องแมวปวดท้องแล้วก็ไม่สบายตัวมากๆร่วมกับการที่ติดเชื้อในกระแสเลือดจึงทำให้ภูมิคุ้มกันของน้องแมวลดลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูง

วิธีการรักษาโรคไข้หัดแมว

โรคไข้หัดแมวจะต้องทำการงดน้ำงดอาหารเพื่อพักลำไส้เวลาที่มีอาการอาเจียนท้องเสียหลายๆคนจะถามว่าทำไมถึงต้องงดน้ำงดอาหาร หรือถ้าเกิดว่าน้องแมวกินไม่ได้มันจะไม่ยิ่งอันตรายกว่าเดิมไหม อยากจะบอกวิธีการรักษาที่แนะนำที่เราให้งดน้ำงดอาหารเพื่อพักลำไส้

อยากให้คิดถึงสภาพเวลาถ้าเกิดเราเป็นแผล แผลที่เหมือนถลอก หรือ โดนน้ำร้อนลวก แล้วเราเอาอะไรไปโดน หรือแค่แบบลมพัด เรายังรู้สึกแสบ เราจึงจำเป็นต้องงดน้ำงดอาหารให้น้อง ถึงแม้จะเป็นอาหารอ่อนๆ ไปโดนผิวโดนพื้นที่สัมผัสที่มีแผลมันก็ปวดแสบปวดร้อนมันก็ยิ่งทำให้น้องแมวไม่สบายตัวแล้วก็เจ็บปวดมากๆ

ดังนั้นช่วงแรกของการรักษาจึงจำเป็นมากๆในการให้น้ำเกลือให้กับน้องแมวเพื่อทดแทนกับการที่น้องเขาท้องเสียแล้วก็ทานอะไรไม่ได้

วิธีที่แนะนำที่สุดในการให้น้ำเกลือนั่นก็คือการให้เข้าเส้นเลือด ที่โรงพยาบาลจะให้น้ำเกลือเข้าขาน้องแมวแล้วก็ ในน้ำเกลือคุณหมอจะให้สารอาหาร กลุ่มลดกรดลดอาเจียนเคลือบ พยุงไม่ให้อาการน้องเขาเป็นมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าแนะนำที่สุดแนะนำให้ใช้ยาต้านไวรัสควบคู่ด้วย เพื่อที่จะทำให้เพิ่มภูมิคุ้มกันของน้องแมวขึ้นได้เร็ว แล้วก็สามารถที่จะต้านโรคไวรัสและ สามารถฟื้นกลับมามีชีวิตและหายในที่สุด

สุดท้ายทั้งนี้ทั้งนั้นจริงและโรคไข้หัดแมวเป็นโรคที่ป้องกันได้ เพื่อไม่ให้เราต้องมาปวดหัวกับวิธีการรักษากับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียมากมายแล้วก็โอกาสรอดของน้องที่น้อยนิด
อย่าลืม ถ้าลูกแมวของเราอายุครบ 2 เดือนเมื่อไหร่ ควรรีบไปทำวัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมว และก็ถ่ายพยาธิด้วย จะได้ป้องกัน เรื่องอาเจียนท้องเสียของแมวเด็กที่อาจจะเกิดขึ้นกับน้องแมวของเราได้

เครดิตข้อมูล
คลินิคหมอศิวารักษาสัตว์

 

ไทยหลังอาน สุนัขพันธุ์ไทยแท้น่าเลี้ยง

ไทยหลังอาน สุนัขพันธุ์ไทยแท้น่าเลี้ยง

ถ้าพูดชื่อว่าหมาไทยขึ้นมาเชื่อว่าหลายคนน่าจะมีภาพจำเป็นหมาบ้าน หมาวัด หรือหมาจรจัดทั่วไป หรือถ้าเกิดพูดถึงหมาพันธุ์ไทยแท้ที่เป็นพันธุ์แท้ ๆ ไม่ใช่พันทางก็คงจะนึกถึงบางแก้วไม่ก็อีก 1 สายพันธุ์ที่เราจะมาพูดกันในวันนี้นั่นก็คือ หมาไทยหลังอาน ที่ตอนนี้โกอินเตอร์ไปถึงต่างประเทศเลย

พูดถึงหมาพันธุ์ไทยหลังอานก็น่าจะเป็นหนึ่งในหมาพันธุ์แท้เพียงไม่กี่สายพันธุ์ในประเทศไทยที่หลายคนคงรู้จักกันดี อีกทั้งยังเป็นหมาสายพันธุ์ประจำชาติของบ้านเราอีกด้วย แต่ถึงแม้หลายคนจะคุ้นหน้าคุ้นตาและคุ้นชื่อไทยหลังอานเป็นอย่างดี แต่ไทยหลังอานกลับไม่ค่อยได้รับความนิยมในประเทศไทยมากนัก แต่กลับกันครับ ในต่างประเทศหมาไทยหลังอานจัดว่าเป็นหนึ่งในสุนัขที่ค่อนข้างดัง แล้วถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสุนัขพันธุ์หายากที่สุดในโลก

วันนี้ผมเลยอยากพามาทำความรู้จักไทยหลังอานที่เราอาจเรียกได้ว่า เป็นหมาระดับโลกที่พบเจอได้แบบบ้าน ๆ แถวข้างวัดเลยก็ว่าได้หมาไทยหลังอานได้รับการขึ้นทะเบียน เพื่อรับรองมาตรฐานสายพันธุ์สุนัข กับสมาคมสุนัขโลก(FCI) จัดว่าไทยหลังอานเป็นหมาไทยพันธุ์แรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขพันธุ์แท้ของโลก

เครดิตภาพ https://www.vetbasket.com/

เอกลักษณ์ของไทยหลังอานที่โด่งดังระดับโลก

สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานแท้ ๆ ที่เรียกได้ว่ามีลักษณะดี เป็นที่ต้องตาต้องใจของคนทั่วโลกมีด้วยกัน 9 ลักษณะนั่นคือ
– หูตั้ง
– หลังอาน
– หางดาบ
– ปลายหางดำ
– ปากทู่
– ปากมอม
– ลิ้นดำหรือลิ้นด่าง
– ตั้งสั้น
– เล็บดำ
โดยเฉพาะอานที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์และเป็นเสน่ห์ที่เด่นที่สุดของสุนัขพันธุ์นี้ ลักษณะอานของหลังของเจ้าหมาพันธุ์นี้ ในตำราโบราณก็มีพูดเอาไว้หลายลักษณะไม่ว่าจะเป็น อานใบโพธิ์ อ่านโบวลิ่ง อานไวโอลิน อานพิณ อานม้า อานเข็ม อานลูกศร และอานเทพพนม โดยจากจำนวนอานทั้งหมดอานใบโพธิ์ถือเป็นชนิดที่หายากที่สุด

เครดิตภาพ https://contactnumbersuk.com/

ลักษณะโดยทั่วไป

ลักษณะโดยทั่วไปของน้องหมาพันธุ์หลังอานจะเป็นสุนัขที่มีรูปร่างกำยำ จัดเป็นสุนัขขนาดกลาง มีขนสั้น มองเห็นกล้ามเนื้อชัดเจน อกใหญ่ กระโหลกใหญ่ โครงสร้างลำตัวค่อนข้างใหญ่ มีสีดำ สีน้ำตาล สีทองแดง สีสวาด สีกลีบบัว และสีที่พบได้ยากมากที่สุดคือ ลายเสือ

ลักษณะนิสัย

ตามแบบฉบับของหมาพันธุ์ไทยหลังอานจัดเป็นสุนัขที่มีลักษณะดุดัน หวงถิ่น ยิ่งถ้าเป็นสุนัขบ้านจะยิ่งมีความดุมากกว่าสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานสายพันธุ์ประกวด ที่จะมีลักษณะนิสัยที่เป็นมิตรกว่า แต่ด้วยนิสัยของสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน เวลาอยู่กับเจ้าของหรือคนที่คุ้นเคยจะเป็นสุนัขที่ขี้เล่น เป็นมิตร และพลังงานสูง แม้จะมีนิสัยที่เป็นมิตรขี้เล่นอย่างไรก็ตาม แต่ด้วยสายพันธุ์และสัญชาตญาณไทยหลังอานก็พร้อมที่จะเป็นนักล่าได้ตลอดเวลา จึงจัดว่าเป็นน้องหมาอีก 1 สายพันธุ์ที่เป็นน้องหมาอารักขาได้เป็นอย่างดี ชื่อเสียงด้านความดุดันและความเป็นหมารักเจ้าของนี้เอง ทำให้สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานโด่งดังในเรื่องการเฝ้าบ้านไปจนถึงต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศรัสเซียที่ปัจจุบันมีการเลี้ยงและรู้จักหมาพันธุ์ไทยหลังอานอย่างแพร่หลาย ยังมีการนำไปเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ถึงต่างประเทศเลย และอีกหลายประเทศในแถบยุโรปก็ซื้อขายหมาไทยหลังอานกันหลักแสนบาทเลยทีเดียว

ใครที่ต้องการหมาสักตัวนึงเลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้าน โจรเห็นโจรกลัวแน่นอนไทยหลังอานคือหนึ่งในคำตอบ

 

 

 

10 เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้

ถ้าจะพูดถึงน้องหมาไซส์กลางสัก 1 สายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมและฮอตฮิตที่สุดในยุคสมัยนี้ ก็คงบอกเลยครับว่าตำแหน่งนี้ต้องยกให้ไซบีเรียนฮัสกี้จริง ๆ นั่นเพราะไซบีเรียนฮัสกี้จัดเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์น้องหมาที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก โครงสร้างร่างกายที่เหมาะสม สมส่วน ดวงตาที่คมเข้ม ท่วงท่าที่สง่างาม และขนนุ่มฟูที่เหมือนมาจากสุนัขเมืองหนาว ถ่ายรูปออกมาก็เท่ระเบิดสวยสุด ๆ แต่ความน่าเกรงขาม สุขุมนุ่มลึก และทั้งหมดที่กล่าวมา ก็ถูกทำร้ายไปด้วยนิสัยที่ขี้เล่น ติงต๊อง หมาพันธุ์นี้ เลยจัดว่าเป็นน้องหมาสายฮาอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ครับ

แต่ใครก็ตามที่กำลังหลงใหลในภาพลักษณ์ภายนอกและความขี้เล่นของเจ้าหมาพันธุ์นี้ ก็ต้องระวังอีกหลายเรื่องที่ซุกไว้ใต้พรมและกำลังจะปลดปล่อยออกมาหลังจากที่คุณได้เลี้ยงมันไปแล้ว ดังนั้นวันนี้ผมจึงเอาเรื่องที่ควรระวังหรือต้องรู้ก่อนที่จะเลี้ยงน้องหมาพันธุ์นี้มาฝากกันทั้งหมด 10 เรื่อง จะมีอะไรกันบ้างมาดูกันเลยครับ

 

10 เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้

1. ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการเลี้ยง

ใครที่เลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้น่าจะเจอปัญหาเดียวกันนั่นคือการทำหน้าตากวนโอ๊ยแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว พูดอะไรไปก็ทำเป็นไม่ได้ยิน ทำเป็นหูทวนลมแล้วมองหน้ากลับมาแบบไม่ตอบสนองอะไรเลย ถามว่าที่เป็นอย่างนั้นเพราะอะไร คำตอบก็คือ เจ้าหมาพันธุ์นี้ไม่เคยฟังเราอยู่แล้วครับ เวลาทำอะไรผิดก็ไม่เคยคิดจะสำนึกในความผิดพลาดของตัวเองเลยด้วยซ้ำ จัดว่าเป็นน้องหมาที่เอาแต่ใจและดื้อสุด ๆ เลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าความดื้อความงี่เง่าติดอยู่ในสายเลือดมาตั้งแต่โบราณเลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าน้องหมาพันธุ์นี้จะฝึกไม่ได้นะครับเพียงแต่จะต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการฝึกฝนโดยเฉพาะช่วงแรกต้องทนกับความงอแงและงี่เง่าของมันสักหน่อย

2. เป็นน้องหมาไฮเปอร์ ซุกซนและไม่เกรงใจใคร

เราจะเห็นคลิปวีดีโอตามีเสน่ห์มากมาย ที่เจ้าของชอบพูดว่าน้องทรายหลุดออกไปจากบ้านแล้ววิ่งไปไหนก็ไม่รู้ ในมุมมองของคนดู ดูไปก็น่ารักและตลกดีนะครับ แต่พอได้เลี้ยงจริง ๆ จะรู้เลยว่าการที่น้องหมาหลุดออกไปนั้นเป็นเรื่องเครียดมากเพราะเราไม่รู้เลยว่าน้องหมาจะไปเจอกันได้อะไรบ้าง เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่อยากจะเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้ต้องมั่นใจว่าตัวเองมีเวลาฝึกและสามารถเอาน้องหมาพันธุ์นี้อยู่ ที่สำคัญคือต้องดูแลเอาใจใส่และเข้าใจน้องให้มาก ๆ หมั่นพาน้องออกไปเดินเล่นออกกำลังกายเพื่อลดความเครียด แต่สุดท้ายไม่ว่าจะรับมือดีแค่ไหนก็อย่าลืมครับเพราะความซนมันคือสัญชาตญาณของหมาพันธุ์นี้ ฉะนั้นควรจะเป็นคนที่มีวินัยและรับได้กับน้องหมาแบบนี้นะครับถึงจะตัดสินใจเลี้ยง

3. ติดเจ้าของมาก

ไม่ว่าไซบีเรียนฮัสกี้จะเป็นหมาที่อินดี้ขนาดไหนแต่สุดท้ายสัญชาตญาณของการรวมฝูงก็ยังฝังแน่นอยู่ในสายเลือดครับ ถึงแม้เราอยู่กับน้องน้องก็คิดว่าเราเป็นฝูงเดี่ยวกัน ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรน้องเขาจะติดเรามากครับ ถ้าเมื่อไหร่ที่เจ้าของไม่อยู่หมาสายพันธุ์นี้ก็จะคิดถึง และแสดงอาการไม่พอใจออกมาไม่ว่าจะเป็นการเห่าหอนหรือการทำลายข้าวของ เรียกว่าขาดเธอไม่ได้หัวใจฉันขอสารภาพ

4. เป็นหมาที่ไม่ค่อยเห่าแต่ชอบหอนมากกว่า

ไซบีเรียนฮัสกี้ จัดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์น้องหมาที่รับสายเลือดมาจากหมาป่าเต็ม ๆ ซึ่งในป่าหมาป่าก็จะไม่ค่อยเห่ากันหรอกครับจะใช้การสื่อสารด้วยการหอนมากกว่า ซึ่งไซบีเรียนฮัสกี้ก้ติดนิสัยนี้มาด้วย เรียกว่าชอบหอนเป็นสายเลือดเลยก็ว่าได้ สุนัขไซบีเรียนฮัสกี้ก็มักจะหอนเพื่อสื่อสารหรือเรียกร้องความสนใจ แล้วเวลาปกติก็ไม่ค่อยหอนหรอกครับ จะหอนตอนดึก ๆ ช่วงที่เรานอนหลับแล้วนะครับ ดังนั้นใครที่จะเลี้ยงหมาพันธุ์นี้จะต้องไม่ลืมมีห้องที่สามารถป้องกันเสียงได้นะครับ

5. ดื้อทำลายข้าวของ

อย่างที่บอกไปครับว่าน้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้เป็นน้องหมาที่มีพลังงานสูงมาก อีกทั้งยังเป็นน้องหมาอินดี้เอาแต่ใจ เวลามีอะไรที่ไม่พอใจก็แสดงออกมาด้วยการทำลายข้าวของ กัดแทะข่วน ซึ่งสิ่งที่จะได้รับกรรมตรงนี้ไปส่วนใหญ่ก็จะเป็นโซฟาสุดที่รักของเจ้าของนั่นเองล่ะครับ เพราะฉะนั้นคนที่จะเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้ได้จะต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีระเบียบวินัย จัดเก็บสิ่งของเป็นที่เป็นทางและมีความอดทนต่อการที่ถูกทำลายข้าวของโดยน้องหมาสุดที่รัก บอกได้เลยว่าบ้านไหน น้องไม่กัดของบ้านนั้นถือว่าทำบุญมาดีครับ ซึ่งตรงนี้ก็เพราะความขี้เล่นของน้องนั่งเอง

6. ชอบวิ่งไล่สัตว์ตัวเล็กๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งนก

ใครที่เคยพาน้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ น่าจะเคยเจอปัญหาเดียวกันนั่นคือ เจ้าหมาพันธุ์นี้ชอบวิ่งตามตรงนู้นตัวนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น หมาตัวอื่นที่ตัวเล็ก ๆ วิ่งได้ตามเด็ก ถึงแม้กระทั่งวิ่งไล่ตามนก ทั้งนี้เป็นเพราะหมาพันธุ์นี้สืบสายเลือดมาจากหมานักล่าอย่างแท้จริง จึงมีนิสัยชอบวิ่งไล่ แต่ยังไงก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับว่าถ้าเกิดวิ่งไล่คนหรือวิ่งไล่เด็กแล้วน้องจะไปกัด ถ้าปกติเราเลี้ยงน้องดีไม่ทำให้น้องเครียดน้องอย่างมากก็แค่วิ่งเข้าไปเล่นครับไม่เข้าไปกัดแน่นอน

7. ขนร่วงเป็นกระสอบ

อย่างที่ทราบกันดีว่าน้องหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้เป็นน้องหมาทางเมืองหนาว จัดว่าเป็นน้องหมาที่มีขน 2 ชั้น และมีการผลัดขนทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ตัวเมียจะมีการผลัดขนปีละ 2 ครั้ง และยิ่งเป็นเมืองร้อนอย่างประเทศไทยยิ่งผลัดขนเยอะเป็นพิเศษครับ ซึ่งแต่ละครั้งนอกจากขนน้องหมาจะร่วงแล้วตัวเจ้าของเองก็น้ำตาร่วงเหมือนกันครับ เพราะขนคนมันเยอะมากเรียกได้ว่าเอากระสอบมาใส่ก็อาจจะล้นด้วยซ้ำ

8. กินยาก

ไซบีเรียนฮัสกี้จัดเป็นอีกหนึ่งน้องหมาสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการกินยาก แต่การกินยากของน้องหมาสายพันธุ์นี้ไม่ได้เกิดจากนิสัยส่วนตัวของน้องหมานะครับ น้องหมาสายพันธุ์นี้เคยเป็นสุนัขลากเลื่อนมาก่อน ซึ่งในเมืองหนาวก็มีอาหารให้กินได้น้อย กินหนึ่งครั้งก็ต้องใช้พลังงานค่อนข้างสูง แล้วใช้พลังงานเป็นเวลานาน จึงทำให้ร่างกายของน้องหมาไซบีเรียนฮัสกี้ปรับตัวตามสภาพแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นน้องหมาที่เผาพลาญพลังงานได้ช้ากว่าหมาเมืองร้อนอย่างหมาพันธุ์เอเชีย นั่นทำให้น้องหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเยอะ ๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะหลายครั้งเจ้าของมักจะให้อาหารเกินกว่าที่น้องต้องการ แล้วทำให้เจ้าของรู้สึกว่าหมาของตัวเองเลือกกินเหลือเกิน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ครับ ธรรมชาติของน้องหมาทำให้ตัวเขาเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วตัวเจ้าของเองก็ควรจะเข้าใจในธรรมชาติตรงนี้ของน้องหมาด้วยนะครับ

9. ควรซื้อน้องหมาที่มีสุขภาพแข็งแรงมาจากฟาร์มและมีใบเพ็ดดีกรีเท่านั้น

เนื่องจากน้องหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้เป็นน้องหมาที่โด่งดังและมีผู้คนต้องการเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีโอกาสเจอที่ขายน้องหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ทั้งนั้น แม้แต่ตลาดนัดยังสวนจตุจักรก็ยังมีขาย หลายครั้งที่เจ้าของที่ซื้อมาก็มักจะเจอกับเรื่องราวที่น่าสลดใจ ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาที่สุขภาพไม่แข็งแรง สะโพกเคลื่อน มีปัญหาข้อต่อ หรือโรคไวรัสต่างๆ หลายครั้งก็เจอปัญหาน้องหมาเสียชีวิตหลังจากซื้อมาได้แค่ไม่นาน เพราะอย่างนี้ก็เพราะไซบีเรียนฮัสกี้เป็นหมาที่ค่อนข้างบอบบางต่อสภาพแวดล้อมครับ เนื่องจากธรรมชาติของน้องหมาเป็นหมาเมืองหนาวแต่ประเทศไทยจัดว่าเป็นเมืองร้อนดังนั้นความแข็งแรงและสุขภาพของน้องหมาจึงสำคัญมาเป็นที่หนึ่ง

10.ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง

เนื่องจากน้องไซบีเรียนฮัสกี้ เป็นสุนัขที่มีขน 2 ชั้นค่อนข้างหนา เมื่อมาอยู่เมืองไทย สภาพอากาศร้อน หรือ การอาบน้ำเป่าขนไม่แห้ง ปัญหาโรคผิวหนังจึงเป็นปัญหาที่ควรระวังสำหรับน้องอย่างยิ่ง

การตัดสินใจซื้อมาซักครั้งนึงจึงจำเป็นจะต้องซื้อจากฟาร์มที่มีใบรับรองและใบเพ็ดดีกรีชัดเจน มีการตรวจสุขภาพ ถ่ายพยาธิ และฉีดวัคซีนพื้นฐานครบถ้วนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพกับลูกหมาครับ

ทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องที่ต้องรู้ ต้องระวาง แล้วต้องเตรียมตัวก่อนตัดสินใจเลี้ยงหมาไซบีเรียนฮัสกี้ครับ ไซบีเรียนฮัสกี้อาจจะดูเป็นหมาอินดี้ แต่อย่างที่บอกไปครับลึก ๆ แล้วเขาเป็นหมาที่รักเจ้าของมาก ติดเจ้าของมาก เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่รักน้องหมาพลังงานสูงอยากเลี้ยงหมาไว้แก้เหงาและมีเพื่อนเล่นตลอดเวลา ชอบเวลาน้องหมาเดินตามและติดเรามาก ๆ อีกทั้งยังมีคนใจเย็น รับได้กับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตไม่ว่าจะเป็นการเสียหายของข้าวของไปบ้าง และพร้อมที่จะให้เวลาในการฝึกฝนกับน้องหมา ไซบีเรียนฮัสกี้ก็จัดว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกของหมาที่ดีมาก ๆ เลยครับ

อาหารแมว 7 อันดับอาหารแมวน่าใช้

อาหารแมว 7 อันดับอาหารแมวน่าใช้

ผมรู้นะครับว่าใครที่เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงเป็นทาสแมว หรือไม่ก็คงต้องเลี้ยงแมวกันบ้างใช่ไหมครับ? เมื่อพูดถึงการเลี้ยงแมวสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการเลี้ยงแมวก็คงหนีไม่พ้น “อาหารแมว” ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทั้งสุขภาพ ความแข็งแรง และความสดใสร่าเริงของน้องแมว โดยเฉพาะใครที่เป็นทาสมือใหม่ก็คงจะงง ๆ ว่าจะต้องซื้ออาหารแมวแบบไหน ยี่ห้อไหน เพราะเวลาเดินเข้าไปใน Pet Shop ก็มีให้เลือกซื้อหลายยี่ห้อมาก วันนี้ผมไม่อยากมาแนะนำอาหารแมว 7 ยี่ห้อ ซึ่งเป็นอาหารแมวที่ดีนิยมกัน

ในเมื่อเป็น “ทาส” ก็ต้องหาอาหารมาบรรณาการเจ้านายเหมียว

ถ้าวันนี้คุณต้องการจะซื้ออาหารแมวที่มีคุณภาพดีให้กับน้องแมวที่บ้าน ผมแนะนำว่าให้เลื่อนไปดูตรงส่วนประกอบของอาหารแมวเป็นอันดับแรกครับ โดยให้เน้นดูไปที่แร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นสำหรับน้องแมว อย่าง ทอรีน, โอเมก้า 3, 6, 9 แคลเซียมและวิตามินอื่น ๆ

นอกจากเรื่องของวิตามินและแร่ธาตุแล้ว สิ่งที่ควรจะคำนึงถึงนั่นก็คือคุณภาพของสารอาหารที่อยู่ในอาหารแมว ถ้าแบรนด์ไหนให้โปรตีนสูง ๆ อย่าง 40 %ขึ้นไป ก็จัดว่าเป็นอาหารแมวที่ดีเกรดพรีเมี่ยมเลยครับ

เอาล่ะทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า 7 อันดับที่ผมเอามาฝากคุณ มีอะไรบ้าง

1. อาหารแมวยี่ห้อ Maxima Cat

Maxima Cat เป็นอาหารแมวสูตรพิเศษที่มีส่วนช่วยในการบำรุงขนของน้องเหมียวให้เงางาม ช่วยเสริมสร้างผิวหนังให้มีความแข็งแรงทนทาน อุดมไปด้วยเนื้อปลาและเนื้อแกะซึ่งเนื้อแกะเป็นส่วนผสมที่พบได้ไม่บ่อยนักในอาหารแมวชนิดอื่น

ส่วนผสมของ Maxima Cat นอกจากโปรตีนจากเนื้อแกะและเนื้อปลาแล้ว ยังมีวิตามินและแร่ธาตุอย่างครบถ้วน ผสม MOS ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดดีที่ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดีและปกติ ช่วยควบคุมระดับของเกลือแร่ในร่างกาย ป้องกันการเกิดโรคไต ควบคุมระดับแมกนีเซียมเพื่อป้องกันการเกิดโรคนิ่ว ภายในตัวอาหารเม็ดไม่มีการผสมข้าวโพด ถั่วเหลือง เศษเนื้อและกระดูกป่น ดังนั้นมั่นใจในคุณภาพของ Maxima Cat ได้เลยครับ

 

Product

 

2. อาหารแมวยี่ห้อ Canagan Cat

Canagan Cat เป็นอาหารแมวที่ถูกผลิตออกมาโดยเน้นไปที่ให้ส่วนผสมหลักเป็นโปรตีนชั้นยอดที่มาจากธรรมชาตินั่นก็คือเนื้อสัตว์ มีให้เลือกซื้อด้วยกัน 2 สูตรนั่นคือสูตรไก่และสูตรแซลมอน

สูตรไก่ Free-Run Chicken เป็นสูตรอาหารแมวที่ปราศจากเมล็ดข้าวและธัญพืช มีวัตถุดิบหลักเป็นเนื้อไก่ที่ถูกเลี้ยงมาอย่างดีในโรงเรือน แล้วนำมาเลาะกระดูกออกให้หมดจากนั้นนำเฉพาะส่วนของเนื้อมาเป็นวัตถุดิบหลักของอาหารแมวมากถึง 65 % ซึ่งการนำเนื้อมาเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อให้น้องแมวได้รับโปรตีนมาจากแหล่งอาหารที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติของบรรพบุรุษและสายเลือดของน้องแมวที่เป็นสัตว์กินเนื้อโดยเฉพาะ

สูตรปลา Scottish Salmon สูตรนี้เป็นสูตรอาหารที่ถูกผลิตมาให้สมดุลอย่างพิถีพิถัน ไม่มีเมล็ดข้าวและธัญพืชเป็นส่วนประกอบ ตัวอาหารเม็ดถูกผลิตมาจากวัตถุดิบหลักซึ่งเป็นเนื้อปลาแซลมอน สูงถึง 75% ช่วยให้น้องแมวได้รับโปรตีนระดับพรีเมียมจากเนื้อปลาที่มีมาตรฐาน โดยกระบวนการผลิตเนื้อปลานั้นถูกผลิตออกมาให้มีคุณภาพเดียวกันกับอาหารของมนุษย์ แล้วนำไปผสมกับปลาแฮร์ริ่ง ปลาเทราต์และปลาขาว นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มวัตถุดิบเพื่อให้ได้มาซึ่งวิตามินและแร่ธาตุจากผัก สมุนไพรต่าง ๆ ส่งผลให้น้องแมวจะได้รับโภชนาการอย่างพอเหมาะครบถ้วนเสริมสร้างระบบการทำงานของร่างกายทั้งหมด
ซึ่งทั้ง 2 สูตรเหมาะสำหรับแมวทุกช่วงวัย

อาหารแมว

3. อาหารแมวยี่ห้อ Royal Canin

เมื่อพูดถึงอาหารแมวจะไม่พูดถึงอาหารแมวยี่ห้อนี้ก็คงไม่ได้ เพราะเป็นอาหารแมวยี่ห้อที่ฟาร์มแมวทั้งหลายชอบใช้ในการให้อาหารให้กับน้องแมว นอกจากนี้ก็ยังถูกรีวิวโดยเหล่า Influencer เยอะมาก
ซึ่งข้อดีของอาหารแมวยี่ห้อนี้ก็คงเป็นสูตรของอาหารแมวที่มีค่อนข้างเยอะ ที่แบ่งออกมาเหมาะสำหรับลูกแมว, แมวโต และแมวแก่ และยังแบ่งสายพันธุ์ของแมวแต่ละชนิดด้วย แถมยังแบ่งแยกย่อยลงไปตามโรคต่าง ๆ อีก อาทิ สูตรสำหรับแมวที่เป็นโรคไต หรือสูตรสำหรับแมวที่ทำหมันแล้วเป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีสูตรที่แบ่งย่อยไปตามสายพันธุ์ของแมวอีก

ส่วนประกอบหลักของอาหารแมวยี่ห้อนี้มาจากสัตว์ปีก ทั้งไขมันและเนื้อ ให้โปรตีนสูงให้ระดับพลังงานที่เหมาะสม มีวิตามินและแร่ธาตุจากข้าว, ข้าวสาลี กลูเตนข้าวโพด, โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันปลา จากดอกดาวเรือง ช่วยให้สุขภาพสมบูรณ์ รูปร่างสมส่วน ช่วยกำจัดเส้นขนที่ตกค้างภายในลำไส้ ป้องกันการเกิดนิ่ว ลดปัญหาก้อนขนและควบคุมปัญหาก้อนขน ช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพแข็งแรงสดใสร่าเริงและอยู่กับเราได้นานขึ้น

https://www.royalcanin.com/th/cats

 

4. อาหารแมว HILL

อาหารแมวยี้ห้อ HILL เป็นอาหารที่มีมาในเมืองไทยค่อนข้างจะนาน ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา มีหลากหลายสูตร ไม่ว่าจะเป็นแมวเด็ก สูตรแมวที่เลี้ยงในบ้าน สูตรแมวหนุ่ม สูตรแมวสูงวัย  และ สูตรสำหรับแมวเฉพาะโรค

แต่ละสูตรมีคุณสมบัติเฉพาะของวัย เช่น อาหารลูกแมวสูตรนี้ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ อุดมไปด้วย DHA จากน้ำมันปลาเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของสมองและสายตา มีโปรตีนคุณภาพสูงที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและพัฒนาการของกล้ามเนื้อ มีแร่ธาตุที่สมดุลช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เพื่อให้ลูกแมวของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงในช่วงปีแรกของชีวิต

อาหารแมว อายุ 1-6 ปี สูตรแมวเลี้ยงในบ้าน มีสูตรพิเศษเพื่อให้พลังงานสำหรับแมว อายุ 1-6 ปีที่เลี้ยงในบ้าน อาหารแมวนี้ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ มี DHA จากน้ำมันปลาเพื่อเสริมสร้างสมองและบำรุงสายตา มีแร่ธาตุที่สมดุลช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ขณะที่ใยอาหารจากธรรมชาติช่วยให้แมวมีสุขภาพการขับถ่ายที่ดี ช่วยให้เจ้าของสามารถทำความสะอาดกระบะทรายได้ง่าย

อาหารแมว อายุ 7 ปีขึ้นไป สูตรแมวเลี้ยงในบ้าน มีสูตรพิเศษเพื่อให้พลังงานที่แมวอายุมากที่เลี้ยงในบ้านต้องการ อาหารสำหรับแมวอายุมากนี้ผลิตจากส่วนผสมจากธรรมชาติและโปรตีนคุณภาพสูง ช่วยให้แมวสูงวัยของคุณอิ่มท้อง ขณะเดียวกันใบอาหารจากธรรมชาติและส่วนผสมที่ย่อยง่าย

https://www.hills.co.th/cat-food

 

 

5. อาหารแมวยี่ห้อ Whiskas

พูดถึงยี่ห้อนี้เชื่อว่าทาสแมวแทบทุกคนจะต้องรู้จักและเคยเหลียวแลอย่างแน่นอน ซึ่ง Whiskas สูตรแมวโตรสปลาทูเป็นสูตรใหม่ที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างร่างกายของน้องแมวให้แข็งแรงด้วยคุณประโยชน์จากอาหารที่ครบถ้วน เน้นไปที่การบำรุงให้ครบรอบด้านช่วยให้การเติบโตสมบูรณ์ทั้งกล้ามเนื้อ และกระดูก
ให้สารอาหารครบถ้วนทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3, 6 และสังกะสี เพิ่มคุณค่าด้วยวิตามินเอและทอรีนช่วยให้น้องแมวดวงตาสดใสสุขภาพดี และอัดแน่นด้วยโปรตีนจากปลาทะเลพร้อมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เพื่อให้น้องแมวเติบโต แข็งแรง ร่าเริง มีชีวิตชีวา

https://www.whiskas.co.th

 

6. อาหารแมวยี่ห้อ Me-O

เป็นอาหารแมวอีกหนึ่งยี่ห้อที่ชื่อว่าทาสแมวแทบทุกคนต้องรู้จัก มาพร้อมกับสโลแกนน่ารัก ๆ อย่าง ” มีแมว ต้อง Me-O” แต่ยี่ห้อนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่ชื่อหรือสโลแกนนะครับ

โดยในตัวอาหารแมวถูกผลิตออกมาให้มีสารอาหารที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นทอรีนช่วยบำรุงสายตาให้ดวงตาสดใส วิตามินซีช่วยกระตุ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดีช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน โอเมก้า 3, 6 และสังกะสีช่วยบำรุงผิวหนังและขนให้เงางาม นอกจากนี้ยังมีส่วนควบคุมค่า pH หรือความเป็นกรดด่างของปัสสาวะ และช่วยควบคุมปริมาณโซเดียมลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไต โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงในแมว

โดยอาหารแมวสูตรนี้ถูกผลิตออกมาสำหรับแมวโตตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป

https://www.facebook.com/meothailand/

 

7. อาหารแมวยี่ห้อ Purina ONE

Purina ONE เป็นอาหารแมวคุณภาพสูงระดับพรีเมียม ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาสูตรร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของแมวมาอย่างยาวนาน ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องปัญหาสุขภาพที่จะตามมาจากการใช้อาหารแมวยี่ห้อนี้ มั่นใจได้เลยว่าจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์และปลอดภัย

นอกจากนี้โปรตีนที่ได้รับจากอาหารแมวยี่ห้อนี้ยังเป็นโปรตีนคุณภาพจากเนื้อปลาแซลมอนที่มีโปรตีนสูง มีส่วนช่วยให้น้อง ๆ มีมวลกล้ามเนื้อและหัวใจที่แข็งแรง นอกจากนี้ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยให้ภูมิต้านทานแข็งแรง ผิวหนังและขนสวยเงางาม

https://www.purinaone.co.th/product

 

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 7 อาหารแมวที่ดีที่สุดในรอบปีนี้ที่ผมจัดหามาให้ อย่างไรก็ดีทั้ง 7 ยี่ห้อนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นนะครับ หวังว่าทาสแมวหัวอกเดียวกันจะลองนำไปปรับใช้แล้วหาซื้ออาหารแมวอร่อย ๆ มาให้เจ้านายได้กลิ่นกันนะครับ

สุดท้ายไม่ว่าอาหารแมวจะดีแค่ไหนก็อย่าลืมให้น้องแมวกินน้ำให้มากและเพียงพอด้วยนะครับ เพราะถ้ากินแต่ข้าวไม่กินน้ำระวังจะเป็นโรคนิ่วได้นะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับเจ้านายและความเป็นทาสที่ทุกคนพร้อมใจจะเป็นกันนะครับ

เครดิตภาพ
https://www.hepper.com/

อาการไวรัสไข้หัดแมว

ไวรัสไข้หัดแมว (FPV) หรือที่เรียกว่าโรคพาร์โวไวรัสแมว

เครดิตภาพ;claychalkvilleanimal

สามารถติดเชื้อได้ง่ายและอาจเป็นโรคร้ายแรงถึงชีวิตที่ทำร้ายลูกแมว​ และแมวโตเต็มวัย เป็นโรคติดเชื้อในทางเดินอาหารของแมว สามารถพบได้ทุกช่วงอายุโดยเฉพาะในแมวเด็ก และแมวที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ในกรณีที่มีอาการรุนแรง สามารถทำให้น้องเหมียวของคุณเสียชีวิตได้ ถือเป็นโรคที่ค่อนข้างร้ายแรงที่คนเลี้ยงแมวไม่ควรมองข้ามเลย

อาการไข้หัดแมว

👉โรคนี้มีระยะการฟักตัวของโรค 2-7 วัน
👉​มีอาการไข้สูงเฉียบพลัน
👉​ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน
👉​ท้องเสีย ร่างกายขาดน้ำ ถ่ายเป็นเลือด
👉ร่างกายอ่อนเพลีย​ อ่อนเเรง

สาเหตุไข้หัดแมว

เกิดจากการติดต่อโดยตรงจากแมวป่วย โดยเฉพาะทางอุจจาระ ภาชนะใส่อาหาร น้ำ กรง ที่ขับถ่ายของแมว หรือพื้นดินที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อไวรัส รวมถึงเสื้อผ้า และรองเท้า การแพร่โรคนี้จะเกิดได้ง่ายขึ้นหากเลี้ยงน้องแมวรวมกันหลายตัว

วิธีป้องกันโรคไข้หัดแมว

แมวจำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีน เพื่อป้องกันโรค โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 8 สัปดาห์และกระตุ้นซ้ำ อีกทีที่ 12 และ 16 สัปดาห์ จากนั้นจึงต้องมากระตุ้นซ้ำทุกปี ที่สำคัญคือหากมีการนำแมวตัวใหม่เข้ามาในบ้านแล้วยังไม่มีประวัติหรือการเคยทำวัคซีน ควรทำการกักโรคไว้ 1 สัปดาห์ หมายถึง แยกเลี้ยงเพื่อให้เคยชินกับสภาพแวดล้อมและรอให้โรคถึงระยะฟักตัวจริงๆ เพื่อลดโอกาสในการแพร่เชื้อนั่นเอง

เครดิตข้อมูล
โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สาขาเชียงใหม่

7 อันดับสายพันธุ์แมวน่าเลี้ยง

ขึ้นชื่อว่าเจ้าแมวเหมียว แมวตัวน้อย เชื่อว่าหลายคนเองก็คงต้องหลงเสน่ห์เจ้าสัตว์ตัวเล็กตัวนี้จนโงหัวไม่ขึ้นไม่ต่างกัน(ผมเองก็เช่นกัน) นั่นก็เพราะนิสัยที่น่ารักขี้อ้อนของเจ้าแมวเหมียวเหล่านี้ทำให้หลายคนตกเป็นทาสโดยไม่รู้ตัว เลยทำให้เจ้าแมวกลายมาเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงคู่ใจของมนุษย์ และด้วยความที่เจ้าแมวเหมียวก็มีทั้งหมดหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็มีนิสัยเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน วันนี้ผมเลยอยากจะมาแนะนำ 7 อันดับสายพันธุ์แมวที่น่าเลี้ยงที่สุด จะมีอะไรกันบ้างมาดูกันเลยครับ

7 อันดับสายพันธุ์แมวที่น่าเลี้ยงที่สุด

1. อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Shorthair)

พูดถึงน้องแมวน่าเลี้ยงคงไม่พูดถึงสายพันธุ์นี้ไม่ได้แน่ ๆ “อเมริกัน ชอร์ต แฮร์” เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ หูมีขนาดกลาง มีลายหินอ่อนทั่วทั้งตัว ตามประวัติเป็นแมวที่ถูกนำมาจากยุโรปแล้วไปสู่แผ่นดินอเมริกา จากนั้นก็มีการผสมข้ามสายพันกันมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งสายพันธุ์นิ่งและเห็นเด่นชัดอย่างปัจจุบัน

2. เทอร์คิช แองโกรา

“เทอร์คิช แองโกรา” เป็นแมวสายพันธุ์หนึ่งจากเมืองแองโกรา ประเทศตุรกี มีขนคล้ายเส้นไหมและหนาเหมือนขนแกะ มีต้นกำเนิดมาจากเมืองแองโกราตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 จึงจัดว่าเป็นแมวพันธุ์ขนยาวที่เก่าแก่ที่สุด และถือเป็นต้นกำเนิดของแมวพันธุ์ขนยาวปัจจุบัน

3. แร็กดอลล์

แมวพันธุ์นี้มีลักษณะภายนอกคล้ายกับตุ๊กตาผ้าเหมือนกับชื่อสายพันธุ์ เวลาอุ้มขึ้นมาจะชอบทำตัวอ่อน ย้วย เหมือนกับไม่มีกระดูก ขนตลอดตัวโดยเฉพาะบริเวณเอวจะแน่น ฟู นุ่ม บริเวณเท้าจะเป็นสีด่างขาวจึงทำให้ดูเหมือนกำลังใส่ถุงเท้าอยู่ตลอดเวลา เสียงร้องค่อนข้างเบาและเป็นแมวที่มีนิสัยชอบความเงียบสงบ

4. เปอร์เซีย

แมวเปอร์เซียเป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เปอร์เซียหรือแถบอิหร่าน มีการผสมข้ามสายพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวอังกฤษ จากนั้นก็มีการพัฒนาสายพันธุ์ต่อมาเรื่อย ๆ จนได้แมวที่มีขนหนาและยาวกว่าเดิม
แมวเปอร์เซียที่มีลักษณะตามมาตรฐานควรจะมีจมูกอยู่ระดับเดียวกับตา โครงสร้างลำตัวสั้น ขาสั้นเตี้ย หูเล็ก ปลายหูกลมมน และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน หางสั้นตรงไม่มีรอยหัก ขนยาวฟู ท่าทางการเดินดูสง่างาม

แมวเปอร์เซียเป็นที่นิยมในประเทศต่าง ๆ มากกว่าร้อยปีมาแล้ว สำหรับประเทศไทยจัดว่าเป็นแมวต่างประเทศที่ถูกนำมาเผยแพร่เป็นพันธุ์แรก เนื่องจากเป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน สุขุม เข้ากับคนง่าย มีความร่าเริงซุกซน มีไหวพริบแต่ก็ชอบประจบประแจง

5. สก็อตติช โฟลด์

พูดถึงสายพันธุ์แมวน่าเลี้ยงจะไม่พูดถึงแมวสายพันธุ์นี้ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะสก็อตติช โฟลด์ จัดว่าเป็นแมวอีก 1 สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงอย่างแพร่หลายมาก เป็นแมวขนาดกลาง ตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอที่สั้น ดวงตากลมใหญ่ แสดงออกถึงความน่ารักสดใส ใบหูมีได้ตั้งแต่ลักษะตั้งตรงขนาดกลางไปจนถึงหูพับขนาดเล็ก ปากและคางจะโค้งรับกันพอดีคล้ายกับกำลังยิ้มอยู่ ทำให้ได้รับฉายาน่ารัก ๆ ว่า ” smiling cat” หรือเจ้าแมวหน้ายิ้มนั่นเอง

6. แมงซ์

เป็นเจ้าเหมียวที่ขึ้นชื่อเรื่องของความน่ารัก น่าเอ็นดู จุดสำคัญและเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าเหมียวอันนี้ก็คือไม่มีหางครับ ชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ ลักษณะโดยทั่วไปลำตัวจะกลมขาสั้น ด้วยคราวหลังจะมีความยาวมากกว่าขาหน้า ดูไปดูมาก็คล้ายกระต่ายนะครับ ทำให้มีอีกชื่อหนึ่งว่า “บันนี่แคท” ขึ้นชื่อว่าหามาเลี้ยงยากพอสมควรแต่รับประกันเรื่องความน่ารักและขี้เล่น ใครที่อยากหามาเลี้ยงอาจจะต้องใช้ความพยายามนิดนึงแต่รับรองว่าคุ้มแน่นอนครับ

7. ทอยเกอร์

ทอยเกอร์เป็นน้องแมวสายพันธุ์ผสมที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาให้มีความสวยงาม แล้วถูกยอมรับให้เป็นสายพันธุ์แมวสายพันธุ์หนึ่ง โดยแมวสายพันธุ์นี้มีลักษณะเด่นอยู่ที่ลายบนตัว สิ่งที่มองไกลๆลายบนตัวของเจ้าแมวพันธุ์ทอยเกอร์ก็เหมือนกับเสือเลยครับ โครงสร้างสวยงามสมส่วน หน้าตาภายนอกอาจจะดูเหมือนเสือแต่นิสัยแท้จริงแล้วขี้เล่นมากครับไม่ได้ดุร้ายเลย ที่สำคัญคือแมวสายพันธุ์นี้ฉลาดพอสมควร ถ้าคุณรู้วิธีและรู้จักฝึกมันมันก็สามารถทำตามคำสั่งของคุณได้เช่นกัน

จบไปแล้วนะครับกับ 7 อันดับแมวที่น่าเลี้ยงที่สุดในยุคนี้ 6 อันดับแรกบอกเลยครับว่าเป็นแมวที่น่าเลี้ยงแบบสมัยนิยม แต่สำหรับอันดับที่ 7 เป็นความชอบส่วนตัวครับก็เลยเอาใส่เข้ามาเพื่อแบ่งปันให้กับใครที่ได้อ่านบทความนี้ เผื่อใครที่ชอบแมวลายสวยๆหน้าตาเหมือนเสือเท่ๆเอามาเลี้ยงนะครับ

สุดท้ายในการเลี้ยงแมวหรือว่าเลี้ยงสัตว์อะไรก็แล้วแต่ไม่ใช่แค่เห็นมันน่ารักก็เลยจะเอามาเลี้ยงนะครับ ตอนนั้นก็คือหนึ่งชีวิตเหมือนกัน ต้องการการดูแล การเอาใจใส่ แต่ต้องการได้รับความรักไม่ต่างจากเราเลยครับ ใครที่กำลังมองหาน้องแมวน่ารักๆมาอยู่เป็นเพื่อน เอาไว้เล่นด้วยเวลาเหนื่อย เวลาเครียดในการทำงาน ก็ลองเลือกดูจาก 7 สายพันธุ์นี้ก็ได้นะครับ

7 อันดับ สุนัขที่มีความซื่อสัตย์มากที่สุดในโลก

ถ้าจะพูดถึงความซื่อสัตย์ของสัตว์เลี้ยง เชื่อว่าน้องหมาหรือสุนัขคงเป็นเพียงสัตว์ไม่กี่สายพันธุ์บนโลกใบนี้ที่สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า พวกเขามีความซื่อสัตย์ต่อมนุษย์อยู่ในสายเลือดอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามแม้น้องหมาจะมีความซื่อสัตย์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่นักพัฒนาสายพันธุ์ก็ยังอยากจะพัฒนาน้องหมา ให้มีความซื่อสัตย์มากขึ้นไปเพื่อใช้ในการดูแลเจ้าของ ดูแลบ้าน ดูแลทรัพย์สิน และในบางครั้งก็เพื่อปกป้องคนในครอบครัวของเจ้าของ เลยพัฒนาสายพันธุ์น้องหมาให้มีความเชี่ยวชาญในการดูแล ปกป้อง และเฝ้าระวังให้กับมนุษย์มากยิ่งขึ้น พร้อมกับอยู่เคียงข้างเจ้าของอย่างซื่อสัตย์ไปจนวันสุดท้ายของพวกมันวันนี้ผมอยากพาคุณมาพบกับ 7 สายพันธุ์สุนัขที่ซื่อสัตย์ที่สุดในโลก

7 สายพันธุ์สุนัขที่ซื่อสัตย์ที่สุดในโลก

1. ดัชชุน

เจ้าหมาไส้กรอก ตัวเตี้ย ตาหวานสายพันธุ์นี้ ไม่ได้มีดีแค่ความน่ารัก ขี้เล่น เท่านั้น ดัชชุนก็จัดเป็นหนึ่งในสายพันธุ์น้องหมาที่มีความเฉลียวฉลาดมาก เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของได้ดีเยี่ยม สามารถฝึกได้ทุกคำสั่ง มีระเบียบวินัยและไม่สร้างปัญหาให้ครอบครัว

ลักษณะภายนอกมีความแข็งแรงปราดเปรียว จึงไม่ควรเลี้ยงให้น้องหมาพันธุ์นี้อ้วนจนเกินไปเพราะอาจมีปัญหาสุขภาพได้ น้องหมาพันธุ์นี้สามารถพาไปเดินเล่นได้ เพราะมีนิสัยรักเจ้าของ เฝ้าระวังได้ดี  หรืออาจเลี้ยงเอาไว้เป็นพี่เลี้ยงเด็กก็สามารถทำได้ เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีคุณสมบัติครบในแบบของหมาในฝันเลยก็ว่าได้ แต่อย่าลืมนะครับห้ามเลี้ยงให้น้องอ้วนจนเกินไป นั่นเพราะสรีระร่างกายของน้องหมาพันธุ์นี้ไม่ควรได้รับน้ำหนักที่เยอะจนเกินไปเพราะจะทำให้มีปัญหาสุขภาพและข้อต่อในอนาคต

2. ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

ไม่ว่าจะเป็นลาบราดอร์หรือโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ต่างก็เป็นสุนัขเลี้ยงด้วยกันทั้งคู่ เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ติดเจ้าของงอมแงม สดใสร่าเริง พลังงานสูง เลี้ยงง่าย โดยเฉพาะพันธุ์ลาบราดอขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์เป็นพิเศษ และด้วยความที่ให้ความจงรักภักดีและซื่อสัตย์เป็นอย่างมากกับเจ้าของ ในหลายๆครั้งการถูกเจ้าของเพิกเฉยหรือเมินเฉยต่อการกระทำของมัน จะทำให้น้องหมาพันธุ์นี้เจ็บปวดเป็นอย่างมาก
ความสุขสูงที่สุดของน้องหมาพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ คือการที่ได้อยู่เคียงข้าง คอยรับใช้ และเป็นเพื่อนรู้ใจให้กับเจ้าของ เรียกได้ว่าถ้ารับน้องหมาพันธุ์นี้มาเลี้ยงแล้ว โลกทั้งใบของน้องหมาจะหมุนรอบตัวเราแค่คนเดียวเท่านั้น การกระทำของเราแม้เพียงเล็กน้อยจะส่งผลต่อน้องหมาพันธุ์นี้อย่างมาก ถ้าเป็นการกระทำในเชิงลบอาจส่งผลให้น้องหมามีความเครียด เป็นโรคซึมเศร้า หรืออาจกลายเป็นสุนัขดุร้าย แต่หากการกระทำของเราเป็นการกระทำเชิงบวก จะทำให้น้องหมามีสุขภาพจิตที่ดี มีความสุข สดใสร่าเริง และพร้อมมอบชีวิตทั้งชีวิตของพวกมันให้กับเราเลยครับ

3. บีเกิ้ล

แม้จะเห็นว่าบีเกิ้ลเป็นน้องหมาที่ดื้อ ซน พลังงานสูง และควบคุมยากแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้วน้องหมาพันธุ์บีเกิ้ลเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์น้องหมาที่แทบจะไม่สามารถเปลี่ยนเจ้าของได้เลยในช่วงชีวิต เพราะเมื่อไหร่ที่มันตกลงใจยอมเป็นน้องหมาของใครก็แล้วแต่ มันจะรักและซื่อสัตย์กับเจ้าของคนนั้นเพียงแค่คนเดียว

สำหรับตัวน้องหมาบีเกิ้ลแล้วการได้เล่นกับเจ้าของ ได้ประจบประแจง ได้อ้อนเจ้าของ ได้ทำตัวซุกซนตลก ๆ เรียกเสียงหัวเราะของเจ้าของได้ หรือการที่ได้เห่าเพื่อเฝ้าระวังภัย ก็จะนับเป็นความสุขและความภาคภูมิใจในชีวิตของบีเกิ้ล ที่มันสามารถทำหน้าที่ของมันในฐานะน้องหมาได้อย่างดี

นอกจากเรื่องการเฝ้าระวังและการทำตัวให้ตลกหรือน่ารักเพื่อให้เจ้าของมีความสุขแล้ว อีกหนึ่งวิธีในการแสดงออกถึงความซื่อสัตย์ของเจ้าบีเกิ้ลคือ การซื่อสัตย์ต่อครอบครัวเจ้าของทั้งหมดโดยเฉพาะหากครอบครัวนั้นมีเด็กเล็ก ๆ เจ้าบีเกิ้ลตัวน้อยก็จะทำตัวเป็นพี่เลี้ยงเด็กเพื่อเป็นการช่วยเหลือครอบครัวของเจ้าของอย่างสุดความสามารถ

4. อาเซเชี่ยน หรือ เยอรมันเชพเพิร์ด

ถ้าจะพูดถึงน้องหมาที่มีความซื่อสัตย์มาก ๆ ต่อมนุษย์ก็คงจะไม่สามารถมองข้ามน้องหมาสายพันธุ์นี้ไปได้ นั่นเพราะคาแรคเตอร์ภายนอกของน้องหมาพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักกันในรูปของน้องหมาตำรวจหรือทหาร ที่คอยรับใช้ชาติ รับใช้ประเทศ และรับใช้เจ้าของอย่างซื่อสัตย์มาโดยตลอด นั่นก็เพราะด้วยสรีระที่ค่อนข้างใหญ่ มีนิสัยรักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก เชี่ยวชาญในการเฝ้าระวัง ไม่เชื่อใจคนแปลกหน้าง่าย ๆ และพร้อมจะตั้งฉากเห่าและกัดเสมอเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเฉลียวฉลาดในการฝึกฝน สามารถรับคำสั่งจากเจ้าของได้เป็นอย่างดี

เยอรมันเชพเพิร์ดเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่สามารถเลี้ยงกับเด็ก ๆ ได้ นั่นเพราะแม้เจ้าหมาพันธุ์นี้จะมีนิสัยเห่าเสมอและดุร้ายกับคนแปลกหน้าที่ท่าทางไม่น่าไว้ใจ แต่ถ้ากับบ้านของเจ้าของจะทำตัวเหมือนหมาเล็ก ชอบทำตัวซุกซนขี้เล่นขี้อ้อน บางครั้งก็ลืมไปเลยว่าตัวเองตัวใหญ่ขนาดไหน สามารถเป็นได้ทั้งการ์ดและพี่เลี้ยงให้กับเด็ก ๆ

5. อาคิตะ อินุ

ถ้าจะพูดถึงน้องหมาสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่โด่งดังระดับโลกก็คงหนีไม่พ้นน้องหมา พันธุ์อาคิตะอินุ ที่โด่งดังมาจากภาพยนตร์เรื่อง “ฮาชิ” ซึ่งเป็นเรื่องราวของน้องหมาพันธุ์อาคิตะอินุที่นั่งรอเจ้านายหลายปีอยู่ที่สถานีรถไฟ สุดท้ายมันก็ได้ตายลงพร้อมกับหัวใจที่ยังรอคอยเจ้าของอยู่ตลอดช่วงชีวิตของมัน เห็นแบบนี้ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าน้องหมาสายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์จริง ๆ

ถ้าเยอรมันเชพเพิร์ดเป็นหมาทหารของฝั่งโลกตะวันตก ดินแดนอาทิตย์อุทัยอย่างประเทศญี่ปุ่นก็มีน้องหมาอาคิตะอินุนี่แหละครับเป็นหมาทหารของเหล่าซามูไร ที่ทำหน้าที่คอยอารักขาและเฝ้าระวังให้กับครอบครัวของซามูไร เรียกได้ว่าเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี พร้อมตายหรือสละชีวิตได้เพื่อเจ้าของสมชื่อซามูไร ใครที่ชอบในความเป็นหมาสายพันธุ์เอเชียและกำลังหาน้องหมาที่ซื่อสัตย์มาเลี้ยง อาคิตะอินุ นี่แหละครับคือคำตอบ

6. เซนต์เบอร์นาร์ด

ถ้าจะพูดถึงสุนัขอารักขาและเป็นพี่ใหญ่ใจดีแห่งวงการสุนัข ก็คงไม่สามารถมองข้ามน้องหมาพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดไปได้ โดยเมื่อก่อนเซนต์เบอร์นาร์ดทำหน้าที่เป็นน้องหมาเฝ้าระวังบนภูเขา สามารถช่วยเหลือและดูแลผู้คนได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับฉายาว่า เซนต์หรือนักบุญ นั่นเอง

นิสัยทั่วไปของเซนต์เบอร์นาร์ดแม้จะเป็นสุนัขที่ตัวใหญ่และดูน่ากลัวในบางครั้ง แต่แท้จริงแล้วเซนต์เบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่ใจดีและเข้ากับคนง่ายมาก ไม่มีสัญชาตญาณของการทำร้ายหรือจู่โจมก่อน สามารถเป็นได้ทั้งการ์ด ผู้เฝ้าระวัง แถมยังเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับบ้านที่มีเด็กเล็ก ๆ อีกด้วย แต่ถึงจะเห็นว่าน้องหมาพันธุ์นี้ใจดีและอ่อนโยนขนาดไหน แต่ถ้าเกิดมีอันตรายเข้ามาใกล้เจ้าของหรือคนรอบข้าง น้องหมาพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาปกป้องทันที นั่นเพราะสำหรับเซนต์เบอร์นาร์ดครอบครัวจัดว่าเป็นชีวิตและหัวใจของเขาเลยก็ว่าได้

7. เกรทไพรีนีส

เกรทไพรีนีส เป็นน้องหมาที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ในการแบกของขึ้นภูเขาที่มีทางเดินยากลำบาก นอกจากนี้ยังคอยทำหน้าที่เป็นสุนัขกู้ภัยในเวลาที่เกิดภัยพิบัติเช่นเดียวกับเซนต์เบอร์นาร์ด นั่นจึงทำให้น้องหมาสายพันธุ์นี้เป็นน้องหมาที่ค่อนข้างหวงอาณาเขตดูแลทรัพย์สินให้กับเจ้านายเป็นอย่างดี ทำหน้าที่เฝ้าระวังได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ก็ยังสามารถเลี้ยงเด็กและเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้เช่นกัน เพราะสำหรับน้องหมาพันธุ์นี้แล้วความปลอดภัยและความสุขของครอบครัวนับว่ามาเป็นอันดับที่ 1

จบไปแล้วนะครับกับ 7 สายพันธุ์น้องหมาที่น่าเลี้ยง น่ารัก เป็นน้องหมาที่มีความซื่อสัตย์มากที่สุดในโลก ซึ่งน้องหมาทุกสายพันธุ์ที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นน้องหมาที่ถูกพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเพื่อให้เป็นมิตรต่อเจ้าของ สามารถเฝ้าระวังและปกป้องทรัพย์สินของเจ้าของได้เป็นอย่างดี ใครที่กำลังมองหาน้องหมาเพื่อมาเป็นเพื่อนเล่น ดูแลปกป้องครอบครัว บ้านและทรัพย์สินอื่น ๆ น้องหมาทั้ง 7 สายพันธุ์นี้จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยนะครับ

 

10 อันดับ สายพันธุ์สุนัขน่าเลี้ยง 2022

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสุนัขหรือน้องหมาเป็นอีกหนึ่งเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ที่อยู่กับมนุษย์เรามายาวนาน แต่ก็เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากจะมีน้องหมาสักตัวนึงมาเป็นเพื่อนเอาไว้เลี้ยงแก้เหงา วันนี้ผมเลยเอา 10 สายพันธุ์สุนัขน่าเลี้ยง ที่ผู้คนนิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายมาฝาก จะมีสายพันธุ์อะไรบ้างมาดูกันเลย

10 สายพันธุ์สุนัขน่าเลี้ยง 2022

(Photo:https://www.petsblog.it/)

1.ชิวาวา

ชิวาวาเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก ตาโต มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก ชิวาวาโดยทั่วไปมีความสูงไม่เกิน 5 นิ้ว แบ่งเป็น 2 สายพันธุ์หลักๆคือสายพันธุ์ขนเรียบและสายพันธุ์ขนยาว น้ำหนักเฉลี่ย 0.9-2.7 Kg. จัดว่าเป็นสุนัขพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ มีทั้งสีขาว สีน้ำตาลอ่อน สีทราย สีดำ หน้าผากต้องกลมโค้งคล้ายลูกแอปเปิ้ล หูตั้งปากสั้นแหลม ถ้ามีขนยาวขนจะไม่หยิบม้วน
เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ถูกเลี้ยงอย่างแพร่หลาย มีนิสัยซุกซนพลังงานสูงเฝ้าระวังได้ดี อีกครั้งถ้าใครมีพื้นที่เล็กๆอยากจะเลี้ยงสุนัข ชิวาวาก็เป็นอีกหนึ่งน้องหมาพันธุ์เล็กที่เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ

(Photo:https://wallpaperaccess.com/)

2. บีเกิ้ล

ในอดีตบีเกิ้ลถูกใช้เป็นสุนัขล่าเนื้อ มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ มีนิสัยรักความสงบ รักสันติและรักเด็ก แต่ต้องขอบอกก่อนว่าใครที่อยากจะมีหมาสักตัวนึงไว้เฝ้าบ้านบีเกิ้ลอาจจะไม่ใช่คำตอบ เพราะบีเกิ้ลเป็นสุนัขที่ชอบในการเข้าสังคม ดังนั้นควรจะเลี้ยงเอาไว้เพื่อผูกมิตรและเชื่อมสัมพันธ์คนในบ้านจะดีกว่า แต่อยากจะบอกว่าใครเลี้ยงบีเกิ้ลต้องทำใจหน่อยนะ เพราะเป็นสุนัขที่เห่าเก่งมาก และ เป็นสุนัขที่ชอบทำลายข้าวของเป็นว่าเล่นเลย เนื่องจากเป็นสุนัขที่ชอบเล่นตลอดเวลา เพราะพลังเยอะมาก


(Photo:https://www.yourpuppyluv.com/)

3. ชิสุห์

ถิ่นกำเนิดของเจ้าหนูน้อยชิสุห์มาจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่เห็นตัวเล็กแบบนี้อย่าดูถูกเชียวเพราะฉายาของเจ้าน้องคือ ราชสีห์ เหตุก็เพราะว่าชิสุห์มีขนแผงคอที่คล้ายกับสิงโต เวลาเดินจะเดินตรงเชิดหน้าคอเหยียด ทำให้ดูสง่างามคล้ายกับสิงโต

มีรูปร่างค่อนข้างเล็กแต่มีขนยาวตรงหนาและมีขน 2 ชั้น จึงทำให้สุนัขพันธุ์นี้มีความต้องการในการแปรงขนทุกวัน เพราะฉะนั้นเจ้าของต้องมีเวลาในการแปรงขนให้น้องอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง ตัวน้องมีนิสัยเป็นมิตรมาก ฉลาด ไม่เจ้าอารมณ์ หรือใครชอบไว้ขนยาวๆให้น้องหมัดจุกตัดแต่งขนให้น้องมีหลายสไตล์หลายแบบให้เลือกเลยแหละ


(Photo:https://www.sentangsedtee.com/)

4.ไซบีเรียนฮัสกี้

ไซบีเรียนฮัสกี้เป็นสุนัขลากเลื่อนที่สง่างาม ถิ่นกำเนิดอยู่ที่เอเชียทางตอนเหนือ นี่เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่พอพูดคำว่า “เลี้ยงหมา” หลายคนก็จะมีหน้าของฮัสกี้โผล่ขึ้นมาเป็นหน้าแรกๆ ไซบีเรียนฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีขนสองชั้นทำให้ค่อนข้างขี้ร้อน เป็นสุนัขพลังงานสูงตลอดเวลาจำเป็นจะต้องพาไปออกกำลังกายบ่อยๆ แต่มีนิสัยรักเจ้าของ รักครอบครัว และติดเจ้าของมาก เหมาะกับบ้านที่มีเวลาพาน้องหมาไปออกกำลังกายและเหมาะกับบ้านที่ชอบทำกิจกรรม Active นอกบ้าน


(Photo:https://cottagelife.com/)

5. โกลเด้นรีทรีฟเวอร์

ถิ่นกำเนิดของพี่ใหญ่ใจดีตัวนี้มาจากประเทศอังกฤษ ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มามากกว่า 200 ปี จัดเป็นสุนัขขนาดกลาง มีขน 2 แบบคือแบบเรียบกับแบบเป็นลอนปกมาด้านข้าง ขนดกสวยงามออกไปทางสีครีมและเข้าจนถึงสีน้ำตาลแดง ฉายาของพี่ใหญ่ตัวนี้คือ ” หมาใจดี” ในอินเตอร์เน็ตก็มักจะมีภาพคลิปวีดีโอสั้นๆของความรักความผูกพันระหว่างที่ใหญ่โกลเด้นกับเด็กทารกออกมาให้เห็นอยู่เสมอ
จัดเป็นสุนัขเลี้ยงง่าย เหมาะกับการเลี้ยงสุนัขครั้งแรก ที่สำคัญคือร่าเริง สดใส และรักเจ้าของมากๆ นั่นก็เพราะมีนิสัยเป็นมิตร มีความสุภาพ ฉลาดฝึกง่าย มีความจำเป็นเลิศ ใครที่อยากเลี้ยงสุนัขครั้งแรกและอยากได้สายพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายเอาอยู่ลองเริ่มจากสายพันธุ์นี้ก็ได้ครับ

(Photo:https://bestfriends.com.cy/)

6.ปอมเมอเรเนียน

ปอมเมอเรเนียนเป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมันนี เรียกได้ว่าเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เรียงความตัวเล็กกะทัดรัด ขนฟูสวยงาม พกพาง่าย ทำให้หลายคนหลงใหลในความน่ารักของมัน มีนิสัยร่าเริง สดใส พลังงานสูงมาก และด้วยความน่ารัก ความ Alert และความขี้ประจบ ของเจ้าป้อมนี่เองก็เลยทำให้หลายคนต้องกลายเป็นทาสของเจ้าหมาตัวเล็กโดยไม่รู้ตัว


(Photo:https://dogtime.com/)

7.Welsh corgi (เวลช์ คอร์กี้)

Cor(คอร์) หมายถึงแคระ Gi (กี้) หมายถึงสุนัข
น้องหมาคอร์กี้ เป็นสุนัขที่มีความสูงอยู่ที่ 10 – 12 นิ้ว น้ำหนักตัวเต็มวัยอยู่ที่ 12 – 13 กิโลกรัม
โดยพื้นฐานแล้วนั้น คอร์กี้เป็นสุนัขที่ มีความรัก ซื่อสัตย์ และจงรักภักดีกับเจ้าของมาก ด้วยนิสัยขี้ประจบจึงทำให้เจ้าของ หลงไหลในความขี้อ้อน
และท่าเดินที่ต้วมเตี้ยม น่ารักๆ ทำให้คนหลายคนหลงรักเวลช์ คอร์กี้

 

(Photo:animals.net)

8.เฟรนช์ บูลด็อก

เฟรนช์บุลล์ด็อกเป็นสุนัขที่ต้องการการเอาใจใส่ เหมาะสำหรับคนที่อยู่คนเดียว สุนัขพันธุ์นี้ไม่ค่อยเห่า จะเห่าก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ตื่นเต้น
เป็นพันธุ์ที่ไม่ต้องการการออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวมากนัก ชอบการนอนอยู่กับบ้าน
เป็นหมาขี้เล่น ฉลาด และมักจะสร้างเสียงหัวเราะให้คนในครอบครัว มีความน่ารักเฉพาะตัว และต้องการความสนใจ ทำให้การเลี้ยงไม่ยาก
แต่ เฟรนช์ บูลด็อก ก็มีโรคค่อนข้างจะเยอะ เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ภาวะอุดตันทางเดินหายใจ พบเห็นได้บ่อย ๆ ในน้องหมาหน้าสั้น โรคเกี่ยวกับตา

(Photo:https://www.westend61.de/)

9.คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล

คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลเป็นสุนัขที่ฉลาด ขี้เล่น มีเสน่ห์ สอนง่าย ร่าเริง สนุกสนาน สุนัขปรับตัวเก่งและเข้ากันได้ดีกับบ้านที่มีครอบครัว
แต่สุนัขพันธุ์นี้ไม่เหมาะกับการเลี้ยงเฝ้าบ้าน เพราะเป็นหมาที่เห่าแทบไม่เป็น
โรคที่เจอบ่อย คือ ปัญหาเรื่องหูปรกพับ อาจมีกลิ่นอับและเปื้อนได้ง่าย ปัญหาด้านผิวหนัง


(Photo:https://klkfavorit.ru/)

10. ไทยบางแก้ว

ตัวสุดท้ายน่าจะเป็นน้องหมาที่หลาย ๆ คนคุ้นชื่อ คุ้นหน้า คุ้นตากันเป็นอย่างดี นี่ก็คือไทยบางแก้ว หมาไทยแท้แต่หน้าตาอิมพอร์ทอย่างกับหมาเมืองหนาว ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่าน้องหมาไทยบางแก้วไม่เคยตกเทรนด์หมายอดฮิตในบ้านเราเลย โดยเฉพาะการเลี้ยงไว้เพื่อการเฝ้าบ้าน เนื่องจากเป็นน้องหมาที่มีนิสัยดุดัน หวงอาณาเขต อีกทั้งยังรักและซื่อสัตย์กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เรียกว่าถ้าเลี้ยงอย่างถูกวิธีน้องหมาไทยบางแก้วสามารถตายแทนเราได้เลย

โดยสิ่งที่มาพร้อมกับชื่อเสียงของไทยบางแก้วนั่นคือความดุนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากเจ้าของสามารถเลี้ยงด้วยความรัก การดูแลที่ถูกวิธี ให้เวลากับการฝึก น้องหมาบางแก้วจะกลายเป็นหมาที่น่ารัก ขี้เล่น ขี้อ้อน ไม่แพ้น้องหมาพันธุ์อื่น ๆ เลย แต่หากเลี้ยงผิดวิธีแล้วทำให้น้องหมาเกิดความเครียดมาก ๆ ก็จะกลายเป็นหมาที่ซึมเศร้าและกลายเป็นดุร้ายไปในที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรู้ ความเข้าใจ และการดูแลของเจ้าของทั้งสิ้น

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 10 สายพันธุ์สุนัขที่น่าเลี้ยง ซึ่งที่ผมจัดมาผมก็เลือกน้องหมาที่นิสัยแตกต่างหลากหลายมาให้เลือก สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาสุนัขสักตัวนึงเอามาเลี้ยงเป็นเพื่อน สุนัขทั้ง 10 สายพันธุ์นี้ต่างก็เลี้ยงง่ายด้วยกันทั้งนั้นเพราะฉะนั้นลองเลือกกันดูนะครับ

 

7 ข้อควรรู้ก่อนทำอาหารบาร์ฟให้สุนัข

หนึ่งในสิ่งที่กำลังมาแรงและเป็นกระแสที่ผู้เลี้ยงน้องหมาหลาย ๆ ท่านกำลังให้ความสนใจนั่นก็คือ การทำอาหารบาร์ฟ หรือการให้น้องหมากินอาหารแบบสด ๆ ดิบ ๆ ซึ่งการทำอาหารบาร์ฟหรือการให้อาหารสดนั้นเป็นการเลี้ยงน้องหมาโดยการเลียนแบบวิธีการกินอาหารตามธรรมชาติของน้อง ซึ่งหมาหรือสุนัขก็เป็นสัตว์กินเนื้อและตามธรรมชาติเนื้อที่สัตว์เหล่านี้กินก็เป็นเนื้อสด ๆ นี้จึงเป็นแนวคิดและที่มาของการทำบาร์ฟ

แต่อย่างไรก็ดีแม้การทำบาร์ฟจะเป็นการพาน้องหมากลับไปสู่ธรรมชาติดั้งเดิม แต่ในฐานะเจ้าของก็จำเป็นจะต้องใส่ใจรายละเอียดในการทำบาร์ฟ เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อสุขภาพของน้องหมาในอนาคต ในบทความนี้จึงอยากจะมาแบ่งปัน


(Photo:https://topdogtips.com/)

7 ข้อที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำบาร์ฟให้น้องหมา

เพื่อให้น้องหมามีภูมิต้านทานที่แข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำบาร์ฟ

1. ควรรู้ส่วนผสมทุกอย่างในการทำบาร์ฟแต่ละมื้อ

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการทำบาร์ฟคือการให้อาหารสดกับน้องหมา ซึ่งปกติแล้วก่อนจะทำบาร์ฟโดยทั่วไปเจ้าของก็มักจะให้อาหารสำเร็จรูปมาก่อนตั้งแต่เล็ก พอมีการเปลี่ยนรูปแบบของอาหารก็จำเป็นจะต้องติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด ดังนั้นควรจะต้องจดหรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องจำให้ได้ว่าการทำบาร์ฟแต่ละมื้อน้องกินอะไรเข้าไปบ้าง เผื่อมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นเวลาพาน้องไปหาหมอจะได้คุยกับคุณหมอได้ว่าวันนี้หรือมื้อที่ผ่านมากินอะไรเข้าไป เพื่อให้คุณหมอวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องจากนั้นจะได้เลี่ยงวัตถุดิบนั้น ๆ แล้วเปลี่ยนไปให้อย่างอื่นแทน


(Photo:https://aperrados.com/)

2. ดูแลปริมาณอาหารให้เหมาะสมในการทำบาร์ฟแต่ละมื้อ

สำหรับเจ้าของน้องหมาที่ได้ทดลองทำบาร์ฟมาซักระยะจะพบว่า เมื่อเวลาผ่านไปการทำบาร์ฟจะช่วยให้น้องหมามีร่างกายที่แข็งแรง มีกล้ามเนื้อที่ค่อนข้างแน่น แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญและจำเป็นจะต้องควบคุมนั่นก็คือปริมาณของอาหารเช่นเดียวกับการให้อาหารเม็ดหรืออาหารสำเร็จรูปทั่วไป เพราะแม้จะเป็นการทำบาร์ฟแต่ถ้าเกิดให้อาหารมากเกินไปก็มีโอกาสทำให้น้องหมาอ้วนได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องคำนวณปริมาณของอาหารในแต่ละมื้อของการทำบาร์ฟให้ดี ซึ่งน้องหมาในแต่ละช่วงวัยแต่ละขนาดตัวก็จะมีความเหมาะสมในการให้อาหารแตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่ควรให้มากหรือให้น้อยจนเกินไป

3. วางแผนในการทำบาร์ฟให้สมดุลในแต่ละเดือน

ลองจินตนาการภาพว่าถ้าวันนี้ท่านต้องกินกะเพราหมูกรอบไข่ดาวทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน ท่านจะเบื่อไหม เช่นกัน ในการทำบาร์ฟให้กับน้องหมาเราก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนสัดส่วนหรือเปลี่ยนสูตรอาหารหมุนเวียน เพื่อให้ทุก ๆ มื้อน้องหมาไม่เบื่อและที่สำคัญการเปลี่ยนส่วนผสมเพื่อให้สารอาหารครบถ้วนก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะการให้แต่อาหารสูตรเดิม ๆ ก็ไม่ต่างจากการให้น้องหมากินอาหารสำเร็จรูปแบบเดิม ๆ ดังนั้นควรมีการสับเปลี่ยนสูตรอาหารในแต่ละสัปดาห์ ยกตัวอย่างเช่น สัปดาห์แรกอาจจะเป็นสูตรของเนื้อไก่ สัปดาห์ต่อมาเป็นสูตรเนื้อปลา การหมุนเวียนสูตรอาหารจะช่วยให้น้องหมาไม่เบื่อและยังช่วยให้น้องหมาได้รับคุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วนอีกด้วย

4. อย่าลืมเสริมสร้างความแข็งแรงด้วยวิตามินและแร่ธาตุ

ร่างกายของน้องสุนัขก็ไม่ต่างจากร่างกายมนุษย์นอกจากสารอาหารจำพวกโปรตีน สิ่งที่สำคัญก็คือวิตามินและแร่ธาตุ เพราะสารอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค ดังนั้นท่านจึงจำเป็นจะต้องเสริมวิตามินและแร่ธาตุเข้าไปในอาหารบางมื้อ เช่น วิตามิน C,B,E แล้วเพิ่มสมุนไพรที่มีแคลเซียมเข้าไปด้วย ทั้งหมดนี้จะช่วยเป็นการรับประกันว่าน้องหมาจะมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงตามที่ท่านต้องการ


(Photo:www.bausocial.it/)

5. อย่าเพิ่งเร่งรัดให้เวลาน้องหมาได้ปรับตัว

ในช่วงต้นของการปรับเปลี่ยนสูตรอาหารจากอาหารธรรมดามาเป็นการทำบาร์ฟ อาจจะมีการต่อต้านหรือมีการกินอาหารน้อยลงของน้องหมาเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งหมาแต่ละตัวก็มีความแข็งแรงของระบบย่อยอาหารไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับอายุและสายพันธุ์ บางตัวกินได้เลยทันทีบางตัวต้องใช้เวลาในการปรับตัว ดังนั้นผู้เลี้ยงจะต้องอดทนในช่วงแรกสักระยะหนึ่ง ไม่ใช่ว่าทำบาร์ฟไปแล้วเห็นน้องหมาอาเจียนหรือท้องเสียแค่ครั้งหรือสองครั้งก็เลิกทำในทันทีแล้วโทษว่าการทำบาร์ฟเป็นสิ่งไม่ดี จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นจะต้องตื่นตูมขนาดนั้นเพียงแค่พาไปพบแพทย์เพื่อให้มั่นใจว่านี่เป็นแค่ผลข้างเคียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากนั้นน้องหมาจะค่อย ๆ ปรับตัวให้เข้ากับการทำบาร์ฟขึ้นเอง

6. สุนัขแต่ละตัวมีความต้องการอาหารแต่ละชนิดแตกต่างกัน

ในการทำบาร์ฟที่ดีเจ้าของควรจะต้องรู้ว่าสุขภาพของหมาของตัวเองเป็นอย่างไร แล้วหาอาหารหรือสูตรอาหารที่เหมาะสมหรืออุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยในเรื่องปัญหานั้น ๆ ของหมาของตัวเอง ทั้งนี้อาจจะปรึกษากับสัตวแพทย์ที่พาน้องหมาไปหาอยู่เป็นประจำ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับน้องหมาในการทำบาร์ฟ

7. ความสะอาดในทุกขั้นตอนเป็นสิ่งสำคัญ

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าการทำบาร์ฟเป็นการให้อาหารสดกับน้องหมา ดังนั้นจึงต้องระวังเรื่องเชื้อโรคและพยาธิที่อาจปะปนมากับอาหารจึงควรใส่ใจ 3 ขั้นตอนนี้ให้ดี ได้แก่ แหล่งที่มาของวัตถุดิบ ขั้นตอนการจัดเก็บ และเวลาของการเข้าครัวลงมือทำ เพื่อให้แน่ใจในเรื่องของความสะอาดและความปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลายครั้งที่เจ้าของหมาไม่รู้ในสิ่งเหล่านี้แล้วโทษว่าการทำบาร์ฟทำให้สุนัขของตนเองป่วย แต่แท้จริงแล้วตัวเจ้าของเองนั่นแหละที่ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดในการทำบาร์ฟให้กับน้องหมาของตัวเอง

ทั้ง 7 ข้อนี้คือสิ่งที่ต้องรู้และต้องคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลาในการทำบาร์ฟให้กับน้องหมา การเลี้ยงหมาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การให้อาหารด้วยการทำบาร์ฟก็ยิ่งละเอียดอ่อนเข้าไปอีก แต่มันก็แลกมาด้วยสุขภาพของน้องหมาที่ดีขึ้น มีปัญหาสุขภาพน้อยลง แล้วทำให้น้องหมาได้อยู่กับเรานานขึ้นกว่าเดิม

สุดท้ายไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงหมาด้วยการทำบาร์ฟหรือการให้อาหารตามปกติ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการใส่ใจรายละเอียดของอาหารแต่ละอย่างที่ให้น้องหมากินเข้าไป เมื่อเราใส่ใจรายละเอียดทั้งหมดก็จะทำให้น้องหมาใช้ชีวิตกับเราได้อย่างมีความสุข แล้วตัวเราเองเราจะมีความสุขกับการได้ดูสัตว์เลี้ยงที่เรารัก เติบโตและร่าเริงแข็งแรง อยู่เป็นเพื่อนที่แสนดีกับเราได้อีกนานครับ

 

5 หมาพันธุ์เล็ก เลี้ยงได้ในคอนโด

มีใครที่กำลังเจอปัญหาอยากเลี้ยงน้องหมา อยากมีน้องหมาสักตัวนึงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาเวลาเครียดหรือเวลาเหนื่อย แต่กลับไม่มีพื้นที่มากพอจะเลี้ยงหมาสักตัวนึงที่มีขนาดใหญ่ มีใครกำลังเจอปัญหานี้อยู่บ้างไหมครับ

ผมเลยอยากจะมาแก้ปัญหาคนที่อยากเลี้ยงน้องหมาแต่ไม่มีเนื้อที่ หรืออยู่คอนโดเลยไม่สามารถเลี้ยงหมาพันธุ์ใหญ่ได้ ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาผมจึงนำ 5 น้องหมาพันธุ์เล็ก ที่สามารถเลี้ยงได้แม้ในที่ที่ไม่ค่อยมีพื้นที่ อย่างคอนโด ห้องเช่า หรือบ้านที่ไม่ได้มีสนามหญ้าหรือเนื้อที่มากนัก

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจเลี้ยงน้องหมา

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่าบทความนี้จะมาช่วยแก้ปัญหาให้กับใครก็ตามที่ต้องการเลี้ยงน้องหมาแต่ไม่มีเนื้อที่พอจะเลี้ยงหมาใหญ่ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าจะเลือกตั้งหมาพันธุ์ไหนไปอยู่ในบ้านเป็นครอบครัวเดียวกัน ผมอยากจะให้อ่านตรงนี้สักนิดจะได้รู้ว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

อย่างแรกอยากให้ถามตัวเองให้ดีก่อนว่าต้องการเลี้ยงน้องหมาจริงใช่ไหม เพราะมีหลายครั้งมากที่เจ้าของหมารู้สึกว่าตัวเองเหงาเลยอยากได้หมาเป็นเพื่อน แต่พอนำไปเลี้ยงแล้วกลับไม่ตอบโจทย์วิถีชีวิต สุดท้ายก็เอาน้องหมาไปปล่อยให้กลายเป็นหมาจรจัด หรือบางคนก็ฝืนเลี้ยงต่อแต่ก็เลี้ยงได้ไม่ดี กลายเป็นว่าหมามาเพิ่มภาระให้กับชีวิต เพราะฉะนั้นถามตัวเองให้ดีก่อนว่าต้องการจะเลี้ยงน้องหมาจริง ๆ ใช่ไหม พร้อมที่จะรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิตที่จะมาอยู่กับเราหรือเปล่า

อย่างที่ 2 ที่อยากให้รู้ก็คือ ถึงจะบอกว่าเป็นน้องหมาสายพันธุ์เล็กที่สามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่ในน้อย ๆ แต่ไม่ว่ายังไงน้องหมาก็ยังเป็นสัตว์ที่ชอบที่จะออกมาวิ่งเล่นหรือเดินเล่นสูดอากาศธรรมชาติอยู่ดี เพราะฉะนั้นต้องแน่ใจว่าสามารถจัดเวลาเพื่อพาน้องหมาออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านบ้างสักอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็ยังดี เมื่อเตรียมความพร้อมกันแล้วงั้นเราก็มาดูกันเลยว่า

5 สายพันธุ์หมาที่สามารถเลี้ยงได้ไหมในพื้นที่น้อยจะมีพันธุ์อะไรกันบ้าง

 


เครดิตรูปภาพ;https://cutewallpaper.org/

1. ปั๊ก

ปั๊กจัดว่าเป็นหมาสายพันธุ์เล็กที่เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่ที่เล็ก ๆ เป็นอย่างมาก นั่นเพราะปกติหมาพันธุ์นี้จะชอบการนอน ไม่วุ่นวาย ไม่ต้องการพื้นที่มาก ๆ ในการวิ่งเล่น แถมยังเป็นสายพันธุ์ที่มีความแข็งแกร่งในตัวเอง มีความกล้าหาญ ที่สำคัญคือหมาพันธุ์นี้ไม่ค่อยมีการผลัดขนสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาขนร่วงหรือความสกปรก

โดยปกติแล้วปั๊กจะเป็นน้องหมาที่ค่อนข้างขี้เกียจ ไม่ควรปล่อยให้อยู่ลำพังโดยที่ไม่ฝึกหรือไม่พาไปเดินเล่นเลย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจัดเวลาเพื่อเล่นกับน้องแล้วก็พาน้องไปฝึกบ้าง หรือยังน้อยที่สุดพาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะบ้างก็ยังดี แต่ก็มีข้อควรระวังในเรื่องของการเล่นกับน้องหรือการออกกำลังกายของน้องหมาพันธุ์นี้ เนื่องจากปั๊กเป็นน้องหมาที่มีลักษณะหน้าสั้น ทำให้มีโอกาสที่จะมีปัญหาด้านการหายใจ ท่าออกกำลังกายหนักเกินไปก็มีโอกาสให้หายใจติดขัดหายใจไม่ทัน และเกิดอาการฮีทสโตรกได้ เพราะฉะนั้นจุดนี้ผู้เป็นเจ้าของต้องพึงระวังเอาไว้


เครดิตรูปภาพ;https://www.vetbasket.com/

2. ชิสุห์

ชิสุห์จัดว่าเป็นหนึ่งในหมาพันธุ์เล็กที่มีโครงสร้างและธรรมชาติของร่างกายที่ค่อนข้างแข็งแรง มีนิสัยร่าเริง กระตือรือร้น บรรพบุรุษของหมาสายพันธุ์นี้เป็นหมาสายพันธุ์ชนชั้นสูงของประเทศจีน ทำให้น้องหมาพันธุ์นี้ที่มีลักษณะดี โครงสร้างสวยงาม ลำตัวเชิดตรง ปลายหางชี้มาที่กลางหลัง ถึงแม้จะมีขนาดแตกต่างกันไปบ้างในสายพันธุ์นี้ แต่ชิสุห์ปกติจะมีลักษณะที่เป็นน้องหมาตัวเล็ก แต่ก็ไม่ใช่จะบอบบางนะครับ

โดยในการเลือกน้องหมาชิสุห์สักตัวนึงมาเลี้ยงเป็นเพื่อนจำเป็นจะต้องเลือกที่มีโครงสร้างดี ฟอร์มสวย เพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพหรือกระดูกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แม้ชื่อชิสุห์จะไม่ใช่น้องหมาที่ต้องการพื้นที่ในการเลี้ยงดูมากนักแต่ก็จำเป็นจะต้องพาน้องหมาไปเดินเล่นอยู่เป็นประจำ เนื่องจากเป็นหนึ่งในน้องมาสายพันธุ์ที่พลังงานสูง ชิสุห์มีนิสัยอ่อนโยน แม้บางครั้งจะตื่นตระหนกง่ายกับคนแปลกหน้า แต่ถ้าได้ทำความรู้จักก็สามารถเข้ากันได้กับคนทุกคนครับ และที่สำคัญก็คือน้องหมาพันธุ์ชิสุห์ชอบการกอดการสัมผัสเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้นหมั่นลูบหัวหมั่นเล่นกับน้องด้วยการสัมผัสบ่อย ๆ จะทำให้น้องหมาพันธุ์นี้มีความสุขที่ได้อยู่กับคุณ


เครดิตรูปภาพ;https://www.buys1080.xyz/

3. ชิวาวา

ถ้าพูดถึงน้องหมาสายพันธุ์เล็กที่สามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่เล็ก ๆ แคบ ๆ ชิวาวาก็เป็นอีกหนึ่งในสายพันธุ์น้องหมาที่เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ ด้วยความที่เป็นน้องหมาพันธุ์เล็กที่มีรูปร่างค่อนข้างกระทัดรัด มีความจงรักภักดี รักเจ้าของมาก เหมาะมากที่จะเลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้านหรือเตือนภัยเวลามีเหตุฉุกเฉิน เพราะด้วยนิสัยของชอบหมาพันธุ์นี้ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมันจะเห่าไม่หยุดจนกว่าคุณจะไปหามัน

น้องหมาชิวาวาจัดว่าเป็นหนึ่งในน้องหมาอพาร์ทเม้นท์ชั้นเลิศ ด้วยความที่ใช้พื้นที่ไม่มาก ไม่ต้องการการออกกำลังกายที่มากนัก แล้วยังสามารถทำความรู้จักกับคนหรือสัตว์ชนิดอื่นได้ง่ายดาย แต่ไม่ว่าอย่างไรคุณก็จำเป็นจะต้องดูแลและใส่ใจในเรื่องของการออกกำลังกายอยู่ดี หรือคุณสามารถปล่อยให้น้องไปวิ่งเล่นเพื่อออกกำลังกายด้วยตัวเองในห้องหรือในสวนสาธารณะที่อยู่ในสายตาคุณได้เลย ไม่จำเป็นจะต้องใช้สายจูงเพื่อพาวิ่งหรือพาเดินตลอดเวลา โดยกิจกรรมที่แนะนำคือการเล่นคาบของ ด้วยการโยนของไปไม่ไกลมากนักคุณไม่จำเป็นต้องลุกจากที่นั่งเลย

 


เครดิตรูปภาพ;guiaanimal.net

4. บิชองฟริเซ่

บิชองฟริเซ่เป็นหนึ่งในน้องหมาที่มีนิสัยร่าเริง สดใส มีความสุขและมองโลกในแง่ดี นิสัยตามสายพันธุ์แล้วเป็นหมาที่สุภาพอ่อนโยน ขี้เล่นเข้ากับคนได้ง่าย ต่อให้คุณจะพาเพื่อนหรือคนแปลกหน้าเข้ามาทำความรู้จักกับน้องในห้องหรือในคอนโดน้องก็จะไม่ดุแน่นอน ยกเว้นว่าคุณจะเลี้ยงน้องหมาผิดวิธีจนน้องหมาเครียด

บิชองฟริเซ่ก็พอที่จะเป็นน้องหมาเฝ้าบ้านหรือเฝ้าระวังได้ในระดับหนึ่ง โดยธรรมชาติเป็นน้องหมาที่รักเด็กมาก ในเรื่องของการทำความสะอาดน้องหมาพันธุ์นี้จำเป็นจะต้องใช้แชมพูสำหรับผิวน้องหมาที่แพ้ง่ายเท่านั้น เพราะผิวและขนของน้องหมาพันธุ์นี้แพ้ง่ายมาก ๆ อ่านถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะแซวว่าเป็นหมาผู้ดี ก็ช่วยไม่ได้นะครับดูจากหน้าตาน้องแล้วก็เหมาะสมที่จะเรียกว่าหมาผู้ดีนะครับ
ของน้องหมาบิชองฟริเซ่จำเป็นจะต้องมีการแปรงขนทุกวัน ต้องคอยตัดแต่งเล็มปลายขนเพื่อไม่ให้ขนเกาะติดกันเป็นสังกะตัง


เครดิตรูปภาพ;https://www.hunsa.com/

5. เฟรนช์บูลด็อก

ตัวสุดท้ายในการจัดอันดับครั้งนี้ซึ่งนี่ก็คือเจ้าเฟรนช์บูลด็อกนั่นเองครับ เฟรนช์บูลด็อกเป็นน้องหมาที่มีนิสัยเห่าน้อย น่ารัก เป็นมิตร เข้ากับคนง่าย มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส และต้องการการออกกำลังกายน้อยกว่าพันธุ์อื่น ๆ มีนิสัยขี้เล่น เข้ากันได้ดีกับคนแปลกหน้าและคนทั่วไปโดยเฉพาะเด็ก ๆ

ปกติน้องหมาพันธุ์นี้เป็นน้องหมาที่ชอบนอนเป็นชีวิตจิตใจจึงต้องการพื้นที่ใช้สอยในการเลี้ยงดูน้อยมาก น้องหมาพันธุ์นี้ค่อนข้างชอบอากาศเย็นสบาย ทนไม่ค่อยได้กับอากาศร้อน ๆ ถ้าเลี้ยงในพื้นที่น้อยก็ควรจะดูแลเรื่องของการระบายอากาศ หรือถ้าจะให้ดีที่สุดต้องเลี้ยงในห้องแอร์

จบไปแล้วนะครับ 5 น้องหมาสายพันธุ์เล็ก ที่เหมาะกับการเลี้ยงในพื้นที่เล็ก ๆ แคบ ๆ อย่างคอนโดหรือห้องเช่าอพาร์ทเม้นท์ ถ้าใครที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์หรือคอนโดและกำลังมองหาน้องหมาสักตัวมาอยู่เป็นเพื่อน ก็ลองเลือกน้องหมาจาก 5 อันดับนี้ดูก็ได้นะครับ

 

สุนัขหายไป 3 ปี กลับมายังจำเจ้าของได้

แจ๊คสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนได้หายออกไปประมาณ 3 ปี ซึ่งเจ้าของไมค์ได้พยายามตามหาแจ๊คตลอดเวลาโดยไม่สิ้นหวัง หวังว่าวันหนึ่งแจ๊คจะกลับมาหาเขา และความพยายามของไมค์ก็สมหวังเมื่อ เขาได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลสัตว์ที่อยู่ห่างไกลจากบ้านเขาประมาณ 8 ชั่วโมงโทรมาเพื่อสอบถามเขาว่าเขามีสุนัขชื่อแจ๊คหรือเปล่า ไมค์อธิบายให้พวกเขาฟังว่าเขามีสุนัขชื่อแจ็คซึ่งเขาหายไปเมื่อหลายปีก่อน บอกลักษณะของแจ็คซึ่งมีตาข้างหนึ่งมีสีน้ำตาลเล็กน้อยและเล็บข้างหนึ่งบนอุ้งเท้าหน้าของเขาเป็นสีดำสนิท ทำให้ทางโรงพยาบาลยืนยันว่าให้ไมค์ลองมาดูแจ๊คที่โรงพยาบาล

ไมค์ขับรถมาหาแจ๊คที่โรงพยาบาลเพื่อมาดูว่าใช่แจ๊คหรือเปล่า หลังจากที่ ทั้งคู่ได้พบกัน แจ๊ครีบวิ่งเขามาหาไมค์ด้วยความดีใจเช่นเดียวกับไมค์ที่ความพยายามและความไม่สิ้นหวังในการตามหาแจ๊คเขาประสบความสำเร็จได้เจอกันอีกครั้ง

แจ็คจำไมค์ได้ วิ่งมาเข้าหาไมค์ด้วยความดีใจ

ทั้งคู่กลับบ้านได้ไปอยู่ด้วยกันอีกครั้ง

ความพยายามที่ไม่เคยหมดหวังของไมค์ในการตามหาแจ็คทำให้เขาได้เจอแจ็คและได้อยู่ร่วมกันกับแจ๊คอีกครั้ง

 

เครดิตข้อมูล
USA TODAY

 

วิธีบอกรักหมาแมว

การแสดงความรักเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการแม้กระทั่งน้องหมาน้องแมว เมื่อเราแสดงความรักต่อน้องหมาน้องแมว ก็จะทำให้น้องหมาน้องแมวเรารู้สึกดีขึ้นไม่อารมณ์โมโหง่าย การแสดงความรักนั้นมีหลายรูปแบบ  บ้านไหนมีวิธีบอกรักแบบไหนบ้างมาแชร์กันได้เลย

การสัมผัส
การลูบสุนัข เป็นการสื่อสารภาษากายที่ใช้บอกรักได้เป็นอย่างดี การ สัมผัสจากเราจะสร้างความอบอุ่นให้กับสุนัข ยิ่งได้ใช้เวลาด้วยกันมากเท่าไร จะยิ่งทําให้สุนัขผูกพันและรับรู้ถึงความรักที่เรามีต่อเขามากขึ้น

เกาให้ถูกจุด
ทาสแมวคงจะรู้ดีว่าแมวชอบให้เกา แต่รู้หรือเปล่าว่ามันชอบให้เกาตรง ไหนมากที่สุด จากการศึกษาพบว่า แมวจะมีการตอบสนองที่ดีที่สุดเมื่อถูกเกา บริเวณหน้าผากและข้างแก้ม ส่วนจุดที่มันหวงมากที่สุดก็คือบริเวณหาง อย่าได้ไปยุ่งเชียว

การพูดคุยด้วยเสียงสอง
สุนัขไม่สามารถพูดได้ก็จริง แต่พวกเขาสามารถฟังและเรียนรู้จาก พฤติกรรมได้ ลองสังเกตได้เวลาที่เราดุ น้องหมาจะเงียบ แต่เมื่อเราใช้เสียง สองหรือเสียงเล็กๆ เขาจะกระดิกหางทันที เพราะฉะนั้นการพูดคุยกับสุนัข โดยใช้เสียงสองไม่ได้เป็นเรื่องบ้าบอเลย แต่กลับช่วยให้สุนัขรับรู้ได้ว่าเรารักเขา

สบตาแล้วกระพริบตาช้าๆ
การสบตาแล้วกระพริบตาช้าๆ เป็นการส่งผ่านความปลอดภัย ความ ผ่อนคลาย และความรัก ถ้าน้องเหมียวกระพริบตาช้าๆ กลับมาก็เป็นการตอบ กลับเราว่า “เราก็รักทาสนะ” แต่ก็ต้องระวังกันสักนิด เพราะการสบตาแมวนานๆ น้องอาจตีความได้ว่าเป็นการคุกคาม

จ้องมองด้วยความรัก
ดวงตาของสุนัขมีส่วนช่วยในการสื่อสารมาก เมื่อสุนัขสบตากับเราเป็น เวลานานมันเป็นวิธีการพูดว่า “ฉันรักคุณ” เราสามารถสื่อสารกลับโดยใช้ภาษา ตาเดียวกันด้วยการจ้องกลับด้วยความอ่อนโยนเพื่อบอกว่า “ฉันก็รักแกนะเจ้าหมา”

ชวนเล่น
การเล่นกับแมวเป็นวิธีการบอกรักที่ง่ายที่สุด น้องแมวจะชอบเล่นของเล่น ที่ปลุกสัญชาติญาณนักล่าของมัน เช่น ไม้ตกแมวที่ทําให้มันได้วิ่งไล่จับ ตะครุบ เหยื่อ รับรองว่าน้องแมวจะต้องหลงรักเราแน่ๆ

 

เครดิตข้อมูล
นิตยสาร Pet Hipster

ท่าทางบอกรัก ของน้องหมา

โดยปกติแล้วเวลาน้อง หมาต้องการจะสื่อสารกับเรา มักจะใช้การสื่อสารด้วยภาษากาย เป็นหลัก เช่น การเขี่ยขา เพราะ ต้องการขนมหรือการกระดิกหาง รัวๆ เมื่อดีใจเป็นต้น แล้วมีภาษา กายอะไรบ้างนะที่น้องหมาแสดง ออกเพื่อบอกรักเรา ไปทําความ เข้าใจกับภาษาบอกรักของน้อง หมากันเถอะ

1.นอนหงายพุง
ท่าแรกเรามักจะเห็นน้อง หมาทําบ่อยๆ นั้นก็คือ การนอน หงายโชว์พุงอ้วนๆ นั่นเอง บริเวณพุงของน้องหมาเป็นส่วนที่เปราะบาง มากที่สุด ดังนั้น การนอนหงายของ น้องหมาจึงเป็นการแสดงออกถึงความ ไว้ใจเชื่อใจและรู้สึกปลอดภัย และ ยังเป็นการบอกเป็นนัยๆ อีกด้วยว่า “มาเกาพุงของฉันสิมนุษย์”

2.เลียจนปียก
ทาสหมาหลายคน คงต้องเคยโดยน้องหมาของตัวเองเลีย ทั้งเลียหน้า เลียตัว เพราะการเลียเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใย การเอาใจใส่ของ น้องหมา เหมือนกับที่แม่สุนัขเลียลูกสุนัขนั้นแหละ บางครั้งสุนัขติดนิสัยเหล่านี้ มาใช้กับมนุษย์ เพื่อแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใย และ ความจงรักภักดีนั้นเอง

3.หาวตามเวลาที่คุณหาว
ว่ากันว่าเราสามารถรู้ได้ว่า ใครแอบชอบเราด้วยการหาว ใคร หาวตามก็คนนั้นแหละที่แอบมองเรา อยู่ เพราะการหาวเป็นเหมือนโรค ติดต่อ เห็นใครหาวเป็นต้องอยากหาว ตามทุกที สําหรับน้องหมา การหาว ตามเกิดจากการเรียนรู้พฤติกรรม ของเจ้าของและทําตาม และเกิดจาก สายสัมพันธ์จึงมักจะพบว่าน้องหมา จะหาวตามเจ้าของมากกว่าหาวตามคนแปลกหน้า

4.จ้องตา
น้องหมาของใครชอบจ้องหน้าบ้าง บางตัวจ้องจนเราเกร็งกันเลย ทีเดียว การจ้องหน้าของน้องหมาเป็น การเรียกร้องความสนใจ อยากให้ เราเล่นหรือมอบความรักให้กับมัน หรืออีกอย่างก็เพื่อบอกเราว่า “รักนะครับเจ้าทาส” ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง สุนัขบอกว่าเมื่อสุนัขจ้องตาคุณ ก็เหมือนการกอดด้วยสายตานั้นเอง

5.นําของเล่นชิ้นโปรดมาให้
หากสุนัขคาบของเล่นชิ้นโปรดมาให้ ไม่ได้หมายถึงว่าต้องการชวนเสน อย่างเดียว แต่น้องหมาคิดว่าเราคือหัวหน้าและต้องการที่จะเอาใจโดยการมอบ ที่ดีที่สุดให้นั้นก็คือของเล่นชิ้นโปรดนั้นเอง

เครดิตข้อมูล
นิตยสาร Pet Hipster

อันตรายทำหมันแล้วไม่ฟื้น

การวางยาสลบเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการดูแลรักษาสัตว์ป่วย ไม่ว่าจะเป็น ทำหมัน ผ่าคลอด การขูดหินปูน หรือการตัดเนื้องอก เป็นต้น เมื่อจะต้องวางยาสลบอาจทำให้คุณแม่กังวลถึงความความปลอดภัย และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการวางยาสลบ โดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยงที่มีอายุมากแล้ว บางคนวิตกกังวลว่าจะเป็นอันตรายกับสัตว์เลี้ยง บางคนกลัวว่าหากวางยาสลบไปแล้วน้องจะไม่ฟื้น จะเลือกวางยาแบบไหนดี?

.
ประเภทของการวางยาสลบ
เทคนิคในการการวางยาสลบนั้น ที่พบเห็นได้บ่อยมี 2 ประเภท คือ การฉีดยาสลบ จะเหมาะสำหรับการตรวจรักษา หรือผ่าตัด ที่ใช้ระยะเวลาสั้นๆ แต่จะมีผลข้างเคียงเมื่อได้รับยาในปริมาณที่มาก คือกดการหายใจและทำให้ความดันโลหิตต่ำ ทำให้สัตว์ฟื้นตัวช้า หรือไม่ฟื้นถ้าสัตว์อ่อนแอไม่ได้ตรวจสุขภาพ หรือตรวจเลือดก่อนวางยา ส่วนอีกประเภทคือ การดมยาสลบ ด้วยเครื่องดมยาสลบจะสามารถคงภาวะการสลบได้อย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานาน กดการหายใจน้อยกว่า และฟื้นตัวได้เร็วหลังจากปิดแก๊สดมสลบ การวางยาสลบด้วยเครื่องดมยาสลบจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่านั่นเอง

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอันตรายจากการวางยาสลบ จากการขาดมาตรฐานของห้องผ่าตัด
❌ข้อมูลผลการตรวจร่างกายไม่ละเอียด
ในการวางยาสลบสัตวแพทย์จะต้องพิจารณาเป็นรายตัวไป ซึ่งจะต้องอาศัยข้อมูลและผลการตรวจร่างกาย ผลทางห้องปฏิบัติการที่ถูกต้องมาร่วมด้วยเสมอ ยาสลบบางตัวมีผลทำให้ความดันเลือดลดลง ส่งผลให้ปริมาณเลือดไปที่ไตน้อยลง หากน้องหมามีปัญหาโรคไตแอบแฝงอยู่ แล้วข้อมูลผิดพลาด หลังผ่าตัดอาจทำให้น้องหมามีภาวะไตวายฉับพลันได้นะคะ บางตัวโชคร้าย มีโรคอื่นแฝงอยู่ เช่น โรคหัวใจ โรคตับ หากไม่ได้รับการตรวจเช็คร่างกายที่ถูกต้องก่อนวางยา อาจเกิดภาวะแทรก ซ้อนหลังผ่าตัด ถึงขั้นเสียชีวิตได้
❌การเลือกใช้ยานำสลบชนิดต่างๆ หรือขนาดของยาผิด
สัตว์แต่ละตัวไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะสัตว์ที่มีอายุมาก หรือมีโรคประจำตัวควรมีการระมัดระวังเอาใจใส่ต่อสัตว์มากขึ้น การเลือกใช้ยานำสลบและขนาดของยาจะต้องปรับให้เหมาะสมกับสภาวะของสัตว์แต่ละตัว จะต้องใช้ความรู้ และประสบการณ์จากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากเลือกใช้ยาหรือคำนวณขนาดของยาผิด อาจทำให้น้องเป็นอันตรายได้
❌สัตว์ไม่ได้รับการอดอาหารอย่างถูกต้อง
สัตว์ที่ถูกวางยาสลบจะสูญเสียความสามารถในการกลืน หากมีอาหารหรือน้ำในกระเพาะอาหาร สัตว์อาจมีการอาเจียนหรือขย้อนเศษอาหารตกลงไปในปอดในขณะที่ถูกวางยาหรือในขณะที่ฟื้นจากยาสลบ จนเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
❌เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือในการวางยาสลบไม่พร้อม
การวางยาสลบสัตว์ จำเป็นต้องตรวจสอบเครื่องมือก่อนใช้ทุกครั้งตั้งแต่เครื่องดมยาสลบ วงจรระบบหายใจ ท่อช่วยหายใจ อุปกรณ์ในการสอดท่อช่วยหายใจ และเครื่องเฝ้าระวังสัญญาณชีพ ควรมีความเข้าใจในการใช้งาน และแก้ไขปัญหาต่างๆ ของอุปกรณ์ที่ต้องใช้ก่อนวางยาสลบ เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อทางเดินหายใจของสัตว์เลี้ยง
❌ละเลยการเฝ้าระวังสัญญาณชีพ
ต้องมีเครื่องวัดสัญญาณชีพและบุคลากรที่มีความรู้ในการเฝ้าระวัง และตรวจวัด อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือด อัตราการหายใจ อุณหภูมิ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติและจะต้องรักษาระดับความลึกของการสลบให้สอดคล้องกับสิ่งกระตุ้นในระหว่างการผ่าตัด และหลังผ่าตัดจนกว่าสัตว์จะฟื้นตัวดีอย่างปลอดภัยที่สุด หากไม่มีหรือละเลย เมื่อเกิดภาวะอันไม่พึงประสงค์ใดๆ ก็จะไม่สามารถควบคุมและแก้ไขได้ทันท่วงที อาจส่งผลต่อชีวิตสัตว์ได้

ความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง ที่ต้องได้รับการรักษาด้วยการวางยาสลบเพื่อผ่าตัด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเลือกสถานพยาบาลที่มีความพร้อมที่จะสามารถดำเนินการบนพื้นฐานที่ต้องลดปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อชีวิตสัตว์เลี้ยงเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าไม่สามารถวัดกันที่ราคาแต่ควรวัดกันที่คุณภาพและความพร้อม

เครดิตข้อมูลและภาพ
โรงพยาบาลสัตว์เอราวัณ

#แผนกศัลยกรรม โรงพยาบาลสัตว์เอราวัณ มีห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์และบุคคลากร
✅เครื่องตรวจวัดสัญญาณชีพ เครื่องให้ความอบอุ่นร่างกาย
✅เครื่องดมยาสลบและเครื่องช่วยหายใจ ที่มีมาตรฐาน
✅ยานำสลบหลากหลายชนิดที่เหมาะกับสัตว์ที่มีโรคประจำตัว หรือสภาวะต่างๆ
✅ห้องผ่าตัดที่สะอาดและปลอดเชื้อ
✅เครื่องมือและอุปกรณ์ทุกชิ้นผ่านการอบฆ่าเชื้อ ปลอดเชื้อ 100%
✅พยาบาลสัตว์ที่มีความชำนาญการ ผ่านการฝึกอบรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงที่เข้ามารับบริการที่แผนกของเรา
✅มาตรฐานการตรวจสุขภาพ เพื่อวินิจฉัยสภาวะร่างกายและโรคต่างๆ ก่อนเลือกใช้ยานำสลบและวิธิวางสลบ จากสัตวแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่สัตว์เลี้ยงที่คุณรักอย่างดีที่สุด

สุนัขท้องโตเกิดจากอะไร

น้องหมาบ้านไหนพุงป่องบ้าง โดยเฉพาะน้องหมาเด็กๆ คุณคงคิดว่าเป็นแค่พยาธิล่ะซิ ซื้อยาถ่ายพยาธิมาให้น้องทานเดี๋ยวพุงก็คงหายป่องใช่ไหม
อยากจะบอกว่าน้องหมาพุงป่องบ้างครั้งก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเป็นพยาธินะ เคสนี้ เพจคลินิคพอเพียงรักษาสัตว์ คุณหมอได้นำมาแชร์ให้ทุกคนได้รับรู้กันว่าน้องหมาพุงป่อง อย่าคิดว่าเป็นแค่เรื่องพยาธิ

น้องหมาตัวนี้มาด้วยอาการพุงป่องประหนึ่งบอลลูนกำลังจะแตก แต่ยังสามารถกินได้ปกติดีทุกอย่าง เจ้าของเชื่อว่ามีพยาธิเลยซื้อยาให้กินจากนั้น 1เดือนพุงก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆประหนึ่งกำลังจะคลอด

ภาวะดังกล่าวเราเรียกว่า ascites หรือภาวะท้องมาน พบมากในสุนัขจรจัด หรือสุนัขทั่วไปก็เป็นได้  อาการท้องมาน คือการที่มีของเหลวสะสมอยู่ภายในช่องท้องมากกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุมากมาย เช่น
1. ภาวะที่ร่างกายมีโปรตีนอัลบูมินต่ำ อัลบูมิน
2. โรคตับที่รุนแรง
3. โรคหัวใจ
4. เนื้องอกในช่องท้อง
5. ช่องท้องอักเสบ
6. ความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด
7. โรคที่เกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง
8. เส้นเลือดอุดตัน โดยเฉพาะเส้นเลือดจากตับ ที่ไหลกลับไปสู่หัวใจ

การรักษา
แนะนำให้พามาหาคุณหมอเพื่อวินิจฉัยอาการได้อย่างถูกต้อง อย่าให้ยาถ่ายพยาธิเอง  เมื่อคุณหมอทำการวินิจฉัยเรียบร้อย ในการรักษาเบื้องต้นกรณีช่องท้องขยายใหญ่ เพราะมีน้ำในช่องท้องมาก จนทำให้สุนัขไม่สบายตัว หายใจลำบาก ก็จำเป็นจะต้องเจาะระบายน้ำในช่องท้องออก ร่วมกับการให้ยาขับน้ำ โดยที่ต้องไม่ระบายน้ำออกมาจนมาเกินไป เพราะอาจทำให้สุนัขช็อกได้

เครดิตข้อมูลภาพ
คลินิคพอเพียงรักษาสัตว์ – นิยม

สุนัขและแมวชักต้องทำอย่างไร

อาการชักที่เกิดขึ้นกับหมาและแมว มักทำให้เจ้าของตกใจทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะช่วยน้องอย่างไร จนบางครั้งทำให้น้องหมาน้องแมวจากไป ทีม PETSAYHI ขอนำบทความคำถามเกี่ยวอาการชักจาก คุณหมอ โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน มาแชร์ให้ทุกคนได้รู้และได้อ่านกัน

เครดิตข้อมูล สัตวแพทย์ประจำศูนย์ระบบประสาท โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน หมอหมวย หรือ สพ.ญ.ปิโยรส โพธิพงศธร

.
1. อาการชัก เป็นอย่างไร
เมื่อน้องหมาหรือแมวชัก จะมีอาการ เกร็ง ตาลอย เคี้ยวปาก น้ำลายไหล ชักปั่นจักรยาน ปัสสาวะและอุจจาระราด แต่ถ้าหาก น้องหมาแค่มีอาการที่คล้ายกัน เช่น เป็นลดหมดสติ อ่อนแรงเดินแล้วล้ม หรือปวดเกร็งจนเดินไม่ได้ แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นอาการชัก ดังนั้น หากเจ้าของเข้าใจอาการของน้องหมาหรือแมวอย่างถูกต้องก็จะให้ข้อมูลหมอได้ถูกต้องอันมีผลต่อการรักษาพยาบาล
.
2. การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อน้องหมาและแมว เกิดอาการชัก
กรณีที่ชักครั้งแรก ขอให้คุณตั้งสติ หาผ้าสะอาดมาเช็ดคราบน้ำลายเพื่อป้องกันการสำลัก และควรรีบพาส่งโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุดทันที
.
3. การให้ข้อมูลอาการของน้องหมาและแมว
เรื่องนี้สำคัญมาก เจ้าของควรลำดับเหตุการณ์ก่อนชักว่ามีอาการอย่างไร มีอาการแบบนี้บ้างไหม เช่น ไม่ทานข้าว หลบซ่อนตัว กระวนกระวาย หายใจหอบ ฯลฯ และควรเล่าประวัติเพิ่มเติมให้สัตวแพทย์ทราบ เช่น มีโรคประจำตัวอะไร ต้องกินยาอะไรอย่างต่อเนื่อง ช่วงที่มีอาการชัก มีอาการอย่างไร และกินเวลานานแค่ไหน
หากเป็นไปได้ถ้าเจ้าของถ่ายคลิปวีดีโอขณะที่น้องมีอาการมาประกอบให้คุณหมอได้ดูวินิจฉัยโรคด้วยจะเป็นเรื่องที่ดีมาก
.

4. วิธีการรักษา
เบื้องต้นสัตวแพทย์จะให้ยาลดอาการชัก หรือตรวจเลือดเพื่อหาความผิดปกติ ดูค่าตับ ค่าไต ดูระดับน้ำตาลในเลือดตรวจหาเชื้อ เพื่อหาความผิดปกติ ต่างๆ หากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะเช่นนี้ก็ทำให้น้องหมาและแมวชักได้ หรือหากติดเชื้อไข้หัด ก็ทำให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน
หากน้องหมาแมวไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้อันเนื่องมาจากตับวาย หรือไตวาย ก็ทำให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน ดังนั้นการตรวจเลือดดูค่าตับหรือไต จึงเป็นวิธีที่ดีสำหรับวินิจฉัยหาสาเหตุของโรคอีกวิธีหนึ่ง
.
5. อาการชักอันเนื่องจากโรคทางพันธุกรรม
ถ้าน้องหมาหรือแมวมีอาการชักในช่วงอายุ 6 เดือน – 6 ปี ก็สันนิษฐานว่าเป็นโรคลมชัก ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม ไม่ควรให้น้องหมามีลูกต่อไปเราควรทำหมันน้องหมาหรือน้องแมวเพื่อยุติโรคนี้ แต่หากน้องหมาหรือแมวเกิดอาการชักในอายุที่มากกว่า 6 ปีไปแล้ว สันนิษฐานว่าอาจะเกิดจากเนื้องอกที่สมอง หรือเป็นมะเร็งที่สมอง ซึ่งอาจจะต้องเอ๊กซ์เรย์ หรืออัลตร้าซาวนด์ เพื่อตรวจดู
.
6. อาการอื่นๆที่คล้ายกับอาการชัก
ยังมีโรคที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ หรือการเจ็บปวดที่ร่างกาย ก็จะมีอาการคล้ายกับการชัก แต่ไม่ใช่เพราะมาจากระบบอื่นๆของร่างกายไม่ใช่เกิดมาจากระบบประสาท ดังนั้น เจ้าของสุนัขควรทำความเข้าใจกับอาการชักให้ถูกต้อง
.
7. อย่าเฉยเมยหรือนิ่งนอนใจกับอาการชัก
บางครั้งเมื่อหมาหรือแมวมีอาการชักและสามารถกลับมาเป็นปกติได้ อาจทำให้เจ้าของเคยชินและคิดเอาเองว่าเป็นแล้วเดี๋ยวก็หายเอง ซึ่งหมอไม่อยากให้เจ้าของคิดเช่นนี้
ในกรณีที่น้องหมามีอาการชักมากกว่า 1 ครั้ง สิ่งที่เจ้าของต้องหมั่นสังเกตคือ อาการชักเกิดถี่แค่ไหน เกิดแต่ละครั้ง นานแค่ไหน และเริ่มรบกวนการดำเนินชีวิตปกติหรือไม่ เจ้าของควรพาน้องหมามาตรวจหาสาเหตุเพื่อทำการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ความปล่อยให้น้องหมาหรือแมวชักอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะการชักแต่ละครั้งสมองจะขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง หากสมองขาดออกซิเจนนานเกิน 5 นาทีก็มีโอกาสที่น้องหมาหรือแมวจะเสียชีวิตหรือเป็นอัมพาตได้

ดังนั้นหากน้องหมาและแมวเกิดอาการชัก ก็ไม่ควรปล่อยไว้ ควรพาตรวจและรับคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ เพื่อเราจะได้ช่วยกันหาแนวทางการรักษา และให้น้องหมาและแมวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถอยู่กับเราได้ไปนานๆ

เครดิต ข้อมูล
โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชัน

3สัตว์มีพิษ ที่เป็นอันตรายถึงชีวิตกับสุนัข

เหล่าทาสหมาทั้งหลายคงจะ เคยเห็นภาพน้องหมาหน้าบวมๆ อาจจะคิดว่าดูน่ารักดี แต่จริงๆ แล้ว รู้หรือไม่ว่า การบวมเป็นผลจากพิษ ของสัตว์ ซึ่งบางชนิดอาจเป็นอันตราย ถึงชีวิตเลยทีเดียว เราไปดูดีกว่าว่า มีสัตว์อะไรบ้าง และมีวิธีรับมืออย่างไร เมื่อน้องหมาโดนพิษของสัตว์เหล่านี้

คางคก
เพื่อนรักตัวแรกที่น้องหมาชอบไปแหย่เล่นมาก ๆ ก็คือ “คางคก” คางคกเป็นอันตรายต่อสุนัขมาก เนื่องจากมันมีต่อมพิษอยู่บริเวณผิวหนัง เป็นต่อมที่เก็บและขับสารพิษ เมื่อน้อง หมาไป กัด หรือคาบเล่น มันจะปล่อย พิษออกมา พิษจะถูกดูดซึมผ่านช่อง ปากและซึมเข้ากระแสเลือด ยิ่งถ้า บังเอิญกินเข้าไปพิษจะถูกดูดซึมผ่านทางเดินอาหาร อาจเสียชีวิตได้
อาการ
ผิวหนังบวมแดง น้ําลายไหลมาก กว่าปกติหายใจเร็ว เกาบริเวณปากและส่ง เสียงร้อง ถ้าโดนพิษมากจะมีฟองที่ปากและ
อาจมีอาการตากระตุกเดินไร้ทิศทาง คางคก อาเจียน หากรุนแรงจะมีอาการชักร่วมด้วย
วิธีรับมือเนื้องต้น
หากเพิ่งได้รับพิษสามารถล้างปาก โดยให้น้ําไหลผ่านออกมาจากปาก โดยทิศทางการไหลของน้ํานั้นห้ามไม่ให้ไหลเข้าจมูกหรือปาก และควรรีบพาไป พบสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด

แมงป่อง
แมงป่องจะใช้ปลายหางต่อย และปล่อยพิษที่มีฤทธิ์ต่อระบบ ประสาทและระบบเลือด แผลที่ถูกแมงป่องต่อยจะมี 1 รู และเจ็บปวดมาก
อาการ
น้ําลายฟูมปาก อาเจียน เลือดไหลไม่หยุด อ่อนแรง มีอาการหายใจลําบากร่วมด้วย ร้องแบบเจ็บปวด
วิธีรับมือเนื้องต้น
ให้โกนขนที่แผล ทําความสะอาดแผลด้วยน้ําสะอาดหรือน้ําเกลือ ล้างแผล บรรเทาอาหารบวมและปวดด้วยการประคบเย็นเนื่องจาก แมงป่องมีพิษร้ายแรง ควรนําตัวส่งสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด

ตะขาบ
ตะขาบก็เป็นเพื่อนรักอีกตัวที่น้องหมา ชอบเล่นด้วย พิษอาจไม่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แต่ ก็ทําให้เจ็บปวดมากเหมือนกัน
อาการ
มีรอยเขี้ยว 1 – 2 แผล พิษจะทําให้เจ็บปวด แดง ร้อน ควรระวังการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ซึ่งอันตรายกว่าพิษของตะขาบเสียอีก
วิธีรับมือเบื้องต้น
เช่นเดียวกับการโดนแมงป่องต่อย คือควร ทําความสะอาดแผลด้วยน้ําสะอาดหรือน้ําเกลือ ล้างแผล หากปวดบวมให้ประคบเย็นบริเวณที่ถูก กัดเพื่อลดปวด และรีบส่งให้ถึงมือสัตวแพทย์โดยเร็ว

 

เครดิตข้อมูล
MagazinePetHipster